ประชาไท | Prachatai3.info |
- นักข่าวพลเมือง: บก.ลายจุดในเงื้อมมือความปรองดอง
- นักสิทธิฯ รณรงค์ต้าน "ซ้อมทรมาน" ระบุเป็นอาชญากรรมร้ายแรงที่ยอมรับไม่ได้
- จดหมายเปิดผนึกเรียกร้องให้ปล่อยตัว "บก.ลายจุด"
- จับ "บก.ลายจุด" ไป ตชด.คลอง 5 ปทุมธานีข้อหาฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน
- กวีประชาไท:เพ็ญ ภัคตะ "กรุงเทพมหานรก"
นักข่าวพลเมือง: บก.ลายจุดในเงื้อมมือความปรองดอง Posted: 26 Jun 2010 12:42 PM PDT <!--break-->
ที่มาของคลิป: Thailand Mirror คลิป "บก.ลายจุดในเงื้อมมือความปรองดอง" ความยาวประมาณ 1.19 นาที เผยแพร่โดยนักข่าวพลเมืองกลุ่ม "Thailand Mirror" เมื่อคืนวานนี้ (26 มิ.ย.) โดยเป็นการบันทึกเหตุการณ์ที่นายสมบัติ บุญงามอนงค์ แกนนำกลุ่มวันอาทิตย์สีแดง และผู้สนับสนุนร่วมกันทำกิจกรรมผูกผ้าแดงที่ป้ายสี่แยกราชประสงค์เมื่อช่วงเย็นวันที่ 26 มิ.ย. ก่อนที่นายสมบัติจะถูกตำรวจจับตามหมายจับ ศอฉ. สมัครรับข่าวความเคลื่อนไหวจากประชาไท ผ่านทางอีเมล ดูรายละเอียดที่ http://groups.google.com/group/prachatai-newspaper |
นักสิทธิฯ รณรงค์ต้าน "ซ้อมทรมาน" ระบุเป็นอาชญากรรมร้ายแรงที่ยอมรับไม่ได้ Posted: 26 Jun 2010 10:52 AM PDT เนื่องในวันป้องกันและต่อต้านการซ้อมทรมานสากล ซึ่งตรงกับวันที่ 26 มิ.ย.ของทุกปี นักกิจกรรมด้านสิทธิมนุษยชน รวมตัวกันบริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ทำกิจกรรมรณรงค์ให้สังคมรับรู้ว่าการทรมานเป็นอาชญากรรมร้ายแรงที่ไม่สามารถยอมรับได้ ระบุไม่มีข้อยกเว้นใดๆ แม้ในภาวะสงครามหรือสถานการณ์ฉุกเฉิน <!--break-->
(26 มิ.ย.53) เนื่องในวันป้องกันและต่อต้านการซ้อมทรมานสากล ซึ่งตรงกับวันที่ 26 มิ.ย.ของทุกปี นักกิจกรรมด้านสิทธิมนุษยชนจากองค์กรต่างๆ ประมาณ 20-30 คน ได้รวมตัวกันบริเวณลานวิคตอรี่ พอยต์ อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เพื่อทำกิจกรรมรณรงค์ให้สังคมรับรู้ว่าการทรมานเป็นอาชญากรรมร้ายแรงที่ไม่สามารถยอมรับได้ และไม่มีข้อยกเว้นใดๆ แม้ในภาวะสงครามหรือสถานการณ์ฉุกเฉินก็ตาม เวลาประมาณ 14.30 น. นางสาวจันทร์จิรา จันทร์แผ้ว ผู้อำนวยการเครือข่ายนักกฎหมายสิทธิมนุษยชนได้อ่านแถลงการณ์ร่วมของเครือข่ายองค์กรด้านสิทธิมนุษยชน 8 องค์กร เรียกร้องให้รัฐบาลตรากฎหมายให้การทรมานเป็นความผิดเฉพาะ โดยให้เจ้าหน้าที่รัฐด้านความมั่นคงนำมาตรการในการป้องกันและห้ามการทรมาน ตามอนุสัญญาระหว่างประเทศมาบังคับใช้อย่างเคร่งครัด และให้รัฐมีมาตรการเยียวยาชดเชยผู้ถูกทรมาน ลงโทษผู้กระทำการทรมาน และให้รัฐแสดงความรับผิดชอบหากมีการซ้อมทรมานเกิดขึ้นโดยเจ้าหน้าที่ของรัฐ นอกจากนี้ยังมีการจัดการแสดงสาธิตการซ้อมทรมานผู้ต้องหาโดยเจ้าหน้าที่รัฐ มีการแจกใบปลิว พวงกุญแจ สติ๊กเกอร์รณรงค์สร้างความเข้าใจกับประชาชนทั่วไป ว่าการซ้อมทรมานถือเป็นอาชญากรรม โดยเคลื่อนขบวนรณรงค์ไปตามทางเดินลอยฟ้ารอบอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ จนถึงเวลาประมาณ 16.00 น. จึงสลายตัว นางสาวจันทร์จิรา กล่าวถึงกิจกรรมวันนี้ว่า เป็นการร่วมเดินรณรงค์เผยแพร่ประชาสัมพันธ์ให้ทุกคนรู้ว่าวันนี้เป็นวันป้องกันและต่อต้านการซ้อมทรมานสากล และเรียกร้องให้มีกฎหมายป้องกันและต่อต้านการซ้อมทรมาน "เราต้องการให้คนในสังคมไม่ยอมรับการทรมาน ไม่ว่าในกรณีใดๆ ก็ตาม ไม่มีกรณียกเว้น เพราะคอนเซ็ปต์ในการรณรงค์ของเราคือ ถ้ายอมให้มีการทรมานได้แล้ว ในที่สุด ระบบในสังคมก็จะบิดเบี้ยวไปสุดท้ายใครก็ตามก็สามารถตกเป็นเหยื่อการทรมานได้ และเราก็พยายามรณรงค์ร่างพระราชบัญญัติต่อต้านการทรมาน เพราะเราเห็นว่า การแก้ไข ประมวลกฎหมายอาญาและประมวลกฎหมายวิธีพจารณาความอาญายังไม่เพียงพอ ถ้าหากว่าใครอยากสนับสนุนร่างนี้ก็สามารถเข้าไปดูในเว็บไซต์ [www.naksit.org] ได้" ขณะที่ นางสาวยูฮานี เจ๊ะกา นักสิทธิมนุษยชนจากมูลนิธิผสานวัฒนธรรม หนึ่งในผู้ร่วมรณรงค์ กล่าวว่า ปัญหาการซ้อมทรมานที่ยังอยู่ในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ทุกวันนี้ ชาวบ้านจะถูกจับตัวไปเข้ากระบวนการตามกฎหมายพิเศษ ซึ่งเปิดช่องให้เจ้าหน้าที่รัฐซ้อมทรมานและจะมีการซัดทอด ข้อมูลที่ได้จากการซัดทอดก็จะนำไปขยายการจับกุมตัวต่อไป ซึ่งส่วนใหญ่ก็เป็นผู้บริสุทธิ์ พอเข้าสู่การซักถามก็จะไม่มีหลักฐานใดๆ ที่จะส่งฟ้อง คนที่ถูกฟ้องศาลก็จะยกฟ้อง
--------------------------------------------------- แถลงการณ์เครือข่ายองค์กรด้านสิทธิมนุษยชน ปัจจุบันไม่อาจปฏิเสธได้ว่า การทรมานยังดำรงอยู่ในสังคมไทย โดยการทรมานดังกล่าวเป็นการทำให้เกิดความเจ็บปวด ทางร่างกาย หรือทางจิตใจ หรือความทุกข์ทรมานของบุคคลที่สาม โดยการกระทำ สั่งการ หรือยินยอมโดยเจ้าพนักงานของรัฐ ด้วยวัตถุประสงค์เพื่อให้ได้มาซึ่งข้อมูล หรือเพื่อลงโทษ หรือเพื่อข่มขู่ โดยรูปแบบการทรมานส่วนใหญ่ เป็นการกระทำที่ก่อให้เกิดความเจ็บปวดทางร่างกายหรือทางจิตใจ แต่ยังมีการกระทำที่ไม่ถึงกับเป็นการก่อให้เกิดการทรมานแต่เป็นการลดทอนศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ลง เนื่องจากการกระทำดังกล่าวยังไม่เป็นสาเหตุให้เกิดความเจ็บปวดทางด้านร่างกายและจิตใจ เช่น การใส่ตรวนหรือกุญแจมือตลอดเวลา เป็นต้น คณะรัฐมนตรีจึงได้มีมติเห็นชอบ เมื่อวันที่ 7 สิงหาคม 2550 ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอในการพิจารณาเข้าเป็นภาคี “อนุสัญญาต่อต้านการทรมาน และการประติบัติหรือการลงโทษอื่นที่โหดร้าย ไร้มนุษยธรรม หรือที่ย่ำยีศักดิ์ศรี” และกระทรวงต่างประเทศได้มอบภาคยานุวัติสารต่อสหประชาชาติเมื่อวันที่ 2 ตุลาคม 2550 โดยอนุสัญญาดังกล่าวมีผลใช้บังคับกับประเทศไทย มาตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2550 เป็นต้นมา อย่างไรก็ตาม แม้ประเทศไทยมีพันธะกรณีตามอนุสัญญาการต่อต้านการทรมานดังกล่าว ก็มิได้ทำให้สถานการณ์การละเมิดสิทธิมนุษยชนดีขึ้นแต่อย่างใด โดยเฉพาะการทรมานในจังหวัดชายแดนภาคใต้ในการจัดการกับปัญหาการก่อความไม่สงบ ยังคงใช้วิธีการทรมาน เช่น การทุบตี การเตะหรือกระทืบ และการเอาถุงคลุมศีรษะจนแทบหายใจไม่ออก และไม่ปรากฏว่า ได้มีการบัญญัติกฎหมายภายในประเทศให้สอดคล้องกับมาตรฐานตามอนุสัญญาดังกล่าวแต่อย่างใด แม้จะมีความพยายามจากภาครัฐในการแก้ไขประมวลกฎหมายอาญาและประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาเพื่อกำหนดให้การทรมานเป็นฐานความผิดตามกฎหมายโดยเฉพาะ ก็ยังไม่สามารถคุ้มครองสิทธิเสรีภาพของประชาชนจากการตกเป็นเหยื่อการทรมานได้ เนื่องจากเจ้าหน้าที่ที่กระทำความผิดฐานการทรมานจะถูกสืบสวนสอบสวนโดยเจ้าหน้าที่ด้วยกันเอง ซึ่งไม่เป็นไปตามหลักการตรวจสอบถ่วงดุลแต่อย่างใด ดังข้อเท็จจริงที่ปรากฏว่ามีเจ้าหน้าที่ละเมิดสิทธิประชาชนด้วยการทรมานเป็นจำนวนมาก และบางกรณี เป็นการกระทำที่โหดร้ายไร้มนุษยธรรม แต่กลับปรากฏว่า เหยื่อจากการทรมานดังกล่าวไม่ได้รับการเยียวยาฟื้นฟู และเจ้าหน้าที่ที่กระทำผิดยังไม่ถูกลงโทษ จนเกิดภาวะลอยนวล ซึ่งนอกจากจะไม่ได้ตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษแล้ว ยังจะส่งผลกระทบต่อสิทธิเสรีภาพของประชาชนในสังคมที่อาจตกเป็นเหยื่อการทรมานเพื่อให้รับสารภาพได้โดยง่ายดาย ดังนั้น การทรมานคืออาชญากรรมที่ไม่อาจยอมรับได้ หรือไม่มีข้อยกเว้นใดๆ ให้เจ้าหน้าที่สามารถทรมานบุคคลใดได้ ไม่ว่าบุคคลนั้นจะเป็นผู้กระทำความผิดหรือไม่ ไม่เช่นนั้น ปัญหาการทรมานจะหยั่งรากลึกและแผ่ขยายออกไปอย่างกว้างขวาง ถือเป็นส่วนหนึ่งในปัญหาเชิงโครงสร้างในระบบกระบวนการยุติธรรม และระบบยุติธรรมในสังคมไทย และการทรมานมิได้เป็นคำตอบหรือทางออกสำหรับการจัดการกับปัญหาความไม่สงบหรือการรักษาความมั่นคงภายในแต่อย่างใด มีแต่จะทำให้สถานการณ์และความเชื่อมั่นในรัฐและระบบกระบวนการยุติธรรมเสื่อมถอยลง องค์กรด้านสิทธิมนุษยชน ได้เล็งเห็นความสำคัญของการส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชน ในประเด็นการต่อต้านการทรมานดังกล่าว จึงขอเสนอให้รัฐบาลและสังคมไทย 1. ให้รัฐบาลตรากฎหมายซึ่งกำหนดให้การทรมานเป็นฐานความผิดเฉพาะ โดยให้เป็นไปตามมาตรฐานสากลเพื่อการสนับสนุนและคุ้มครองเหยื่อจากการทรมาน ตามอนุสัญญาต่อต้านการทรมาน และการประติบัติหรือการลงโทษอื่นที่โหดร้าย ไร้มนุษยธรรม หรือที่ย่ำยีศักดิ์ศรี โดยกระบวนการการมีส่วนร่วมจากประชาชน 2. ให้หน่วยงานความมั่นคง ทหาร ตำรวจ ราชทัณฑ์ และเจ้าพนักงานของรัฐ ตลอดทั้งผู้รับมอบอำนาจจากเจ้าหน้าที่รัฐ นำมาตรการในการป้องกันและห้ามการทรมาน ที่กำหนดไว้ในอนุสัญญาระหว่างประเทศว่าด้วยการต่อต้านการทรมาน และการประติบัติหรือการลงโทษอื่นที่โหดร้าย ไร้มนุษยธรรม หรือที่ย่ำยีศักดิ์ศรี ที่ประเทศไทยได้รับรองไว้ มาบังคับใช้โดยเคร่งครัด แม้ยังไม่มีกฎหมายเฉพาะ และประกาศให้ทราบโดยทั่วกัน 3. รัฐจะต้องมีกลไกปกป้องคุ้มครองผู้ที่ถูกทรมาน ให้ได้รับการเยียวยาอย่างเป็นธรรม และค่าชดเชยที่เพียงพอเหมาะสม 5. รัฐต้องออกมาแสดงความรับผิดชอบเป็นเบื้องต้นหากพบว่าการทรมานกระทำโดยเจ้าหน้าที่รัฐ โดยการขอโทษเพื่อสร้างความรู้สึกปลอดภัยและสร้างความเชื่อมั่นแก่เหยื่อและครอบครัวจากการถูกทรมาน ด้วยความเคารพในสิทธิมนุษยชนและศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ คณะกรรมการรณรงค์เพื่อสิทธิมนุษยชน (CCHR) สมัครรับข่าวความเคลื่อนไหวจากประชาไท ผ่านทางอีเมล ดูรายละเอียดที่ http://groups.google.com/group/prachatai-newspaper |
จดหมายเปิดผนึกเรียกร้องให้ปล่อยตัว "บก.ลายจุด" Posted: 26 Jun 2010 10:28 AM PDT นักศึกษาและประชาชนหลายสาขาอาชีพร่วมกันลงชื่อในจดหมายเปิดผนึกเรียกร้องให้ปล่อยตัว "สมบัติ บุญงามอนงค์" ทันทีโดยไม่มีเงื่อนไข ชี้การจับกุมสะท้อนการคุกคามพลเมือง รัฐบาลไม่จริงใจปรองดอง <!--break--> ภายหลังจากที่ช่วงเย็นวานนี้ (26 มิ.ย.) นายสมบัติ บุญงามอนงค์ ประธานกลุ่มวันอาทิตย์สีแดงเดินทางไปผูกผ้าแดงที่แยกราชประสงค์ และถูกตำรวจ สน.ลุมพินีควบคุมตัวตามหมายจับข้อหาฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน จากกรณีที่นายสมบัติร่วมชุมนุมในช่วง 19 พ.ค. บริเวณเลียบทางด่วน บริเวณลาดพร้าว 71 นั้น ล่าสุดในช่วงหัวค่ำนักศึกษาและประชาชนหลายสาขาอาชีพกว่า่ 100 คน ร่วมกันลงชื่อในจดหมายเปิดผนึก "ขอให้ปล่อยตัวนายสมบัติ บุญงามอนงค์ ทันทีโดยไม่มีเงื่อนไข" โดยรายละเอียดของจดหมายและผู้ร่วมลงชื่อ มีรายละเอียดดังนี้
000 จดหมายเปิดผนึก "ขอให้ปล่อยตัวนายสมบัติ บุญงามอนงค์ ทันทีโดยไม่มีเงื่อนไข" วันเสาร์ที่ 26 มิถุนายน 2553 ในท่ามกลางสถานการณ์ความขัดแย้งที่กำลังจะมุ่ง ไปสู่ความพยายามปรองดองโดยรัฐบาลยังคงมีการบังคับใช้พระราชกำหนด บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินร้ายแรง ซึ่งเป็นการ ให้อำนาจแก่เจ้าหน้าที่ในการปฎิบัติงานโดยไม่ต้องรับผิด จับกุมคุมขังโดยไม่มีข้อกล่าวหา ทำให้ความปรองดองที่เกิดขึ้นเป็นเพียงการปรองดองที่จอมปลอมและหลอกลวง เป็นเพียงการสร้างภาพไปวันๆของรัฐบาล ในวันเสาร์ที่ 26 มิถุนายน 53 เวลาประมาณ 18.00 น. ได้มีกิจกรรมรำลึกถึงความสูญเสียในการเรียกร้องประชาธิปไตย ด้วยการผูกผ้าแดงที่สี่แยกราชประสงค์ โดยมิได้ก่อความไม่สงบ หรือก่อความเดือดร้อนให้แก่ผู้หนึ่งผู้ใด เป็นเพียงกิจกรรมตามมโนธรรมสำนึกและสิทธิของประชาชน รวมทั้งมิได้มีแกนนำแม้แต่ผู้เดียว ทว่า เมื่อเวลา 18.00 น. ปรากฏว่ามีการจับกุมนายสมบัติ บุญงามอนงค์ ซึ่งเป็นนักกิจกรรมทางสังคม ที่ทำงานด้านศิลปวัฒนธรรม งานอาสาสมัครเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยสึนามิ ประสบภัยน้ำท่วมอุตรดิตถ์ ช่วยเหลือแรงงามข้ามชาติ ผู้ถูกกดขี่ ต่อต้านการค้ามนุษย์ ส่งเสริมประชาธิปไตย มีการทำงานกับเด็กไทยภูเขาเพื่อให้เรียนรู้เรื่องสิทธิทางการศึกษา รวมทั้งเป็นผู้ริเริ่มในการดำเนินกิจกรรมติดตามผู้สูญหายจากการสลายการ ชุมนุมของรัฐบาล ซึ่งนับเป็นนักกิจกรรมทางสังคมที่มีคุณค่าต่อสังคมไทย สมบัติ บุญงามอนงค์ คือ ผู้บุกเบิกงานอาสาสมัครยุคใหม่ในสังคมไทย และเป็นนักกิจกรรมทางสังคมที่ไม่เพิกเฉยความไม่เป็นธรรม การจับกุมนาย สมบัติ บุญงามอนงค์ในครั้งนี้ สะท้อนให้เห็นถึงการคุกคามพลเมืองที่มีคุณูปการต่อสังคม และแสดงให้เห็นถึงรัฐบาลไม่มีความจริงใจดำเนินงานตามแผนปรองดองแห่งชาติ พวกเราตามราย นามดังต่อไปนี้ เป็นนักกิจกรรมทางสังคม เป็นสามัญชน ขอประณามการกระทำของรัฐบาลในครั้งนี้ ขอให้ปล่อยตัวนายสมบัติ บุญงามอนงค์รวมทั้งบุคคลอื่นๆในทันที โดยไม่มีเงื่อนไข และพวกเราขอเรียกร้องให้มีการยกเลิก พรก.ฉุกเฉิน เพื่อเป็นก้าวแรกในการนำไปสู่การปรองดอง “ด้วยความหวาดกลัว พ.ร,ก.ฉุกเฉิน” 1. นายกิตติชัย งามชัยพิสิฐ สมัครรับข่าวความเคลื่อนไหวจากประชาไท ผ่านทางอีเมล ดูรายละเอียดที่ http://groups.google.com/group/prachatai-newspaper |
จับ "บก.ลายจุด" ไป ตชด.คลอง 5 ปทุมธานีข้อหาฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน Posted: 26 Jun 2010 04:12 AM PDT "สมบัติ บุญงามอนงค์" นำสมาชิกกลุ่มไปผูกผ้าแดงที่ป้ายสี่แยกราชประสงค์ ก่อนตำรวจคุมตัวไป สน.ลุมพินี ตามหมายจับของ ศอฉ. เดิม ฐานฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินกรณีชุมนุมที่ลาดพร้าว 71 ใต้ทางด่วนช่วง 19 พ.ค. ล่าสุดมีการคุมตัวไปกองบังคับการ ตชด.ภาค 1 ที่คลอง 5 ปทุมธานีรอ จนท.ศอฉ.สอบปากคำ ขณะที่มีประชาชนอีกกลุ่มนำสติ๊กเกอร์ค้าน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และสติ๊กเกอร์ข้อความ "เราเห็นคนตาย" ไประดมติดบริเวณทางเดินเชื่อมสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส <!--break--> นายสมบัติ บุญงามอนงค์ หรือ บก.ลายจุด ถ่ายภาพบนทางเดินรถไฟฟ้าระหว่างรณรงค์กิจกรรมวันอาทิตย์สีแดงที่แยกราชประสงค์ เมื่อ 26 มิ.ย. ก่อนถูกควบคุมตัวไปที่ สน.ลุมพินี ตามหมายจับ พ.ร.ก.ฉุกเฉินที่ออกมาตั้งแต่ 21 พ.ค. และต่อมาถูกส่งไปยัง กองบังคับการตำรวจตระเวนชายแดนภาค 1 ต.คลอง 5 อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี เพื่อรอ ศอฉ. มาสอบปากคำ (ที่มาของภาพ: คุณยี่หร่า/Thailand Mirror) นายสมบัติ บุญงามอนงค์ และสมาชิกกลุ่ม "วันอาทิตย์สีแดง" ร่วมกันผูกผ้าแดงที่ป้ายจราจรแยกราชประสงค์ ก่อนที่นายสมบัติจะถูกตำรวจควบคุมตัวตามหมายจับ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ที่ออกมาก่อนหน้านี้ตั้งแต่วันที่ 21 พ.ค. (ที่มาของภาพ: คุณยี่หร่า/Thailand Mirror)
หมายศาลควบคุมตัวตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เลขที่ 116/2553 ลงวันที่ 21 พฤษภาคม 2553 สำหรับควบคุมตัว "นายสมบัติ บุญงามอนงค์" ตรงชื่อนายสมบัติเขียนด้วยลายมือ ส่วนคำที่เป็นตัวพิมพ์ซึ่งเขียนผิดแล้วถูกขีดฆ่า อ่านว่า "นายสมชาย ไพบูลย์" (ที่มา: คุณ Deerhunter 14) สติ๊กเกอร์ข้อความ "ยกเลิก พ.ร.ก. เสียที อยากมีชีวิตปกติ" ซึ่งมีประชาชนกลุ่มหนึ่งนำมาติดทับช่วงเย็นวันนี้ (26 มิ.ย. 53) ท่ามกลางข้อความทำนองรักห้างเซ็นทรัลเวิร์ลด์ คิดถึงห้างเซ็นทรัลเวิร์ลด์ หรือขอให้กรุงเทพฯ กลับมาเหมือนเดิม (ที่มา: คุณ Deerhunter 14) สติ๊กเกอร์ข้อความเดิม ซึ่งผู้สื่อข่าวประชาไทไปบันทึกภาพเมื่อเวลาประมาณ 20.30 น. วันที่ 26 มิ.ย. ปรากฏว่ามีผู้พยายามฉีกออก สติ๊กเกอร์เขียนข้อความ "ฉันเห็นคนตาย 19 พ.ค. 2010" (I saw dead people! 19 May 10) ถูกติดที่บริเวณแยกราชประสงค์วันนี้ (26 มิ.ย.) (ที่มา: คุณ Deerhunter 14) สติ๊กเกอร์ข้อความเดิม ซึ่งผู้สื่อข่าวประชาไทบันทึกภาพเมื่อเวลา 20.30 น. ของวันที่ 26 มิ.ย. ยังคงอยู่ปกติ
เมื่อเวลาประมาณ 17.00 น. วันนี้ (26 มิ.ย.) นายสมบัติ บุญงามอนงค์หรือ บก.ลายจุด นักกิจกรรม ได้นัดสมาชิกกลุ่มในเฟซบุคไปผูกผ้าสีแดง ที่ป้ายสี่แยกราชประสงค์ บริเวณสี่แยกราชประสงค์ ซึ่งเคยเป็นที่ตั้งเวทีปราศรัยของแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ระหว่างเดือนเมษายน-พฤษภาคมที่ผ่านมา ก่อนถูกสลายการชุมนมุวันที่ 19 พ.ค. ต่อมาเวลาประมาณ 17.30 น. มีเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาพูดคุยกับนายสมบัติ และเชิญตัวไปสอบถามเพิ่มเติมที่ สน.ลุมพินี โดยขณะที่รายงานอยู่นี้ (18.00 น.) นายสมบัติยังอยู่ระหว่างการถูกสอบถามโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ สน.ลุมพินี ขณะที่ภายนอก สน.ลุมพินี มีกลุ่มผู้สนับสนุน และเพื่อนของนายสมบัติมาให้กำลังใจจำนวนมาก นอกจากนี้มีประชาชนอีกกลุ่มนำสำสติ๊กเกอร์รณรงค์ยกเลิกการใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และสติ๊กเกอร์ที่มีข้อความ "เราเห็นคนตาย" หลายร้อยแผ่น มาติดบริเวณทางเดินเชื่อมสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสสยาม ถึงสถานีรถไฟฟ้าชิดลม และป้ายบริเวณห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลเวิลด์ด้วย โดย พล.ต.ต.อนุชัย เล็กบำรุง ผบก.น.5 กล่าวว่า ที่จับกุมนายสมบัติ เพราะนายสมบัติมีหมายจับของศาลเลขที่ 116/2553 ออกเมื่อ 21 พ.ค. ฐานฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน หลังนายสมบัติจัดการชุมนุมที่บริเวณลาดพร้าว 71 เลียบทางด่วน ช่วงสลายการชุมนุม 19 พ.ค. เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจเห็นนายสมบัติปรากฏตัวในที่สาธารณะจึงจับกุมทันที โดยล่าสุดเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ลุมพินี ไปนำนายสมบัติเดินทางไปยังกองบังคับการตำรวจตระเวนชายแดนภาค 1 ต.คลอง 5 อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี เพื่อให้พนักงานสอบสวนของ ศอฉ. เดินทางมาสอบสวนนายสมบัติที่นั่น นายสมบัติไม่ให้สัมภาษณ์ใดๆ กับผู้สื่อข่าว กล่าวเพียงแต่ว่ามาสี่แยกราชประสงค์เพื่อเตรียมรณรงค์กิจกรรม "วันอาทิตย์สีแดง" ที่จะจัดในวันพรุ่งนี้ (27 มิ.ย.) เนื่องจากเป็นผู้ริเริ่มกิจกรรมดังกล่าว จึงคิดว่าต้องมาเตรียมกิจกรรมเอง โดยก่อนถูกตำรวจควบคุมตัวไปที่กองบังึคับกรตำรวจตระเวนชายแดนภาค 1 นายสมบัติได้ตะโกนว่า "ทำวันอาทิตย์สีแดงต่อ" ส่วนสถานการณ์ที่แยกราชประสงค์ เมื่อเวลา 20.30 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสติ๊กเกอร์ "ที่นี่มีคนตาย เมื่อวันที่ 19 พ.ค.2010" และอีกหลายๆ ข้อความคล้ายคลึงกัน รวมทั้งสติ๊กเกอร์คัคค้าน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ยังคงอยู่ แต่มีบางอันมีผู้พยายามแกะออก ขณะที่ผ้าแดงที่ผูกไว้เพื่อเตรียมจัดกิจกรรมไม่ปรากฏให้เห็นแล้ว สำหรับนายสมบัติ บุญงามอนงค์ ก่อนหน้านี้เคยถูกควบคุมตัวมาแล้ว โดยเมื่อวันที่ 6 ก.ค. 50 ถูกตั้งข้อหาละเมิดกฎอัยการศึก หลังปราศรัยคัดค้านการรับรัฐธรรมนูญ 2550 ที่สถานีขนส่ง อ.เมือง จ.เชียงราย ก่อนถูกทหารจากจังหวัดทหารบกเชียงราย ค่ายเม็งรายมหาราชควบคุมตัวและสอบปากคำ ก่อนทหารยอมปล่อยตัวเช้าวันถัดมา สมัครรับข่าวความเคลื่อนไหวจากประชาไท ผ่านทางอีเมล ดูรายละเอียดที่ http://groups.google.com/group/prachatai-newspaper |
กวีประชาไท:เพ็ญ ภัคตะ "กรุงเทพมหานรก" Posted: 26 Jun 2010 03:53 AM PDT <!--break-->
กรุงเทพมหานรก สกปรกแสนอัปรีย์ ผ่านฟ้าเหมือนพ้นฝัน ผ่านคืนวันวิเวกใจ บ่อนไก่แท้บ่อนเหยี่ยว ขย้ำเขี้ยวขยุ้มฆ่า ล่ามโซ่ราชประสงค์ ราชดำรงด้วยเกียรติใด ขึงพืดวัดปทุม จีวรวิ่นสบงว่อน ทวงคืนทุกพื้นที่ แผ่นดินนี้ของใครนั่น ไพร่คือผ้าเช็ดเท้า ใต้ฝุ่นเถ้าเป็นตัวถ่วง กรุงเทพมหานรก ยังปิดปกประโคมป้าย
เพ็ญ ภัคตะ สมัครรับข่าวความเคลื่อนไหวจากประชาไท ผ่านทางอีเมล ดูรายละเอียดที่ http://groups.google.com/group/prachatai-newspaper |
You are subscribed to email updates from ประชาไท หนังสือพิมพ์ออนไลน์ To stop receiving these emails, you may unsubscribe now. | Email delivery powered by Google |
Google Inc., 20 West Kinzie, Chicago IL USA 60610 |
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น