โพสต์แนะนำ

ประชาไท Prachatai.com

ประชาไท Prachatai.com พท.-ปชป จัดประชุมแก้ไขข้อบังคับพรรคฯ ส่วนรัฐบาลคสช. เตรียมฉีดเงินตำบลละ 5 แสน คพศ. ขอ ตร.เรียกตั...

ซิตี้แบงก์ ให้คุณสมัครบัตรเครดิต citibank ออนไลน์ ด้วยวิธีสมัครบัตรเครดิตง่ายๆ รู้ผลอนุมัตทันใจภายใน 5 วัน อยากทำบัตรเครดิตซิตี้แบงก์ สมัครออนไลน์ได้ทันทีที่นี่.

วันศุกร์ที่ 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

ประชาไท | Prachatai.info

ประชาไท | Prachatai.info

Link to ประชาไท หนังสือพิมพ์ออนไลน์

สนธิ ลิ้มทองกุล: “คุณอภิสิทธิ์ คือ The Last White Hope”

Posted: 28 May 2010 12:43 PM PDT

สนธิบ่นพันธมิตรฯ สู้มาตั้งแต่’48 ไม่เคยได้อะไรมีแต่คดี อัด ‘มาร์ค’ ทำตัวเป็นเทพแต่ใช้อสูรทำงานชั่วร้าย แต่ยังหวังเป็น “The Last White Hope” พร้อมไล่แฟน ปชป. อย่าเข้ามาอ่านเว็บ ผจก. ลั่นถ้ารัฐบาลกล้าตัดสินใจสลายแต่ต้น คนตายอย่างมาก 10-20 การเผาไม่เกิด เสี้ยมทหารเตรียมเจ็บตัว หากรบ.ตั้งกรรมการอิสระ ลั่นบ้านเมืองแก้ด้วยสภาไม่ได้ แนะถวายคืนพระราชอำนาจ สร้างสุญญากาศ 3 ปีปฏิรูป

<!--break-->

เวลา 20.30 น. วานนี้ (28 พ.ค.) นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ได้ออกรายการ “พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย” ทางสถานีโทรทัศน์เอเอสทีวี โดยนายสนธิกล่าวว่าเป็นการออกโทรทัศน์ครั้งที่ 2 หลังจากลาออกจากหัวหน้าพรรคการเมืองใหม่แล้ว และระบุว่าจะมาจัดรายการตามปกติ และจะพยายามจัดทุกๆ วันศุกร์ โดยนายสนธิให้เหตุผลว่าเพื่อเป็นการให้ความรู้ แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับพ่อแม่พี่น้องที่อยู่ทางบ้าน 

 

สนธิลั่นธรรมตอบได้ทุกคำถาม เกิดมาในแผ่นดินไทยต้องทดแทนคุณแผ่นดิน

นายสนธิกล่าวว่า วันนี้เป็นวันวิสาขบูชานะครับ วันวิสาขบูชาในทางพุทธนั้นถือว่าเป็นวันที่ยิ่งใหญ่ แม้กระทั่งองค์การยูเนสโกยังต้องกำหนดเลยว่า วันวิสาขบูชานั้นเป็นวันสำคัญของโลกวันหนึ่ง และวันนี้ก็เป็นวันที่พระพุทธเจ้าได้ทรงตรัสรู้ขึ้นมาด้วยธรรมอันบริสุทธิ์ ธรรมที่สามารถที่จะอธิบายเรื่องราวต่างๆ ในโลกนี้ได้ โดยที่มีคำตอบให้กับคำถามทุกๆ คำถาม

อย่างที่ผมเคยเรียนให้พ่อแม่พี่น้องทราบมานานแล้วว่า ไม่มีอะไรในโลกนี้ที่ไม่สามารถจะอธิบายด้วยธรรมได้ ธรรม เช่น ความกตัญญูรู้คุณคนนั้น ก็คือธรรมอันหนึ่งที่สำคัญ ธรรมนี้ก็เป็นธรรมที่ท่านพุทธทาสท่านพูดอยู่ตลอดเวลา ทำไมเราต้องกตัญญู เราเกิดมาในแผ่นดินไทย หรือเรามาพึ่งพระบรมโพธิสมภารในแผ่นดินไทย เราต้องมีความกตัญญูรู้คุณแผ่นดิน เราต้องทดแทนคุณแผ่นดิน เราเป็นลูกของพ่อหลวง คือ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ เป็นลูกของแม่หลวง ก็คือ แม่หลวง ก็คือ องค์สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เราก็ต้องตอบแทนบุญคุณและพระคุณของท่าน นั่นคือธรรมในเรื่องความกตัญญูรู้คุณ เป็นหนี้แผ่นดินต้องใช้แผ่นดิน ไม่ใช่เป็นหนี้แผ่นดินแล้วมาทำลายแผ่นดิน เหมือนอย่างที่คุณทักษิณ ชินวัตร ทำทุกวันนี้ตลอดจนพลพรรคของท่าน และเครือข่ายของท่านทุกคน ที่มาทำลายแผ่นดิน คนประเภทนี้ต้องถือว่าเป็นคนทรยศ และเนรคุณต่อแผ่นดินไทยนะครับเพราะฉะนั้นแล้ว บุญคุณ ความกตัญญู คนที่มีธรรมนำหน้า จะต้องมีอยู่ในจิตใจตลอดเวลา

 

ชาติบ้านเมืองวุ่นวายเพราะคนไม่เข้าใจหน้าที่

ธรรมอีกอัน คือหน้าที่ หน้าที่สำคัญที่สุด ถ้าเราจำพระราชดำรัสขององค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯได้ ว่าใครมีหน้าที่อะไรให้ทำหน้าที่นั้นให้ดีที่สุด แล้วชาติบ้านเมืองจะไม่วุ่นวาย ทุกวันนี้ชาติบ้านเมืองวุ่นวายเพราะคนไม่เข้าใจหน้าที่ของตัวเอง ทหารควรจะมีหน้าที่ที่ปกป้องประเทศชาติ ปกป้องราชบัลลังก์ ปกป้องสถาบัน ปกป้องศาสนา ปกป้องประชาชน ทหารบางคนไม่ได้ทำหน้าที่เช่นนี้

ตำรวจส่วนใหญ่ไม่ได้ทำหน้าที่นี้เลยที่จะเป็นตำรวจ แต่กลับเป็นตำรวจที่คอยปกป้องเครือข่ายของคนที่เนรคุณคน และไม่มีความกตัญญูรู้คุณต่อแผ่นดิน หน้าที่ของเราต้องเคารพสถาบัน หน้าที่ของเราต้องปกป้อง เคารพผู้หลักผู้ใหญ่ ไม่ใช่ปล่อยให้ผู้หลักผู้ใหญ่ เช่น พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ท่านถูกคนชั่วคนเลว คนระยำ ออกมาจาบจ้วงว่าท่าน ด่าท่าน ด้วยคำพูดที่หยาบคายมาตลอด ตั้งแต่ปี 2549 ไล่มา 3 ปี 4 ปีเต็มๆ โดยที่ไม่มีใครมาปกป้อง ท่านนายกฯ คนปัจจุบันก็ไม่เคยปกป้อง พล.อ.เปรม ทหารซึ่งเป็นลูกศิษย์ลูกหา ลูกน้องคนสนิท พล.อ.เปรม ก็ไม่ออกมาปกป้องท่าน ทั้งๆ ที่ท่านมีตำแหน่งเป็นองคมนตรี จะเห็นได้ชัดว่าหน้าที่ก็ไม่ทำ เมื่อเขาดำเนินคดีกับผู้ที่ไปบุกบ้าน พล.อ.เปรม หน้าที่ที่ตำรวจและอัยการจะต้องดำเนินเรื่องนี้ ก็ไม่ทำ หน้าที่ที่อัยการสั่งฟ้องบรรดาผู้ซึ่งมีส่วนเกี่ยวข้องกับการบุกบ้าน พล.อ.เปรม วันนี้ก็ไม่สั่งให้ตำรวจออกไปดำเนินคดี และจับคนซึ่ง คนพวกนี้อยู่ในหมายจับอยู่แล้ว และถูกกักขังอยู่แล้ว ไม่ได้เพิ่มข้อหาเข้าไปอีก กลับนั่งเฉยๆ หรือกรณีนายจักรภพ เพ็ญแข ซึ่งหมิ่นพระบรมเดชานุภาพชัดเจน 4 ปีแล้ว ไม่ได้ทำอะไรเลยแม้แต่นิดเดียว อัยการกลับกำลังหาเรื่องที่จะส่งฟ้องผม กรณีที่ผมเอาเรื่องยัยดา ตอร์ปิโด ออกมาเล่าให้พ่อแม่พี่น้องฟัง บอกว่ายัยดา ตอร์ปิโด หมิ่นพระบรมเดชานุภาพอย่างไร หมิ่นสมเด็จพระนางเจ้าฯ อย่างไร ตำรวจแทนที่จะดูเจตนา กลับมาดำเนินคดีผม แล้วส่งให้อัยการ อัยการขณะซึ่งทิ้งกรณีของจักรภพ เพ็ญแข ถึง 4 ปีไม่ทำอะไร กลับมาสั่งฟ้องคดีผม เดือนหน้าก็ต้องไปขึ้นศาลเพื่อประกันตัว ผมไมได้ติดใจเรื่องนี้ แต่ผมกำลังชี้ให้เห็นว่าคนเราถ้าไม่ทำหน้าที่ คนๆ นั้นไม่สมควรเป็นคนไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่รับราชการอยู่ กินเงินเดือนภาษีอากร ตำรวจส่วนใหญ่ อัยการส่วนใหญ่ ล้วนแล้วแต่เป็นเครือข่ายคนเสื้อแดงทั้งสิ้น เพราะฉะนั้นจะเห็นได้ชัดว่าชาติบ้านเมืองวันนี้มันใกล้ล่มสลาย หรือว่ามันล่มสลายไปเรียบร้อยแล้วครับ ประเดี๋ยวผมจะพูดต่อ อีกหลายเรื่องครับ

 

เตรียมตอบ 8 คำถามจากแฟนคลับ

นายสนธิ กล่าวว่า ก่อนที่ผมจะมาออกรายการนี้ ก็ได้มีการขึ้นข่าวในเว็บไซต์ว่าผมจะออกรายการนี้ ก็บอกว่าให้พ่อแม่พี่น้องหลายๆ คนที่ต้องการจะส่งคำถามมาถามผม ให้ส่งมาได้ ก็ปรากฏว่ามีคนเข้ามาดูเว็บไซต์นี้ร่วม 5 หมื่นคน คำถามที่เราพิมพ์ออกมานะครับ พี่น้องครับ 1 พันกว่าคำถามที่ถามผม เยอะมากเหลือเกิน เรียกว่ามีสาระ มีเนื้อหาพอที่จะตอบไปได้ทั้งปี แต่ว่าผมก็มาสรุปว่าคำถามแต่ละคำถามจัดเป็นหมวดหมู่จะมีเรื่องอะไรบ้าง ก็แบ่งเป็นหลายหมวดหมู่นะครับ คำถามที่ถามมากที่สุด ก็มี 1. ถ้าคุณสนธิเป็นนายกฯ จะจัดการกับคนเสื้อแดงและขบวนการล้มเจ้าอย่างไร 2. ประเทศไทยจะเป็นอย่างไรนับจากนี้ จะปฏิรูปหรือปฏิวัติประเทศ ตามที่คุณสนธิเสนออย่างไร 3. จะจัดการอย่างไรกับแกนนำเสื้อแดงและนำทักษิณมาลงโทษได้อย่างไร 4. จะปฏิรูปตำรวจอย่างไร 5. ควรจะยกเลิกเอกสิทธิ์ ส.ส.หรือไม่ 6. ASTV จะเป็นฟรีทีวีได้ไหม 7. กรณีตำรวจปิดวิหคเรดิโอ เชียงใหม่ ที่วิหคเรดิโอบอกว่า เสธ.แดง เป็นสายลับ จริงไหม นั่นคือข้อ 8 นะครับ

 

ใครเสนอแผนปรองดอง ใช้ไม่ได้

พี่น้องครับ คำถามมีเยอะ ประเดี๋ยวผมจะพูดถึงสถานการณ์ทางการเมืองทั่วๆ ไป แล้ววิเคราะห์ให้พ่อแม่พี่น้องฟัง ว่าเมืองไทยนั้นมีความจำเป็นที่จะต้องปฏิวัติ ปฏิรูป ต้องพลิกแผ่นดิน เหมือนกับที่เสื้อแดงบอกว่าต้องการพลิกแผ่นดิน เราเองก็ต้องการจะพลิกแผ่นดินเหมือนกัน พลิกแผ่นดินอย่างไร เราจำเป็นที่จะต้องพลิกแผ่นดินแล้วชี้ให้เห็นว่า ความถูกอยู่ที่ไหน ความผิดอยู่ที่ไหน แล้วเราต้องมายืนข้างความถูกกันก่อน วันนี้พี่น้องครับ ใครก็ตามที่เสนอแผนปรองดอง คนนั้นเป็นคนที่ใช้ไม่ได้ แผนปรองดองในลักษณะที่ยังไม่ชี้ผิดชี้ถูกนั้น ปรองดองไม่ได้ ผมพูดมาตลอดเวลา และวันนี้ผมจะพูดอธิบายความเพิ่มเติม

 

ไม่แคร์สื่อต่างประเทศ ชื่นชม ‘นภัส ณ ป้อมเพ็ชร’ โวย CNN

อีกเรื่องหนึ่งที่ผมจะพูดวันนี้ก็คือเรื่องสื่อมวลชนต่างประเทศ CNN, BCC หลายๆ สื่อมวลชนต่างประเทศที่คนไทยพากันพะวงเป็นนักเป็นหนา เป็นห่วงเป็นใย ไม่ต้องเป็นห่วง ประเดี๋ยวผมจะอธิบายให้ฟังว่าทำไมเราไปให้ความสำคัญกับสื่อมวลชนต่างประเทศ มากเกินไป จนกระทั่งเราลืมนึกถึงตัวของเราเอง และความสำคัญของพวกเราสำคัญมากนะครับ

หลายๆ ท่านนั้นโกรธนายแดน ริเวอร์ ผู้สื่อข่าว CNN ซึ่งเป็นคนซึ่งให้สัมภาษณ์ออกมา ออกข่าวที่ผิดพลาดหลายๆ อย่าง และเป็นข่าวซึ่งคนไทยที่รักความเป็นธรรม รักความเป็นจริง ทนไม่ได้ จนกระทั่งมีทนายความสาวคนหนึ่ง ชื่อคุณนภัส ณ ป้อมเพ็ชร ซึ่งจบเศรษฐศาสตร์เกียรตินิยมอันดับ 1 จากจุฬาฯ แล้วไปต่อได้เกียรตินิยมอันดับ 1 ทางกฎหมาย ที่อังกฤษ เขียนจดหมายไปต่อว่า CNN ผมไม่มีโอกาสที่จะเอาจดหมายนั้นมาให้อ่านหรืออธิบายความ แต่ว่าคุณนภัส ณ ป้อมเพ็ชร ได้ทำหน้าที่ที่สมบูรณ์แบบของคนไทยคนหนึ่งที่รักชาติรักแผ่นดิน ใช้ความรู้ความสามารถที่เป็นนักกฎหมาย ใช้ความรู้ความสามารถในเรื่องภาษาที่เขียนได้สละสลวยคมเข้มไม่มีที่ติ เป็นตัวแทนของคนไทย ทำด้วยตัวเอง ไม่ต้องมีใครมาสั่ง แต่แสดงออกเพื่อชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์

ณ วันนี้ ผมอยากจะประกาศเกียรติคุณให้กับคุณนภัส ณ ป้อมเพ็ชร ให้พวกเราได้รับทราบกันว่า ในแผ่นดินนี้ก็ยังมีคนที่ดีๆ อย่างนี้อยู่ ยังมีคนหนุ่มคนสาว คุณนภัสยังเป็นคนสาวอยู่ ยังไม่ได้อายุมาก เรียนจบมาจากต่างประเทศ กฎหมาย เกียรตินิยมอันดับ 1 เศรษฐศาสตร์ จุฬาฯ แต่ว่ามีความรู้สึก มีความรู้สึกว่าประเทศไทยไม่ได้รับความเป็นธรรมจากสื่อมวลชน นายแดน ริวเวอร์

 

ไม่ประหลาดใจถ้าภรรยาแดน ริเวอร์ เป็นเสื้อแดง

นายสนธิ กล่าวต่อไปว่า นายแดน ริเวอร์ นั้นมีภรรยาเป็นคนไทย เป็นคนขอนแก่น ผมไม่ทราบว่าภรรยาของนายแดน ริเวอร์ นั้นเป็นกลุ่มคนเสื้อแดงหรือไม่ แต่ผมก็จะไม่ประหลาดใจถ้าเป็น เพราะว่านายแดน ริเวอร์ นั้น แสดงความเป็นอคติและความไร้ภาวะของสื่อมวลชนมืออาชีพอย่างสิ้นเชิง นอกจากนั้นแล้ว พี่น้องครับ ยังมีคนไทยที่ใจชั่ว อย่างเช่นนายใจ อึ๊งภากรณ์ ไปเที่ยวพูดจาในที่ต่างๆ ในที่สาธารณะ ในประเทศอังกฤษ นอกจากพูดจาที่จะทำลายชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์แล้ว ยังเป็นการพูดจาที่จาบจ้วงอย่างสุดๆ ที่ผมไม่ต้องการมาเล่าให้ฟัง แต่เล่าให้ฟังได้ว่า นายใจ อึ๊งภากรณ์ นั้นจิตใจทุกอย่างเป็นคนที่บัดซบ เลวทราม ต่ำช้า นอกจากนั้นแล้ว ยังมี นายจักรภพ เพ็ญแข ขณะนี้กำลังเดินสายอยู่ในทางยุโรป เพื่อที่จะไปประชุมพบกับคนไทย ภรรยาของฝรั่งในเยอรมัน ไปพูดตามร้านอาหาร ไปใส่ร้ายประเทศไทย ไปใส่ร้ายสถาบัน ไปทำลายทุกสิ่งทุกอย่างที่บรรพบุรุษของคนไทยได้สร้างขึ้นมา สิ่งต่างๆ เหล่านี้กำลังเกิดขึ้น และกำลังทวีคุณอย่างมากขึ้นเรื่อยๆ

 

เห็นภาพพันธมิตรฯ แล้วน้ำตาจะไหล เสื้อเหลืองทำเพื่อชาติเพื่อแผ่นดินจริงๆ

ในช่วงที่ 2 ของรายการ นายสนธิกล่าวต่อไปว่า เมื่อสักครู่นี้ก่อนขึ้นรายการ ที่พวกเราได้ฟังเพลงประจำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย และพบก็เห็นภาพ ซึ่งเป็นเอ็มวี อยู่ในนั้น ผมยังพูดกับอาจารย์ปานเทพ ซึ่งนั่งในห้องส่ง ซึ่งดูผมอยู่ ผมบอกว่า ผมเห็นภาพต่างๆที่พวกเราเดินขบวนประท้วง และผมน้ำตาจะไหล เพราะว่ามันคือความสันติ อหิงสา ที่แท้จริง สามารถที่จะเอาภาพการเดินทางของคนเสื้อเหลือง เทียบกับคนเสื้อแดงได้ช็อตต่อช็อต เฟรมต่อเฟรม รูปต่อรูป ให้เห็นชัดถึงความแตกต่าง ให้เห็นชัดถึงความถ่อย กับความสุภาพ นอกนั้นแล้ว ที่บอกว่า คนเสื้อแดงประท้วงอย่างอหิงสานั้น อาวุธปืน ทั้งระเบิด เต็มไปหมดเลย ที่ถูกค้นเจอ แต่ในขณะซึ่ง เมื่อเราออกจากทำเนียบแล้ว ตำรวจพยายามที่จะหาอาวุธปืนของเรา หาไม่เจอ ไม่มี เพราะเราไม่ได้มีอาวุธ มีแต่เรานั้นโดนอาวุธของตำรวจทำร้าย และทำลาย จนกระทั่งเสียชีวิตในวันที่ 7 ตุลาคม เพราะฉะนั้นแล้ว เมื่อดูภาพเอ็มวีนี้ แล้วดูเพลงนี้ทีไรแล้วมันสะท้อนใจ น้ำตามันซึม ที่มันซึมเพราะว่า 2 ประการ ซึมเพราะว่าดีใจ ที่ได้พิสูจน์ให้ประชาชนที่เป็นกลางๆเห็นชัด ความจริงแล้วการประท้วงของคนเสื้อแดงนั้นมันมีข้อดีกับผม และพี่น้องประชาชนที่ยืนข้างเสื้อเหลือง ที่เป็นพวกเสื้อเหลือง เป็นครั้งแรกที่เขาได้เห็นข้อเท็จจริง ว่าคนเสื้อเหลืองทำงานเพื่อชาติ เพื่อแผ่นดินจริงๆ

 

ยันคนปิดสนามบินไม่ใช่พันธมิตรฯ การท่าฯ ปิดเอง

การไปประท้วงที่สนามบินดอนเมืองนั้น ก็เป็นการประท้วงที่หน้าสนามบิน ไมได้บุกเข้าไปข้างใน แล้วไปเผา ไปทำร้าย ไปทุบกระจก ไปทำอะไรเลยแม้แต่นิดเดียว ต่างกับเสื้อแดง ที่เมื่อออกจากราชประสงค์แล้ว ก็เผาโน้นเผานี่ ของเราพอออกจากสนามบินมือเปล่า นอกจากนั้นแล้วยังช่วยกันทำความสะอาด

พี่น้องครับ เพื่อความเข้าใจที่ถูกต้อง เราต้องเข้าใจ ว่าคนที่ปิดสนามบินนั้น ไม่ใช่พวกเรา คนที่ปิดสนามบินนั้น คือ นายเสรีรัตน์ ประสุตานนท์ ซึ่งปัจจุบันก็ยังเป็นผู้จัดการสนามบินดอนเมืองอยู่ หลักฐานมีอยู่ชัด ในการประชุมคณะกรรมการการท่าอากาศยานแห่งประเทศไทย ที่คุณวุฒิพันธ์ เป็นประธาน มีชัดเจนว่า มีการตำหนิว่า นายเสรีรัตน์ ซึ่งเป็นพี่ภรรยาของ นายวีระ มุสิกพงศ์ สั่งปิดสนามบินโดยพลการ

 

อ้างพรรคประชาธิปัตย์พยายามเล่นงานพันธมิตรฯ ด้วยหมายจับผู้ก่อการร้าย

พี่น้องครับ พี่น้องรู้ไหม ว่าวันนี้พรรคประชาธิปัตย์ โดย นายสุเทพ เทือกสุบรรณ พยายามที่จะให้ตำรวจดำเนินคดี ตั้งข้อหาผู้ก่อการร้ายกับพันธมิตรฯ จำนวนหนึ่ง ซึ่งไปชุมนุมที่สนามบิน เพราะเขาต้องการที่จะให้ตำรวจไปขอหมายจับศาล แล้วถ้าศาลออกหมายจับเขาจะจับผู้นำ หรือคนซึ่งมีชื่อนั้น ไปขังเหมือนกับจับพวกเสื้อแดง นี่ครับพี่น้อง นี่คือพรรคประชาธิปัตย์ เป็นความคิดของ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ที่ต้องการจะทำให้เห็น ว่าผมเป็นกลางนะ ผมไม่เกี่ยว ผมเล่นงานเสื้อแดง ผมเล่นงานเสื้อเหลือง เห็นหรือยังพี่น้อง ด้วยเหตุนี้ ความพินาศฉิบหาย ถึงมาที่พรรคประชาธิปัตย์อย่างรวดเร็วไง พี่น้องรู้หรือยัง เป็นคนที่เนรคุณคน ไม่เคยสำนึกถึงบุญคุณที่เขาต่อสู้มา ถ้าไม่ใช่พวกเราออกมาวันนั้น เขาก็แก้รัฐธรรมนูญไปเรียบร้อยแล้ว นายสุเทพ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ จะอยู่ที่ไหน ถ้าไม่ใช่คนตายตั้ง 10 กว่าคน ไม่มีการต่อสู้กัน ต่อเนื่องกันไป พี่น้องเข้าใจหรือยัง

แล้วกำลังจะใช้วิชามารมากลั่นแกล้งพวกเรา พยายามอยู่ บีบตำรวจบางคนให้ทำ แต่ตำรวจท่านนั้นยังไม่ยอมทำ บอกเขาไม่ใช่ผู้ก่อการร้าย เขาจะเป็นก่อการร้ายได้ยังไง มันไม่มีองค์ประกอบของการก่อการร้ายเลยแม้แต่นิดเดียว นี่คือฝีมือของพรรคประชาธิปัตย์ สันดานของพรรคประชาธิปัตย์ เลวที่สุด คิดอยู่ตลอดเวลา มีการพูดในที่ประชุม ศอฉ. มีการสั่งให้ พล.ต.อ.ปทีป ดำเนินการจับพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่เรื่องเกี่ยวกับสนามบินเพื่อที่จะให้เห็นว่า เขาไม่เกี่ยวนะ เขาเป็นกลาง ไม่เกี่ยวกับเสื้อแดงหรือเสื้อเหลือง แต่ในขณะเดียวกัน นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ไม่อธิบายความว่ายกเลิกการอายัด หรือจำกัดธุรกรรมการเงินของบริษัท เอสซี แอสเสท ได้ยังไง อธิบายความหน่อย มีคนเล่าให้ผมฟังว่ามันมีเงินตกอยู่ 500 ล้านบาท ไม่รู้เข้ากระเป๋าใคร ที่จะให้ยกเลิกครั้งนี้ ศอฉ.ต้องอธิบาย

จู่ๆ คุณไปอายัดไม่ให้เขาทำธุรกรรมทางการเงิน เอสซี แอสเสท คือหัวใจของเครือชินวัตร หัวใจของทักษิณ ชินวัตร เพราะทรัพย์สมบัติทุกอย่างเขาอยู่ที่เอสซี แอสเสท เมื่อสั่งห้ามทำธุรกรรมแล้วทำให้เขาขยับไม่ได้ แต่จู่ๆ ก็ปล่อยเขาออกไปทันทีเลย ทั้งๆ ที่ยังไม่ได้หลักฐานมา ธนาคารยังไม่ได้ส่งหลักฐานมาเลยแม้แต่นิดเดียว ปล่อยไป มีคนวิ่งเต้นอยู่เบื้องหลังคนหนึ่ง ชื่อย่อชื่อนาย ธ.ธง แล้วนาย ธ.ธง นี้จะเป็นนายหน้ารับเงินรับทองส่งไปให้คนบางคนในพรรคประชาธิปัตย์ งานนี้ว่ากันว่ารับกันเป็นร้อยๆ ล้านบาท พี่น้องครับ ผมจำเป็นต้องพูดเรื่องนี้ ผมไม่พูดไม่ได้ เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด

นอกจากนั้นแล้วยังคิดชั่วช้าเลวทราม ที่จะพยายามให้ตำรวจไปขอหมายจับจากศาล เกี่ยวกับพันธมิตรฯ ข้อหาก่อการร้ายที่สนามบิน พี่น้องครับ องค์ประกอบการก่อการร้าย การกระทำของเสื้อแดงกับการกระทำของเสื้อเหลือง ถ้าคุณไม่สามารถแยกความดีความชั่วได้ออก อย่าว่าแต่คุณมาเป็นมนุษย์เลย อย่าว่าแต่คุณมาเป็นรองนายกรัฐมนตรีเลย คุณเป็นมนุษย์คุณยังเป็นไม่ได้เลย แค่นี้

เพราะฉะนั้น พี่น้องพันธมิตรฯ ต้องระวัง เราไม่ได้กลัว แต่เรากำลังชี้ให้เห็นสันดานที่แท้จริงของพรรคประชาธิปัตย์วันนี้ ซึ่งถ้าพรรคประชาธิปัตย์จะโกรธผม ไปโกรธนายสุเทพ เทือกสุบรรณ คนๆ นี้เป็นคนที่ใช้ไม่ได้ และคนๆ นี้วันหนึ่งข้างหน้าเมื่อแก่ตัวลง หรือเมื่อวันที่จะสิ้นลมหายใจ วันนั้นเขาก็จะไม่มีสำนึกอะไรเกิดขึ้นเลยแม้แต่นิดเดียวนะครับ พี่น้อง

 

ลั่นพันธมิตรฯ ต่อสู้มาตั้งแต่ปี 48 ไม่เคยได้อะไรมีแต่คดีความ

พี่น้องครับ ชีวิตพวกเราต่อสู้มากันตั้งแต่ปลายปี 48 , 49 , 50 , 51 ,52 , 53 พวกเราได้อะไร ไม่เคย มีแต่คดีความทั้งสิ้น ทำไมพันธมิตรฯ เข้าไปยึดทำเนียบ แล้วพอทำไมพันธมิตรฯ ออกมาถึงไม่ดำเนินคดีกับพันธมิตรฯ ทำไมไม่ดำเนินคดีล่ะ คดีอยู่เต็มเลย พี่น้องครับ ที่ทำเนียบรัฐบาล ผมและแกนนำ และคนอีกประมาณ 10 กว่าคน โดนข้อหากบฏ ใช่ไหมพี่น้อง ข้อหากบฏ ข้อหากบฏนี้เป็นข้อหาที่เขาตั้งขึ้นมาเพื่อเล่นงาน และคนตั้งข้อหานี้คือ พล.ต.อ.จงรัก จุฑานนท์ ไปวิ่งเต้นกับศาลเพื่อที่จะออกข้อหากบฏขึ้นมา แล้วเงื่อนไขติดต่อมาทางเรา บอกว่าถ้าเรายอมมอบตัวข้อหากบฏ แล้วสลายการชุมนุม ศาลจะให้ประกันตัว ผมไม่อยากเอ่ยชื่อผู้พิพากษาคนนั้นหรอก แต่ผู้พิพากษาคนนั้นสมรู้ร่วมคิดกับนายจงรัก จุฑานนท์ นะครับ

เอาล่ะ เราไม่มอบตัว เราอุทธรณ์เรื่องไปที่ศาลอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์หลังจากเป็นเวลาเดือนกว่าๆ ศาลอุทธรณ์ใช้องค์คณะใหญ่พิจารณาว่าข้อหากบฏที่ตำรวจตั้งมาให้พวกเรานั้น มีเหตุผลหรือไม่ ปรากฏว่าศาลอุทธรณ์ตัดข้อหากบฏทิ้ง บอกว่าการชุมนุมนั้นไม่ใช่เป็นการกบฏ แต่ข้อหาการบุกรุกสถานที่ราชการยังคงอยู่

พี่น้องครับ พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยซึ่งโดนคดีทุกคน เมื่อศาลตัดข้อหากบฏออก ก็ไปมอบตัวที่โรงพักหมดทุกคน มีใครบ้างที่หนี ไม่มี เพราะฉะนั้นแล้วจะเห็นได้ชัดว่า เราดำเนินการตามขั้นตอนตลอดเวลา ถ้าหากพวกเสื้อแดงที่ถูกจับข้อหาก่อการร้าย ถ้าไม่พอใจข้อหาก่อการร้าย ก็สามารถจะอุทธรณ์ได้ เหมือนอย่างที่เราอุทธรณ์เรื่องข้อหากบฏ ก็ถามว่า แล้วทำไมเขาไม่มาจับเรา ก็เพราะว่าเขาไม่กล้าเข้ามาจับเรา เพราะว่ามีพี่น้องพันธมิตรฯ ล้อมเราอยู่ตลอดเวลา แต่ในขณะนั้นเราก็อุทธรณ์

 

ท้าเสื้อแดงเจอข้อหาก่อการร้าย ต้องไม่ยอมมอบตัวแบบพันธมิตรฯ

เพราะฉะนั้นเสื้อแดงเมื่อถูกข้อหาก่อการร้าย ถ้าเสื้อแดงต้องการจะอุทธรณ์และรอผลของคำอุทธรณ์ ก็อย่าให้จับสิครับ ก็คุณก็ไม่เคยให้จับอยู่แล้วไม่ใช่หรือ แต่จู่ๆ ที่คุณสลายแล้วคุณมามอบตัว เพราะว่าคุณไปแอบตกลงกันหรือเปล่า ระหว่างแกนนำเสื้อแดงกับผู้บริหารรัฐบาล ว่าคุณมามอบตัวเถอะ เมื่อมอบตัวแล้วจะส่งไปอยู่ที่หัวหิน ไปเดินเล่นริมทะเล กินอากาศ สูดโอโซน มีความสุข มีความสบาย ผมไม่รู้เป็นข้อตกลงกันหรือเปล่า แต่พฤติกรรมของเสื้อแดงกับพฤติกรรมของพวกเรามันต่างกับเขามาก

พี่น้องครับ เห็นหรือยัง ว่าเรื่องๆ เดียวกัน แต่ว่าสาระคนละสาระ สาระอันหนึ่ง จงรัก จุฑานนท์ ตั้งข้อหาเราว่ากบฏ ไปขอหมายจับที่ศาล แล้วก็รู้จักผู้พิพากษา แอบจับมือกัน กินกาแฟกันในห้อง ศาลออกหมายจับข้อหากบฏ ศาลชั้นต้น ศาลอาญา เราไม่ยอม เราบอกว่าไม่ยุติธรรม ศาลไม่ยุติธรรม เราขออุทธรณ์ ตำรวจก็ไม่มาจับ ปล่อยให้เราอุทธรณ์ พออุทธรณ์ศาลอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์ใช้องค์คณะทั้งองค์คณะเลยนะครับ ผู้พิพากษาอุทธรณ์ทุกคนเข้าประชุมหมด แล้วมีมติ 3 แนวทาง แนวทางแรกก็คือยกหมดทุกข้อหา ส่วนหนึ่ง ผู้พิพากษาส่วนหนึ่ง อีกส่วนหนึ่งก็บอกว่า ให้คงข้อหากบฏเอาไว้ แต่เป็นส่วนน้อยมาก อีกส่วนหนึ่งเป็นส่วนใหญ่ที่สุด ก็บอกว่าให้ตัดข้อหากบฏ เพราะว่าไม่เข้าองค์ประกอบ แต่ว่าข้อหาอื่น คือบุกรุกสถานที่ราชการ ก่อความวุ่นวาย ให้คงเอาไว้ ศาลก็เลยมีคำสั่งศาลอุทธรณ์ลงมา บอกให้ยกข้อหากบฏ ก็เลยทำให้เราหลุดจากข้อหากบฏ เห็นหรือยังพี่น้อง นี่คือความจริง

ฉะนั้นพี่น้องต้องจำเอาไว้ แล้วพวกเสื้อแดง แกนนำเสื้อแดง ก็ต้องจำเอาไว้ คุณเฉลิม อยู่บำรุง คุณก็ต้องจำเอาไว้ คุณต้องเข้าใจเรื่องนี้ดี เพราะว่าคุณเคยเป็นรัฐมนตรีฯ ยุติธรรมอยู่ คุณไม่เข้าใจเรื่องนี้ได้ยังไง แล้วจู่ๆ คุณก็มากล่าวหาว่าพันธมิตรฯ เป็นผู้ก่อการร้าย

 

ลั่นพันธมิตรฯ ไม่เข้าองค์ประกอบผู้ก่อการร้าย สงบ อหิงสา สันติ

ผู้ก่อการร้ายมีองค์ประกอบอะไรบ้างล่ะ องค์ประกอบการทำลายทรัพย์สิน พวกเราอยู่สนามบิน เราทำลายทรัพย์สินอะไรบ้างไหม องค์ประกอบการมีอาวุธ เรามีไหม แต่องค์ประกอบพวกคุณมีทั้งปืน M79 มีทั้งปืนพก มีอาวุธ มีระเบิดวางเอาไว้ มีการยิงต่อสู้กันออกมา ยิงเหมือนสงครามยิง มีการจุดไฟเผา อย่างนี้ล่ะครับเขาเรียกว่าผู้ก่อการร้าย ของเราไม่มี ของเราไม่มีเลยแม้แต่นิดเดียว หลักฐานจะเอามา วิดีโอมา เอาอะไรมาถ่ายก็จะเห็นได้ชัดหมดทุกอย่าง ไม่มีผิดเพี้ยนเลยแม้แต่นิดเดียว สงบ อหิงสา สันติ เพราะฉะนั้นแล้ว พวกเฉาฉุ่ยที่อยู่ในสภาที่เป็นพรรคเพื่อไทย ที่ปากเสียพูดออกมานี้ สมควรจะเอาเท้าตัวเองตบปากตัวเองเสีย 10 ที ในฐานะที่ปากเน่า แล้วก็ไม่เคยสนใจว่าตัวเองพูดอะไรออกไป ด้วยเหตุนี้พี่น้อง

 

ลั่นต้องล้างบางวงการตำรวจ เน่าเพราะทักษิณ

พี่น้องเริ่มเห็นด้วยกับผมหรือยัง ว่าการเมืองเมืองไทยมันไม่ใช่ถึงทางตัน มันเน่าสนิท มันฉิบหายไปหมดแล้ว มีทางออกทางไหนพี่น้อง บอกผมซิ คุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ คุณสุเทพ เทือกสุบรรณ ทำฟิต ทำย้ายผู้การขอนแก่น ทำย้ายผู้การอุดรฯ ทำย้ายผู้การคนโน้นคนนี้ในฐานะให้ก่อเหตุ พี่น้องรู้หรือเปล่า นี่คือการปะแป้ง ปะแป้งเฉยๆ พี่น้อง ย้ายไปทำอะไรรู้หรือเปล่า 30 วัน ย้ายประจำ อีกสักพักก็กลับไปทำงานเหมือนเดิม ตำรวจ ไม่ใช่การย้าย ตำรวจต้องพลิกแผ่นดิน ต้องล้างบาง เพราะทุกอย่างที่เกิดขึ้นในประเทศนี้ เกิดขึ้นเพราะตำรวจเป็นตัวเริ่ม ทำไมตำรวจเป็นตัวเริ่ม เพราะว่านายทักษิณ ชินวัตร เป็นคนซึ่งดัดแปลง ขยับขยาย ทำให้เป้าหมายของตำรวจ ในฐานะที่เป็นผู้พิทักษ์สันติราษฎร์นั้นผิดไปหมดเลย จากตำรวจที่เคยรับใช้ประชาชน กลายเป็นตำรวจที่ไปรับใช้ นายทักษิณ ชินวัตร ตำรวจต้องรับใช้นักการเมือง ทักษิณเอาเงินหวย ที่ผิดกฎหมาย เอามาแจกตำรวจทุกโรงพัก แต่พี่น้องอย่าเพิ่งไปโกรธตำรวจ อย่าเพิ่งไปโกรธลูกเมียตำรวจชั้นผู้น้อยที่เป็นเสื้อแดง ที่เขาเป็นเพราะว่าเขาไม่ได้รับความเป็นธรรม เพราะตำรวจชั้นผู้น้อยนั้น โดนตำรวจชั้นผู้ใหญ่รังแกตลอด รังแกในเรื่องผลประโยชน์ เรื่องใช้เขาไปทำมาหากิน ใช้เขาไปรีดไถ ส่งส่วย

พี่น้องครับ ผมเคยพูดกี่ครั้งแล้ว ทำไมตำรวจถึงเป็นเช่นนี้ เพราะตำรวจระดับนายพลที่กินตำแหน่งผู้บัญชาการนั้น ส่วนใหญ่ถ้าไม่เสียเงินแล้วจะมานั่งตำแหน่งนี้ไม่ได้ เมื่อตัวเองมาต้องเสียเงินเป็นสิ 10 ล้าน 20 ล้าน 30 ล้าน บางคนกินตำแหน่งใหญ่ เสียถึง 80 ล้านบาท เมื่อมานั่งตรงนี้แล้ว ก็ต้องกอบโกยเอากลับ วิธีเอากลับมี 2 วิธี วิธีแรก คือ การแต่งตั้งลูกน้องระดับพลตำรวจตรี ผู้บังคับการจังหวัด หรือผู้บังคับการตามเขตต่างๆ เช่น น.1, น.2 , น.3 , น.4 , น.5 , น.6 , น.7, น.8, น.9 นครบาล 1 , นครบาล 2 นี่ผมเพียงแต่ยกตัวอย่างให้ฟัง ใครอยากเป็นนายพล ใครอยากอยู่ต่อส่งมา 10 ล้าน 15 ล้าน นี่คือวิธีเรียกเงินคืน ผู้กำกับก็เรียกเงินด้วย เมื่อผู้กำกับโรงพักถูกเรียกเงินมา ทั้งผู้การ และผู้กำกับ เอาเงินจากไหนมา 1 ถ้าไม่ใช่ในบ่อน หรือผู้ทำผิดกฎหมาย เป็นคนเอาเงินก้อนนี้ให้เขาไปให้เจ้านายเพื่อให้คนคนนี้อยู่ต่อ เพื่ออำนวยความสะดวกกับธุรกิจที่ผิดกฎหมายเขา 2. เขาก็ต้องใช้อำนาจเขาไปรีดไถคนเพิ่ม เพื่อเรียกทุนคืน

มีใครบ้างในแผ่นดินไทยที่มันจะบ้าพอ ที่จะเอาทรัพย์สมบัติของพ่อแม่มา 10 ล้าน 15 ล้าน หรือไปขายบ้าน ขายที่ดิน เพียงเพื่อตัวเองจะได้เป็นนายพล แล้วก็ทำงานอย่างซื่อสัตย์ รับใช้ประชาชน ไม่มีหรอกครับ เพราะฉะนั้นแล้วตำรวจมันเน่าจากนักการเมือง เพราะนักการเมืองมันไปเรียกเงินจากตำรวจที่ต้องการจะขึ้นตำแหน่งใหญ่

พี่น้องไปคิดเอาเองว่า นักการเมืองระยำนั่นคือใคร ผมไม่จำเป็นต้องพูด พี่น้องครับ เพราะฉะนั้นจะเห็นได้ชัด ว่าเมื่อตำรวจเป็นเช่นนี้แล้ว ตำรวจไม่ใส่ใจอะไรเลย ตำรวจใส่ใจอยู่อย่างเดียวว่า จะต้องอยู่ต่อเพื่อเรียกทุนคืน เมื่อจะต้องอยู่ต่อเพื่อเรียกทุนคืนแล้ว ตำรวจจะทำหน้าที่จัดการกับพวกก่อความวุ่นวายไหม ไม่ใช่ เดี๋ยวเผลอโดนลูกหลง เฮ้ย เดี๋ยวเผลอๆรัฐบาลอภิสิทธิ์ ไม่อยู่ คนใหม่ขึ้นมาผมโดนย้าย เพราะฉะนั้นแล้วผมใส่เกียร์ว่าง เกียร์ว่างไม่ได้ใส่ครับพี่น้อง เขาดับเครื่องทิ้งเลย

ตำรวจชั้นผู้น้อย ความอัดอั้นตันใจที่โดนตำรวจชั้นผู้ใหญ่รังแกมาตลอด เมื่อเห็นเสื้อแดงมาก็หวังว่า ถ้าเสื้อแดงชนะ ตัวเองจะได้มีสิทธิ์มีเสียงมีปากมีเสียง จะได้รับความเป็นธรรม เป็นครั้งแรก ตำรวจชั้นผู้น้อยจึงรีบใส่เกียร์ว่างมากขึ้น นอกจากนี้ แล้วยังแอบเข้าไปร่วมกับขบวนการ เหมือนกับประชาชนหลายฝ่ายที่ถูกหลอกมา เมื่อถูกต้อนจริงๆเขาก็เริ่มเห็นว่า ทำไมราคาพืชไร่ของฉันมันไม่ค่อยดีเลย ทำไมโรงสี พ่อค้าส่งออกรวยเอา ทำไมโรงเรียนใน อ.ป่าแดด จ.เชียงราย มันถึงสู้โรงเรียนอำเภอเมืองไม่ได้ นับประสาอะไรกับโรงเรียนในกรุงเทพฯ เห็นหรือยังพี่น้อง เอ๊ะ ทำไมลูกเราเวลาเรียนจบเข้ามหาวิทยาลัยแล้ว ต้องจ่ายค่าเล่าเรียน ไม่มีเงินจ่าย ทำไมคนอื่นเขามีเงินจ่ายค่าเล่าเรียน ตรงนี้ไงครับคือความไม่เป็นธรรม

เมื่อความไม่เป็นธรรมมันเกิดขึ้น คนมันก็ต้องสู้ คนมันก็ต้องเรียกร้องความเป็นธรรม เพราะฉะนั้นในส่วนหนึ่งของคนเสื้อแดงที่เขามาเรียกร้องความเป็นธรรมนั้น ก็มีเนื้อหาสาระที่เป็นไปอย่างเป็นความจริงพอสมควร แต่ว่าคนพวกนี้ถูกหลอกให้เข้าสู่ขบวนการล้มเจ้าไปด้วย โดยโยง พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ โยงอำมาตย์ทั้งหลาย อำมาตย์ตัวจริงครับพี่น้อง คือนายทักษิณ ชินวัตร แล้วอีกคนหนึ่งกำลังจะเป็นอำมาตย์ต่อไปเหมือนกัน คือคุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ท่านก็เริ่มเป็นอำมาตย์แล้วตอนนี้ เพราะท่านไม่ฟังใคร ท่านฟังแต่ตัวท่านเอง แต่เอาเถอะ ไม่เป็นไร

กลับมาเรื่องตำรวจ เมื่อนักการเมืองที่คุมตำรวจนั้นทำให้ตัวเองชั่ว เรียกเงินเรียกทองจากตำรวจที่จะมีตำแหน่งขึ้นมา ตำรวจก็เรียกกันต่อไป แล้วประชาชนได้อะไร พี่น้อง เกิดมาผมเพิ่งเคยเจอ เกิดมาผมเพิ่งเคยเจอ ป.ป.ช.สั่งให้ตำรวจ 3 นาย ออกจากราชการ เพราะว่าได้พิสูจน์ชัดแล้วว่าทำร้ายประชาชนในคดี 7 ตุลาฯ แต่ ก.ตร.กลับเอาเข้าบรรจุเหมือนเดิม นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ในฐานะที่เป็นประธาน ก.ตร.ไม่พูดอะไรสักคำ บอกว่า เป็นมติของ ก.ตร. ผมเข้าไปยุ่งเกี่ยวไม่ได้ เอ้า แต่เวลาแต่งตั้งทำไมคุณยุ่งเกี่ยวได้ คุณจะเอาคนโน้นนั่งตรงนี้ คนนี้นั่งตรงนั้น เพราะฉะนั้นจะเห็นได้ชัด ความแตกต่างในคำพูดของนายสุเทพ เวลาแต่งตั้งที่ตัวเองมีส่วนได้ประโยชน์ ตัวเองจะเข้าไปเกี่ยวข้องทันที แต่ว่าเวลา ก.ตร.จะเอาตำรวจ 3 คน กลับเข้ารับราชการ ตัวเองก็อ้างบอกว่าเป็นมติ ก.ตร. เห็นหรือยังพี่น้อง พี่น้องชาวใต้เห็นหรือยัง ผมไม่ได้ตำหนิคุณสุเทพ เทือกสุบรรณ ผมตำหนิพรรคประชาธิปัตย์ แล้ววันนี้ผมพูดได้เต็มปาก เพราะผมไม่ได้อยู่พรรคการเมืองใหม่ ผมต้องพูดชัดเลยว่า พรรคประชาธิปัตย์ต้องเลิกนิสัยแบบนี้ นิสัยเหยียบคนแล้วเป็นใหญ่ นิสัยเอาตัวรอด นิสัยเหยียบศพประชาชน ประชาชนต้องมาก่อน คือประชาชนต้องตายก่อนเพื่อพรรคประชาธิปัตย์จะได้ใหญ่ พันธมิตรฯ ต้องตายก่อนเพื่อพรรคประชาธิปัตย์จะได้เป็นใหญ่ ต้องเลิกสันดานแบบนี้เสียที

 

ที่ลาออกจากพรรคการเมืองใหม่ เพราะทำตามที่ประกาศ ไม่รับตำแหน่งทางการเมือง

ผมจำเป็นต้องพูด เพื่อนฝูงหลายคนที่อยู่ในพรรคประชาธิปัตย์ รู้จักกันดี เคารพนับถือกันดี แต่วันนี้ไม่พูดไม่ได้แล้ว มันจำเป็นต้องพูด นี่คือเหตุผลที่ผมต้องลาออกจากพรรคการเมืองใหม่ ที่ผมต้องลาออก พี่น้องครับ ตอกย้ำความจำกันอีกทีหนึ่ง ผมมารับตำแหน่งนี้เพราะพี่น้องพันธมิตรฯ เลือกให้ผมมาเป็นหัวหน้าพรรค ถ้าผมไม่เป็นตอนนั้นพรรคก็ไม่เกิดขึ้น เพราะว่าหลายสาย สายหนึ่งก็จะเลือกคนโน้น สายนั้นก็จะเลือกคนนี้ อีกสายก็จะเลือกคนนั้น แต่ว่าทุกสายเห็นพ้องต้องกันว่าถ้าเป็นผมแล้วเขาจะเลือก ผมเลยจำเป็นต้องเข้ามา แต่ผมได้ประกาศเอาไว้ชัดเจนตั้งแต่แรกแล้ว ถ้าพี่น้องยังจำได้ ผมประกาศบอกว่า ผมจะอยู่ชั่วคราวจนพรรคตั้งได้ มีสถานที่ทำการ ทุกอย่างเริ่มเดินไปได้ ผมจะออกมา และผมทำตามสัจจะของผม ผมไม่เคยพลิก และผมไม่เคยเปลี่ยนตัวผมเอง ผมลั่นเอาไว้ยังไง ผมก็ทำเพียงแค่นั้น เพราะฉะนั้นแล้วผมก็ไม่ได้รับตำแหน่งทางการเมืองใดๆ ทั้งสิ้น ผมมาเป็นแค่หัวหน้าพรรค ไม่ได้เป็นตำแหน่งการเมือง เป็นรัฐมนตรี เป็นผู้ช่วยรัฐมนตรี ไม่ใช่เลยแม้แต่นิดเดียว วันนี้ผมกลับมาเป็นนายสนธิ ลิ้มทองกุล ของพ่อแม่พี่น้องพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย และของท่านผู้ชม

 

เสนอแนวทางปฏิรูปวงการตำรวจ

พี่น้องครับ ให้ผมพูดเรื่องตำรวจอีกสักนิดหนึ่ง คำถามถามว่าแล้วเราจะปฏิรูปตำรวจยังไง ตำรวจเราปฏิรูปไม่ได้หรอกพี่น้อง เราต้องปฏิวัติ เราต้องปฏิวัติตำรวจ พี่น้องครับ เราต้องแก้กฎหมาย ก.ตร. คณะกรรมการตำรวจแห่งชาติ พี่น้องรู้ไหม ก.ตร.คืออะไร คือคณะกรรมการซึ่งแต่งตั้งกันมา เลือกตั้งกันมา แล้วก็มาทอนสตางค์ พี่น้องเข้าใจคำว่าทอนสตางค์หรือเปล่า ทอนสตางค์ก็คือว่า ก.ตร.จะแพ็คกันเป็นพวก แล้วก็ กูจะเอาคนนี้ กูจะเอาบัญชีนี้ ถ้ามึงไม่ให้กู มึงส่งเรื่องเข้า ก.ตร.กูจะขวางมึง เพราะฉะนั้น มึงให้กู กูให้มึง นี่คือทอนสตางค์ เพราะฉะนั้นตำรวจยุคนี้สมัยนี้ถ้าไม่มีเส้น ไม่รู้จักใคร ตำรวจที่ซื่อสัตย์สุจริต มีความสามารถ อยู่ไปจนตายเถอะ ไม่ได้เจริญเติบโต

คนบางคน พี่น้อง วันนี้ยังมีเลย เป็นรองผู้กำกับมาเกิน 14-15 ปี ในขณะที่บางคนเป็นรองผู้กำกับแค่ไม่กี่ปี ขึ้นเป็นผู้กำกับแล้ว บางคนเป็นผู้การ ขึ้นมาเป็นรองผู้บัญชาการ ยังไม่ครบ 2 ปีเลย แค่ปีกว่าๆ เอง ถูกตั้งไปเป็นรักษาการผู้บัญชาการ พล.ต.ต.จักรทิพย์ ชัยจินดา คนสนิทของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ นี่ยกตัวอย่างให้ฟังง่ายๆ พี่น้อง เพราะฉะนั้นแล้ว ตำรวจที่ตั้งใจทำงานมันจะทำได้ยังไง พี่น้อง มันก็ต้องช่างมันล่ะคราวนี้ กูก็เรียกตังค์กูแล้ว คราวนี้

พี่น้องครับ ตำรวจต้องปฏิวัติยังไง 1. ต้องแก้กฎหมาย ก.ตร. ทำไม ก.ตร.ต้องเอาอดีตตำรวจมาเป็น ไม่มีความจำเป็น เพราะตำรวจ คณะกรรมการตำรวจคือคณะกรรมการที่มาควบคุมการทำงานของตำรวจ ต้องเอาประชาชนเข้ามา ทำไมต้องเอาอดีตนายพลเข้ามาล่ะ จบแล้วจบเลย คุณเอาอดีตนายพลเข้ามา ประวัติคุณมี สายสัมพันธ์คุณมี รากเหง้าคุณมี คุณโยงใยไป ถ้าคุณเคยเป็นถึงระดับพลตำรวจเอก พลตำรวจโท ลูกน้องคุณเต็มไปหมด คุณต้องมาปกป้องลูกน้องคุณ คุณไม่ได้มาปกป้องประชาชน ถ้าคณะกรรมการ ก.ตร.เป็นประชาชน ภาคประชาชน การรับตำรวจ 3 คน กลับเข้ามารับราชการอีก ย่อมไม่เกิดขึ้น ใช่/ไม่ใช่ พี่น้อง

ก.ตร.ดูสิ มีใคร ปุระชัย เปี่ยมสมบูรณ์ รัฐมนตรีฯ มหาดไทย ใจซื่อมือสะอาด แล้วเป็นยังไง ยืนข้างพัชรวาท วงษ์สุวรรณ เต็มตัว เป็นพวกพัชรวาท วงษ์สุวรรณ เต็มตัว พิชิต ควรเตชะคุปต์ พวกเดียวกับพัชรวาท รุ่นเดียวกับ พล.ต.อ.พัชรวาท เห็นด้วยกับ พล.ต.อ.พัชรวาท คนซึ่งเป็นผู้ต้องหา เต็ม ก.ตร.ไปหมด เพราะฉะนั้นแล้วทุกคนก็เลยต้องทำงานเพื่อ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ พี่น้องเห็นหรือยัง ต้องแก้กฎหมาย ก.ตร. อย่าเอาพวกอดีตตำรวจมาเป็น เป็นอันขาด เอาภาคประชาชนเข้าไป แล้วทำไมจะต้องเอารองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติทุกคนมาเป็นกรรมการ ก.ตร. กรรมการ ก.ตร.ถ้าจะเอาคนซึ่งมาทำงาน ก็เอามาคนเดียวก็พอ หนึ่งรองเข้ามาเพื่อมานั่งเป็นตัวแทน เอารองใคร ตำแหน่งใครเป็นรอง ได้เข้ามาเป็นกรรมการ ก.ตร.หมด ทีนี้รองมันก็ต้องกลัวนักการเมือง ใช่ไหม เมื่อมันกลัวนักการเมือง เพราะมันกลัวไม่ได้ขึ้นนี่ มันก็ต้องบอกว่า แล้วแต่ท่านสั่ง ท่านสั่งยังไงผมก็เอาอย่างนั้น แล้วถ้าอย่างนั้นเราจะมีคณะกรรมการ ก.ตร.ไปทำไม พี่น้องเข้าใจหรือยัง

เพราะฉะนั้นคณะกรรมการ กฎหมาย ก.ตร.ต้องเปลี่ยน อดีตตำรวจเก่าไม่เอา ภาคประชาชน ไปคัดสรรมา ภาคประชาชนที่ไหนบ้าง เอาอาจารย์ เอาองค์กรเอกชน เอาคนที่มีชื่อเสียง มีความซื่อสัตย์ เป็นที่พิสูจน์ได้แล้วว่าคนพวกนี้ใช้ได้ เอาเข้ามานั่ง

2. ต้องออกพระราชกฤษฎีการ่างกฎหมายใหม่ ตัดตำรวจนครบาลให้มาอยู่ กทม.ทันที ให้ขึ้นกับผู้ว่าฯ กทม. แล้วโอนงบประมาณส่วนหนึ่งที่ตำรวจนครบาลนั้นใช้อยู่ ให้มาอยู่ กทม. หรือไม่โอนก็ได้ แต่เก็บภาษีความปลอดภัยจากประชาชนชาว กทม.ให้ประชาชนชาว กทม.เขามีความรู้สึกว่าเขาต้องเสียเงินจ้างตำรวจพวกนี้ ฉะนั้นถ้าเขาต้องเสียเงินจ้างตำรวจพวกนี้ เขาจะไปกดดันผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ซึ่งได้รับเลือกตั้งมาเป็นผู้บังคับบัญชาของตำรวจนครบาลให้ทำงาน ผู้ว่าฯ กทม.อยากได้รับการเลือกตั้ง ก็ต้องดูแลความปลอดภัยชีวิตทรัพย์สินของประชาชน ให้ตำรวจเป็นตำรวจที่ซื่อสัตย์สุจริต ไม่ซื่อสัตย์สุจริต ทำงานไม่ได้ผล เขาจะไม่ได้รับเลือก ถ้าก่อนที่เขาจะไม่ได้รับเลือก เขาต้องไล่ผู้บัญชาการตำรวจนครบาลออกไปก่อน ใช่ไหมพี่น้อง ถูกไหมพี่น้อง เพราะฉะนั้นแล้วผู้บังคับการตำรวจ ไม่ว่าจะเป็นเขตไหนก็ตาม ถ้ามีบ่อนมาก ประชาชนที่อยู่แถวนั้นเขาก็รวมตัวกันไปร้องเรียนผู้ว่าฯ ได้ ผู้ว่าฯ เนื่องจากว่ามาจากการเลือกตั้ง ผู้ว่าฯ ก็ต้องจัดการตามความต้องการของประชาชน นั่นคือวิธีการแรกที่เขาต้องจัดการตำรวจออกไปเสียก่อน

เมื่อเราแยกตำรวจนครบาลออกไปแล้ว ความชั่วจะลดน้อยลงทันที เพราะว่าจะมีการตรวจสอบจากสื่อมวลชน จะมีการตรวจสอบจากประชาชนกันเองที่อยู่ตามท้องถิ่น เพราะประชาชนอยู่ประตูน้ำก็ต้องรู้ว่าบ่อน ปอ ประตูน้ำ อยู่ที่ไหน ประชาชนที่อยู่แถวเตาปูน ก็ต้องรู้ว่าบ่อนชัจจ์ เตาปูน อยู่ที่ไหน ประชาชนที่อยู่ตรงนั้น ต้องรู้ว่าไนท์คลับตรงนี้ บาร์ตรงนี้ เปิด 24 ชั่วโมง ขายยาอี ยาไอซ์ ประชาชนคนพวกนี้จะกดดันผ่าน ส.ก. ส.ข.แล้วก็จะไปกดดันต่อที่ผู้ว่าฯ กทม. ผู้ว่าฯ กทม.ก็ต้องเรียกผู้บัญชาการตำรวจนครบาลเข้ามา บอกว่าถ้าคุณไม่แก้ปัญหาตรงนี้ ผมเปลี่ยนคุณ

วันนี้ผู้บัญชาการตำรวจนครบาลขึ้นกับใคร ขึ้นอยู่กับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ สำนักงานตำรวจแห่งชาติขึ้นอยู่กับใคร ขึ้นอยู่กับนายกรัฐมนตรี แต่วันนี้นายกรัฐมนตรีมอบให้นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ เป็นคนมาดูแล เพราะฉะนั้นแล้วใครวิ่งเข้านายสุเทพ เทือกสุบรรณ ได้ ปัญหาก็ไม่มี ประชาชนจะเป็นจะตายกันก็ไม่มี คลองเตยมีโจรมีตั้งเท่าไหร่ ยิงกันตายเท่าไหร่ ไม่สนใจ พี่น้องเห็นหรือยัง

นี่ล่ะ คือการให้ท้องถิ่นมาดูแลตำรวจ ส่วนตำรวจภาคนั้น ลดอำนาจตำรวจสำนักงานตำรวจแห่งชาติลงไป ให้กลายเป็นสำนักงานปลัดตำรวจแห่งชาติ ตั้งเป็นกระทรวงตำรวจ ทบวงตำรวจแห่งชาติ ไปเลย แล้วปลัดคนนี้ไม่ได้มีหน้าที่แต่งตั้งใครทั้งสิ้น ภาคนั้นแบ่งออกไปให้ชัดเจน ภาค 3 ภาค 4 ตำรวจที่ไหนอยู่ภาค 3 ก็คืออีสานใต้ ภาค 4 ก็คืออีสานเหนือ ตำรวจที่ไหน เกิดที่อุดรฯ อยู่ที่อุดรฯ ก็ตายที่อุดรฯ ไปเลย เป็นตำรวจท้องถิ่นเไป เราปฏิเสธอิทธิพลท้องถิ่นไม่ได้ แต่เราต้องดึงตำรวจกองปราบออกมา ดึง DSI ออกมา แล้วมารวม 2 อันนี้เข้าไป ตั้งเป็นองค์กรอิสระ ไม่ให้ขึ้นอยู่กับกระทรวงยุติธรรม ไม่ให้ขึ้นอยู่กับสำนักนายกฯ แต่เป็นองค์กรอิสระขึ้นอยู่กับสภาผู้แทนทั้งสองสภา คือทั้งรัฐสภา และวุฒิสภา ใครจะเป็นผู้อำนวยการองค์กรนี้ ผู้อำนวยการองค์กรนี้จะต้องได้รับเลือกจากวุฒิสภา และสภาผู้แทนราษฎร ด้วยคะแนนเสียง 3 ใน 4 ทำไมต้อง 3 ใน 4 เพราะว่าคนที่ขึ้นมาต้องดำรงความบริสุทธิ์ ยุติธรรม ต้องกล้าพอที่จะทำงาน ตัดสินใจได้ ที่แม้กระทั่งฝ่ายค้านก็ต้องยอมรับว่า เฮ้ย คนนี้มันซื่อสัตย์นะ ถ้ามันเป็นผู้อำนวยการองค์กรที่ดูแลเรื่องตำรวจส่วนกลาง ผมไว้ใจมันได้ เพราะว่ามันจะไม่รังแกผม เพราะฉะนั้นคะแนน 3 ใน 4 สำคัญมาก เมื่อ 3 ใน 4 ได้แล้ว เราก็จะได้ผู้อำนวยการตรงนี้ ส่วนกลางตรงนี้ คือ ส่วนกลางที่ไปตรวจสอบตำรวจท้องถิ่น ประชาชนที่ได้รับความไม่เป็นธรรมเพราะว่า นักการเมืองท้องถิ่น ไปแอบตั้งตำรวจของตัวเองขึ้นมา และไปรังแกประชาชน เขาสามารถร้องเรียนมาได้ที่ตำรวจส่วนกลางนี้ ตำรวจส่วนกลางนี้ก็ไปจับตำรวจภาค ซึ่งรังแกคนท้องถิ่น แล้วก็มาดำเนินคดีซะ

นี่คือภาพคร่าวๆ ของการปฏิวัติตำรวจ และผมจะบอกให้ ถ้าผมเสกได้ผมจะให้ตำรวจออกให้หมดเลย แล้วให้สอบเข้ามากันใหม่ แล้วก็คัดกันใหม่ ต้องดูแลตำรวจชั้นผู้น้อย เดี๋ยวนี้ตำรวจชั้นผู้น้อยส่วนใหญ่จะเรียนจบปริญญาตรีกันทั้งสิ้น และต้องเลิกยศกันได้แล้ว เรามีนายพลตำรวจมากเหลือเกิน มากกว่าวนิพกซะอีก ตลกมา เมืองไทยนายพลมันเยอะจริงๆ ไม่รู้มันมีไปทำไม คำว่า นายพล มีแล้วไม่มีประโยชน์ ต่างประเทศเขามีแค่ Captain จบ เลิกเสียทีเรื่องโรงเรียนนายร้อยตำรวจ เลิกเสียทีว่า สีนั้น เหล่านั้น ทั้งหมด ให้มหาวิทยาลัยเอกชน หรือ รัฐ ธรรมศาสตร์ จุฬาฯ หรือ ม.รังสิต ม.กรุงเทพ เขา Offer หลักสูตร ของการอาชญวิทยา และกำหนดเลยว่า คนที่เป็นตำรวจไปจำเป็นต้องจบกฎหมาย หรือรัฐศาสตร์ จบอาชญวิทยาก็เป็นตำรวจได้ เปิดสอบเท่าเทียมกันหมด ไม่มีแบ่งพรรคแบ่งพวก ไม่มีว่าพอเข้าโรงเรียนนายร้อยตำรวจสามพรานแล้ว จบแล้วต้องเป็นตำรวจสามพราน ไม่มี และตำรวจต้องรับจากท้องถิ่น ใน กทม.จบปริญญาตรีที่ไหนก็ได้สอบเข้าตำรวจได้หมดเลย ไม่จำเป็นจะต้องให้ตำรวจจากสามพรานมาแห่งแรก

 

ลั่นถ้าแก้ตำรวจได้ ปัญหาชาติบ้านเมืองแก้ได้หมด

พี่น้องครับ ปัญหาตำรวจนั้น เป็นปัญหาใหญ่ที่สุดในประเทศ วันนี้ถ้าแก้ปัญหาตำรวจได้ ปัญหาชาติบ้านเมืองแก้ได้หมด ที่เสื้อแดง ที่ทักษิณ ชินวัตร ฮึกเหิม ทำร้ายทำลายประเทศไทยได้มากถึงขนาดนี้ เพราะว่าตำรวจให้ความร่วมมือด้วย เพราะฉะนั้นคนที่ทำลายชาติ ทำลายบ้านเมือง ทำลายแผ่นดิน เนรคุณทรยศต่อบ้านเมืองนั้น ตำรวจบางส่วนมีส่วนเกี่ยวข้องด้วยเป็นอย่างยิ่ง ใครจะไปนึกครับพี่น้อง คนที่เป็นตำรวจที่เราหลังพึ่งในชีวิต และทรัพย์สิน ทำอะไรไม่ได้ นี่ไงพี่น้องดูซิ เกือบ 200 ร้อยนัด ตำรวจทำอะไรอยู่ คุณสุเทพ ทำอะไรอยู่ คุณอภิสิทธิ์ ทำอะไรอยู่ คนที่ยิงผมหายไปไหน ไม่มีการขยับ ไม่สนใจไอ้คนที่ยิงสนธิ สนธิมันตายซิดี ให้มันตายไปเลย เพราะว่ามันคือตัวขวางการทำลายชาติ บ้านเมืองของฉัน

พี่น้องเข้าใจหรือยัง ไม่ต้องดูไกล นอกจากผมแล้ว ยังมี พ.อ.ร่มเกล้า มีอีกตั้งกี่คน เดี๋ยวนี้เมืองไทยหาซื้อ เข้าไปตรวจดูซิ เต็นท์เสื้อแดงมีแต่ระเบิดทั้งนั้นเลย มี M-79 มันเหมือนซื้อบุหรี่ในเซเว่นฯ ไปแล้ว ชาติบ้านเมืองอยู่อย่างนี้ได้ไงพี่น้อง ไม่ได้แล้ว มันฉิบหายหมดแล้ว ตอนนี้คนที่เราหวังพึ่งผู้พิทักษ์สันติราษฎร์กลับเป็นผู้ที่กระทืบสันติราษฎร์ แล้วเราจะพึ่งใครได้ แม้กระทั่งคนอย่างผมซึ่งถูกยิงแบบนี้ยังไม่มีใครตามเรื่องเลยแม้แต่นิดเดียว ไอ้ 2 คนที่ถูกหมายจับก็หลบอยู่ คดีผมจบเพียงแค่นี้ ไม่มีการดำเนินการต่อไปเลย

พี่น้องครับ เห็นหรือยัง ชาติบ้านเมืองมันไปไม่รอดจริงๆ ตำรวจที่เป็นเช่นนี้ได้ เพราะนายกฯ อภิสิทธิ์ ปล่อยให้ตำรวจเป็นเช่นนี้ ทำไม นายกฯอภิสิทธิ์ ปล่อยให้เป็นเช่นนี้ เพราะนายกฯอภิสิทธิ์ ปล่อยให้นายสุเทพ ดูแลตำรวจแบบนี้ เพราะฉะนั้นวันนี้ นายกฯ อภิสิทธิ์ พูดไม่ได้เด็ดขาดว่า สั่งตำรวจไม่ได้ เพราะความผิดอยู่ที่ตัวคุณเอง ไม่ได้อยู่ที่ใครเลย การขึ้นมาเป็นนายกฯ เป็นหนี้บุญคุณคน ไม่เสียหาย แต่หนี้บุญคุณประชาชนสำคัญกว่า

 

ลั่นการเมืองถึงทางตัน ฉิบหายเพราะนักการเมือง

ในช่วงสุดท้ายของรายการ นายสนธิกล่าวต่อไปว่า รัฐบาลชุดนี้แต่งตั้งตำรวจมา 2 ครั้ง ตั้งแต่อยู่มา ทำไมถึงไม่ดีขึ้นละ ที่ไม่ดีขึ้นเพราะว่าดันไปตั้งตำรวจที่ตัวเองต้องการใช้ในทางด้านการเมือง แต่ไม่ได้คำนึงถึงประชาชนเลยแม้แต่นิดเดียว เอาแค่ที่ผมชี้เรื่องที่ผมถูกยิงแค่นี้ก็รู้อยู่แล้ว สิ่งแวดล้อม องค์ประกอบหลักฐานทุกอย่างมันพิสูจน์ชัด มันนำพาไปสู่ตรงไหนก็ไม่ทำกัน หรืออาจจะเป็นเพราะว่าคนในรัฐบาลเองเป็นคนสั่งยิงผม ใช่ไหมท่านผู้ชม เพราะถ้าสนธิ ลิ้มทองกุล มันมีชีวิตอยู่ มันจะขวางความชั่วที่พวกรัฐบาลกำลังทำอยู่ใช่หรือเปล่า

พี่น้องเห็นหรือยัง ว่าการเมืองมันไม่ได้ถึงแค่ทางตัน การเมืองมันพินาศฉิบหายเพราะนักการเมือง และพินาศฉิบหายต่อ ทั้งๆที่เราก็หวังว่านักการเมืองชุดนี้จะทำให้การเมืองดีขึ้น การเมืองกลับไม่ดีขึ้นเลยแม้แต่นิดเดียว

 

อัดอภิสิทธิ์ทำตัวเป็นเทพลอยเหนือฟ้า แต่ใช้อสูรทำงานชั่วร้าย

ในขณะซึ่งอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ทำตัวเป็นเทพลอยเหนืออยู่บนฟ้า ใสสะอาด บริสุทธิ์ ซื่อ แต่ตัวเองกลับใช้อสูรคอยทำงานชั่วร้ายตลอดเวลา มาจนวันนี้ ยังไม่เข้าใจอีกหรือ ว่าคุณควรจะยืนอยู่ข้างไหน มาจนวันนี้ คุณยังพยายาม ที่จะปรองดอง ยังพยายามที่จะยืนอยู่ตรงกลางอีกหรือ ลำพังที่ความคิดที่ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ดำเนินการให้ พล.ต.ท.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ซึ่งเป็นคนของ นายเนวิน ชิดชอบ พยายามดำเนินคดีกับพันธมิตรฯ ด้วยกรณีสนามบินว่า เป็นผู้ก่อการร้ายนั้น แค่นี้ คุณเจอแค่ปัญหาเสื้อแดง คุณยังจะมาแกล้งพวกผมอีกหรือ ทั้งๆที่ข้อเท็จจริง คุณก็รู้อยู่แก่ใจ ว่าองค์ประกอบผู้ก่อการร้ายไม่มีใดๆทั้งสิ้น

เห็นหรือยัง พี่น้องเห็นการเมืองเมืองไทยหรือยัง บรรดาแม่ยกทั้งหลายเห็นหรือยัง จนวันนี้ยังหลับหูหลับตา เชียร์กันอย่างไม่ลืมหูลืมตาเลยหรือ

 

ไล่คนประชาธิปัตย์อย่าหน้าด้านเข้ามาอ่านเว็บผู้จัดการ

อีกประการหนึ่งเว็บไซต์ Manager online ผู้จัดการออนไลน์ เป็นเว็บไซต์ที่มีอุดมการณ์ จุดยืนที่ชัดเจน เราไม่เคยเปลี่ยน ตั้งแต่ปี 2548 เป็นต้นมา เรายืนอยู่บนความถูกต้อง เรากล้าพูด เรากล้าชี้ ว่าใครทำดี หรือทำไม่ได้ ใครสร้างภาพ หรือไม่ ช่วงหลังๆ ได้มีการจัดตั้งทีมของพรรคประชาธิปัตย์ออกมา เพื่อเข้ามาที่เว็บไซต์ผู้จัดการออนไลน์ ทำไมต้องเข้ามาที่นี่ เพราะเว็บไซต์นี้วันหนึ่งมีคนเข้าประมาณ 2 ล้านคน จำนวนหน้าที่คนดู เดือนละประมาณเกือบ 200 ล้านหน้า เป็นเว็บไซต์ข่าวอันดับ 1 ของประเทศไทย ติดต่อมา 6 ปี ก็เลยเข้ามากระแหนะกระแหนข่าว ข้อคิดเห็นตลอดเวลา และบอกว่า ของเราไม่แฟร์อย่างโน้นอย่างนี้ ผมจะกราบเรียนอย่างนี้ครับ ไหว้อีกที

ถ้าคุณไม่เห็นด้วยกับพวกเรา คุณอย่าเข้ามาอ่านเลย อย่าหน้าด้านเข้ามา ขอร้อง บางทีแอบอ้างว่าเป็นพันธมิตรฯ แล้วหน้าด้านเข้ามาเพื่อที่จะมาด่าเรา หรือว่ามาปกป้องนายกรัฐมนตรี หรือ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ แล้วมากล่าวหาเราต่างๆนานา กรุณาอย่าเข้ามา ทำไมคุณไม่ไปเชิญชวนพรรคพวกคุณ แล้วสร้างชุมชนอินเตอร์เน็ตของพวกคุณเอง และไปเชียร์กันให้เต็มที่เลยในเว็บไซต์คุณ เว็บไซต์พันธ์ทิพย์ ห้องราชดำเนิน เขามีพวกเสื้อแดงคุมอยู่ เว็บไซต์ผู้จัดการคนที่เข้าส่วนใหญ่เป็นคนเสื้อเหลืองทั้งสิ้น คุณไม่พอใจข่าวเรา ความเห็นเรา คุณอย่าเข้ามา กรุณาอย่าหน้าด้านเข้ามา ขอเถอะครับ พูดตรงๆแบบนี้ครับ ผมตรงไปตรงมา

 

ช่วงตอบคำถาม อัดเสธ.แดงฆ่าพันธมิตรฯ เวรกรรมมาถึงตัวทำให้ตายโหง

พี่น้องครับ วันนี้จะมีการตอบคำถามท่านผู้ชม คำถามแรกที่อยากจะตอบ คือ ท่านผู้ชมหลายคนได้รับฟังวิหคเรดิโอ บอกว่า เสธ.แดงเป็นสายลับจริงหรือไม่

ผมเล่าประวัติให้ฟังนิดหนึ่ง คุณเทิดศักดิ์ ซึ่งเป็นเจ้าของวิหคเรดิโอ ที่คุณพ่อโดนพวกเสื้อแดงฆ่าตายนั้น ส่งข่าวออกมาว่า เสธแดง หรือ พล.ต.ขัตติยะ เป็นสายลับให้กับชาติบ้านเมือง ไปอยู่กับทักษิณ เพื่อเปิดโปง ใช่หรือไม่ ผมขอตอบตรงนี้ครับว่า ไม่ใช่ พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล นั้นซึ่งสิ้นชีวิตไปแล้ว แต่ข้อเท็จจริงยังปรากฏ พล.ต.ขัตติยะ คือหนึ่งในกลไกสำคัญในการฆ่าพันธมิตรฯ อยู่เบื้องหลังการยิง M-79 รับงานมาจากผู้ใหญ่ ระดับพลเอก 2 คน เพื่อยิงพันธมิตรฯ ยิง ASTV และยิงพันธมิตรฯ ที่ทำเนียบรัฐบาล จนทำให้พันธมิตรฯ ตายไปหลายศพ ฝีมือของเสธ.แดง เพราะฉะนั้นแล้วบอกว่า เสธ.แดง เป็นสายลับไม่ใช่ครับ เข้าใจผิด เสธ.แดง ไม่ใช่สายลับ เสธ.แดงเป็นทหารกเฬวราก ที่เวรกรรมมาถึงตัวเอง ทำให้ตัวเองต้องตายก่อนกำหนด แล้วต้องตายแบบ ภาษาพุทธ เขาเรียกว่า ตายโหง ฉะนั้นแล้วอย่าไปเข้าใจผิด ว่า เสธ.แดง เป็นสายลับ ไม่ใช่

 

อัดรัฐบาลสมยอมกับเสื้อแดง ให้แกนนำมอบตัวแล้วอยู่สุขสบาย

คำถามที่ถามมาที่เป็นปึกตรงนี้ครับพี่น้อง พันกว่าคำถาม ถ้าผมเป็นนายกฯ จะจัดการกับเสื้อแดง ขบวนการล้มเจ้าอย่างไร พี่น้องครับ แทนที่จะตอบว่าผมจะจัดการอย่างไร ผมจะตอบว่า การกระทำทุกวันนี้ เป็นการลูบหน้าปะจมูก ไม่ได้จริงใจในการที่จะปราบขบวนการล้มเจ้าจริงๆ และไม่ได้จริงใจเลยที่ปราบคนที่อยู่ในวงการเสื้อแดง เพราะพิสูจน์เห็นได้ชัด ว่ามีการเกี้ยเซี้ย สมยอมกัน มีการตกลงกันก่อนล่วงหน้าเพื่อให้แกนนำเสื้อแดง ตอนสลายนั้น รีบมอบตัวเสีย เมื่อมอบตัวเสร็จแล้วก็ส่งไปอยู่ที่หัวหิน ค่าย ตชด. ค่ายนเรศวร ไปอยู่อย่างมีความสุขสบาย หลักฐานพิสูจน์ชัดเจน

ที่ผมพูดนี่ไม่ได้อธิบายว่านายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ รู้เรื่องนะครับ นายอภิสิทธิ์อาจจะไม่รู้เรื่อง แต่ว่ามีการตกลงเกี้ยเซียะกันตลอด และในกระบวนการที่ต่อสู้กันมาตลอดนั้น เป็นกระบวนการของการเจรจากันมาตลอด ไม่ใช่เพิ่งสู้ ไม่ใช่สู้อย่างเดียว แอบเจรจากันโดยใช้คุณกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ เจรจากันหาทางออก รัฐบาลเพียงแต่ต้องการให้เสื้อแดงสลาย เพื่อไม่มีเงื่อนไขที่ทำให้เกิดความรุนแรง แต่ว่าในขณะเดียวกัน รัฐบาลคิดว่ามองระยะสั้นๆ หรือถ้ามองภาษานักเลง เขาเรียกว่ามองแค่หัวแม่ตีนตัวเอง เอาตัวเองให้รอดพ้นก็พอ เรื่องอื่นไม่อยากยุ่ง ส่วนข้างหน้าประเทศชาติจะฉิบหายยังไง ช่างหัวประเทศชาติไป เพราะว่ารัฐบาลชุดนี้ยังมีความบริสุทธิ์ใจ ไร้เดียงสา ว่าการเมืองเสื้อแดงแก้ในสภาได้ แก้ได้หรือเปล่าล่ะครับวันนี้ วันนี้นายจตุพร พรหมพันธุ์ ผู้ต้องหาก่อการร้าย ยังเดินบนถนนตามสบาย เข้าไปในสภา นายเฉลิม อยู่บำรุง ยังโกหกหน้าด้านๆ ว่าเสื้อแดงไม่ใช่ผู้ก่อการร้าย ทั้งๆ ที่จับอาวุธได้

 

ให้กำลังใจอธิบดีดีเอสไอ เสี้ยมทหารบอกเตรียมเจ็บตัว หากรัฐบาลตั้งกรรมการอิสระ

พี่น้องครับ การขอหมายจับผู้ก่อการร้ายนั้น ศาลอาญา ท่านอธิบดีศาลอาญาท่านมีความระวัง การไปยื่นขอครั้งแรก ท่านบอกว่า ท่านเรียกหมายคืนมาก่อน หลังจากท่านออกไปแล้ว เพื่อขอพิจารณาใหม่ แล้วท่านก็เรียกท่านอธิบดีดีเอสไอเข้าไป เพื่อเสนอ ว่าหลักฐานมียังไง ไหนมาสู้กันใหม่ซิ มาเล่าให้ฟังหน่อยซิ อธิบดีดีเอสไอก็ไป ขนหลักฐานมาให้ดู ยืนยันอีกครั้งหนึ่ง หลังจากที่พิจารณาหลักฐานทั้งหมดแล้ว ท่านอธิบดีศาลอาญา ถึงมีคำสั่งให้ออกหมายจับได้ ซึ่งผมเข้าใจว่ายังมีอยู่ ในการอุทธรณ์อยู่ ทางฝ่ายเสื้อแดงก็อุทธรณ์อยู่ เขาอุทธรณ์เหมือนที่เราอุทธรณ์ในกรณีกบฏ ไม่เป็นไร ก็อุทธรณ์กัน เพราะฉะนั้นแล้ว สิทธิทางกฎหมายทุกคนมีหมด เมื่อสิทธิทางกฎหมายทุกคนมีหมดแล้ว ผมถามต่อ

วันนี้เราต้องให้กำลังใจท่านอธิบดีดีเอสไอ เพราะท่านตั้งใจทำงานเหลือเกิน แต่ผมจะทายไว้ล่วงหน้า สิ่งที่ท่านอธิบดีดีเอสไอทำนั้น ไม่เป็นที่พอใจของผู้บริหารประเทศบางคน เหมือนกับว่าทำเกินไป เพราะว่าผู้บริหารประเทศวันนี้ไม่ได้กะที่จะสู้กับเสื้อแดงหรือพวกกบฏอย่าง จริงจัง ต้องการเพียงแต่ผลัดตัวเอง เอาผ้าเอาหน้ารอด จบ แล้วก็ไปยืนโต้เถียงกันในสภา ให้อีกฝ่ายหนึ่งโกหกในสภา แล้วตัวเองก็มายันในสภา แล้วเอาตัวรอดด้วยการตั้งกรรมการอิสระเพื่อพิจารณาว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น นั้นใครผิด ทั้งๆ ที่ตัวเองมีอำนาจใน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน แล้ว

สรุปง่ายๆ ทหารเตรียมตัวเจ็บตัว ทหารทั้งหลาย ทหารหาญทั้งหลาย หลังจากตายไปแล้วสิบกว่าคน เพราะความโง่เง่า และความไม่เอาไหนของผู้บริหารศูนย์ ศอฉ.ในขณะนั้น ยังจะต้องตายเพิ่มอีกหลายจากที่ปราบปรามครั้งใหญ่นี้ และทหารจะต้องถูกสอบโดยคณะกรรมการอิสระ ผมจะบอกให้รู้ ว่ารัฐบาลชุดนี้ไม่ต้องการที่จะทำอะไร ดำเนินคดีอะไรกับเสื้อแดงให้ถึงที่สุด ที่ทำอยู่ทุกวันนี้เป็นการทำแบบลูบหน้าปะจมูกเท่านั้นเอง การย้ายตำรวจโดยไม่พิจารณาว่าตำรวจปัญหารากฐานอยู่ที่ไหน ก็ไม่กล้าแก้ เหตุผลทำไมถึงไม่กล้าแก้ เพราะถ้าแก้ก็ต้องย้ายนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ไม่ให้ดูแลตำรวจ ซึ่งนายกฯ อภิสิทธิ์ก็ไม่กล้าทำ ก็จะปล่อยให้ปัญหาเป็นไปอย่างนี้เรื่อยๆ แล้วในที่สุดก็ไปต่อปากต่อคำกันในสภา แล้วในที่สุดก็จะไปให้นายจตุพร พรหมพันธุ์ ไปโกหกในสภา ให้นายเฉลิม อยู่บำรุง ไปโกหกในสภา ให้พรรคเพื่อไทย ไปโกหกในสภา แล้วก็ให้คนเสื้อแดงที่เดินทางกลับบ้านเปิดทีวีดู แล้วก็ฟัง แล้วก็บอกว่าใช่ๆ นายจตุพรพูดความจริง ใช่ๆ นายเฉลิมพูดความจริง ไม่ใช่ๆ นายอภิสิทธิ์โกหก ไม่ใช่ๆ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ โกหก มันก็จะถูกปลูกฝังลงไปลึกมากขึ้นๆ

ไม่ต้องไปดูอะไรไกล มีคนตั้งหลายคนที่จะต้องถูกห้ามทำธุรกรรมทางการเงิน และเป็นพวกฝ่ายซ้ายหลายๆ คน ทำไมไม่มีชื่อ เพราะเบื้องหลังมันมีคนบางคนซึ่งอยู่เบื้องหลัง ศอฉ. วิ่งเต้นให้คนพวกนี้ไม่ต้องโดนยุติเรื่องธุรกรรมการเงิน ผมก็เลยถาม ว่าสรุปแล้วมันเป็นการทำงานเพื่อป้องกันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ หรือทำงานปาหี่เพื่อเอาตัวรอดเท่านั้นเอง เพราะฉะนั้นแล้ว จะเห็นได้ชัดว่าขบวนการเสื้อแดงนั้นมันเป็นขบวนการที่ในทางเปิดใช้ความ รุนแรงปะทะ ในทางปิดลงใต้ดิน ในทางต่างประเทศ ใช้นายใจ อึ๊งภากรณ์ ออกมาด่าสถาบันตลอดเวลา ใช้นายจักรภพ เพ็ญแข เดินสายอยู่เมืองนอกตลอดเวลา แต่ในขณะเดียวกันปัญหาพื้นฐานที่ทำให้คนเข้าไปร่วมกับเสื้อแดง รัฐบาลชุดนี้ไม่ได้แก้ไขอะไรเลยแม้แต่นิดเดียว

ปัญหาราคาพืชไร่ ปัญหาทำยังไงที่จะให้ชาวไร่ชาวนา เขาลงแรงลงทุนในไร่นาแล้ว เขาขายออกไปแล้ว หักค่าใช้จ่ายแล้ว หักเงินกู้เขาแล้ว เขามีเงินเหลือที่เขาอยู่ได้ทั้งปี เมื่อได้รับการแก้ น้ำมันที่แพง เพราะว่ามีการขูดรีดกันเป็นขั้นตอน ตั้งแต่โรงกลั่นน้ำมัน มาจนกระทั่งถึงบริษัท ปตท. ก็ยังปล่อยให้มีการโกงกินกันตลอดเวลาโดยนักการเมืองเข้าไปร่วมมีส่วนการโกง กิน น้ำมันก็ยังแพงตลอดเวลา ทั้งๆ ที่ควรจะลดได้ลิตรละ 2-3 บาทสบายๆ หากไปขจัดขั้นตอนต่างๆ เหล่านี้ รัฐบาลก็ไม่ได้ทำ

 

ลั่นถ้ารัฐบาลกล้าตัดสินใจสลายแต่ต้น คนตายอย่างมากก็ 10-20 การเผาจะไม่เกิดขึ้น

พี่น้องครับ ตัวเลขทางเศรษฐกิจนั้น มันเป็นตัวเลขที่เป็นมายาภาพ ทุกวันนี้เศรษฐกิจดีขึ้น แต่ประชาชนยังจนลง ผมจะพิจารณาให้ดูว่า การแก้ปัญหาของผู้ที่เดือดร้อนจากการชุมนุม เพียงแต่แนวความคิดการแก้ปัญหาก็ผิดแล้ว ยกตัวอย่างให้ฟังง่ายๆ เวิลด์เทรดเซ็นเตอร์ เซ็นทรัลเวิลด์ หรือราชประสงค์ที่ถูกเผา หรือสยามสแควร์ที่ถูกเผา ถามว่าคนเดือดร้อนมี 2 ระดับ ระดับหนึ่งคือชาวบ้าน หาเช้ากินค่ำ ระดับหนึ่ง คือคนชนชั้นกลางที่มีเงินอยู่ทั้งเนื้อทั้งตัว เอาไปเซ้งห้องๆ หนึ่ง เอาเงินไปซื้อของออกมาทั้งชีวิต แล้วของถูกเผาไหม้ไปหมดเลย คนพวกนี้ไม่ได้รับการเยียวยา ได้รับการเยียวยาแค่ 50,000 บาท ไม่ได้รับการเยียวยา คือพูดง่ายๆ ว่ามีปัญหาขึ้นมาก็จ่ายไป 50,000 บาท ทั้งๆ ที่ปัญหาถ้ารัฐบาลกล้าตัดสินใจตั้งแต่ต้น ขบวนการเผาจะไม่เกิดขึ้น แต่เพราะว่าไปยืดเวลามัน ทำให้มีการเตรียมตัวในการเผาได้ รัฐบาลทำตัวเหมือนคนไร้เดียงสา เชื่อว่าฝ่ายเสื้อแดงจะเจรจาด้วยสันติวิธี แต่ปรากฏว่าโดนเสื้อแดงหลอกให้เจรจา เพื่อซื้อเวลาในการสั่งสมขึ้นมา เพราะฉะนั้นการเผาเซ็นทรัลฯ การเผาสยามสแควร์ การเผาโน่นเผานี่ เกิดขึ้นเพราะรัฐบาลไม่กล้าตัดสินใจตั้งแต่ต้น ถ้ากล้าตัดสินใจตั้งแต่ต้นแล้ว จะไม่มีเรื่องเหล่านี้เกิดขึ้น

คือถ้าคนจะต้องตาย 88 คนแล้ว ถ้าขยับเสียตั้งแต่ต้น ผมเชื่อว่าคนตายอย่างมากก็ 10-20 คน การเผาบ้านเผาเมืองก็ไม่เกิดขึ้น แต่ทำไม แต่เพราะว่ารัฐบาลไปเชื่อว่าการเมืองต้องไปแก้กันในสภา แล้ววันนี้รัฐบาลเห็นหรือยัง แก้ในสภาแก้ยังไง ลำพังแค่ตำรวจรัฐบาลยังแก้ไม่ได้ อาวุธสงคราม ความปลอดภัยในชีวิตทรัพย์สิน ไม่มี วันนี้ใครจะยิงใคร ใครจะเอาระเบิดขว้างใคร กลายเป็นเรื่องธรรมดาไปแล้ว เดี๋ยวนี้การข่าวที่ยิงผมด้วยปืนประมาณเกือบ 200 นัด กลายเป็นเรื่องธรรมดาไปแล้ว เพราะมันยิง M79 ทุกวัน ในช่วงประท้วง คำถามมีอยู่ว่า รัฐบาลไม่เคยตั้งคำถาม คือ แล้วอาวุธสงครามพวกนี้มันมาจากไหน อาวุธสงครามพวกนี้มันมาได้ 2 ทาง ทางหนึ่งก็คือว่ามันหลุดออกมาจาก ไม่ทหารก็ตำรวจ แล้วมันหลุดออกมาได้ยังไง คนที่ดูแลทหาร คนที่ดูแลตำรวจ ต้องรับผิดชอบเรื่องนี้ มันหลุดได้ยังไง หัวกระสุน M79 เป็นร้อยๆ หัว มันเหมือนกับสรรพาวุธของคนเสื้อแดง เหมือนกับยกคลังสรรพาวุธหนึ่งคลังย่อยๆ มาวาง ทางที่สองก็คือหลุดมาจากพรมแดน ซื้อขายกัน ทั้งสองทางนี้มันผิดด้วยกันทั้งคู่ ทั้งสองนี้มันต้องปราบ มันต้องเช็ก มันต้องตรวจสอบ

วันนี้อาวุธสงครามที่โผล่มาอย่างนี้ รัฐบาลยังไม่ใส่ใจที่จะมาตอบคำถามประชาชนเลยว่า อาวุธสงครามพวกนี้มาได้ยังไง เห็นหรือยังพี่น้อง พี่น้องต้องรู้นะครับ บ้านเมืองเราวันนี้เหตุการณ์ยังไม่สงบนะ มันเป็นบ้านป่าเมืองเถื่อน เพราะนายทักษิณพูดชัดเจนเลยว่าพวกเขาลงใต้ดิน จะทำสงครามกองโจร วันนี้เรามีความรู้สึกว่ามันยัง เอ๊ะ มันเงียบนะ มันหยุด มันไม่ได้มีการชุมนุม แต่คุณไม่รู้ว่าระเบิดเวลาอีกหลายลูกกำลังจะเกิดขึ้น เพราะรัฐบาลทำงานไม่เป็นและไม่เด็ดขาด เพราะรัฐบาลไม่สามารถที่จะจัดการกับกระบวนการตำรวจได้ เพราะตำรวจคือผู้ถือกฎหมาย ถ้าตำรวจเป็นพวกรัฐบาล ถ้าตำรวจทำงานจริง พวกนี้จะไม่เกิดขึ้นอย่างแน่นอนที่สุด

นายขวัญชัย ไพรพนา นายขวัญชัย สาระคำ คือใคร คือคนซึ่งตำรวจแถวขอนแก่นรู้จักหมด แถวอุดรฯ รู้จักหมด มันมาจากไหน สมัยก่อนเป็นลูกน้องนายธีระชัย แสนแก้ว เป็นคนสุพรรณ ฯไปทำมาหากินทางอีสาน กระจอกงอกง่อย ตำรวจรู้เช่นเห็นชาติ รู้สันดานมันหมดทุกอย่าง แต่วันนี้ตำรวจไมได้เป็นพวกรัฐบาล ถ้าตำรวจเป็นพวกรัฐบาล นายขวัญชัยจะไม่มีวันเจริญเติบโตมาจนถึงวันนี้ ทักษิณ ทำตำรวจให้กลายเป็นตำรวจมะเขือเทศ ย้ายมาจนถึงรัฐบาลชุดพรรคประชาธิปัตย์ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ทำตำรวจมะเขือเทศ บ่มให้มะเขือเทศสุก พอตกมาบนพื้นแตกแดงเถือกไปทั้งถนนเลย

 

ลั่นชาติบ้านเมืองแก้ด้วยรัฐสภาไม่ได้ แนะถวายคืนพระราชอำนาจ ใช้เวลา 3 ปีปฏิรูป

พี่น้องครับ ชาติบ้านเมืองแก้ไม่ได้ด้วยระบบรัฐสภา รัฐสภาแก้ปัญหาชาติบ้านเมืองไม่ได้ ถ้าผมเป็นนายกรัฐมนตรี ผมจะนัดหมายท่านประธานวุฒิฯ ท่านประธานศาลรัฐธรรมนูญ ท่านประธานศาลฎีกา ท่านประธานศาลปกครอง เข้ากราบบังคมทูลรายงานเหตุการณ์ให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ และขอลาออก มอบอำนาจคืนให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ประกาศยุบสภา แล้วลาออก มันจะเกิดสุญญากาศช่องว่าง และไม่มีสภา ไม่มี ส.ส.และมอบอำนาจคืนพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ เพื่อให้ตัดสินใจว่าใครควรจะเข้ามาจัดการเรื่องราวพวกนี้ ทอดเวลาสัก 3 ปี ปล่อยให้ประเทศปฏิรูปทางการเมือง ปฏิรูปตำรวจ ทุกอย่างให้เรียบร้อย นั่นแหละครับ สิ่งที่ควรจะทำ

 

แต่เชื่อเถอะเขาไม่ทำเพราะอัตตาสูง อยากเป็นนายกฯ

แต่เชื่อผมเถอะครับเขาไม่ทำหรอก เพราะอะไรรู้ไหม อัตตาสูง อยากจะเป็นนายกฯ อยากจะเป็นรัฐบาลต่อไป ยังไม่ทันไรเลย แค่นายกฯ รัฐมนตรีบอกว่า จะมีการปรับ ครม.หลังการอภิปรายไม่ไว้วางใจ พรรคภูมิใจไทยออกหลายแล้วบอกโควตาผมไม่ยุ่ง อย่ามาแตะผม เห็นไหม ผลประโยชน์ใช่ไหมพี่น้อง นักการเมืองทุกวันนี้เป็นผลประโยชน์ทั้งหมด ถ้านักการเมืองยังไม่เลิกทำตัวเป็นแมลงสาบ ชาติบ้านเมืองจะพินาศฉิบหายรู้ไป

ผมเคยพูดคราวที่แล้ว ว่าประเทศนี้ บ้านนี้เมืองนี้มันฉิบหายทุกวันนี้ เพราะนักการเมืองเท่านั้น ไม่รู้หน้าที่ของการเมือง เอาเงินซื้อตำแหน่งหน้าที่มา แล้วกอบโกยผลกระโยชน์ของตัวเองหมด

 

อัดมาร์คแค่ย้ายสนามบินดอนเมืองยังไม่กล้า นับประสาอะไรกับปัญหาใหญ่ๆ

พี่น้องครับ ลำพังแค่การย้ายสนามบินดอนเมือง นายกรัฐมนตรีท่านยังไม่กล้าตัดสินใจเลย นับประสาอะไรกับการแก้ปัญหาใหญ่ๆ อย่างปัญหาตำรวจพวกนี้ นายกฯ จะกล้าตัดสินใจ นายกฯ เพียงแต่บอกว่า ผมไม่เห็นด้วยกับการย้ายดอนเมืองกลับไปที่สุวรรณภูมิ เมืองไทยควรจะมี 2 สนามบิน พูดแค่นี้ โดน นายเนวิน โดนพรรคภูมิใจไทยตวาแว้ดเท่านั้น เงียบสนิทเลย แล้วการเมืองมันแก้ได้ด้วยการเมืองหรือเปล่าแบบนี้ มันแก้ไม่ได้พี่น้อง

ประชาชนลำบากมากขึ้นในการเดินทาง ต้นทุนของการเดินทางสูงขึ้น สายการบินก็ไม่สะดวก เพียงเพราะว่านักการเมืองบางคนมีผลประโยชน์กับสนามบินสุวรรณภูมิ กับคนซึ่งทำธุรกิจในสนามบินสุวรรณภูมิ แล้วบังเอิญนักการเมืองคนนี้ กลายเป็นคนซึ่งนายสุเทพ บอกว่า ถ้าไม่มีเขาก็ไม่มีเรา นั่นคือ ถ้าไม่มีเนวิน ชิดชอบ ไม่มีพรรคภูมิใจไทย ก็ไม่มีรัฐบาลวันนี้ กลายเป็นว่า พรรคประชาธิปัตย์เป็นหนี้บุญคุณพรรคภูมิใจไทยและนายเนวิน ชิดชอบ แต่ไม่เคยเป็นหนี้บุณคุณประชาชน ไม่เคย เห็นหรือยังครับพี่น้อง ชัดเจนไหม ผมนึกว่าผมมองข้ามทักษิณ ชินวัตร ไปแล้ว ผมมองข้ามคุณอภิสิทธิ์ เรียบร้อยแล้ว

 

แต่ยังหวังอภิสิทธิ์เป็น The Last White Hope

คุณอภิสิทธิ์ ในภาษา มันมีภาพยนตร์เรื่องหนึ่งพี่น้อง ในวงการมวย สมัยก่อนคนผิวขาวเก่งร็อกกี้ ราเซียโน แต่ตอนหลังคนผิวดำขึ้นมาต่อยชนะคนผิวขาวเลยกลายเป็นกว่าคนผิวขาวตกไปหมดไม่ มีสิทธิ์ที่จะขึ้นมาชกชิงแชมป์ตำแหน่งเฮฟวี่เวทได้ ในภาพยนตร์เรื่องนี้มีคนผิวขาวคนสุดท้ายที่เกิดฟิตขึ้นมา แล้วเป็นความหวังของคนผิวขาว ออกมาเต้นฟุตเวิร์กแล้วสู้ ภาพยนตร์เรื่องนี้คือเรื่อง The Last White Hope ก็คือว่าความหวังของคนผิวขาวคนสุดท้าย คุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ คือความหวังของพรรคประชาธิปัตย์คนสุดท้าย หมดจากนี้ไปแล้ว พรรคประชาธิปัตย์มีแต่ล่มสลาย และจะไม่มีเหลืออีกแล้ว ไม่จำเป็นต้องยุบพรรคหรอกครับ อีกหน่อยก็จะไม่เหลือแล้ว ผมพูดในฐานะที่ผมเป็น นายสนธิ ลิ้มทองกุล ผมไม่ได้พูดในฐานะเป็นหัวหน้าพรรคการเมืองใหม่ หรือใครๆ ทั้งสิ้น

คุณอภิสิทธิ์ คือ The Last White Hope, The Last ประชาธิปัตย์ Hope ความหวังครั้งสุดท้ายของพรรคประชาธิปัตย์ ผมยังอยากเห็นคุณอภิสิทธิ์ ลุกขึ้นมากล้าเสนอปรับ ครม. เปลี่ยนคุณสุเทพ และตัวเอง เอารองฯ ธานี สมบูรณ์ทรัพย์ มาเป็นรองนายกฯ ดูแลตำรวจ มาสังคายนาตำรวจ ถ้าอย่างนั้นแล้ว แสดงว่าคุณอภิสิทธิ์ ยังมีความกล้าหาญอยู่ แต่ถ้าคุณอภิสิทธิ์ ยังใช้เหมือนเดิมๆ แสดงว่าคุณอภิสิทธิ์ ก็คือนักการเมืองรุ่นเก่านั่นเอง ไม่ได้มีอะไรใหม่เลยแม้แต่นิดเดียว ดีอยู่อย่างเดียวคือพูดเก่ง หน้าตาดี มีเสน่ห์ นายสนธิกล่าวทิ้งท้าย จากนั้นได้กล่าวขอบคุณ และว่าเจอกันวันศุกร์หน้า

 

ที่มา: เรียบเรียงจาก เอเอสทีวีผู้จัดการออนไลน์

 

สมัครรับข่าวความเคลื่อนไหวจากประชาไท ผ่านทางอีเมล ดูรายละเอียดที่ http://groups.google.com/group/prachatai-newspaper

ประชาธิปัตย์ร้องสมาคมสื่อตรวจสอบข่าวสดแหกคอกเสนอข้อมูลกรณีสังหารหมู่

Posted: 28 May 2010 11:19 AM PDT

นายสรวุฒิ เนื่องจำนงค์ รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ เรียกน้องให้สมาคมสื่อและสื่อมวลชนตรวจสอบการทำงานของหนังสือพิมพ์ข่าวสด พร้อมกล่าวหาว่าหนังสือพิมพ์ฉบับดังกล่าวมีความพยายามอย่างต่อเนื่องในการบิดเบือนข้อเท็จจริงว่าทหารเป็นฝ่ายยิงประชาชนผู้บริสุทธิ์ และนำเสนอข้อมูลให้ร้ายรัฐบาล

<!--break-->

วันที่ 28 พ.ค. 53 ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายสรวุฒิ เนื่องจำนงค์ รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์  รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงเรียกร้องให้สมาคมสื่อและสื่อมวลชนได้ตรวจสอบการทำงานของน.ส.พ.ข่าวสด ที่มีความพยายามอย่างต่อเนื่องในการบิดเบือนข้อเท็จจริงโดยการพยายามเสนอข่าวและภาพว่าทหารเป็นฝ่ายยิงประชาชนผู้บริสุทธิ์ การทำเสนอข้อมูลของน.ส.พ.ข่าวสดนั้นให้ร้ายรัฐบาลอย่างเต็มที่ ขณะที่สื่อฉบับอื่นมีการเสนอภาพและข่าวการจับอาวุธที่ได้จากแกนนำกลุ่มผู้ชุมนุมด้วยข้อมูลที่เป็นสองด้านและเป็นจ้อเท็จจริง อย่างไรก็ดีทางกองบรรณาธิการน.ส.พ.ข่าวสดอาจบอกว่าเป็นเรื่องของวิจารณญาณของประชาชนจะพิจารณา แต่ไม่ทราบว่ากองบรรณาธิการของน.ส.พ.ข่าวสดกำลังใช้วิจารณญาณของการทำหน้ารที่ทำร้ายบ้านเมืองหรือไม่ พรรคประชาธิปัตย์อยากเรียกร้องให้เพื่อนสื่อมวลชนร่วมกันตรวจสอบการทำงานของสื่อด้วยกัน

รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์แถลงด้วยว่า  พรรคประชาธิปัตย์ขอแสดงความยินดีกับการที่พรรคเพื่อไทยกลับใจมาสู้ในแนวทางของสภา หลังจากที่ล้มบทบาทในสภาไปต่อสู้ใต้ดิน มี ส.ส.ขึ้นเวทีคนเสื้อแดงเกือบทั้งพรรค ทั้งนี้พรรคประชาธิปัตย์เป็นห่วงว่าพรรคเพื่อไทยจะใช้โอกาสในการอภิปรายไม่ไว้วางใจบิดเบือนข้อเท็จจริง โกหกผ่านคลิปวีดีโอ และ ภาพ ทำให้ประชาชนเข้าใจผิดในการทำหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ได้ ซึ่งแม้ว่าวิปทั้งสองฝ่ายได้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบเอกสารหลักฐานที่จะนำขึ้นมาประกอบการอภิปรายกลางสภา เพื่อให้ความเป็นธรรม แต่เมื่อวิปฝ่ายค้านไปหารือกับผ้มีอำนาจตัวจริงในพรรคเพื่อไทย กลับแสดงอาการลังเลไม่กล้าให้ตรวจสอบข้อมูล ซึ่งจะเห็นว่าที่ผ่านมามีการบิดเบือนข้อเท็จจริงตลอด จึงอยากถามว่า เมื่อมีการตั้งคณะกรรมการมาตรวจสอบเอกสารแล้ว ทำไมพรรคเพื่อไทยจึงไม่กล้าให้ตรวจสอบให้เป็นที่ประจักษ์ เพราะการเปิดคลิปกลางสภา หากเกี่ยวข้องกับคนภายนอกจะทำให้เขาเสียหาย ดังนั้นพท.ต้องกล้าให้ตรวจสอบ

นายสรวุฒิ กล่าวอีกว่า ขอเรียกร้องให้พรรคเพื่อไทยเคลียร์ตัวเองให้ได้ใน 3 เรื่อง 1. ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้ พรรคเพื่อไทยอาจมุ่งฟอกขาวให้พ.ต.ท.ทักษิณว่าไม่เป็นผู้ก่อการร้าย เผาบานเมืองจริงหรือไม่ 2. หวังฟอกตัวให้พรรคเพื่อไทยว่าไม่เกี่ยวกับการเคลื่อนไหวของกลุ่มคนเสื้อแดง และ 3. ฟอกตัวให้แกนนำนปช.ว่าต่อสู้โดยสงบ อหิงสา ทั้งที่แกนนำยั่วยุให้ทำลายบ้านเมือง ปลุกระดมให้ทำร้ายบุคคลสำคัญหลายครั้ง

ที่มา: เว็บไซต์พรรคประชาธิปัตย์

สมัครรับข่าวความเคลื่อนไหวจากประชาไท ผ่านทางอีเมล ดูรายละเอียดที่ http://groups.google.com/group/prachatai-newspaper

มูลนิธิผสานวัฒนธรรมประณามเหตุระเบิดสองจุด ในยะลา

Posted: 28 May 2010 11:03 AM PDT

มูลนิธิผสานวัฒนธรรมแถลงประณามการก่อเหตุระเบิดที่หน้าโชว์รูมมาสด้า และหน้าร้านถ่ายรูปในเขตเทศบาลเมืองยะลา เมื่อวันพุธที่ 26 พ.ค.ที่ผ่านมาะหว่าง ซึ่งเป็นช่วงที่ทางจังหวัดยะลากำลังจัดกิจกรรมงานสมโภชศาลเจ้าพ่อหลักเมืองยะลา และงานกาชาดประจำปี 2553 เหตุระเบิดส่งผลให้มีผู้บาดเจ็บจำนวนมาก และเสียชีวิต 2 ราย

<!--break-->

มูลนิธิฯ ระบุในแถลงการณ์ว่า การระเบิดอย่างรุนแรงสร้างความเสียหายต่อชีวิตและทำให้มีผู้บาดเจ็บจำนวนมากโดยการระเบิดในพื้นที่สาธารณะนั้นไม่สามารถแยกแยะผู้ได้รับผลกระทบได้ ผู้บริสุทธิ์ทั้งเด็ก หญิง ชายตกเป็นเหยื่อของความรุนแรงที่โหดร้ายอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้  อีกทั้งทรัพย์สินทั้งของทางราชการและของประชาชน  นอกจากนี้ยังสร้างให้เกิดความหวาดกลัวต่อสาธารณชนโดยทั่วไป อีกทั้งทำให้มาตราการรักษาความปลอดภัยของทางการเข้มงวดยิ่งขึ้นสร้างบรรยากาศความไม่ปลอดภัย   ทำให้กิจกรรมทางวัฒนธรรมถูกจำกัดลง

แถลงการณ์ดังกล่าวประนามการก่อเหตุระเบิดสร้างความสูญเสียชีวิตและทรัพย์สิน โหดร้าย ไร้มนุษยธรรม ขอให้ผู้ใช้ความรุนแรงไม่ว่าด้วยวัตถุประสงค์ใดยุติการใช้ความรุนแรงหันมาเรียกร้องความยุติธรรมโดยสันติวิธี ร่วมกันนำพาสังคม ชุมชนไปสู่สร้างสันติสุขโดยเริ่มจากการยุติการใช้ความรุนแรง

รายละเอียดดังนี้

แถลงการณ์ ประนามการก่อเหตุระเบิดสร้างความสูญเสียชีวิตและทรัพย์สิน โหดร้าย ไร้มนุษยธรรม ไม่นำพาต่อการสร้างสันติสุข

เมื่อวันพุธที่ 26 พ.ค.2553 เกิดเหตุระเบิดอย่างรุนแรงขึ้นถึงสองจุดในเขตเทศบาลนครยะลาในเวลาที่มีผู้สัญจรไปมามากมาย ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 2 ราย ผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 51 ราย อาการสาหัส 3 ราย โดยเหตุการณ์ระเบิดครั้งแรกเกิดขึ้นเมื่อเวลา 10.15 น. ระเบิดขึ้นบริเวณหน้าบริษัทแห่งหนึ่งริมถนนรวมมิตร ซึ่งเป็นโชว์รูมรถยนต์ยี่ห้อมาสด้า ในเขตเทศบาลนครยะลา ที่เกิดเหตุพบรถจักรยานยนต์แบบพ่วงข้าง (รถโชเล่ย์) สภาพเหลือแต่เศษเหล็ก มีเศษกระจก บานประตูโชว์รูม และเศษกระเบื้องกระจายเกลื่อน รวมทั้งมีรถกระบะของตำรวจ สภ.เมืองยะลา รถกระบะของประชาชนที่จอดอยู่หน้าโชว์รูม และรถยนต์ที่จอดรอจำหน่ายอยู่ในโชว์รูมได้รับความเสียหายรวม 8 คัน และในเวลาไม่ถึง 10 นาทีเกิดเหตุระเบิดจากรถจักรยานยนต์ที่บริเวณหน้าร้านถ่ายรูปแห่งหนึ่งในบนถนนปิติตัดกับถนนรวมมิตร ห่างจากจุดแรกไม่ถึง 100 เมตร

เหตุการณ์ครั้งนี้เกิดขึ้นในระหว่างที่ทางจังหวัดยะลากำลังจัดกิจกรรมงานสมโภชศาลเจ้าพ่อหลักเมืองยะลา และงานกาชาดประจำปี 2553 ตั้งแต่วันที่ 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2553 ถึง 4 มิถุนายน พ.ศ. 2553 การระเบิดอย่างรุนแรงสร้างความเสียหายต่อชีวิตและทำให้มีผู้บาดเจ็บจำนวนมากโดยการระเบิดในพื้นที่สาธารณะนั้นไม่สามารถแยกแยะผู้ได้รับผลกระทบได้ ผู้บริสุทธิ์ทั้งเด็ก หญิง ชายตกเป็นเหยื่อของความรุนแรงที่โหดร้ายอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้  อีกทั้งทรัพย์สินทั้งของทางราชการและของประชาชน  นอกจากนี้ยังสร้างให้เกิดความหวาดกลัวต่อสาธารณชนโดยทั่วไป อีกทั้งทำให้มาตราการรักษาความปลอดภัยของทางการเข้มงวดยิ่งขึ้นสร้างบรรยากาศความไม่ปลอดภัย   ทำให้กิจกรรมทางวัฒนธรรมถูกจำกัดลง

มูลนิธิผสานวัฒนธรรมและมูลนิธิศูนย์ทนายความมุสลิมประนามการก่อเหตุระเบิดสร้างความสูญเสียชีวิตและทรัพย์สิน โหดร้าย ไร้มนุษยธรรม ขอให้ผู้ใช้ความรุนแรงไม่ว่าด้วยวัตถุประสงค์ใดยุติการใช้ความรุนแรงหันมาเรียกร้องความยุติธรรมโดยสันติวิธี ร่วมกันนำพาสังคม ชุมชนไปสู่สร้างสันติสุขโดยเริ่มจากการยุติการใช้ความรุนแรง                                                                                

วันที่ 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

มูลนิธิผสานวัฒนธรรม  

มูลนิธิศูนย์ทนายความมุสลิม

สมัครรับข่าวความเคลื่อนไหวจากประชาไท ผ่านทางอีเมล ดูรายละเอียดที่ http://groups.google.com/group/prachatai-newspaper

คลิปทหารสั่งการ "มีคนเหรอ ยิงเลย"

Posted: 28 May 2010 10:00 AM PDT

คลิปจากฟ็อกซ์นิวส์ระหว่างการสลายการชุมนุมวันที่ 19 พ.ค. โดยทหารสั่งการว่า "มีคนเหรอ ยิงเลย" และภาพการสลายการชุมนุมจากสกายนิวส์ซึ่งรวบรวมภาพสลายการชุมนุมจากสำนักข่าวต่างประเทศหลายสำนัก

<!--break-->

ภาพจากสถานีโทรทัศน์ฟ็อกซ์นิวส์ของสหรัฐอเมริกา ซึ่งนำเสนอข่าวทหารไทยสลายการชุมนุมผู้ชุมนุมบริเวณแยกศาลาแดง และ ถ.พระราม 4 ในคลิปนาทีที่ 0.15 ทหารสั่งการว่า "มีคนเหรอ ยิงเลย" ขณะที่นาทีที่ 1.17 "ยิงเลยลูกซอง ลูกซองยิงเลย" โดยมีการใช้ทั้งกระสุนยางจากปืนลูกซอง และกระสุนจริงจากปืนเอ็ม 16 และ เอชเค 33 นอกจากนี้ในช่วงวินาทีที่ 3-4 ของคลิปจะเห็นภาพทหารใช้ปืนติดลำกล้องยิงไปทางผู้ชุมนุมด้วย

 

ขณะที่สกายนิวส์ของอังกฤษ รีวิวภาพการสลายการชุมนุมเมื่อ 19 พ.ค. จากหลายสำนักข่าวอาทิ France24, Russia Today, Al Jazeera, Sky News, CTV และ BBC โดยรายงานว่าทหารใช้อาวุธสงครามและรถหุ้มเกราะสลายการชุมนุมคนเสื้อแดง โดยแกนนำยอมมอบตัว และมีผู้เสียชีวิตในวันนั้นจำนวนมากรวมทั้งผู้สื่อข่าวด้วย ด้าน CTV รายงานว่าผู้ชุมนุมบางส่วนไม่ยอมแพ้แบบแกนนำและได้ต่อสู้ด้วยการจุดไฟเผาสิ่งของและเซ็นทรัลเวิร์ลด์

สมัครรับข่าวความเคลื่อนไหวจากประชาไท ผ่านทางอีเมล ดูรายละเอียดที่ http://groups.google.com/group/prachatai-newspaper

ฝ่าย กม. ทรูแจง เข้าเว็บเจอหน้า ศอฉ. อาจไม่ได้ถูกบล็อค แต่เป็นปัญหาเทคนิค

Posted: 28 May 2010 08:32 AM PDT

แหล่งข่าวเผย สาเหตุที่บางครั้งเว็บไซต์และทวิตเตอร์ของบางรายไม่สามารถเข้าได้นั้น เนื่องจากมีผู้เข้าใช้งานจำนวนมาก แต่กลับลิ้งค์มาว่าเป็นคำสั่งปิดของ ศอฉ. ด้วยเหตุนี้จึงมีคำสั่งไปยังไอเอสพีว่า อย่าให้ลิ้งค์มาจุดนี้ เพราะจะเกิดความเข้าใจผิดว่า ศอฉ.เป็นผู้สั่งการปิด

<!--break-->

(28 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่ามีเว็บไซต์จำนวนมากถูกบล็อค โดยเมื่อเข้าไปแล้ว จะกลายเป็นหน้าเว็บของ http://58.97.5.29/www.capothai.org/ ซึ่งปรากฎข้อความว่า "การเข้าถึงข้อมูลดังกล่าวนี้ถูกระงับเป็นการชั่วคราว โดยอาศัยอำนาจตามพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ตามคำสั่งของศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน"

ทั้งนี้ วานนี้ (27 พ.ค.) เว็บไซต์ไทยรัฐออนไลน์รายงานอ้างแหล่งข่าวจาก ศอฉ. ระบุว่า การปิดเว็บไซต์ปลุกระดมแต่ละครั้งดำเนินการอย่างรวดเร็ว รวมทั้งหากพบเว็บไซต์เครือข่ายทางสังคมออนไลน์ที่มีเนื้อหาเข้าข่ายปลุกระดมและก่อให้เกิดความแตกแยกก็ต้องปิด แต่การดำเนินการปิดทวิตเตอร์ พ.ต.ท.ทักษิณ ต้องรอคำสั่งจาก ศอฉ. แต่ขณะนี้ยังไม่ได้รับแจ้ง

แหล่งข่าวกล่าวต่อว่า สาเหตุที่บางครั้งเว็บไซต์และทวิตเตอร์ของบางรายไม่สามารถเข้าได้นั้น เนื่องจากมีผู้เข้าใช้งานจำนวนมาก แต่กลับลิ้งค์มาว่าเป็นคำสั่งปิดของ ศอฉ. ด้วยเหตุนี้จึงมีคำสั่งไปยังไอเอสพีว่า อย่าให้ลิ้งค์มาจุดนี้ เพราะจะเกิดความเข้าใจผิดว่า ศอฉ.เป็นผู้สั่งการปิด

จากการสอบถามนางสาวศุภสรณ์ รุ่งโรจน์วุฒิกุล ผู้จัดการฝ่ายกฎหมาย บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ชี้แจงว่า บางครั้งมีการบล็อคที่ไอพี โดยไอพีในเมืองไทยเป็นไอพีแบบสุ่ม หากเข้ามาในช่วงเวลาที่ไอพีที่เรียกเป็นชุดเดียวกันกับที่ ศอฉ.สั่งบล็อคก็จะใช้งานไม่ได้ แต่หากลองตัดการเชื่อมต่อ (disconnect) แล้วต่อใหม่ หมายเลขไอพีก็จะเปลี่ยนเป็นชุดใหม่ ซึ่งจะทำให้สามารถใช้งานได้ตามปกติ เว้นแต่เว็บที่มีเนื้อหาของเสื้อแดงหรือพีทีวีที่ ศอฉ. สั่งบล็อค ก็จะเข้าไม่ได้ 

ส่วนกรณีเข้าเว็บเฟซบุ๊คในช่วงวันที่ 19-20 พ.ค. แล้วมีปัญหานั้น เป็นเพราะช่วงดังกล่าว คนติดต่อกันไม่สะดวกและตื่นตกใจ ทีวีก็เป็นรายการพิเศษ คนจึงเข้าอินเทอร์เน็ตกันหมด ทำให้เน็ตเวิร์คทำงานหนัก ทั้งนี้ ยืนยันว่า ถ้าไม่ใช่เว็บที่ถูกปิดจะไม่ลิ้งค์ไปที่หน้าของ ศอฉ. อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่ามีการสั่งบล็อคบางเพจ 

นางสาวศุภสรณ์ กล่าวต่อว่า ในช่วงที่มีการประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินนั้น การปิดกั้นเว็บไซต์จะต่างจากสถานการณ์ปกติ ที่กระทรวงไอซีทีจะแนบคำสั่งศาลส่งให้ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต (ISP) เพื่อทำการบล็อค แต่ในสถานการณ์นี้ ศอฉ.จะส่งคำสั่ง พร้อมรายชื่อที่จะให้ปิดกั้น โดยอ้างอำนาจของ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ให้ไอเอสพีบล็อคได้เลย ทั้งนี้ ถ้ายกเลิก พ.ร.ก. ทรูก็จะปลดล็อกทั้งหมด

ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับเว็บไซต์ที่ถูกปิดกั้น อาทิ หน้าหลักของประชาไทในยูทูบว์ http://youtube.com/user/prachatai เว็บไซต์ถ่ายทอดสดออนไลน์ www.livestream.com/ เว็บบล็อก www.biolawcom.de/ ทวิตเตอร์ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และครอบครัว http://twitter.com/thaksinlive http://twitter.com/AimPintongta http://twitter.com/oak_ptt http://twitter.com/ingshin
 

สมัครรับข่าวความเคลื่อนไหวจากประชาไท ผ่านทางอีเมล ดูรายละเอียดที่ http://groups.google.com/group/prachatai-newspaper

ทัพภาค 2 สั่งปิดวิทยุชุมชนแล้ว 5 จังหวัดภาคอีสาน

Posted: 28 May 2010 06:51 AM PDT

แม่ทัพภาค 2 สั่งปิดวิทยุชุมชนของคนเสื้อแดง 5 จังหวัด อุดรธานี-อุบลราชธานี-ขอนแก่น-มหาสารคาม-มุกดาหาร พร้อมภาคทัณฑ์วิทยุชุมชนเสื้อแดง 19 จังหวัดทั่วอีสาน ขู่หากละเมิดกฎหมายเจอหมายจับแน่

<!--break-->

ASTVผู้จัดการออนไลน์ รายงานว่า วันนี้ (28 พ.ค.) ว่า พล.ท.วีร์วลิต จรสัมฤทธิ์ แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวถึงสถานการณ์ในพื้นที่ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 19 จังหวัดในขณะนี้ว่า โดยรวมเป็นไปอย่างความสงบเรียบร้อยไม่มีเหตุการณ์ใดๆ ที่รุนแรง แต่มีเพียงจังหวัดเดียวที่ยังมีกลุ่มผู้ไม่หวังดีที่มีการลักลอบเผายาง แต่ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการจับกุมผู้ที่ลักลอบการเผายางได้เรียบ ร้อยแล้วและได้มีการสืบสวนต่อเพื่อที่จะมีการขยายผลถึงผู้ที่ร่วมกระบวนการ ต่อไป สำหรับสถานีวิทยุชุมชนของแต่ละพื้นที่ทั้ง 19 จังหวัดในขณะนี้ ทางกองทัพภาคที่ 2 ได้มีการเรียกผู้จัดรายการทุกสถานีพร้อมทั้งเจ้าของสถานีทุกแห่งเพื่อขอความ ร่วมมืออย่าได้ดำเนินใดๆ ที่ผิดต่อกฎหมาย ซึ่งทุกจังหวัดได้เชิญทุกสถานีเข้ามาพูดคุยกันเรียบร้อยแล้ว

สำหรับสถานีที่เคยมีการพูดทำนองปลุกระดม หรือกระทำผิดต่อกฎหมายก็ได้มีการออกคำสั่งเรียกทั้งผู้จัดรายการและเจ้าของสถานีมาพบและได้มีการพูดคุยพร้อมทั้งได้มีการบันทึกเป็นหลักฐานไว้หากกระทำ ผิดอีกครั้งทางกองทัพภาคที่ 2 ก็จะเรียกเข้ามาพบเพื่อเตือนเป็นครั้งที่ 2 แต่หากกระทำผิดต่อจากครั้งที่ 2 ทางกองทัพฯ ก็จะมีการประชุมกับผู้ที่เกี่ยวข้องเพื่อออกหมายจับต่อไป ทั้งนี้ ได้มีหลายสถานีที่เคยกระทำผิดก็ได้กลับมาร่วมมือกับรัฐบาลเกือบหมดทุกสถานี แล้ว ส่วนสถานีที่ได้สั่งปิดไปแล้วนั้นมีอยู่หลายสถานี ส่วนใหญ่จะเป็นสถานีวิทยุชุมชนในพื้นที่ที่เกิดเหตุเผาสถานที่ราชการ เมื่อวันที่ 19 พ.ค.53 ที่ผ่านมา เช่น อุดรธานี อุบลราชธานี ขอนแก่น มหาสารคาม และมุกดาหาร ได้มีการดำเนินการตามกฎหมายสั่งปิดเรียบร้อยแล้ว
      
กรณีที่มีการโยกย้ายผู้ว่าราชการจังหวัดและผู้บังคับตำรวจใน 4 จว.อีสาน ที่มีการบุกเผาสถานที่ราชการนั้น พล.ท.วีร์วลิต เชื่อว่าไม่มีผลกระทบต่อการปฏิบัติงานเพราะมาตรการป้องกันต่างๆ ได้มีการดำเนินการมาตั้งแต่ต้นแล้ว

สมัครรับข่าวความเคลื่อนไหวจากประชาไท ผ่านทางอีเมล ดูรายละเอียดที่ http://groups.google.com/group/prachatai-newspaper

สุริยะใสชี้การเลือกตั้งไม่ใช่ทางออก แนะรัฐบาลทำให้ประชาชนลืมทักษิณ

Posted: 28 May 2010 06:17 AM PDT

"สุริยะใส" จี้รัฐบาลจัดกลไกล่าทักษิณแต่ห่วงไฟไหม้ฟาง ลั่นการเลือกตั้งไม่ใช่ทางออกของชาติบ้านเมือง แต่ถ้ามีเลือกตั้งพรรคก็พร้อมไม่ว่าระดับท้องถิ่นหรือระดับชาติ จี้นายกฯ ทบทวนเรื่องปรองดอง หวั่นกระทบกับการปฏิรูปประเทศไทย และเป็นช่องให้นักการเมืองศรีธนนชัยตีความ เชื่อถ้ารัฐบาลแก้ปัญหาได้ประชาชนจะลืมทักษิณในที่สุด

<!--break-->

ASTVผู้จัดการออนไลน์ รายงานวานนี้ (27 พ.ค.) ว่า นายสุริยะใส กตะศิลา รักษาการเลขาธิการพรรคการเมืองใหม่ กล่าวถึงกรณีศาลออกหมายจับคดีก่อการร้าย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ว่า รัฐบาลจะต้องบูรณาการกลไก กับภาคส่วนที่มีความรับผิดชอบโดยตรงไม่ว่าจะเป็นดีเอสไอ กระทรวงการต่างประเทศ อัยการสูงสุด สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สภาความมั่นคงแห่งชาติ จะต้องอยู่ในรูปของคณะกรรมการพิเศษที่จะติดตามเรื่องนี้อย่างจริงจัง และประเมินผล ประมวลความคืบหน้าแล้วรายงานต่อประชาชนเป็นระยะๆ ตนเป็นห่วงว่าจะเป็นไฟไหม้ฟาง อย่างที่ผ่านมา สิ่งที่ตนกลัวที่สุด คือ การใช้ประเด็น พ.ต.ท.ทักษิณ หรือการล่าตัว พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นการหวังผลทางการเมือง เพราะว่าสุดท้ายก็ไม่เกิดผลอะไรขึ้น ต้องถามรัฐบาลว่าต้องการให้ พ.ต.ท.ทักษิณ กลับมาเข้าคุกหรือเปล่า ตนไม่แน่ใจ เพราะว่าคนในรัฐบาลบางคนมีความพอใจที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ไปอยู่ต่างประเทศอย่างนั้น ฉะนั้น ถ้ารัฐบาลจริงใจไม่อยากให้เป็นไฟไหม้ฟางจะต้องตั้งคณะทำงานขึ้นมาแล้ว รายงานให้ประชาชนทราบอย่าให้เหมือนที่ผ่านมา

นายสุริยะใส ยังกล่าวถึงเรื่องการเลือกตั้งว่า มันไกลไป เพราะว่าการเลือกตั้งไม่ใช่ทางออกของชาติบ้านเมืองในขณะนี้ อย่างไรก็ตามหากมีการเลือกตั้ง ทางพรรคก็พร้อม ไม่ว่าจะเป็นการเลือกตั้งระดับท้องถิ่น หรือว่าระดับชาติ ทั้งนี้อยากให้รัฐบาลชุดนี้วางกรอบการทำงาน 2 ระดับ คือ 1.เร่งเยียวยาและฟื้นฟูความเสียหายจากการชุมนุมของคนเสื้อแดงจากการก่อการร้าย โดยเฉพาะรับผิดชอบผู้ที่ได้รับผลกระทบ 2.เรื่องของการปฏิรูปใหญ่ของประเทศไทย ตนคิดว่าคำว่าปรองดองนายกรัฐมนตรีอาจจะต้องทบทวน เพราะว่ามันเป็นวาทะกรรมที่ลื่นไหล อาจจะเป็นช่องให้นักการเมืองศรีธนชัยจะเอาไปตีความ หรือว่าบิดเบือนก็สามารถทำได้ ปัญหาของรัฐบาลชุดนี้แค่จัดการกับกลุ่มก่อการร้ายที่ยังหลบหนีอยู่ก็เหนื่อย แล้ว ยังจะต้องมาวางแผนปฏิรูปประเทศไทย อาจจะกระทบกับการปฏิรูปใหญ่ประเทศไทยได้ ฉะนั้นนายกรัฐมนตรีควรที่จะสังคมเข้ามาเป็นเจ้าภาพ โดยรัฐบาลทำหน้าที่เป็นแค่ผู้อำนวยการ ซึ่งจะเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนได้

“ถ้าไปผูกอยู่กับพรรคการเมือง สภาผู้แทนราษฎร เราจะไม่มีความหวังกับการปฏิรูป สุดท้ายก็จะเหลว เพราะว่านักการเมืองจะเอาเรื่องนี้มาเป็นผลประโยชน์ทางการเมืองจนไม่สนใจ ความสำคัญของมัน การเลือกตั้งก็จะกลายเป็นการฉุดการเมืองไทยให้จมดิ่งไปสู่ความขัดแย้ง แตกแยกยืดเยื้อ ไม่มีที่สิ้นสุด ถ้ารัฐบาลไม่ปรับวิสัยทัศน์ใหม่ และวิธีคิดที่จะบริหารแผ่นดิน ผมคิดว่า เป็นการเมืองแบบเก่ามุ่งแต่จะจัดสรรผลประโยชน์ของพรรคร่วมรัฐบาล มากกว่าที่จะคำนึงถึงการเข้าไปจัดการกับปัญหาของประเทศอย่างมีประสิทธิภาพ จากที่ปัญหาที่ผ่านมาก็เกิดจากความไม่เอาไหนของรัฐบาลนั่นเอง ผมมองว่าแค่ปรับ ครม.ไม่พอ สำคัญที่สุด คือ ปรับวิธีคิด ถ้ารัฐบาลสามารถแก้ปัญหาให้กับประชาชนได้ก็จะทำให้ลืม พ.ต.ท.ทักษิณ ได้ในที่สุด ความล้มเหลวของรัฐบาลจะยิ่งทำให้ประชาชนโหยหา พ.ต.ท.ทักษิณ มากขึ้น เพราะเกิดการเปรียบเทียบ ฉะนั้น รัฐบาลมีหน้าที่ทำให้ประชาชนเห็นว่าเป็นรัฐบาลที่ดีกว่ารัฐบาลทักษิณ” นายสุริยะใส กล่าว

สมัครรับข่าวความเคลื่อนไหวจากประชาไท ผ่านทางอีเมล ดูรายละเอียดที่ http://groups.google.com/group/prachatai-newspaper

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น