โพสต์แนะนำ

ประชาไท Prachatai.com

ประชาไท Prachatai.com พท.-ปชป จัดประชุมแก้ไขข้อบังคับพรรคฯ ส่วนรัฐบาลคสช. เตรียมฉีดเงินตำบลละ 5 แสน คพศ. ขอ ตร.เรียกตั...

ซิตี้แบงก์ ให้คุณสมัครบัตรเครดิต citibank ออนไลน์ ด้วยวิธีสมัครบัตรเครดิตง่ายๆ รู้ผลอนุมัตทันใจภายใน 5 วัน อยากทำบัตรเครดิตซิตี้แบงก์ สมัครออนไลน์ได้ทันทีที่นี่.

วันเสาร์ที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2554

ประชาไท | Prachatai3.info

ประชาไท | Prachatai3.info

Link to ประชาไท หนังสือพิมพ์ออนไลน์

เกิดอาฟเตอร์ช็อคขนาด 4.8 ริคเตอร์อีกรอบ ช่วงบ่ายวันนี้

Posted: 26 Mar 2011 02:20 AM PDT

สำนักงานสำรวจธรณีวิทยาสหรัฐอเมริกาเผยเกิดแผ่นดินไหวขนาด 4.8 ริคเตอร์อีกรอบ ทำให้มีอาฟเตอร์ช็อคเกิดขึ้นแล้ว 4 ครั้งนับตั้งแต่เกิดแผ่นดินไหวเมื่อคืนวันที่ 24 มี.ค.

สำนักสำรวจธรณีวิทยาสหรัฐอเมริกา (USGS) รายงานว่า เมื่อเวลา 12.57 น. วันนี้ (26 มี.ค.) เกิดเหตุแผ่นดินไหวขนาด 4.8 ริคเตอร์ ศูนย์กลางแผ่นดินไหวอยู่บริเวณละติจูดที่ 20.802 องศาเหนือ และลองติจูดที่ 100.047 องศาตะวันออก อยู่ห่างจากผิวโลก 10.2 กิโลเมตร

เว็บไซต์ของ USGS ระบุว่าศูนย์กลางแผ่นดินไหวอยู่ในประเทศลาว อย่างไรก็ตามจากการตรวจสอบพิกัดยังพบว่าศูนย์กลางแผ่นดินไหวยังคงอยู่ในรัฐฉาน ประเทศพม่า โดยศูนย์กลางแผ่นดินไหวอยู่ใกล้กับเมืองพะยาก ซึ่งอยู่ใกล้กับบริเวณที่เกิดแผ่นดินไหวเมื่อคืนวันที่ 24 มี.ค. ที่ผ่านมา

ทำให้ขณะนี้มีอาฟเตอร์ช็อคเกิดขึ้นแล้วอย่างน้อย 4 ครั้ง นับตั้งแต่เกิดแผ่นดินไหวขนาด 6.8 ริคเตอร์ เมื่อ 24 มี.ค. ดังกล่าว

 

 

สมัครรับข่าวความเคลื่อนไหวจากประชาไท ผ่านทางอีเมล ดูรายละเอียดที่ http://groups.google.com/group/prachatai-newspaper

นักข่าวพลเมือง: เครือข่ายผู้หญิง ! 19 องค์กรค้านประกวดธิดาแรงงาน

Posted: 26 Mar 2011 02:15 AM PDT

กลุ่มผู้หญิงฉุนคณะกรรมการจัดงานวันแรงงานแห่งชาติ จัดประกวดเทพธิดาแรงงาน ประกาศไม่เข้าร่วม หากฝืนจัด หยุดมองผูหญิงเพียงเครืองหมายการค้า โฆษณาการตลาด อย่ามาบิดเบือนเจตณารมณ์วันกรรมกร อย่าลดคุณค่าแรงงานหญิง

 

 
ตามที่คณะจัดงานวันแรงงานแห่หงชาติประกาศเปิดรับสมัครแรงงานหญิง เพื่อเข้าประกวดเทพธิดาแรงงาน วันที่ 26 มีนาคม 2554 เวลา 10.00 น. ห้องประชุมศุภชัย ศรีสติ มูลนิธิพิพิธภัณฑ์แรงงานไทยองค์กรผู้หญิง 19 องค์กรได้ร่วมกันแถลงการณ์คัดค้านการจัดการประกวดเทพธิดาแรงงาน ในวันแรงงานแห่งชาติ
 
นางสาว ธนพร วิจันทร์ ประธานกลุ่มบูรณาการแรงงานสตรี กล่าวว่า ไม่เห็นด้วยในการจัดประกวด ขอตั้งคำถามต่อคณะจัดงานวันกรรมกรสากลว่า การที่กลุ่มผู้หญิงได้มีการตั้งคำถามต่อแนวคิดการจัดประกวดเทพธิดาครั้งนี้ ที่มีการกำหนดสัดส่วนของแรงงานหญิง การแต่งกาย ระยะเวลาที่ต้องเข้าไปทำหน้าที่พรีเซ็นเตอร์ให้กับสำนักงานประกันสังคม ซึ่งทางประธานกรรมการจัดงานวันแรงงานแห่งชาติ ตอบว่า เป็นแนวคิดของรัฐบาล เนื่องจากหากไม่จัดจะนำดารามาเป็นพรีเซ็นเตอร์แทน และมีอัตราค่าจ้างราว 10 ล้านบาท เป็นแนวคิดที่แย่สุด แทนที่รัฐบาลจะคิดเรื่องการใช้สิทธิประโยชน์เป็นแรงจูงใจแรงงานนอกระบบเข้าสู่ระบบประกันสังคมกับคิดได้แค่เพียงการนำผู้หญิงที่สวยหุ้นดีมาโฆษณาสินค้า รัฐบาลต้องตอบ เพราะตนเห็นว่าดาราจะสวยขนาดไหนหากไม่มีสิทธิประโยชน์ที่น่าสนใจเสียเงินฟรีไม่มีใครเข้าสู่ระบบแน่นอน  รัฐบาลต้องตอบ หากยังดื้อจัดประกวดกลุ่มบูรณาการแรงงานสตรีจะไม่เข้าร่วมงานวันแรงงานแห่งชาติปีนี้ ทั้งนี้เราจะขอเข้าพบนางอัมพร นิติสิริ อธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน กระทรวงแรงงาน ในฐานะผู้หญิงเป็นเป็นเจ้าภาพจัดงานวันแรงงานแห่งชาติ เพื่อให้ยกเลิกการจัดประกวดเทพธิดาแรงงาน ในวันที่ 28 มีนาคม 2554 เวลา 13.00 น.ที่กระทรวงแรงงาน
 
นางสาวอรุณี ศรีโต ศูนย์ช่วยเหลือเด็กและสตรีชุมชนไทยเกรียง  กล่าวต่อประเด็น วันแรงงาน อดีต คือวันกรรมกรสากล เจตนารมณ์ให้คนงานมาพบปะแลกเปลี่ยนปัญหา ประเด็นถูกเอารัดเอาเปรียบ ถูกกดขี่ขูดรีด  เพื่อที่เสนอให้รัฐบาลแก้ไขปัญหา แต่ครั้งนี้การจัดงานไม่ได้มองถึง ปัญหาของคนงาน ตั้งใจบิดเบือนประวัติศาสตร์ การจัดประกวดเทพธิดาแรงงานว่า เป็นการบิดเบือนเจตนารมณ์ มองผู้หญิงเป็นเพียงโฆษณาสินค้า การที่เชิญนายกมาเปิดงานวันแรงงานแห่งชาติทุกปี ยังเห็นว่าพอทนได้เพราะเป็นการมารับข้อเสนอของแรงงาน เป็นความเดือดร้อนของแรงงาน แต่การที่คณะกรรมการจัดงานหันมาจัดประกวดผู้หญิงแรงงานเพื่อนำไปเป็นพรีเซ็นเตอร์โฆษณาการขยายประกันสังคมมาตรา 40 เป็นความสิ้นคิด ของผู้จัด เนื่องจากผู้หญิงที่เป็นแรงงาน เป็นได้ทั้งแม่ ลูก เป็นผู้มีคุณูปราการให้กับสังคมส่วนร่วม การตัดประกวดเป็นมุมมองที่ทำให้คุณค่าของผู้หญิงลดลง หากต้องการพรีเซ็นเตอร์เรื่องมาตรา 40 ตนคิดว่า ควรไปในชุมชนที่แรงงานนอกระบบอาศัยอยู่ ไปดูวิถีชีวิตของเขาแล้วเอามาสะท้อน แม้แต่ตนเองก็เป็นแรงงานนอกระบบคนหนึ่ง ยินดีเป็นพรีเซนเตอร์ให้
 
ด้านนางอารยา แก้วประดับ ฝ่ายสตรีสมาพันธ์แรงงานรัฐวิสากิจสัมพันธ์ กล่าวว่า แม้ว่าทางตัวแทนของสมาพันธ์ฯจะเข้าไปเป็นคณะกรรมการจัดงานด้วย ทางเราจะขอทบทวนการเข้าร่วมจัดงานวันแรงงานครั้งนี้ และรัฐวิสาหกิจไม่ขอส่งผู้หญิงเข้าประกวดร่วมด้วยเด็ดขาด
 
 นายจะเด็จ เชาว์วิไล ผอ. มูลนิธิเพื่อนหญิง กล่าวว่า สังคมไทยให้ความสวยงาม ให้ไทยเป็นใหญ่ เอาเปรียบทางเพศ ที่ผ่านมาแรงงานหญิงเกือบ 25 ล้านคนยังถูกเอารัดเอาเปรียบ ประโยชน์สังคมไทย ควรมีค่าจ้างที่เป็นธรรม ประวัติศาสตร์เน้นความลำบาก  คนงานมาจากการต่อสู้  การจัดงานควรสะท้อนปัญหา เพื่อนำเสนอแก้ไข
อย่างไรก็ตาม แถลงข่าวในวันนี้ เพื่อให้คณะจัดงานฯ ได้ตระหนักถึงสิทธิคนงานหญิง และอีกอย่างเพื่อให้ไตร่ตรองทบทวนในการจัดงานการประกวดครั้งนี้  หากการจัดประกวดฯยังมีการดำเนินต่อ กลุ่มผู้หญิงกำหนดยุทธศาสตร์การขับเคลื่อนสู่เครือข่ายแรงงานหญิง
 

 

 

 

แถลงการณ์

เรื่อง ขอคัดค้านการจัดประกวดเทพธิดาแรงงานในวันกรรมกรสากล

วันที่ 1 พฤษภาคม ของทุกปี เป็นวันสำคัญที่องค์กรแรงงานสากล ประกาศให้เป็นวันกรรมกรสากล หรือ เมย์เดย์  โดยเจตนารมณ์  ที่แท้จริง  เพื่อให้ทุกคนได้รู้ถึงคุณค่าของแรงงานตระหนักในความสำคัญของผู้ใช้แรงงาน ที่เป็นส่วนสำคัญในการสร้างเศรษฐกิจ ความกินดีอยู่ดีของมนุษยชาติ  ควรได้รับการยกย่อง ขณะเดียวนโยบายของรัฐต้องคุ้มครองป้องกัน  การเอาเปรียบและความไม่เป็นธรรมต่อแรงงานทั้งหญิง ชายและต้องคุ้มครองสิทธิในการรวมตัว อันเป็นพื้นฐานสำหรับการคุ้มครองแรงงาน

วันกรรมกรสากลจึงมีความหมายสำหรับขบวนแรงงาน ที่จะฟ้องร้องต่อสาธารณะชนให้รับรู้สภาพปัญหา ความยากลำบากของผู้ใช้แรงงาน การถูกละเลยจากการดูแลจากฝ่ายบริหาร และถูกกดขี่จากนายทุนอย่างไรขณะที่เป็นวันแห่งการแสดงพลัง  และรณรงค์เรียกร้องต่อผู้ใช้อำนาจปกครองให้แก้ไขปัญหา ที่สำคัญคือการจัดงานวันกรรมกรสากล เพื่อสร้างพลังความสามัคคี และสร้างความตระหนัก ถึงพลังของการต่อสู้ รวมตัวของผู้ใช้แรงงานเอง มิใช่การร้องขอความเมตตาจากใคร

ที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน มีความพยายามจากผู้มีอำนาจ และผู้ที่เอาเปรียบแรงงาน ในการเบี่ยงเบนลดทอนสาระสำคัญ ในเจตนารมณ์ของวันกรรมกรสากล ด้วยรูปแบบคณะกรรมการจัดงานวันกรรมกรสากล ที่มุ่งเน้นความบันเทิง และกิจกรรมอื่นๆ เพื่อให้สังคม  และผู้ใช้แรงงานลืมความสำคัญและเป้าหมายของวันกรรมกรสากลที่แท้จริงให้กลาย เป็นงานเฉลิมฉลองความสุข ทั้งที่ต้องเป็นวันที่เสนอความทุกข์ยาก  และข้อเสนอแนวทางแก้ไขในทัศนะของผู้ใช้แรงงาน ต่อสังคมและรัฐบาล

เมื่อรัฐบาลและสำนักงานประกันสังคม ( สปส. ) มีนโยบายจะประชาสัมพันธ์การประกาศใช้มาตรา 40 พ.ร.บ. ประกันสังคม  มีการจัดประกวดเทพธิดาแรงงาน เพื่อเป็นผู้ประชาสัมพันธ์ ฟังดูเหมือนให้เกียรติแรงงานหญิงอย่างยิ่ง แต่ในใบสมัครกำหนดให้ระบุ “ น้ำหนัก  ส่วนสูง  สัดส่วน  รอบอก  รอบเอว  รอบสะโพก ” ให้ใส่รองเท้าส้นสูงแต่งชุดไทย ชุดราตรี นอกจากนี้หลักเกณฑ์การตัดสินให้คะแนนใช้เกณฑ์พิจารณาจาก “ใบหน้า  รูปร่าง  บุคลิกภาพ”และเปิดโอกาสให้บริษัท  ห้างร้านส่งเข้าประกวดได้ คำถามคือเป้าหมายการประกวดเพื่ออะไร? กันแน่

องค์กรตามรายชื่อแนบท้ายนี้ขอคัดค้านการประกวดเทพธิดาแรงงานที่เป็นการลดทอน ศักดิ์ศรีคุณค่าแรงงานหญิงและกลายเป็นเครื่องมือเบี่ยงเบนลดทอนสาระ  เจตนารมณ์ของวันกรรมกรสากลทั้งที่แรงงานหญิงมีความสามารถ  เป็นพลังเคียงบ่าเคียงไหล่ชายในการต่อสู้ พิทักษ์ผลประโยชน์ของขบวนแรงงานเสมอมาขณะที่แรงงานหญิงเองยังเผชิญชะตากรรม แห่งการถูกเอาเปรียบ  ค่าตอบแทนที่ไม่เป็นธรรม  ขาดสวัสดิการและการดูแลคุณภาพชีวิต รวมทั้งไม่ได้รับโอกาสในการส่งเสริมให้มีส่วนร่วมในการตัดสินใจทุกระดับ ซึ่งรัฐและพรรคการเมืองต่างๆ ควรต้องเร่งกำหนดนโยบายมาแก้ไขปัญหาให้จริงจัง

โปรดตระหนักว่าขบวนแรงงานทั้งหญิงและชายเรียกร้องอย่างต่อเนื่องสนับสนุนการ ขยายประกันสังคมให้แรงงานนอกระบบและคนทำงานทุกรูปแบบอย่างเต็มที่โดยเฉพาะ อย่างยิ่ง เรื่องการบริหารงานประกันสังคมให้อิสระโปร่งใส  จึงจะทำให้งานและกองทุนประกันสังคมเป็นประโยชน์สูงสุดต่อผู้ใช้แรงงานทั้ง มวลแต่ขอคัดค้าน การจัดประกวดเทพธิดาแรงงาน  คัดค้านกการใช้แรงงานหญิง เป็นเครื่องมือเบี่ยงเบน ลดทอนสาระสำคัญของวันกรรมกรสากล

แม้จะมีการอ้างว่าไม่ได้ใช้งบประมาณจากสำนักงานประกันสังคม ( สปส. ) ในการประกวดแต่ใช้งบประมาณจากรัฐบาลซึ่งก็มาจากเงินภาษีที่เก็บจากประชาชน และ( สปส. ) ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าใช้เงินจำนวนมากเพื่องานนี้เช่นกัน

เราสนับสนุนการใช้เงินทุกบาททุกสตางค์จาก ( สปส . )  และจากภาษีประชาชนอย่างคุ้มค่า คัดค้านการประกวดเทพธิดาแรงงาน และส่งเสริมกิจกรรมที่เข้มข้นเพื่อสร้างพลัง ต่อรอง ของขบวนแรงงาน  ต่อสู้เพื่อผลประโยชน์ของขบวนแรงงานตามเจตนารมณ์วันกรรมกรสากลเถิด

องค์กรร่วมคัดค้าน

1. กลุ่มบูรณาการแรงงานสตรี
2. สมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหิจสัมพันธ์ ( สรส. )
3. ครือข่ายแรงงานนอกระบบ กรุงเทพมหานคร
4. สหพันธ์แรงงานขนส่งระหว่างประเทศ  ITF
5. สหพันธ์แรงงานนานาชาติกิจการเคมีภัณฑ์พลังงานเหมืองแร่และแรงงานทั่วไป  ICEM
6. สหพันธ์แรงงานเพื่อกิจการบริการสาธารณูประโภคระหว่างประเทศ  PSI
7. ศูนย์รณรงค์เพื่อสิทธิแรงงาน
8. กลุ่มผู้ใช้แรงงานสระบุรีและใกล้เคียง
9. กลุ่มสหภาพแรงงานย่านรังสิตและใกล้เคียง
10. กลุ่มสหภาพแรงงานย่านอ้อมน้อย อ้อมใหญ่
11. กลุ่มเพื่อนประชาชน
12. กลุ่มศึกษาพรรคการเมืองทางเลือก
13. เครือค่ายสหภาพแรงงานสากล UNI-TLC
14. โครงการรณรงค์เพื่อแรงงานไทย  TLC
15. มูลนิธิผู้หญิง
16 มูลนิธิเพื่อแรงงานหญิง
17 มูลนิธิเพื่อนหญิง
18 มูลนิธิเอ็มเพาเวอร์และเครือข่ายพนักงานบริการ
19 มูลนิธิแอคชั่นเอด

 

26   มีนาคม  2554        
ณ  พิพิธภัณฑ์แรงงานไทย

 

 

สมัครรับข่าวความเคลื่อนไหวจากประชาไท ผ่านทางอีเมล ดูรายละเอียดที่ http://groups.google.com/group/prachatai-newspaper

สถานการณ์แรงงานประจำสัปดาห์ 20 - 26 มี.ค. 2554

Posted: 26 Mar 2011 02:02 AM PDT

สอท.หนุนขึ้นค่าจ้าง​แรงงานฝีมือ รับมือหลัง​เปิด​เสรี AEC ป้องกัน​เกิดสมอง​ไหล

นายพยุงศักดิ์ ชาติสุทธิผล ประธานสภาอุตสาหกรรม​แห่งประ​เทศ​ไทย (สอท.) ​เปิด​เผยว่า จากน​โยบาย​การบังคับ​ใช้อัตราค่าจ้างมาตรฐานฝีมือ​แรงงาน​ใน 22 สาขา ของกระทรวง​แรงงาน ที่​เตรียมจะ​เสนอ​ให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) กำหนด​ให้นายจ้างต้องจ่ายค่าจ้าง​แรงงานฝีมือ​เฉลี่ยวันละ​ไม่ต่ำกว่า 250-690 บาทต่อวัน จะส่งผลดีต่อ​การพัฒนาอุตสาหกรรม​ไทย​ในอนาคต ​เพราะจะป้องกัน​ไม่​ให้​แรงงานประ​เภทฝีมือถูกดึง​ไป​ทำงาน​ในประ​เทศ​ เพื่อนบ้าน ​เมื่อ​เข้าสู่ประชาคม​เศรษฐกิจอา​เซียน (​เออีซี) ​ในปี 2558 ​ซึ่งจะมี​การ​เคลื่อนย้าย​แรงงาน​ได้อย่าง​เสรี

"​ในอนาคต​การ​แย่งชิง​แรงงานประ​เภท ฝืมือ ​โดย​การ​ใช้ค่าจ้างที่ถูก ​เนื่องจากกลุ่มทุนต่างๆ จะ​เข้ามาขยาย​การลงทุน​ในภาคอุตสาหกรรม​ในอา​เซียนมากขึ้น ​เพื่อรองรับตลาดสินค้าที่มี​ผู้บริ​โภครวมกัน 600 ล้านคน หาก​ไม่มี​การขึ้นค่า​แรงงาน​ในกลุ่มนี้บ้าง ​ก็จะ​เสี่ยงต่อ​การถูกซื้อตัวอย่างมาก ​โดย​เฉพาะสิงค​โปร์​และมา​เล​เซีย บางบริษัทค่าจ้างสูงกว่า​ไทยมาก ประกอบกับ​แนว​โน้ม​การ​ใช้​เครื่องจักร​และ​เทค​โน​โลยี​ใน​การผลิตที่มาก ขึ้น ​ทำ​ให้ต้องพัฒนาฝีมือ​แรงงาน​และ​เพิ่มค่าจ้าง​แรงงานด้วย"นายพยุงศักดิ์ กล่าว

​ทั้งนี้ภาคอุตสาหกรรม​เห็นด้วยที่จะ ขึ้นค่าจ้าง​แก่​แรงงานกลุ่มประ​เภทฝีมือ​ในระดับสูง​เพราะมองว่า​เป็น​การ​ ทำงานที่คุ้มค่า ​และสม​เหตุสมผล ต่างจากกรณีที่มี​การขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำ 8-17 บาทต่อวัน ​ซึ่งมีผลบังคับ​ใช้​เมื่อ​ในวันที่ 1 มกราคมที่ผ่านมานั้น ถือว่าที่สูง​เกิน​ความ​เป็นจริง

​ผู้สื่อข่าวรายงานว่ากระทรวง​แรงงาน ​เตรียม​เสนอ​การบังคับ​ใช้อัตราค่าจ้างมาตรฐานฝีมือ​แรงงาน​ใน 22 สาขาอาชีพ ​ให้ที่ประชุมครม.พิจารณาตามข้อ​เสนอของอนุกรรม​การค่าจ้างกลางที่​ได้หารือ กับนายจ้าง​และ​ผู้ที่​เกี่ยวข้อง ​เพื่อ​เพิ่มราย​ได้​แก่​แรงงานที่สามารถยกระดับคุณภาพ​การ​ทำงาน​ให้อยู่​ ในระดับมาตรฐาน ​โดยค่าจ้าง​แรงงานฝีมือจะ​แบ่ง​เป็น 3 ระดับ มีราย​ได้​เฉลี่ย​ไม่ต่ำกว่าวันละ 250-690 บาท

​โดยหลังจากที่มี​การประกาศ​ในราช กิจจานุ​เบกษา​และมีผลบังคับตามกฎหมาย​แล้ว นายจ้างราย​ใดฝ่าฝืน​ไม่จ่ายค่าจ้างตามมาตรฐานฝีมือ​แรงงานที่ลูกจ้าง​ได้ รับ จะมีอัตรา​โทษสูงสุดจำคุก​ไม่​เกิน 6 ​เดือน ​หรือปรับ​ไม่​เกิน 1 ​แสนบาท ​หรือ​ทั้งจำ​ทั้งปรับ

"​ความรู้สึกของ​ผู้ประกอบ​การหาก รัฐบาลขึ้นค่า​แรงที่มีฝีมือ จะ​แตกต่างจาก​การขึ้นค่า​แรงขั้นต่ำ ​เพราะ​แรงงานฝีมือนั้นจะมี​ความคุ้มค่ากับงานที่​ทำ ​และสอดคล้องกับ​ความจริง รวม​ถึง​เป็น​การ​แก้​ไขปัญหา​การขาด​แคลน​แรงงาน ส่วน​การ​เพิ่มค่า​แรงขั้นต่ำช่สงที่ผ่านมา ​เป็น​การดำ​เนิน​การที่​ไม่สม​เหตุผล ​แต่​เป็น​เพียง​การหา​เสียงหวังชนะ​การ​เลือกตั้งของรัฐบาล​แล้ว​โยนภาระ​ ให้​เอกชน" นายพยุงศักดิ์ กล่าว

(แนวหน้า, 21-3-2554)

ลำปางชี้ระวังพวกต้มตุ๋นหลอกทำงานเกาหลี

นางสาวรัตนา อุทัยรัตน์ จัดหางานจังหวัดลำปาง เปิดเผยว่า ขณะนี้ ทางกรมการจัดหางาน ได้มีการเปิดรับสมัครทดสอบความสามารถภาษาเกาหลี ครั้งที่ 10 เพื่อสมัครไปทำงานยังประเทศเกาหลี ตามระบบการจ้างแรงงานต่างชาติ จำนวนทั้งสิ้น 7,300 คน แบ่งเป็นแรงงานที่จะไปทำงานด้านอุตสาหกรรม 5,300 คน งานเกษตร งานเลี้ยงสัตว์ และงานก่อสร้าง อีก 2,000 คน สำหรับคุณสมบัติของผู้สมัคร เป็นเพศชาย หรือ หญิง อายุ 18 – 39 ปี ไม่จำกัดวุฒิการศึกษา

อย่างไรก็ตาม ส่วนของภาคเหนือ ได้กำหนดจัดและเปิดรับสมัครในช่วงวันที่ 28 มีนาคม – 1 เมษายน 2554 นี้ ที่สำนักงานจัดหางานจังหวัดลำปาง เพียงแห่งเดียว ทั้งนี้ จึงฝากเตือนให้ผู้ที่ประสงค์จะสมัครงาน ให้ติดต่อที่ สำนักงานจัดงานจังหวัดลำปางได้ เพียงแห่งเดียวเท่านั้น และขอเตือนให้แรงงานที่สนใจ ให้ระวัง เพราะอาจจะมีมิจฉาชีพทำการชักจูง และหลอกลวงคนหางานที่ต้องการจะไปทำงาน ในประเทศดังกล่าว

(สำนักข่าวไอเอ็นเอ็น, 21-3-2554)

วันรำลึกชาติพันธุ์ชนเผ่าปะโอ

 

19  มีนาคมวานนี้  ถือเป็นวันรำลึกชาติพันธุ์ของชนเผ่าปะโอ  อีกหนึ่งชนเผ่าที่อยู่ในประเทศพม่า  แต่ชาวปะโอในประเทศไทยที่ส่วนใหญ่เข้ามาขายแรงงาน  เลือกจัดกิจกรรมในวันนี้  เนื่องจากเป็นวันหยุดของพวกเขา

นี่คือคำยืนยันของวัยรุ่นที่รักใน ความเป็นชาวปะโอ   ชนกลุ่มน้อยหรือกลุ่มชาติพันธุ์ที่ไม่ค่อยมีใครรู้จักกันมากนัก  ยิ่งทำให้เสน่ห์ของชาวปะโอนั้นชัดเจนมากขึ้น  ภายใต้รากฐานทางวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวเองอย่างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นภาษาพูด  ภาษาเขียน  การแต่งกาย  และความสามารถทางดนตรี

ชาวปะโอ  หรือที่คนไทยเรียกว่ากะเหรี่ยงดำ  เป็นกลุ่มชนเผ่าเล็กๆ  ที่ส่วนใหญ่อาศัยอยู่ทางตอนใต้ของรัฐฉาน  ประเทศพม่า  รวมถึงจังหวัดเชียงราย เชียงใหม่ และแม่ฮ่องสอน  ของประเทศไทยด้วย  ก่อนจะเข้ามาขายแรงงานในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล

การเข้ามาทำงานของแรงงานข้ามชาติ เหล่านี้  ยังคงเป็นปัญหาอย่างต่อเนื่อง  รวมถึงการลักลอบเข้าเมือง   แม้บางคนจะเข้ามาอย่างถูกกฏหมายก็ยังคงถูกกดขี่  รีดไถ่จากเจ้าหน้าที่รัฐ  ก่อนจะตามมาด้วยการสวมสิทธิ์  และสวมบัตร

ชาวปะโอกลุ่มนี้หลายคนอยู่ในประเทศ ไทยมานานกว่า  10  ปี  จนรู้สึกผูกพัน  ชอบความเป็นอยู่  วิถีชีวิต  และเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น  พวกเขาจึงหวังว่าวันหนึ่งชาวปะโอจะสามารถเปิดเสรีภาพทางความคิดให้กับนานา ชาติได้รู้จัก  ด้วยมุมมองของคนรุ่นใหม่ผ่านความหลากหลายทางวัฒนธรรม

วิจารณ์แซด! จัดประกวด"เทพธิดาแรงงาน"ในวันเมย์เดย์ ไม่เหมาะสม จวกใช้เงิน 5 แสนไร้สาระ

เมื่อวันที่ 22 มีนาคม นางอารายา แก้วประดับ รองเลขาธิการสมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ (สรส.) และกรรมการจัดงานวันแรงงานแห่งชาติ ประจำปี 2554 เปิดเผยว่า ในการจัดงานวันแรงงานแห่งชาติ ประจำปี 2554 ในวันที่ 1 พฤษภาคม จัดประกวด "ธิดาแรงงาน" เพื่อคัดเลือกผู้หญิงไปเป็นพรีเซ็นเตอร์ในโครงการขยายความคุ้มครองประกัน สังคมในมาตรา 40 แห่ง พ.ร.บ.ประกันสังคม ซึ่ง สรส.และกลุ่มองค์กรสตรีได้เคลื่อนไหวคัดค้านกิจกรรมดังกล่าว เนื่องจากมองว่าไม่เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของการจัดงานวันแรงงานที่ต้องการ เฉลิมฉลองในวันสำคัญนี้
 
นางสุนี ไชยรส กรรมการจัดงานวันสตรีสากล กล่าวว่า ในการจัดงาน 100 ปีวันสตรีสากล ที่เพิ่งผ่านมาได้พูดถึงคุณค่าของสตรีในด้านความรู้ความสามารถหลากหลาย แต่การจัดงานวันแรงงานในปีนี้กลับย่ำยีแรงงานหญิง ทั้งๆ ที่วันแรงงานมีเป้าหมายเพื่อแสดงพลังให้สังคมได้รับรู้และสร้างอำนาจต่อกับ รัฐบาล อย่างไรก็ตาม การจัดการประกวดธิดาแรงงานครั้งนี้ได้ยินว่าใช้งบประมาณ 5 แสนบาท ไม่แน่ใจว่าเป็นงบประมาณจากสำนักงานประกันสังคม (สปส.) หรือไม่ แต่เป็นการคัดเลือกคนเพื่อเอาไปเป็นพรีเซ็นเตอร์ตามมาตรา 40 ซึ่งหากเป็นงบฯจาก สปส.จริงก็สะท้อนให้เห็นปัญหาการใช้จ่ายงบประมาณของ สปส.ที่ขาดการมีส่วนร่วมที่แท้จริง และเป็นการนำมาใช้อย่างอีลุ่ยฉุยแฉก
 
น.ส.ธนพร วิจันทร์ ประธานกลุ่มบูรณาการสตรี กล่าวว่า คัดค้านเรื่องนี้มาโดยตลอด เพราะการเอาผู้หญิงมาเดินโชว์ โดยดูจากรูปร่างหน้าตา และส่วนสูง ไม่ใช่เป็นวิธีการที่ดี การหาพรีเซ็นเตอร์มาตรา 40 นั้นไม่คัดค้าน แต่ไม่เห็นด้วยเพราะแทนที่จะเอาเจ้าของปัญหามาร่วมสะท้อน กลับคัดคนด้วยการประกวด ทั้งนี้จะทำหนังสือคัดค้านไปยังสปส.ที่มีการเอาเงิน 5 แสนมาใช้เช่นนี้ รวมทั้งทำหนังสือคัดค้านไปที่คณะกรรมการจัดงานวันแรงงานเพื่อแสดงเจตนารมณ์ ไม่เห็นด้วย

ข่าวแจ้งว่าคณะกรรมการจัดงานวันแรง งานฯได้จัดทำระเบียบการประกวดเทพธิดาแรงงาน ซึ่งถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักเกี่ยวกับการกำหนดคุณสมบัติ อาทิ ต้องมีสุภาพสตรีสัญชาติไทย อายุ 18-35 ปี เป็นโสดหรือสมรสแล้วก็ได้ โดยสามารถยื่นใบสมัครตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน ซึ่งผู้ชนะจะได้รับเงินรางวัล 5 หมื่นบาท และของรางวัลพิเศษอื่นๆ ส่วนรองอันดับ 1 ได้รับเงินรางวัล 3 หมื่นบาท รองอันดับ 2 ได้รับรางวัล 2 หมื่นบาท แต่มีเงื่อนไขว่าผู้ที่ได้รับตำแหน่งเทพธิดาแรงงานและรอง 2 คน ต้องเป็นตัวแทนในการถ่ายโปสเตอร์ของกระทรวงแรงงานและสำนักงานประกันสังคมโดย มีภาระผูกพันกับกองประกวด 1 ปี

(มติชน, 23-4-2554)

เปิดรับคนไปทำงานเกาหลี กว่า 7 พันคน-ยื่นด้วยตนเอง

น.ส.รัตนา อุทัยรัตน์ จัดหางานจังหวัดลำปาง เปิดเผยว่า กรมการจัดหางานได้เปิดรับสมัครทดสอบความสามารถภาษาเกาหลี ครั้งที่10 เพื่อรับสมัครไปทำงานประเทศเกาหลี ตามระบบการจ้างแรงงานต่างชาติ 7,300 คน แบ่งเป็นด้านอุตสาหกรรม 5,300 คน งานเกษตร งานเลี้ยงสัตว์และก่อสร้าง 2,000 คน ซึ่งคุณสมบัติผู้สมัครเป็นเพศชายหรือหญิง อายุ 18-39 ปี ไม่จำกัดวุฒิการศึกษา ไม่เป็นโรคต้องห้ามที่เกาหลีกำหนด ได้แก่ ไวรัสตับอักเสบบี เอดส์ วัณโรค นิ่วในไต เบาหวาน ความดันโลหิตสูง โรคจิตวิปริต ตาบอดสี สายตาสั้น รวมถึงไม่มีประวัติการลงโทษจำคุก ไม่มีประวัติเกี่ยวข้องยาเสพติด

ในส่วนภาคเหนือทางกรมการจัดหางานได้ กำหนดวันเปิดรับสมัคร วันที่ 28 มีนาคม-1 เมษายน 2554 ที่สำนักงานจัดหางานจังหวัดลำปาง ชั้น 3 ศูนย์ราชการจังหวัดลำปาง ต.พระบาท อ.เมือง เพียงแห่งเดียว

น.ส.รัตนา กล่าวว่า มิจฉาชีพอาจหลอกคนหางานที่ต้องการไปทำงานประเทศเกาหลีว่าสามารถช่วยได้ จัดหางานจังหวัดลำปาง ขอประกาศอย่าหลงเชื่อให้มาสมัครด้วยตนเอง การสมัครเก็บค่าธรรมเนียม 750 บาทเท่านั้น การออกข้อสอบ การดำเนินงานสอบและการตรวจข้อสอบ รวมทั้งการส่งรายชื่อผู้สอบผ่านให้นายจ้าง เกาหลีจะคัดเลือกตามความต้องการโดยสถาบันพัฒนาทรัพยากรมนุษย์เกาหลี ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ได้รับมอบจากกระทรวงแรงงานเกาหลี และกรมการจัดหางานจะเป็นหน่วยงานผู้จัดส่งเพียงหน่วยงานเดียว ดังนั้น บุคคลที่มาแอบอ้างและชักจูงจะไม่สามารถช่วยได้ ผู้ได้เดินทางไปทำงานคือผู้ที่ได้รับคัดเลือกจากนายจ้างเกาหลีเท่านั้น

ส่วนการเตรียมพร้อมด้านภาษานั้น ผู้สมัครสามารถหาซื้อหนังสือมาศึกษาด้วยตนเอง หรือเลือกเรียนในโรงเรียนสอนภาษา ขึ้นอยู่กับดุลพินิจและการตัดสินใจของผู้สมัครสอบ สำนักงานจัดหางานจังหวัดลำปาง ได้จัดเจ้าหน้าที่ให้คำปรึกษาเรื่องดังกล่าวโดยติดต่อได้ที่ 054 - 265051-2 

(คม ชัด ลึก, 23-4-2554)

นักวิชา​การ​เห็นด้วยตั้งกรอบคุณวุฒิ​แห่งชาติ สามารถ​เชื่อม​โยงกับคุณวุฒิ​ในระดับสากล​ได้

ดร.ศิริพรรณ ชุมนุม ที่ปรึกษา​ผู้ทรงคุณวุฒิ สำนักงาน​เลขาธิ​การสภา​การศึกษา​และคณะวิจัย กล่าว​ถึงผล​การพัฒนากรอบคุณวุฒิว่า กรอบคุณวุฒิ​แห่งชาติ (NQF) ​เป็นกรอบที่​แสดง​ให้​เห็นระดับ​ความสัมพันธ์ระหว่างคุณวุฒิ​การศึกษา​และ คุณวุฒิวิชาชีพ​หรือระดับ​ความสามารถ​ใน​การปฏิบัติงานของบุคคล ที่มี​เกณฑ์มาตรฐาน​เป็นที่ยอมรับ​และ​เป็น​เครื่องมือพัฒนา​และจัดประ​เภท คุณวุฒิของชาติ​ในระดับต่างๆ ​และสามารถ​เชื่อม​โยงกับคุณวุฒิ​ในระดับสากล ​ซึ่งประ​เทศ​ไทยมี​แต่กรอบมาตรฐานของ​แต่ละระดับ ​เช่น อุดมศึกษา อาชีวศึกษา ​การศึกษาขั้นพื้นฐานที่บอกว่าจะจบ​การศึกษาต้องมีสมรรถนะอะ​ไร ​แต่ยัง​ไม่มีกรอบ​ใหญ่ที่ครอบคลุมทุกระดับ​การศึกษา​หรือกรอบคุณวุฒิของประ ​เทศ

สำหรับ​การดำ​เนิน​การ จะ​เริ่มจาก​การศึกษากรอบคุณวุฒิ​ในประ​เทศต่างๆ ​เช่น กรอบคุณวุฒิ​แห่งชาติของ EU ​และของประ​เทศต่างๆ ​เช่น อังกฤษ ออส​เตร​เลีย ​และประ​เทศ​ในอา​เซียน หลังจากนั้นนำมาวิ​เคราะห์กับ​การศึกษาของ​ไทย ​ซึ่งพบว่าประ​เทศ​ไทยสามารถ​แบ่งระดับคุณวุฒิ​ได้ ๗ ระดับ ตั้ง​แต่ม. ต้น ​ถึง ปริญญา​เอก ​โดย​เน้นองค์ประกอบสำคัญ ๓ ด้าน คือ ๑.ด้าน​ความรู้ ​เช่น ​ความรู้คอมพิว​เตอร์ ​ความรู้ภาษาอังกฤษ ๒. ด้านทักษะ ๓. ด้านสมรรถนะ ​เช่น ​การ​แก้ปัญหา ​ความรับผิดชอบ ​การ​ทำงาน​เป็นทีม ​เป็นต้น ​ซึ่งองค์ประกอบ​ทั้ง ๓ จะ​แตกต่างกัน​ไป​ใน​แต่ละระดับ ​ซึ่งหัว​ใจสำคัญของระบบคุณวุฒิวิชาชีพ คือ สมาคมวิชาชีพ ​ผู้ประกอบ​การต้องมีบทบาทสำคัญ​ใน​การกำหนดมาตรฐานอาชีพ ว่าอาชีพนั้น ๆ ต้อง​การคนที่มีลักษณะ​ใด ​และต้องมีหน่วยงานกลางมารับผิดชอบจัด​ทำคุณวุฒิวิชาชีพ สถาบัน​การศึกษา​ก็ต้องพัฒนาหลักสูตร​ให้สอดคล้องกับคุณวุฒิวิชาชีพที่สมาคม วิชาชีพต้อง​การด้วย

นายจิระพันธ์ กัลประวิทย์ ​ผู้อำนวย​การสำนักยุทธศาสตร์​และ​การวาง​แผนพัฒนาสังคม สำนักงานคณะกรรม​การพัฒนา​การ​เศรษฐกิจ​และสังคม​แห่งชาติ กล่าวว่า ปัญหา​เรื่องกำลังคนของ​ไทย คือ ๑. ค่านิยมที่คนมุ่ง​เรียนปริญญาตรี ​ไม่มีคนอยาก​เรียนอาชีวะ ๒. คุณภาพ​การผลิต ​ไม่ตรงตาม​ความต้อง​การของภาคอุตสาหกรรม ​ทำ​ให้ภาคอุตสาหกรรมต้อง​เสีย​เวลาผลิต ๓. คนที่จบ​การศึกษา​ก็คิดว่าตนจบ​แล้ว​จึง​ไม่สน​ใจ​เรียนรู้อย่างต่อ​เนื่อง ขาด​ความคิดที่จะ​เรียนรู้ตลอดชีวิต ​ทำ​ให้​ไม่ทันต่อ​เทค​โน​โลยีที่​เปลี่ยน​แปลง​ไปตลอด​เวลา ​จึง​เกิดปัญหาต้องออกจากงาน ​เพราะ​ทำ​ไม่​ได้ ๔. ประ​เทศ​ไทยต้อง​เตรียมรองรับ​การ​เคลื่อนย้าย​แรงงาน​เสรีของประชาคมอา​ เซียน ถ้า​ไม่มีมาตรฐาน ​ไม่มีระบบคุณวุฒิวิชาชีพที่สามารถ​เปรียบ​เทียบกับต่างประ​เทศมารองรับ คน​ไทยอาจสู้ประ​เทศอื่น​ไม่​ได้ ​เรื่องของกรอบมาตรฐาน​แห่งชาติ​จึง​เป็น​เรื่องสำคัญ ดังนั้น องค์ประกอบ ๓ ด้าน คือ ​ความรู้ ทักษะ ​และสมรรถนะ จะอยู่​แต่​เพียง​ในกระดาษ​ไม่​ได้ ต้อง​เอา​ไปปฏิบัติ ​ซึ่งอย่าง​แรกต้องมีกฎหมายรองรับ ​ซึ่งขณะนี้ผ่าน ครม. ​แล้ว กำลังรอผ่านสภา​ผู้​แทนอนุมัติ ​และ๒. ต้องมีสถาบันกลางมารับผิดชอบ​การจัด​ทำคุณวุฒิ​แห่งชาติ ​เพราะอุตสาหกรรมมีหลากหลายสาขา ​การจัด​ทำคุณวุฒิจะ​เป็น​แกนกลางที่ครอบคลุมทุกกลุ่มอาชีพ ดังนั้น​ผู้ประกอบ​การ​จึงต้องมาร่วมกันกำหนดว่า​แต่ละอุตสาหกรรมต้อง​การคน ​ในคุณลักษณะ​ใด ​เมื่อ​ได้มาตรฐาน​แล้ว ​ในอนาคตสถาบันกลาง​ก็จะ​ใช้​เป็น​เกณฑ์​ใน​การ​เทียบสมรรถนะกับคุณวุฒิ​การ ศึกษาต่อ​ไป

(แนวหน้า, 23-4-2554)

ส่งศาลรธน.ตีความจ่ายเงินสมทบขัด รธน. หรือไม่

วันนี้  23  มี.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า   ที่กระทรวงแรงงาน นายสมเกียรติ ฉายะศรีวงศ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน แถลงภายหลังการประชุมร่วมกับผู้แทนองค์กรที่เกี่ยวข้องกรณีจัดเก็บเงินสมทบ ประกันสังคมว่า จะนำข้อเสนอของชมรมพิทักษ์สิทธิผู้ประกันตนที่เรียกร้องไม่ต้องจ่ายเงินสมทบ กรณีรักษาพยาบาล เนื่องจากขัดรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2550 มาตรา 30 เข้าที่ประชุมกรรมการประกันสังคม (บอร์ดสปส.) ภายในต้นเดือนเม.ย. เพื่อหารือว่าควรส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความหรือไม่ ขณะเดียวกันระหว่างที่ยังไม่มีความชัดเจนจากศาลรัฐธรรมนูญจะเร่งให้สำนักงาน ประกันสังคม (สปส.)ปรับปรุงสิทธิประโยชน์การรักษาพยาบาลให้ดีขึ้น
 
"ถ้ามองในมุมแคบคือส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความ แต่ถ้ามองในภาพรวมว่ารัฐต้องให้การดูแลประชาชนอย่างเสมอภาคก็ควรขยายสิทธิ ประกันสังคมให้ครอบคลุมไปถึงประชาชนกลุ่มอื่นๆที่ยังไม่อยู่ในระบบด้วย ช่วงนี้อยากให้กลุ่มที่เคลื่อนไหวหยุดวิพากษ์วิจารณ์ และปฏิบัติตามที่กฎหมายกำหนดไปก่อน"นายสมเกียรติกล่าว
 
ด้านพญ.อรพรรณ เมธาดิลกกุล ผู้เชี่ยวชาญด้านแพทย์เวชศาสตร์สิ่งแวดล้อม กล่าวว่า กฎหมายที่ขัดรัฐธรรมนูญคือกฎหมายหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ มากกว่า เพราะกฎหมายระบุว่าผู้ยากไร้มีสิทธิได้รับการรักษาพยาบาลสาธารณสุขของรัฐโดย ไม่เสียค่าใช้จ่าย แต่สปสช.กลับเปิดให้ผู้ที่ไม่ยากไร้มาใช้สิทธิด้วย เป็นการสร้างภาระงบประมาณแก่แผ่นดิน เริ่มแรกใช้เงิน 3-4 หมื่นล้าน แต่ปัจจุบันต้องใช้เงินค่ารายหัวรวมกว่า 1.2 แสนล้าน เพิ่มขึ้นจากปีแรกถึง 141 %ทั้งนี้ระบบ สปสช.กำลังถูกตรวจสอบในเรื่องการใช้งบประมาณว่ามีความโปร่งใสหรือไม่ รวมทั้งมีคำถามว่าจะไปรอดหรือไม่ เทียบกับประกันสังคมที่มีมา 20 ปีซึ่งได้รับการพิสูจน์แล้วว่าดี  ควรหรือไม่ที่จะเปิดให้ประชาชนที่ไม่ยากไร้และรับสิทธิฟรีมาร่วมจ่ายในระบบ ประกันสังคม
 
นายสุธรรม นทีทอง ที่ปรึกษาคณะกรรมการประกันสังคม กล่าวว่า หากพูดถึงการดูแลจากรัฐโดยเสมอภาค ปัจจุบันผู้ยากไร้เป็นกลุ่มที่ได้รับการดูแลจากรัฐน้อยที่สุดคือ มีสิทธิบัตรทอง ได้ค่าใช้จ่ายรายหัวประมาณ 2,800 บาท กับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ 500 บาท ขณะที่ผู้ประกันตนได้รับการดูแลจากรัฐและนายจ้างรวมกัน 7,470 บาท/ปี ฉะนั้นหากพูดถึงความเท่าเทียมต้องเอาตัวเลขทั้งหมดในภาพรวมมาพูดกัน อย่าดูแบบแยกส่วนเฉพาะการรักษาพยาบาล
 
ขณะที่น.ส.สุภัทรา นาคะผิว ตัวแทนชมรมพิทักษ์สิทธิ์ผู้ประกันตน กล่าวว่าประเด็นที่เรียกร้องคือ 1.ตีความว่าการจ่ายสมทบขัดรัฐธรรมนูญหรือไม่ และ 2.ระหว่างที่ยังรอความชัดเจนจะมีมาตรการใดให้ผู้ประกันตนหยุดจ่ายเป็นการ ชั่วคราวจนกว่าจะได้ข้อยุติ เพราะปัจจุบันมีข้าราชการ 5 ล้านคน รัฐอุดหนุนเงินให้ 9 หมื่นล้านบาทต่อปี ผู้ใช้สิทธิบัตรทอง 48 ล้านคน รัฐอุดหนุนให้ 1.2 แสนล้านบาทต่อปี แต่ผู้ประกันตน 9.4 แสนคน กลับต้องจ่ายเงินเอง กลายเป็นความซ้ำซ้อนเพราะจ่ายภาษีไปแล้วยังต้องมาจ่ายเงินสมทบอีก

(เดลินิวส์, 23-3-2554)

เตือน​แรงงาน​ไทยลิ​เบีย ยื่นขอคืนค่าบริ​การ 30 วัน

นาย​โชคชัย ศรีทอง ​ผู้ตรวจราช​การกรม​การจัดหางาน หัวหน้าศูนย์ช่วย​เหลือ​แรงงาน​ไทย​ในลิ​เบีย กล่าวว่า กระทรวง​แรงงาน​ได้มี​การติดตามสถาน​การณ์​ในลิ​เบียอย่างต่อ​เนื่อง สำหรับ​แรงงาน​ไทยที่​เดินทางกลับมาก่อนหน้านี้ ขณะนี้​ได้มี​การขอรับ​เงินช่วย​เหลือจำนวน 15,000 บาท จากกองทุน​เพื่อช่วย​เหลือคนหางาน​ไป​ทำงานต่างประ​เทศ​ไปบางส่วน​แล้ว​ใน จังหวัดต่างๆ ส่วนกรณีที่​แรงงาน​ไทยที่​เดินทาง​ไป​ทำงานที่ประ​เทศลิ​เบีย ​ได้ร้อง​เรียนผ่านกรม​การจัดหางานว่า บริษัทจัดหางานที่จัดส่ง​ไม่จ่าย​เงินค่าบริ​การจัดส่งคืน ​ซึ่ง​เป็น​เรื่องที่บริษัทจะต้องรับผิดชอบหาก​เกิด​เหตุฉุก​เฉินจนคนงาน​ ไม่สามารถ​ทำงานครบสัญญาจ้าง

ตามกฎหมายกรณีของลิ​เบียนั้น ถือว่า​ไม่​ได้งานตามที่กำหนด​ในสัญญาจ้าง ดังนั้น​แรงงานมีสิทธิ​เรียกค่าบริ​การจัดส่งคืนจากบริษัทจัดหางานที่​เป็น​ ผู้จัดส่ง​โดยต้องมายื่นคำร้องที่กรม​การจัดหางาน​หรือสำนักงานจัดหางาน จังหวัด ภาย​ใน 30 วัน นับจากวันที่​เดินทางกลับ​ถึงประ​เทศ​ไทย​ซึ่งนายทะ​เบียนจัดหางานจะ​เป็น​ ผู้พิจารณา​ให้บริษัทจัดหางานจ่ายค่าบริ​การจัดส่งคืน​โดยจะออกหนังสือคำ สั่ง​ให้จ่าย​เงิน หากบริษัท​ไม่จ่าย​เงินคืนภาย​ในวัน​เวลาที่กำหนดกรม​การจัดหางานจะออก หนังสือคำสั่งหัก​เงินประกันของบริษัทจัดหางานที่​ได้วาง​ไว้จำนวน 5 ล้านบาท นำมาจ่ายคืน​ให้กับ​แรงงาน ​และหาก​เงินหลักประกัน​ไม่พอชด​ใช้​ให้คนงาน​ได้​ทั้งหมด ยังสามารถยื่นฟ้องต่อศาล​แรงงาน​ให้สั่งชด​ใช้​ความ​เสียหาย​ให้กับคนงาน​ ได้

(บ้านเมือง, 24-3-2554)

แรงงานลั่น จุดยืน 5 ข้อปฏิรูปประกันสังคม ถ้าไม่ได้ เราไม่เอา

วันนี้ (24 มี.ค.54) เวลา 10.30 น. แรงงานประมาณ 200 คน ภายใต้การนำโดยคณะกรรมการสมานฉันท์แรงงานไทย (คสรท.) รวมตัวกันบริเวณตรงข้ามอาคารรัฐสภา เพื่อแสดงพลังยืนยันข้อเสนอของคนงานต่อการปฏิรูปประกันสังคม และยื่นหนังสือผ่านคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติประกัน สังคม (ฉบับที่...) พ.ศ. ... ไปถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน และเพื่อผลักดันให้คณะกรรมาธิการฯบรรจุข้อเสนอของ คสรท. ที่มีหัวใจสำคัญ คือต้องการให้ปรับปรุงสำนักงานประกันสังคมจากหน่วยราชการเป็นองค์กรอิสระ ไว้ในพระราชบัญญัติประกันสังคมฉบับใหม่ที่กำลังพิจารณาอยู่

เนื่องจากขณะนี้ คสรท.เห็นว่าหลักการและเจตนารมณ์ของการปฏิรูประบบประกันสังคมที่เสนอไว้ใน ร่างพระราชบัญญัติประกันสังคม (ฉบับที่...) พ.ศ. ... หรือฉบับบูรณาการแรงงานที่เครือข่ายพัฒนาคุณภาพชีวิตแรงงานร่วมกันยกร่างขึ้น ไม่ได้ถูกหยิบยกมาเป็นสาระสำคัญแต่อย่างใด เนื่องจากสภาผู้แทนราษฎรถือเอาร่าง พ.ร.บ.ประกันสังคม (ฉบับที่...) พ.ศ. ... ที่เสนอโดยคณะรัฐมนตรีเป็นหลักในการพิจารณา ร่างพระราชบัญญัติที่กำลังพิจารณาอยู่จึงยังไม่ตอบโจทย์การปฏิรูประบบประกัน สังคมให้ไปสู่ความเป็นองค์กรอิสระ โปร่งใส และไม่เป็นไปตามเจตนารมณ์ของสมาชิกผู้ประกันตนกว่า 9.4 ล้านคนที่เป็นเจ้าของทุนประกันสังคม

ต่อมาเวลา 12.30 น. นางผุสดี ตามไท รองประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติประกันสังคม (ฉบับที่...) พ.ศ. ... และนายสถาพร มณีรัตน์ ส.ส.พรรคพลังประชาชน ออกมารับหนังสือจากนางสาวธนพร วิจันทร์ คณะกรรมการอำนวยการสมานฉันท์แรงงานไทยในฐานะตัวแทนกลุ่มแรงงาน โดยนางผุสดี ได้กล่าวตอบต่อกลุ่มแรงงานที่มาแสดงจุดยืนว่า เราไม่ได้นิ่งนอนใจต่อปัญหาเดือดร้อนของแรงงาน ในฐานะที่ทำงานฝ่ายนิติบัญญัติก็อยากทำกฏหมายให้ดีและอยากให้ผ่านเร็วที่สุด แต่ผลจะเป็นอย่างไรอยู่ที่ฟ้าและดิน เพราะเราต่างก็มีข้อจำกัดในการทำงานด้วยกันทั้งสองฝ่าย ยืนยันว่าสภาจะหาที่ลงให้ข้อเสนอของแรงงาน แต่คงไม่ได้ทั้งร้อยเปอร์เซ็นต์ จึงขอเสนอให้เรียงลำดับความสำคัญสิ่งใดอยากได้ก่อนได้หลัง

ขณะที่นางสาววิไลวรรณ แซ่เตีย กรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติประกันสงคม (ฉบับที่...) พ.ศ. ... ในฐานะรองประธานกรรมการสมานฉันท์แรงงานไทย กล่าวว่า ถ้าประเด็นของเราไม่ได้รับพิจารณา เราก็ไม่เอา เรารับไม่ได้ และจะเคลื่อนไหวต่อ แต่ถ้ารัฐบาลเอาข้อเสนอ 5 ข้อ เราก็จะสนับสนุน

สำหรับข้อเสนอ 5 ข้อเพื่อการปฏิรูประบบประกันสังคมของคณะกรรมการสมานฉันท์แรงงานไทย มีดังนี้
1.ประกันสังคมต้องเป็นองค์กรอิสระ
2.ความโปร่งใสและกระบวนการตรวจสอบ
3.บัตรเดียวรักษาได้ทุกโรงพยาบาลคู่สัญญา
4.หนึ่งคนหนึ่งเสียงในการเลือกตั้งคณะกรรมการประกันสังคม
5.ประกันสังคมถ้วนหน้าเพื่อคนทำงานทุกคน

กลุ่มแรงงานได้กล่าวปราศรัยทิ้งท้าย ก่อนแยกย้ายว่า หวังว่าคณะกรรมาธิการฯจะนำข้อเสนอของเราไปพิจารณา และถ้าไม่ได้เราจะกลับมาใหม่อย่างแน่นอน

(ประชาไท, 24-3-2554)

ก.แรงงานเตรียมนำร่องนำเข้าแรงงานบังกลาเทศ แทนแรงงาน 3 สัญชาติ

ก.แรงงาน 24 มี.ค.- ก.แรงงาน เตรียมนำร่องนำเข้าแรงงานต่างด้าวจากบังกลาเทศ เผยเป็นทางเลือก หลังแรงงาน 3 สัญชาติ มีปัญหานำเข้าแบบถูกกฎหมายยาก ชี้บังกลาเทศมีความพร้อมสูง ส่งออกแรงงานปีละ 10 ล้านคน

นายสมเกียรติ ฉายะศรีวงศ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน กล่าวภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการพิจารณาการทำงานของคนต่างด้าว ว่าที่ประชุมได้มีการพิจารณาเพื่อนำร่องนำเข้าแรงงานสัญชาติบังกลาเทศอย่าง ถูกต้องตามกฎหมาย เพื่อทดแทนแรงงานต่างด้าว 3 สัญชาติ ได้แก่ พม่า ลาว และกัมพูชา ที่เป็นแรงงานผิดกฎหมาย ซึ่งระบบนี้เป็นการใช้แรงงานต่างด้าว ในประเทศที่ เพื่อเป็นทางเลือกให้กับกลุ่มผู้ประกอบการในประเทศที่ยังประสบปัญหาขาดแคลน แรงงาน  ขณะเดียวกันก็เป็นการแก้ปัญหาความมั่นคงในประเทศ ที่ยังมีการลักลอบจ้างแรงงานต่างด้าว อย่างไรก็ตาม ที่ประชุมยังไม่ได้มีการพูดถึงตัวเลขนำเข้าแรงงานบังกลาเทศที่ชัดเจน เพราะจะต้องกำหนดรายละเอียดประเภทกิจการ ที่จะอนุญาตให้เข้ามาทำงาน  แต่เบื้องต้นคงหนีไม่พ้นงานกรรมการ ก่อสร้าง  และงานแม่บ้าน

นายสมเกียรติ กล่าวอีกว่า ในประเภทกิจการแม่บ้านและงานก่อสร้างนั้น แรงงานทั้ง 3 สัญชาติ คือพม่า ลาว และกัมพูชา ที่ทำงานในประเทศไทย มีข้อจำกัดที่ติดระเบียบขั้นตอนที่ยุ่งยาก ขณะที่แรงงานสัญชาติบังกลาเทศมีความพร้อมมากกว่า โดยบังกลาเทศเป็นประเทศที่ส่งแรงงานออกไปทำงาน ในจำนวนสูงถึง 10 ล้านคน  ทั้งนี้ที่ผ่านมา ทางการไทยได้มีการแจ้งความประสงค์ไปยังประเทศพม่า เพื่อขอนำเข้าแรงงานพม่าจำนวน 100,000 คน  แต่ได้มาแค่ 1,803 คน เท่านั้น  ซึ่งถือเป็นตัวเลขที่น้อยมากเมื่อเทียบกับความต้องการ  นอกจากนี้จะมีการพิจารณาถึงการนำแรงงานต่างด้าวสัญชาติอินโดนีเซียเข้ามาภาย หลังด้วย

ทั้งนี้ หากมีการกำหนดประเภทกิจการเป็นที่เรียบร้อย คณะกรรมการพิจารณาการทำงานของคนต่างด้าวก็สามารถทำเรื่องเสนอขอความเห็นชอบ จากคณะรัฐมนตรีได้ โดยไม่ต้องผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการบริหารแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้า เมือง (กบร.)

ขณะนี้นโยบายการจัดระเบียบแรงงาน ต่างด้าวเดินมาถูกทางแล้ว เพราะเราต้องการปิดกั้นแรงงานผิดกฎหมายเข้ามาทำงานในประเทศ ขณะเดียวกันจะเปิดทางให้กับกลุ่มแรงงานที่ถูกกฎหมายนำเข้า เพื่อทดแทนแรงงานผิดกฎหมายนั้น ซึ่งกระบวนการนั้นจะต้องทำควบคู่ไปกับระบบการทำบัตร เพื่อจะได้รู้ถึงความเคลื่อนไหวของแรงงานกลุ่มนี้นายสมเกียรติ กล่าวและว่า  ส่วนกรณีที่มีแรงงานต่างด้าวจำนวน 200,000 คน ไม่มาขออนุญาตทำงานนั้น ขณะนี้ได้มีการประสานไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อดำเนินการจับกุมแล้ว เนื่องจากถือเป็นแรงงานที่ผิดกฎหมายโดยปริยายนายสมเกียรติ กล่าว

(สำนักข่าวไทย, 24-3-2554)

'เฉลิมชัย' ยันคุมเข้มแรงงานต่างด้าว รับมือเอกชนช่วยสอบขู่ผิดเชือดทันที

เมื่อวันที่ 24 มี.ค. ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.แรงงาน ได้ตั้งกระทู้ถามสดนายกรัฐมนตรี เรื่อง การเรียกเก็บหัวคิวจากแรงงานต่างด้าว ว่า แรงงานที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียน และคนที่เคลื่อนย้ายแรงงานถือว่าเป็นการเคลื่อนย้ายที่ไม่ถูกกฎหมายและหาก จับได้จะถูกผลักดันให้กลับประเทศโดยทันที และขณะนี้รัฐบาลได้ประกาศขึ้นทะเบียนแรงงานเพื่อพิสูจน์สัญชาติไปแล้ว หากยื่นช้ากว่าการขึ้นทะเบียนถือว่าเป็นแรงงานที่เข้าเมืองผิดกฎหมายทั้ง สิ้น  และตนได้กำชับส่วนราชการหากมีกรณีนี้เกิดขึ้นจะมีชุดเฉพาะกิจไปดำเนินการจับ กุม
  
รมว.แรงงาน กล่าวต่อว่า ส่วนกระบวนการพิสูจน์สัญชาติ กระทรวงแรงงานมีกติกาชัดเจนว่าการดำเนินการจะเรียกเก็บเงินไม่เกิน 4,500 บาท ซึ่งกระบวนการในการดำเนินการนั้น จะต้องตรวจสอบทั้งฝ่ายไทยและฝ่ายประเทศเพื่อนบ้าน จึงต้องมีบริษัทเอกชนเข้ามาช่วยดำเนินการ แต่ก็ได้มีการกำหนดว่าจะต้องใช้จ่ายเงินไม่เกิน 4,500 บาท
  
ดังนั้นหากมีข้อมูลว่าเรียกเก็บเงินมากกว่านี้ก็สามารถแจ้งให้ตน ทราบเพื่อดำเนินการได้ และขอยืนยันว่าตนจะดำเนินการเรื่องนี้อย่างเด็ดขาด.

(เดลินิวส์, 25-3-2554)

เตือนระวังถูกหลอกไปทำงานที่ลาวหลังตกเป็นเหยื่อแล้วกว่า 100 คน

บุรีรัมย์ 25 มี.ค.-นายอิทธิ คงวีระวัฒน์ จัดหางานจังหวัดบุรีรัมย์ เตือนแรงงานที่จะไปทำงานยังต่างประเทศ อย่าหลงเชื่อบริษัทจัดส่งคนงาน หรือสายและนายหน้าเถื่อน ที่อ้างว่าสามารถจัดส่งไปทำงานกับบริษัท เอ.แอล.พี.พัฒนาครบวงจร และก่อสร้างชลประทาน จำกัด  ที่สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) เพราะขณะนี้มีแรงงานในจังหวัดต่าง ๆ ถูกหลอกไปทำงานแล้ว จำนวน 115 คน  โดยไม่ผ่านกรมการจัดหางาน ทำให้ประสบปัญหานายจ้างค้างจ่ายค่าจ้าง  ซึ่งกรมการจัดหางาน และกงสุลใหญ่ ณ แขวงสะหวันนะเขต สปป.ลาว ได้ให้ความช่วยเหลือแรงงานไทยในการเดินทางกลับประเทศไทย และอยู่ระหว่างสอบสวนดำเนินคดีกับผู้เกี่ยวข้อง รวมทั้งติดตามเงินค่าบริการและค่าใช้จ่าย คืนให้กับแรงงานที่ถูกหลอกไปทำงานดังกล่าวอยู่

(สำนักข่าวไทย, 25-3-2554)

ปิดล้อมโรงงานสวนผึ้งจับกุมแรงงานพม่าเถื่อนกว่า 300

เมื่อวันที่ 25 มีนาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.อ.ดนัย บุญตัน  รองผู้บังคับการหน่วยเฉพาะกิจทหารราบค่ายทัพพระยาเสือ กองกําลังสุรสีห์ อําเภอสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี สนธิกําลังกับทหารพรานหน่วยจู่โจม อําเภอสวนผึ้ง ตำรวจตระเวนชายแดน ที่ 137 อําเภอสวนผึ้ง ตำรวจภูธร อําเภอบ้านคา ฝ่ายปกครองอําเภอบ้านคา และอาสาสมัครรักษาดินแดน อําเภอบ้านคา จังหวัดราชบุรี กว่า 300 นาย บุกจู่โจมเข้าตรวจค้นบ้านพักคนงาน ชาวพม่า บริเวณพื้นที่ของโรงงาน  วี แอนด์ เค สับปะรดกระป๋อง จำกัด ซึ่งตั้งอยู่หมู่ 7 ตําบลหนองพันจันทร์ อําเภอบ้านคา จากการตรวจค้นดังกล่าวพบมีแรงงานต่างด้าวชาวพม่าที่เข้ามาทํางานอยู่ในโรง งานกว่า 600 คน และคนไทยอีกประมาณ 400 คน รวมกว่า 1,000 คน โดยเจ้าหน้าที่ได้ทําการคัดแยกผู้ที่ไม่มีบัตรออกซึ่งเป็นผู้ที่ลักลอบเข้า เมืองโดยผิดกฎหมาย  330 คน เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวแรงงานผิดกฎหมายทั้งหมดส่งดำเนินคดีที่ สภ.บ้านคา

นอกจากนี้ จากการตรวจค้นภายในบ้านพักของแรงงานต่างด้าวพบรถจักรยานยนต์อีกกว่า 30 คัน ที่ไม่มีเอกสารมายืนยัน ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจของ สภ.บ้านคา ได้ตรวจยึดไว้ตรวจสอบว่าเป็นรถที่ถูกโจรกรรมหรือแจ้งหายไว้บ้างหรือไม่ พร้อมทั้งจะได้ประสานไปยังเจ้าของรถให้มาตรวจสอบรถจักรยานยนต์ทั้งหมดที่ทำ การตรวจยึดไว้ด้วย

(มติชนออนไลน์, 25-3-2554)

รวบสาวแสบตุ๋นแรงงานไปต่างประเทศ

วันนี้ (25 มี.ค.) เมื่อเวลา 16.00 น. พ.ต.อ.วันชนะ ธรรมเสมา ผกก.สภ.ป่าแดด จ .เชียงราย นำกำลังชุดสืบสวน จับกุมตัว นางศรีนวล โลกะรี อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 67 หมู่ที่ 11 ต.ห้วยลาน อ.ดอกคำใต้ จ.พะเยา ตามหมายจับของศาลจังหวัดเทิง จำนวน 7 หมาย ในข้อหาร่วมกันจัดหางานให้คนหางานเพื่อไปทำงานในต่างประเทศโดยไม่ได้รับอนุญาตจาก นายทะเบียนจัดหางานกลาง, ร่วมกันหลอกลวงผู้อื่นว่าสามารถหางานในต่างประเทศได้ และโดยการหลอกลวงดังว่านั้นได้ไปซึ่งเงินหรือทรัพย์สินจากผู้ถูกหลอกลวง, ร่วมกันเอาไปเสียซึ่งเอกสารใดของผู้อื่นในประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ ผู้อื่นหรือประชาชน, ร่วมกันฉ้อโกง
      
ทั้งนี้เมื่อวันที่ 21 ตุลาคม 2551และวันที่ 3 พฤศจิกายน ปีเดียวกัน นางศรีนวลกับพวก ได้หลอกลวงผู้เสียหายในอ.ป่าแดด จ.เชียงราย รวม 7 ราย โดยอ้างว่าสามารถส่งไปทำงานต่างประเทศได้ (ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตร์) แต่นางศรีนวล ไม่ได้ส่งผู้เสียหายไปทำงานตามที่ตกลงกันไว้ ได้ฉ้อโกงเอาเงินเป็นจำนวนรายละ 1 แสนบาท และร่วมกันเอาเอกสารหนังสือเดินทางของผู้เสียหายทั้ง 7 รายไป โดยหลบหนีไปทำงานที่ จ.สมุทรปราการ โดยต่อมา ผกก.สภ.ป่าแดด ได้ทำการประสานกับ พ.ต.ท.จารุวัฒน์ พาหุมัณโต สว.กก.1 ป.นำกำลังเข้าจับกุมได้ในซอยสุขุมวิท 109 ขณะเดินทางกลับที่พัก ก่อนนำตัวดำเนินคดีและขยายผลจับกุมเครือข่ายต่อไป

(ASTV ผู้จัดการออนไลน์, 25-3-2554)

เครือข่ายแรงงานข้ามชาติค้านนำเข้าแรงงานบังกลาเทศ ทดแทนแรงงานต่างด้าว 3 สัญชาติ

นายอดิศร เกิดมงคล เครือข่ายปฏิบัติการเพื่อแรงงานข้ามชาติ กล่าวถึงกรณีที่กระทรวงแรงงานมีแนวคิดที่จะนำเข้าแรงงานจากประเทศบังกลาเทศ เพื่อทดแทนแรงงานต่างด้าว 3 สัญชาติ ได้แก่ พม่า ลาวและกัมพูชา ที่หลบหนีไม่มาต่อใบอนุญาต ว่า โดยส่วนตัวมีความเห็น ว่า แรงงานต่างด้าวที่เข้ามาทำงานในประเทศไทยส่วนใหญ่ทำงานในภาคประมงและประมง ต่อเนื่อง ซึ่งโดยส่วนตัวเห็นว่าแรงงานจากประเทศบังกลาเทศไม่นิยมทำงานเหล่านี้ อย่างไรก็ตามเห็นว่าแรงงานจากอินโดนิเซีย หรือ จีนทางใต้ สามารถทำงานดังกล่าวได้ดีกว่า ทั้งนี้ไม่ว่าจะเป็นแรงงานชาติใดสิ่งสำคัญ คือ ต้องมีการกำหนดยุทธศาสตร์การแก้ปัญหาคนงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองผิดกฎหมาย ให้ชัดเจน ส่วนกรณีที่แรงงานต่างด้าวจำนวน 2 แสนคน ไม่มาจดทะเบียนต่ออายุนั้น มองว่าเป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้นทุกปีและขณะนี้ยังมีแรงงานที่เข้าเมืองผิด กฎหมายหลบหนีประมาณ 1 ล้านคน เนื่องจากแรงงานเหล่านั้นอาจจะเปลี่ยนนายจ้างหรือถูกนายจ้างยึดบัตรประจำตัว แรงงานและหลบหนีไปหางานใหม่ แต่ปัญหาอยู่ที่นโยบาย คือ การเปิดให้ลงทะเบียน 2 ปีครั้ง กลายเป็นช่องว่างของการเคลื่อนย้ายแรงงานและขั้นตอนที่ยุ่งยากทำให้แรงงาน บางส่วนหายไปจากระบบ

นายอดิศร กล่าวอีกว่า กระทรวงแรงงานมาถูกทางแล้ว แต่ยังขาดความยืดหยุ่นและยุทธศาสตร์เกี่ยวกับแรงงานข้ามชาติที่ชัดเจนและขาด การคำนึงถึงผลระยะยาว โดยต้องจัดให้มีการลงทะเบียนแรงงานข้ามชาติได้ทั้งปี เพื่อแก้ปัญหาแรงงานที่มีการเปลี่ยนนายจ้างระหว่างปี ส่วนเรื่องการนำเข้าแรงงานที่ขาดแคลนก็ต้องกำหนดประเภทของกิจการ จำนวนที่ขาดแคลนอย่างชัดเจนและนำเข้ามาตามจำนวนที่ขาด ซึ่งต้องเป็นความต้องการที่แท้จริง

(สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์, 25-3-2554)

เครือข่ายแรงงานหญิงยืนยันค้านการประกวดเทพธิดาแรงงาน

เครือข่ายแรงงานหญิงจาหลายองค์กร เช่นกลุ่มบูรณาการแรงงานสตรี มูลนิธิเพื่อนหญิง และสมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ ออกแถลงการณ์ร่วม  คัดค้านการจัดประกวดเทพธิดาแรงงาน ที่จะจัดขึ้นในวันแรงงานแห่งชาติปีนี้  เนื่องจากเป็นการลดทอนศักดิ์ศรี และคุณค่าของแรงงานหญิง ขัดเจตนารมณ์การจัดงานวันแรงงานโลกหรือวันเมย์เดย์ ที่ต้องการให้ตระหนักถึงคุณค่าของแรงงาน  และปัญหาแรงงานถูกเอารัดเอาเปรียบจากนายจ้าง ซึ่งในประวัติศาสตร์ไม่มีประเทศใดนำเรื่องการประกวดความงามมาผูกโยงกับวัน แรงงาน อย่างไรก็ตามตัวแทนแรงงานหญิง ได้ยื่นหนังสือถึงอธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน ในฐานะสนับสนุนงบประมาณจัดการประกวด  เพื่อให้ทบทวนและยกเลิกการ ไม่เช่นนั้นเครือข่ายแรงงานหญิง จะไม่ร่วมงานวันแรงงานประจำปีนี้

(สำนักข่าวไทย, 26-3-2554)

 

สมัครรับข่าวความเคลื่อนไหวจากประชาไท ผ่านทางอีเมล ดูรายละเอียดที่ http://groups.google.com/group/prachatai-newspaper

กวีตีนแดง: ตำนานขอทานแห่งประเทศสารขัณฑ์

Posted: 26 Mar 2011 02:01 AM PDT

วณิพกเสียงทอง ท่องเที่ยวงันงก               

ร้องเพลงชาดก หาเบี้ยต่อไส้

อนาถวาสนา เกิดมายากไร้                       

เร่ขยับกรับไม้ แลกเศษสตางค์

 

พระชนกตกยาก จากเมืองสารขัณฑ์         

แบมือขอทาน บนวิมานพระที่นั่ง

ปู่โสมเฝ้าทรัพย์ หลับคาท้องพระคลัง           

เรื่องเล่าตกค้าง กลางเวียงวังไกล

 

อันตัวของข้า เกิดมาเป็นขอทาน             

ตาบอด ไร้บ้าน ฝันดับสลาย

เที่ยวนอนกลางดิน หากินกันตาย             

คนรวยอยู่บ้านใหญ่ น้ำไฟก็ฟรี

 

พ่อแม่เจ้าขา เมตตาข้าหน่อย               

คนละร้อย สองร้อย นะน้องพี่

หรือห้าตังค์สิบตังค์ (ห้าตังค์สิบตังค์) ก็ยังดี       

โอ้...ขอทานประเทศนี้ มี ฎ.ชฎา

 

ท้าวเอกทัศน์ สร้างวังโตใหญ่               

ราษฎรหม่นไหม้ ยากไร้ ขายหน้า

คนจนขอทาน ว่าเศษคน ไร้ราคา           

แต่พระราชา ว่าสะสมบารมี

(ทีพระราชา ว่าสะสมบารมี)

(พระราชาขอทาน ว่าสะสมบารมี)

 

สารขัณฑ์เมืองนี้ มีเรื่องประหลาด

ขอทานอัตคัต นั่งบาทวิถี

ขอทานคนรวย นั่งปะรำพิธี

เออหนอ...ประเทศนี้ มีขอทานศักดินา

 

ขอทานชั้นต่ำ ถูกประณามหยามหมิ่น

ว่างอมืองอตีน นอนรอวาสนา

ขอทานชั้นสูง นอนเอาตีนก่ายฟ้า

สร้างปราสาททองทา ด้วยภาษีใคร

 

วณิพกเสียงทอง ท่องเที่ยวงันงก

ร้องเพลงชาดก หาเบี้ยต่อไส้

ราษฎรลำบาก ยากจนเข็ญใจ

เจ้าเมืองสุขสบาย  หว่านไถบนหลังคน

 

วณิพกเสียงทอง ท่องเที่ยวงันงก

ร้องเพลงชาดก แรมรอนทุกแห่งหน

ขอทานสกปรก กเฬวรากยากจน

ปากท้องดิ้นรน คนไม่เท่ากัน

 

วณิพกเสียงทอง ท่องเที่ยวงันงก

เล่านิทานชาดก แลกเศษอาหาร

ร้องเพลงตัวสั่น หวั่นกฎหมายมาร

แค่เล่านิทาน ปั้นน้ำเป็นตัว

 

(ที่เล่ามาทั้งหมดนี้ เป็นแค่นิทาน)

สมัครรับข่าวความเคลื่อนไหวจากประชาไท ผ่านทางอีเมล ดูรายละเอียดที่ http://groups.google.com/group/prachatai-newspaper

พรุ่งนี้! นิติราษฎร์เสวนา เสนอแก้กฎหมายหมิ่นสถาบัน - เปิดตัว ‘กลุ่มอาร์ติเคิล 112’

Posted: 25 Mar 2011 11:20 PM PDT

 
 
26 มี.ค.54 กลุ่มนิติราษฎร์ ซึ่งเป็นกลุ่มอาจารย์จากคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ประชาสัมพันธ์การจัดงานเสวนาวิชาการหัวข้อ “กฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ”  ซึ่งจะจัดขึ้นในวันพรุ่งนี้ (27มี.ค.) พร้อมเตรียมแถลงข้อเสนอแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 เชิญชวนประชาชนที่สนใจเข้าร่วมแลกเปลี่ยน นำเสนอข้อคิดเห็น
 
นอกจากนี้ภายในงานจะมีกิจกรรมการเปิดตัวโครงการ Article 112 : Awareness Campaign (โครงการมาตรา 112 : รณรงค์เพื่อการตื่นรู้) ผู้สนใจสามารถเข้าร่วมได้ที่ห้องแอลที 1 คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์  รายละเอียดของงานมีดังนี้
 
 
13.00 – 15.00 เสวนา เรื่อง กฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ โดย กลุ่มนิติราษฎร์
 
                        1. วรเจตน์   ภาคีรัตน์
                        2. ธีระ   สุธีวรางกูร
                        3. สาวตรี   สุขศรี
                        4. ปิยบุตร   แสงกนกกุล
 
15.00 – 15.30 แถลงการณ์ข้อเสนอแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 โดย กลุ่มนิติราษฎร์
 
15.30 – 16.30 เปิดเวทีรับฟังความคิดเห็น (ครั้งที่ 1)
 
16.30 – 18.00 เวที มาตรา 112 : รณรงค์เพื่อความตื่นรู้ในกฎหมายหมิ่นฯ โดย กลุ่มรณรงค์ 112
 
สมัครรับข่าวความเคลื่อนไหวจากประชาไท ผ่านทางอีเมล ดูรายละเอียดที่ http://groups.google.com/group/prachatai-newspaper

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น