โพสต์แนะนำ

ประชาไท Prachatai.com

ประชาไท Prachatai.com พท.-ปชป จัดประชุมแก้ไขข้อบังคับพรรคฯ ส่วนรัฐบาลคสช. เตรียมฉีดเงินตำบลละ 5 แสน คพศ. ขอ ตร.เรียกตั...

ซิตี้แบงก์ ให้คุณสมัครบัตรเครดิต citibank ออนไลน์ ด้วยวิธีสมัครบัตรเครดิตง่ายๆ รู้ผลอนุมัตทันใจภายใน 5 วัน อยากทำบัตรเครดิตซิตี้แบงก์ สมัครออนไลน์ได้ทันทีที่นี่.

วันศุกร์ที่ 2 มีนาคม พ.ศ. 2555

ประชาไท | Prachatai3.info

ประชาไท | Prachatai3.info

Link to ประชาไท

พิธีกรสยามสามัคคีกล่าวขอบคุณสองฝาแฝดชกวรเจตน์

Posted: 02 Mar 2012 10:47 AM PST

 ยันไม่สนับสนุนให้ใช้ความรุนแรง แต่บางทีก็เหลืออดกันบ้าง ด้านหนึ่งในฝาแฝดที่ทำร้ายวรเจตน์ โพสต์ชี้แจงในเว็บยิงปืนเผยอย่างน้อยสักครั้งก็ได้ทำเพื่อชาติ-เพื่อสถาบันที่รัก “ผลที่ตามมา ผมรับได้”

พิธีกรสยามสามัคคีกล่าวขอบคุณสองฝาแฝดชกวรเจตน์

ช่วงบ่ายวานนี้ (2 มี.ค.) กลุ่มสยามสามัคคีได้จัดกิจกรรม "เสวนาประชาชน คัดค้านการล้มล้างรัฐธรรมนูญ 50 ยึดอำนาจเพื่อทักษิณ" ที่บริเวณอาคารลีลาศ สวนลุมพินี มีการตั้งโต๊ะเปิดให้ประชาชนลงชื่อถอดถอนคณะรัฐมนตรี ซึ่งเป็นผู้เสนอร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ และ ส.ส. ส.ว. จำนวน 399 ที่รับหลักการร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 291 เปิดทางให้ตั้งสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) โดยให้เหตุผลว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญด้วยวิธีดังกล่าวขัดต่อเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ เพราะหน้าที่การแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นของ ส.ส. และ ส.ว. แต่กลับแก้รัฐธรรมนูญเพื่อให้การยกร่างรัฐธรรมนูญเป็นหน้าที่ของ ส.ส.ร.

โดยวิทยากรที่มาอภิปรายประกอบด้วย พล.อ.สมเจตน์ บุญถนอม สว.สรรหา แกนนำกลุ่มสยามสามัคคี น.พ.ตุลย์ สิทธิสมวงศ์ แกนนำกลุ่มเสื้อหลากสี ร.ต.แซมดิน เลิศบุศย์ จากกลุ่มคนไทยหัวใจรักชาติ ด้าน น.ส.มัลลิกา บุญมีตระกูล ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ และ ดร.เสรี วงศ์มณฑา พิธีกรรายการโทรทัศน์

ทั้งนี้ กรุงเทพธุรกิจ และ มติชน รายงานตรงกันว่า ก่อนการเริ่มต้นเสวนาพิธีกรของงานได้ขึ้นกล่าวขอบคุณนายสุพจน์ ศิลารัตน์ และนายสุพัฒน์ ศิลารัตน์ ที่ชกนายวรเจตน์ ภาคีรัตน์ นักวิชาการคณะนิติราษฎร์ โดยระบุว่าได้สร้างความสะใจแก่พวกเรา แต่ถึงอย่างไรพวกเราก็ไม่สนับสนุนให้ใช้ความรุนแรง แต่บางทีก็เหลืออดกันบ้าง

สุพจน์เผยผ่านเว็บยิงปืน ได้ทำเพื่อชาติ - เพื่อสถาบันที่รัก และรับได้กับผลที่ตามมา

ด้านนายสุพจน์ ศิลารัตน์ ซึ่งเป็นสมาชิกของเว็บบอร์ด gun.in.th ได้เข้าไปตั้งกระทู้ว่า "จากใจเลวๆ ของฝาแฝด..." เวลา 18:02:45 วันที่ 2 มี.ค. ระบุว่า "ตอนนี้ข่าวเล่นผมเละ.... ผมขอบอกไว้ตอนนี้เลยว่า ผมไม่เหลือง ผมไม่แดง ผมไม่เคยไปเผาหุ่น ปืนผมซื้อมายิงแต่เป้ากระดาษ ผมรักกีฬานี้.....และผมรักสถาบันของผม...มาก ชีวิตผมไม่รู้จะอยู่ได้อีกนานเท่าไร.... อย่างน้อยในซักครั้ง ที่ผมได้ทำเพื่อชาติ เพื่อสถาบัน ที่ผมรัก.... ผลที่ตามมา....ผมรับได้.... วันที่ 12 มีนา ตำรวจนัดที่ สน ชนะสงคราม และจะพาไปศาลแขวงล่ะมั้ง...ผมไม่แน่ใจ และน้ำใจของพี่น้องและคุณน้าทั้งสามท่าน...ที่นำดอกไม้ไปมอบที่โรงพักพร้อมทั้งยินดีมอบเงินเพื่อเป็นค่าใช้จ่าย... ผมต้องขอบอกว่า ผมไม่รับเงินช่วยเหลือนะครับ เกรงว่าจะมีคนแอบอ้างหลอกเงินกัน...   ผมทำด้วยใจจริงๆครับ...และเข้าใจในความหวังดีของทุกท่าน..แต่ผมอยากคงความภูมิใจผมไว้อย่างนี้....ตลอดไป อดเยี่ยงอย่างเสือ...สงวนศักดิ์ โซก็เซาะใส่ท้อง...หาเนื้อกินเอง..."

และนอกจากนี้ในเว็บข่าวสด ได้มีการเผยแพร่คลิปนายสุพจน์และนายสุพัฒน์ซ้อมยิงปืนด้วย

สมัครรับข่าวความเคลื่อนไหวจากประชาไท ผ่านทางอีเมล ดูรายละเอียดที่ http://groups.google.com/group/prachatai-newspaper

สัมภาษณ์เจ้าหน้าที่คณะนิติศาสตร์ มธ. ธรรมศาสตร์ต้องเป็นสถานที่ให้ความรู้ ไม่ใช่ปิดกั้น

Posted: 02 Mar 2012 05:24 AM PST

ช่วงบ่ายของวันที่ 29 ก.พ.55 เกิดเหตุการณ์ชายสองคนปรี่เข้าทำร้าย รศ.ดร.วรเจตน์ ภาคีรัตน์ อาจารย์ประจำคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กลางลานจอดรถของคณะ

เช้าวันเดียวกันนั้นเอง ประชาไทได้ไปสัมภาษณ์ บุญสุข กานโน และปรีชา แก้วดวงตา เจ้าหน้าคณะนิติศาสตร์ บุญสุข เป็นเจ้าหน้าที่อาคารสถานที่มานานถึง 34 ปี ส่วนปรีชา เป็นพนักงานขับรถของคณะมานานกว่า 22 ปี

ด้วยหน้าที่การงานที่ต้องสัมพันธ์กับฝ่ายต่างๆ โดยเฉพาะกลุ่มการเมืองที่เป็นคู่ขัดแย้งกันซึ่งเข้ามาใช้พื้นที่ของธรรมศาสตร์ พวกเขารับรู้ ได้ยินได้ฟัง และเห็นความเคลื่อนไหวและเหตุการณ์ทางการเมืองของไทยที่เคลื่อนผ่านธรรมศาสตร์มาโดยตลอด

พวกเขาเห็นว่าวันนี้ธรรมศาสตร์ยังคงมีเสรีภาพทางวิชาการ และเห็นว่ากฎหมายอาญามาตรา 112 ถูกนำมาใช้เป็นเครื่องมือกำจัดศัตรูทางการเมืองและถูกนำมากลั่นแกล้งผู้อื่น จึงเห็นด้วยกับข้อเสนอของคณะนิติราษฎร์ที่เสนอให้มีการแก้ไข และเห็นว่ากลุ่มที่มีความเห็นต่างกันทางการเมืองควรมาคุยกัน และเสนอว่าธรรมศาสตร์ควรเป็นพื้นที่เปิดเสรีในการแสดงความคิดเห็นทางการเมืองของกลุ่มต่างๆ เพื่อให้ความรู้แก่คนทั่วไป มากกว่าจะจะปิดกั้นไม่ให้ใช้พื้นที่

 

 

บรรยากาศเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นทางการเมืองของคนที่ทำงานอยู่ในพื้นที่ธรรมศาสตร์ มีเสรีภาพไหม และพอใจกับเสรีภาพนี้ไหม

ปรีชา : เสรีภาพในที่ทำงานดีมาก อาจารย์ท่านเป็นกันเอง บางทีท่านก็ให้ความสนิทสนมเหมือนญาติมิตร
บุญสุข : ทั้งๆ ที่เราเรียนมาน้อย แต่ว่ามารู้จักกับผู้หลักผู้ใหญ่ในนี้ก็เป็นมิตรกับทุกๆ คน ก็ใช้ได้

บรรยากาศทางการเมืองไทยที่รุนแรงมากขึ้นในหลายปีที่ผ่านมา ส่งผลกระทบอะไรกับการแสดงออกบ้างไหม

ปรีชา : บางครั้งมันก็พูดไม่ได้ พูดไปก็เป็นภัยกับตัวเอง แสดงความคิดเห็นก็ยังไม่ได้ อย่างมาตราหนึ่งที่รัฐบาลที่แล้วใช้เป็นเครื่องมือในการกำจัดศัตรูทางการเมือง

บอกได้ไหมว่ามาตราที่เป็นปัญหาคือมาตราไหนยังไง ?

ปรีชา : แค่คิดยังไม่ได้เลย อย่างเขากำจัดศัตรูทางการเมือง เขาบอกว่าไอ้นี่ไม่จงรักภักดี เราก็ตายแล้ว ไม่จงรักภักดีเขาใช้เป็นเครื่องมือในรัฐบาลที่แล้ว ใช้มากแล้วคนติดคุกในมาตรานี้เยอะ ก็ยังไม่ทราบว่าจะแก้ไขได้ยังไง ในเมื่อว่ามันมีพรรคการเมืองหนึ่งใช้มาตรานี้มาเล่นงานคน แล้วยังใช้มาตรานี้เป็นเครื่องมือปลุกม็อบ ปลุกระดมคนที่ไม่ได้อ่านในมาตรานี้เลย

ที่ผ่านมา มีข้อเสนอของกลุ่มนิติราษฎร์ ซึ่งเป็นอาจารย์ของคณะนิติศาสตร์ ธรรมศาสตร์เองที่เสนอให้แก้มาตรานี้ เห็นด้วยหรือไม่อย่างไร

ปรีชา : เห็นด้วย เพราะป้องกันสถาบันที่นักการเมืองที่ไม่ดีเอาสถาบันมาเล่นการเมือง ใช้กำจัดคู่แข่งทางการเมือง
บุญสุข : นิติราษฎร์นี่ผมก็ว่าดีนะครับ เพราะว่าทำให้ประชาชนทั่วประเทศจะได้รู้กันเลยทุกวันนี้ว่าดียังไง แล้วเขาจะได้หูตาสว่างขึ้นเท่าทุกวันนี้ก็เพราะอาจารย์วรเจตน์ (วรเจตน์ ภาคีรัตน์-ประชาไท) ที่เป็นผู้นำของนิติราษฎร์ คนที่เขาไม่ได้ค่อยรู้กฎหมงกฎหมายอะไร ตอนนี้รู้สึกเขาจะรู้แจ้งเห็นชัดหมดแล้ว

กลัวไหม ถ้าจะร่วมทำกิจกรรมจริงจังทางการเมือง เช่น ลงชื่อกับ ครก.112

ปรีชา : เพราะเราบริสุทธิ์ใจ เราไม่ต้องการให้ใครใช้มาตรานี้มากำจัดศัตรูทางการเมือง หรือว่าใช้กลั่นแกล้งคนอื่น เพราะว่ามันกว้างมาก มีแค่ 3 บรรทัดเอง แต่อยู่ที่คนจะตีความกฎหมายยังไง แค่นั้นเอง จะเล่นงานยังไง แค่นั้นเอง ถ้าอ่านดีๆ ไม่มีอะไรเลย แต่ความหมายมันกว้าง

ในช่วงที่ผ่านมา การเมืองไทยแรงมากๆ ในฐานะคนที่อยู่ในธรรมศาสตร์มายาวนานมาก และเห็นบทบาทของธรรมศาสตร์ในช่วงเปลี่ยนผ่านหลายๆ ครั้ง คิดว่าธรรมศาสตร์ควรจะทำหน้าที่ หรือควรจะมีบทบาทยังไง

ปรีชา : ก็จัดสัมมนาแต่ละกลุ่ม และให้ความรู้ถึงจะถูกต้อง ไม่ใช่ไปปิดกั้น คนทั่วไปจะได้รับข้อมูลที่ถูกต้องจากการสัมมนา จากการทุกกลุ่มมาสัมมนามาชี้แจง ไม่ใช่ไปปิดกั้น
บุญสุข : ก็อยากจะให้มาช่วยกันทุกกลุ่มเลยครับ อยากให้มานั่งคุยกัน ไม่อย่างนั้นมันก็อยู่อย่างนี้ ไม่มีใครยอมใคร

พี่สองคนสนับสนุนเสื้อแดง เวลาคนที่มีความคิดเห็นแตกต่างมาพูด พร้อมจะฟังไหม

ปรีชา : ฟังฮะ พวกผมฟัง อยู่ที่นี่ทุกกลุ่มทุกสีมาก็ไม่มีปัญหา ต้องดูแลเขาเหมือนกัน

ทำงานในระดับล่างลงมา มีแรงกดดันหรือมีความรู้สึกไหมว่าอาจจะมีความเห็นทางการเมืองที่ต่างจากผู้บริหารในปัจจุบันนี้

ปรีชา : ส่วนมากการทำงานก็แยกจากความขัดแย้งทางการเมือง ความสัมพันธ์ในที่ทำงานก็แยกจากความขัดแย้งทางการเมือง ก็เลยไม่ค่อยมีความกดดันอะไร
บุญสุข : เหมือนกันครับ

ไม่มีการมาปะทะกัน ?

ปรีชา : ไม่มี ก็เหมือนเวลาเราไปเที่ยวในกลุ่มเพื่อน เราก็เฮแบบเพื่อน อยู่กลุ่มใครกลุ่มมัน แต่เวลาอยู่ที่ทำงานก็สัมพันธ์กันแบบในที่ทำงานเป็นปรกติ

 

สัมภาษณ์เจ้าหน้าที่คณะนิติศาสตร์ มธ. ธรรมศาสตร์ต้องเป็นสถานที่ให้ความรู้ ไม่ใช่ปิดกั้น

สมัครรับข่าวความเคลื่อนไหวจากประชาไท ผ่านทางอีเมล ดูรายละเอียดที่ http://groups.google.com/group/prachatai-newspaper

เม้าท์มอย เฉพาะกิจ: ภารโรงภิวัฒน์

Posted: 01 Mar 2012 04:36 PM PST

สัปดาห์นี้ หลิ่มหลีบุกเดี่ยวมาถึงคณะนิติศาสตร์ ธรรมศาสตร์ มาเม้าท์มอยกับพี่ๆ เจ้าหน้าที่อาคารสถานที่ ผู้ผ่านเหตุการณ์ทางการเมืองครั้งสำคัญๆ ร่วมกับมหาวิทยาลัยมาหลายครั้ง และยังมีประสบการณ์ดูแลความสะดวกให้กับบุคลากรคณะนิติศาสตร์มานานนับสิบปี ลองมาฟังมุมมอง ทัศนะ และความคิดของคนที่มีชีวิตการทำงานในมหาวิทยาลัยที่ขึ้นชื่อว่า มีส่วนสำคัญกับการเมืองไทยกัน

 

 

สมัครรับข่าวความเคลื่อนไหวจากประชาไท ผ่านทางอีเมล ดูรายละเอียดที่ http://groups.google.com/group/prachatai-newspaper

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น