คิม เซนกูปตา รายงาน อเล็ปโปพังทลายอย่างหนัก มีแต่ซากผู้คนในเขตที่สู้รบ ขณะที่อีกส่วนหนึ่งของเมืองยังพยายามใช้ชีวีตอย่างปกติ กองกำลังกบฏพยายามเข้าไปวางระเบิดอาคารสถานีโทรทัศน์วิทยุแต่ถูกสกัดไว้ได้
4 ส.ค. 2012 คิม เซนกูปตา นักข่าว The Independent ลงพื้นที่รายงานข่าวจากเมืองอเล็ปโป ประเทศซีเรีย ที่กำลังมีเหตุการณ์ปะทะกันระหว่างกองกำลังรัฐบาลกับกองกำลังฝ่ายกบฏ โดยบอกว่าท่ามกลางภาวะความเป็นความตายและการต่อสู้ช่วงชิงชัยชนะ ก็ยังมีเสียงเพลงของบียอนเซ่ดังก้องอยู่ในช่วงค่ำของเดือนรอมฎอน
คิม รายงานสภาพทั่วไปว่า ย่านซาลาเฮดินของเมืองอเล็ปโปในยามค่ำเป็นภาพของการทำลายล้าง สิ่งก่อสร้างที่เคยตั้งอยู่เมื่อ 48 ชั่วโมงที่ผ่านมา บัดนี้ถล่มลงกองบนพื้นถนน ตามด้วยการถล่มจากอาวุธรถถัง ปืนครก และการจู่โจมทางอากาศยานที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ มีโคมไฟที่โค่นงอลงมา มีท่อน้ำแตกตามกำแพงจนน้ำฉีดลงมา
"ในตอนนี้เราเริ่มเห็นศพได้มากขึ้นเรื่อยๆ มีร่างคนนอนอยู่ตามท้องถนน และกลิ่นเหม็นจากคนที่ถูกทับอยู่ใต้ซากอาคาร มีเสียงปืนดังก้องไปทุกที่ ไม่มีใครแน่ใจว่าใครยิงใคร และทั้งสองฝ่ายก็อยู่ใกล้กันมาก ฝ่ายกบฏที่ผมอยู่ด้วยอยู่ห่างจากกองกำลังฝ่ายรัฐบาลออกไปซอยเดียวเท่านั้น" คิมกล่าวถึงสถานการณ์
คิมเล่าอีกว่า มีนักกิจกรรมฝ่ายต่อต้านรัฐบาลรายหนึ่งที่ชื่อบารี ถูกยิงด้วยสไนเปอร์เมื่อวันที่ 3 ส.ค. เป็นแผลเล็กน้อยและเขาทำเหมือนมันเป็นเหรียญกล้าหาญของตัวเอง และในวันที่ 4 ส.ค. รถของพวกเขาก็ถูกโจมตีด้วยเฮลิคอปเตอร์จนต้องพากันหนีออกมา
คิมรายงานว่า มีการสังหารกันในพื้นที่อื่นของอเล็ปโป บางครั้งก็เป็นไปอย่างลับๆ มีการแก้แค้นความเข็บปวดภายใต้การปกครองแบบเผด็จการและการละเมิดสิทธิมนุษยชนมาตลอด 40 ปี ซึ่งเป้าหมายการล้างแค้นไปตกอยู่ที่กลุ่มทหารรับจ้าง 'ชาบิยา' ที่เป็นกลุ่มขึ้นต่อประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด รวมถึงตำรวจลับมุคคาบารัท
"ที่สถานีตำรวจ ผมเจอร่างของเจ้าหน้าที่ถูกยิงที่หัวจากด้านหลีง" คิมรายงาน "และเมื่อผมถามว่า 'พวกเขาถูกสังหารหลังจากยอมแพ้แล้วหรือเปล่า' นักรบหนุ่มฝ่ายกบฏก็ยิ้มแล้วตอบว่า 'พวกเขาไม่ได้ยอมแพ้ พวกเขาถูกจับ' ก่อนที่เพื่อนของเขาจะตะโกนบอกอย่างโกรธๆ ให้เขาหุบปากไป"
รอมฏอนท่ามกลางสงคราม
คิมกล่าวอีกว่า ในพื้นที่อื่นๆ ของอเล็ปโปชีวิตก็ยังดำเนินต่อไป ประชาชนออกมาจับจ่ายซื้อหาอาหารมาทำอาหารอิฟตาร์ (Ifhtar) ซึ่งเป็นมื้ออาหารเลี้ยงฉลองในช่วงหลังจากพระอาทิตย์ตกของเดือนรอมฏอน ในช่วงระหว่างนั้นมีเสียงเพลงประท้วงและเพลงศาสนาดังมาจากลำโพง ขณะที่มีเสียงเพลงของบียอนเซ่ดังมาจากหน้าร้านค้าแห่งหนึ่ง มีนักรบหนุ่มฝ่ายกบฏวางปืนคาลาชนิคอฟลงแล้วเริ่มร้องเพลง Wonderwall (เพลงของวงดนตรี Oasis จากประเทศอังกฤษ-ผู้แปล)
"การต่อสู้ในเมืองที่ใหญ่ที่สุดและเป็นศูนย์กลางการค้าของซีเรียจะเป็นตัวชี้วัดสำคัญในการตัดสินผลลัพธ์ของการปฏิวัติ" คิมกล่าว
"ไม่มีใครรู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นในวันต่อไป มีทั้งความสั่นกลัวและความรู้สึกสูญเสีย ทั้งสองฝ่ายประจัญหน้ากันที่ประตูเหล็กของเมืองซึ่งเป็นแหล่งประวัติศาสตร์ ที่มีถนนปูหินแบบยุคเก่าทอดไปสู่ปราสาท มีการยิงกระหน่ำกัน มรดกโลกได้รับความเสียหายจากกระสุนและเศษกระสุน ฮาจิ โอมาร์ โอบีดา อายุ 83 ปี ยืนมองด้วยน้ำตานองหน้า 'อเล็ปโปที่สวยงามของฉันกำลังตายไป รอบๆ ตัวฉัน' "
ฝ่ายกบฏอ้างยึดอเล็ปโปฝั่งตะวันออกได้เกือบหมด
ด้านสำนักข่าวอัลจาซีร่ารายงานในวันเดียวกัน (4 ก.ค.) ว่ากลุ่มกบฏและรัฐบาลปะทะกันที่สถานีโทรทัศน์และวิทยุของอเล็ปโปจากการรายงานของนักกิจกรรม พวกเขาบอกอีกว่าฝ่ายกบฏพยายามขยายพื้นที่ควบคุมย่านซาลาเฮดิน ที่มีการต่อสู้เข้มข้นที่สุด
ด้านกลุ่มสิทธิมนุษยชนในซีเรียบอกว่ากองกำลังฝ่ายกบฏได้วางระเบิดที่สถานีโทรทัศน์ก่อนที่กองกำลังฝ่ายรัฐบาลจะใช้อาวุธระยะไกลยิงถล่มบริเวณนั้นทำให้กลุ่มกบฏล่าถอยออกไป มีนักรบหนุ่มฝ่ายกบฏรายหนึ่งก็ชี้ว่าฝ่ายรัฐบาลวางกำลังสไนเปอร์อยู่ตามสถานี ขณะที่ผู้เห็นเหตุการณ์เล่าว่ามีกองทัพใช้ปืนกลยิงฐานที่มั่นฝ่ายกบฏจากเฮลิคอปเตอร์ และมีทหารยิงจรวดใส่นักรบจากโรงเรียนทหารทางตอนเหนือของอเล็ปโป
อาห์มัด เซดาน นักข่าวอัลจาซีร่ารายงานจากอเล็ปโปว่ากองกำลังฝ่ายกบฏกำลังแย่งชิงพื้นที่มาได้แม้ฝ่ายรัฐบาลจะบุกอย่างหนัก และในคืนที่ผ่านมามีการยิงถล่มเมืองอเล็ปโปด้วยอาวุธหนักมากที่สุดเท่าที่เคยมีมา
ทางด้านกองกำลังฝ่ายต่อต้านรัฐบาล FSA อ้างว่าพวกเขาสามารถควบคุมพื้นที่ทางฝังตะวันออกของอเล็ปโปไว้เกือบหมดแล้ว ขณะที่ยังคงยึดพื้นที่ย่านใจกลางอย่างซาลาเฮดิน กับ บับ อัล-ฮาดิด เอาไว้ได้
อัลจาซีร่ารายงานอีกว่าอินเตอร์เน็ตและเครือข่ายโทรศัพท์ถูกตัดเกือบทุกที่ในอเล็ปโป ทำให้ฝ่ายกบฏส่งข่าวหากันได้ยากขึ้น ต้องใช้ตัวกลางในการส่งข่าว พื้นที่ในเมืองดูมีการแบ่งฝ่าย หมู่บ้านบางแห่งภักดัต่ออัสซาด ขณะที่บางแห่งก็ชื่นชอบฝ่ายต่อต้านรัฐบาล
ด้านสถานีโทรทัศน์ของทางการซ๊เรียรายงานว่ามีกลุ่ม "ผู้ก่อการร้าย" จำนวนมากถูกสังหารและถูกยิงได้รับบาดเจ็บขณะที่พวกเขาบุกเข้าไปในสถานีโทรทัศน์และวิทยุ
นักข่าวฝ่ายรัฐบาลถูกสังหาร
กลุ่มสิทธิมนุษยชนในซีเรีย SOHR บอกอีกว่าผู้สื่อข่าวโทรทัศน์ที่ชื่อ โมฮาเม็ด อัล-ซาอีด ที่ถูกลักพาตัวไปเมื่อช่วงเดือน ก.ค. ที่ผ่านมา ได้ถูกสังหารแล้วในตอนนี้ เขาเป็นคนผู้มีชื่อเสียงจากสถานีโทรทัศน์ของรัฐบาล และกลุ่มที่เรียกตัวเองว่าแนวหน้าอัล-นุสรา ซึ่งเป็นกลุ่มติดอาวุธที่ไม่ค่อยมีคนรู้จักออกมาประกาศว่ากลุ่มตนเป็นผู้กระทำการสังหาร
กลุ่มอัล-นุสรา ทำการโพสท์แถลงการณ์ลงในกระดานข่าวอินเตอร์เน็ตที่มีรูปธงอัล-เคด้า กล่าวว่า 'เหล่าวีรชน' ได้กุมขังนักข่าวของฝ่ายชาบิห์ (กองกำลังฝ่ายสนับสนุนรัฐบาล) และสังหารเขาหลังจากทำการไต่สวน นอกจากนี้ยังได้โพสท์ภาพของซาอีดในสภาพหวาดกลัวหลังชนฝา ไม่สามารถระบุที่อยู่ในภาพได้
ด้านสถาณการณ์ในเมืองหลวงดามาสกัส กองกำลังฝ่ายรัฐบาลได้ใช้กองกำลังรถหุ้มเกราะบุกเข้าโจมตีฐานที่มั่นสุดท้ายของกลุ่มกบฏ รวมถึงใช้อาวุธระเบิดกับเฮลิคอปเตอร์ในการจัดการกับฝ่ายกบฏที่พยายามกลับมารุกอีกครั้ง
"ขอให้นี่เป็นบทเรียนแก่ผู้สนับสนุนรัฐบาล" กลุ่มอัล-นุสรากล่าว
มาน ซาเลห์ ผู้อำนวยการสถานีโทรทัศน์ช่องรัฐบาลกล่าวว่ายังไม่มีหลักฐานทางวัตถุที่ชี้ว่ามีการสังหารนักข่าวคนดังกล่าว โดยที่เมื่อเดือนที่แล้ว (ก.ค.) กลุ่มผู้สื่อข่าวไร้พรมแดนได้ระบุเรื่องที่ซาอีดถูกลักพาตัวในแถลงการณ์และเรียกร้องให้ปล่อยตัวเขา
ที่มา เรียบเรียงจาก
Assad forces launch massive assault on Aleppo, Aljazeera, 04-07-2012
A week in Aleppo - witnessing the fierce battle for Syria's largest city, The Independent, 04-07-2012
ติดตามความเคลื่อนไหวของ ประชาไท ทางอีเมล คลิกอ่าน http://goo.gl/8xIcV หรือเฟซบุ๊ค http://fb.me/Prachatai
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น