โพสต์แนะนำ

ประชาไท Prachatai.com

ประชาไท Prachatai.com พท.-ปชป จัดประชุมแก้ไขข้อบังคับพรรคฯ ส่วนรัฐบาลคสช. เตรียมฉีดเงินตำบลละ 5 แสน คพศ. ขอ ตร.เรียกตั...

ซิตี้แบงก์ ให้คุณสมัครบัตรเครดิต citibank ออนไลน์ ด้วยวิธีสมัครบัตรเครดิตง่ายๆ รู้ผลอนุมัตทันใจภายใน 5 วัน อยากทำบัตรเครดิตซิตี้แบงก์ สมัครออนไลน์ได้ทันทีที่นี่.

วันพฤหัสบดีที่ 18 เมษายน พ.ศ. 2556

ประชาไท | Prachatai3.info

ประชาไท | Prachatai3.info

Link to ประชาไท

‘เฉลิม’จ่อเดินสาย‘นับหนึ่งประเทศไทย’แจง พ.ร.บ.ปรองดอง เผย‘6 มาตรา’ล้างผิดทุกฝ่าย

Posted: 18 Apr 2013 02:49 PM PDT

เปิดร่าง พ.ร.บ.ปรองดอง ฉบับ 'เฉลิม' ระบุ 6 มาตรา ล้างความผิดทุกฝ่าย มีผลครอบคลุม 19 ก.ย.49 ถึงวันประกาศใช้ ปัดไม่มีเนื้อหาคืนเงิน 'ทักษิณ' ส่วน 'อภิสิทธิ์-สุเทพ' ได้อานิสงส์ด้วย เตรียมลา ครม.2 สัปดาห์เดินสาย 'นับหนึ่งประเทศไทย' หาแนวร่วม ก่อนเสนอสภา ส.ค.นี้

18 เม.ย.56 เวลา 10.00 น.ที่รัฐสภา ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่จะมีการนำเสนอ ร่าง พ.ร.บ.ปรองดอง เข้าสู่สภาเพื่อพิจารณาในการประชุมสภาสมัยหน้าว่า ร่าง พ.ร.บ.ปรองดองดังกล่าว ตนยกร่างไว้นานแล้วมีทั้งหมด 6 มาตรา เนื้อหาสาระสำคัญเกี่ยวกับบุคคลที่เกี่ยวข้องในเหตุการณ์ตั้งแต่วันที่ 19 ก.ย.2549 จนถึง พ.ร.บ.นี้ประกาศในราชกิจจานุเบกษา ซึ่งจะได้รับผลบวกทั้งหมดไม่ยกเว้นบุคคลหนึ่งบุคคลใด โดยไม่มีเรื่องการเงินมาเกี่ยวข้อง
 
 
เตรียมลา ครม.2 สัปดาห์เดินสาย 'นับหนึ่งประเทศไทย'
 
ร.ต.อ.เฉลิม ระบุด้วยว่า ที่เสนอต่อที่ประชุม ส.ส.ของพรรครับทราบก่อนเสนอเข้าสู่วาระพิจาณาของสภา เพราะต้องการให้ทางพรรคเพื่อไทยทราบว่าตนเองจะเดินทางรณรงค์เรื่องดังกล่าวในช่วงที่สภาปิดสมัยประชุม โดยเริ่มจากวันที่ 27 เม.ย.56 ที่ จ.ขอนแก่น จากนั้นจะเดินสายทั่วอีสาน และในวันที่ 24 พ.ค.56 จะไปปราศรัยใหญ่ที่ทุ่งสีเมือง จ.อุดรธานี โดยจะยื่นหนังสือลาต่อ ครม. 2 สัปดาห์เพื่อเดินสายรณรงค์อธิบายให้เข้าใจครบทุกพื้นที่ ภายใต้ชื่อ "นับหนึ่งประเทศไทย"  การเดินสายครั้งนี้ไม่ได้ทำในนามรัฐบาล แต่จะทำในนามสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร หากทำต่อแล้วทางพรรคเพื่อไทยเห็นดีด้วยจะนำไปเป็นร่างของพรรคก็ได้ หรือหากคนเสื้อแดงเห็นเดียวด้วยก็สามารถดำเนินการได้เช่นเดียวกัน
 
"การเมืองขณะนี้ สิ่งต่างๆ จะดำเนินการโดยสภาอย่างเดียวไม่สำเร็จ ต้องให้ประชาชนทั้งประเทศเกิดความเข้าใจ รวมถึงพรรคการเมือง จะส่งร่างพ.ร.บ.ปรองดองฉบับดังกล่าวให้ทุกพรรคการเมือง รวมทั้งพรรคประชาธิปัตย์ ตลอดจนสถาบันการศึกษา องค์กรต่างๆ เพื่อรับฟังความเห็นถ้าตกผลึกแล้วจะเดินหน้า ผมไม่ได้ระบุเฉพาะเจาะจงว่าเป็นใคร แต่ครอบคลุมทุกคน จะนับหนึ่งประเทศไทย จะได้เลิกทะเลาะกันเสียที และร่างพ.ร.บ.ปรองดองไม่เกี่ยวกับเรื่องการเงินหรือการคืนเงิน พ.ต.ท.ทักษิณ" ร.ต.อ.เฉลิม กล่าว
 
 
'อภิสิทธิ์-สุเทพ' ได้อานิสงส์ด้วย
 
เมื่อถามว่านายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ส.ส.สุราษฎร์ธานี พรรคประชาธิปัตย์ประกาศจะไม่รับผลจากร่าง พ.ร.บ.ปรองดอง ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า การออกกฎหมายนั้นจะยกเว้นตัวบุคคลไม่ได้ พร้อมกันนี้ยืนยันว่าไม่ได้ทำเพื่อ พ.ต.ท.ทักษิณ เพียงคนเดียวและไม่เคยให้ พ.ต.ท.ทักษิณดูร่างดังกล่าวก่อน อีกทั้งยังไม่ได้มีการพูดคุยกับนายกรัฐมนตรีแต่อย่างใด
 
 
ปัดเนื้อหาเอื้อ 'ทักษิณ' ย้ำ 'ทุกคนได้หมด'
 
ผู้สื่อข่าวถามว่า ผลของร่างพ.ร.บ.ปรองดองดังกล่าวจะมีผลต่อคดีของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในทุกคดีหรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ไม่ระบุ แต่เขียนครอบคลุม หากใครสนใจตนจะชี้แจงและให้ซักถาม จะอธิบายเป็นรายมาตรา ส่วนผลของร่าง พ.ร.บ.ปรองดองจะมีผลต่อคำพิพากษาของศาลหรือไม่นั้น ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ทุกภาคส่วนได้หมด ใครอ่านร่างแล้วจะเข้าใจ
 
เมื่อถามว่า ทุกภาคส่วนหมายรวมถึงพ.ต.ท.ทักษิณด้วยหรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า ในกฎหมายไม่ได้ระบุ แต่เหตุการณ์ที่ใครเกี่ยวข้องหลัง 19 ก.ย.49 จนกระทั่งกฎหมายประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้วมีผลบังคับใช้ ทุกคนได้รับผลบวกหมด ยกเลิกหมด ไม่มีใครผิดอีกแล้ว นับหนึ่งประเทศไทย เลิกกันทีการทะเลาะกัน ตนจะดำเนินการ
 
สำหรับกรณีที่ระบุว่า ร่างพ.ร.บ.ปรองดองฉบับดังกล่าวไม่เกี่ยวกับเรื่องการเงินนั้น กำลังจะบอกว่าไม่เกี่ยวกับการคืนทรัพย์สินให้กับพ.ต.ท.ทักษิณใช่หรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ถูกต้อง เมื่อถามว่า โทษจำคุก 2 ปีของพ.ต.ท.ทักษิณจะได้รับการนิรโทษกรรมหรือไม่นั้น ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ตนไม่บอก แต่ทุกคนได้หมด
 
เมื่อถามอีกว่า คดีเผาเมืองและคดียิงวัดพระแก้วถือเป็นคดีต่อเนื่องที่จะได้รับผลจากร่างพ.ร.บ.ปรองดองหรือไม่นั้น ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า เรื่องเผาเซ็นทรัลเวิลด์ศาลยกฟ้องแล้ว ส่วนคดียิงวัดพระแก้วก็ลงโทษไปแล้ว
 
ผู้สื่อข่าวถามอีกว่า พ.ต.ท.ทักษิณจะได้กลับประเทศหรือไม่หลังจากร่าง พ.ร.บ.ปรองดองผ่านสภาฯ แล้ว ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ตนจะไปทายใจท่านได้อย่างไร ตนไม่ได้ทำเพื่อท่านคนเดียว แต่ทำเพื่อประเทศไทย เมื่อถามว่า ผลที่ออกมาจะทำให้พ.ต.ท.ทักษิณพ้นผิดและสามารถกลับประเทศได้โดยไม่มีคดีติดตัว ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ทุกคนได้อานิสงส์จากกฎหมายนี้หมด ใครที่ฆ่าคนตายไม่ต้องขึ้นศาล คดีความที่มีอยู่เลิกกัน
 
ส่วนคนเสื้อแดงจะพอใจหรือไม่หากระบุว่าผู้ที่ฆ่าคนตายไม่ต้องขึ้นศาลนั้น ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ตนมองว่า ถ้าคนทั้งประเทศพอใจ ตนก็โอเค ไม่คำนึงว่ากลุ่มหนึ่งกลุ่มใด
 
 
เปิดร่างพ.ร.บ.ปรองดอง ฉบับ 'เฉลิม' 6 มาตรา
 
จากนั้นเวลา 12.00 น. ร.ต.อ.เฉลิม ได้แจกจ่ายร่าง พ.ร.บ.ปรองดองแก่สื่อมวลชนพร้อมให้สัมภาษณ์อีกครั้ง โดยแสดงความมั่นใจว่าการผลักดันร่างพ.ร.บ.ปรองดองจะไม่เพิ่มสถานการณ์ความขัดแย้งในประเทศ เพราะทุกคนได้ประโยชน์  คนต้องการปรองดองกันทั้งประเทศ ยกเว้นพรรคประชาธิปัตย์ โดยได้มอบหมายนายพีรพันธุ์ พาลุสุข ส.ส.ยโสธร พรรคเพื่อไทย รับผิดชอบเสนอเข้าสู่สภาเมื่อเปิดสมัยประชุม ในเดือน ส.ค.นี้
 
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสำหรับร่างดังกล่าว ใช้ชื่อว่า ร่าง พ.ร.บ.การปรองดองแห่งชาติ พ.ศ. ... ประกอบด้วยเนื้อหา 6 มาตรา ส่วนที่ 1 ระบุหลักการและเหตุผลว่า ตั้งแต่ พ.ศ.2549 เป็นต้นมา ประชาชนเกิดความคิดเห็นแตกต่างแบ่งฝักแบ่งฝ่าย มีผลกระทบต่อความสามัคคีคนในชาติ สมควรที่จะยุติความบาดหมางและเสริมสร้างความสามัคคีคนในชาติขึ้นใหม่เพื่อเริ่มต้นการพัฒนาประเทศและดูแลทุกข์สุขของคนในชาติ ตามวิถีทางประชาธิปไตยอย่างสมานฉันท์
 
ขณะที่สาระสำคัญอยู่ที่มาตรา 3 ระบุว่า บรรดาการกระทำทั้งหมดของบุคคลที่เกี่ยวเนื่องกับการชุมนุมทางการเมือง การแสดงความคิดเห็นทางการเมืองหรือการกระทำใดที่เกี่ยวเนื่องกับการกระทำดังกล่าวในระหว่าง พ.ศ.2549 จนถึงวันที่ พ.ร.บ.นี้บังคับใช้ หากมีการกระทำใดผิดกฎหมาย ไม่ว่าได้กระทำในฐานะตัวการ ผู้สนับสนุน ผู้ใช้กระทำหรือผู้ถูกใช้ให้กระทำ ไม่เป็นความผิดต่อไปและให้ผู้ที่ได้กระทำการนั้นพ้นจากการเป็นผู้กระทำความผิดและความรับผิดชอบโดยสิ้นเชิง และให้ระงับการสอบสวน ระงับการฟ้องร้อง หรือถ้าอยู่ระหว่างพิจารณาคดีก็ให้ศาลมีคำสั่งจำหน่ายคดี ถ้าได้มีคำพิพากษาถึงที่สุดแล้วให้ถือผู้นั้นไม่เคยต้องคำพิพากษา ถ้ารับโทษอยู่ก็ให้การลงโทษสิ้นสุด โดยให้นำความใช้บังคับการกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐและบุคคลใดๆ ที่เกี่ยวเนื่องจากการป้องดันระงับหรือปราบปรามเหตุชุมนุมทางการเมือง การแสดงความเห็นทางการเมืองหรือการกระทำใดที่เกี่ยวเนื่อง
 
ขณะที่ มาตรา 5 ในกรณีมีผู้ได้รับความเสียหายเนื่องจากการกระทำในเหตุการณ์ชุมนุมทางการเมืองหรือการกระทำใดที่เกี่ยวเนื่องให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาช่วยเหลือเยียวยาความเสียหายตามความเหมาะสม ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่คณะรัฐมนตรีกำหนด และมาตรา 6 ให้นายกรัฐมนตรีรักษาการตามพ.ร.บ.นี้
 
ทั้งนี้ ร่าง พ.ร.บ.ปรองดองฯ ที่มีการเสนอเข้ามาให้สภาฯ พิจารณาก่อนหน้านี้ มีทั้งสิ้น 4 ร่าง ประกอบด้วย 1.ร่าง พ.ร.บ.ปรองดองของ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน หัวหน้าพรรคมาตุภูมิ 2.ร่าง พ.ร.บ.ของนายสามารถ แก้วมีชัย ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย และคณะ 3.ร่าง พ.ร.บ.ของนายนิยม วรปัญญา ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย และ 4.ร่าง พ.ร.บ.ของนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย และคณะ ซึ่งแต่ละฉบับมีเนื้อหาส่วนใหญ่ใกล้เคียงกัน จะมีแตกต่างในบางหัวข้อ อย่างไรก็ตาม ร่าง พ.ร.บ.ปรองดองแห่งชาติ ทั้ง 4 ฉบับ ไม่มีเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับการช่วยเหลือผู้ต้องหาที่ต้องโทษในคดีจากประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 แม้แต่ฉบับเดียว
 
ที่มา: เรียบเรียงจาก เดลินิวส์, กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
 
ติดตามความเคลื่อนไหวของ ประชาไท ทางอีเมล คลิกอ่าน http://goo.gl/8xIcV หรือเฟซบุ๊ค http://fb.me/Prachatai

สภาฯ เสียงข้างมาก เลื่อน 'ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม' ขึ้นแท่นวาระแรกสมัยประชุมหน้า

Posted: 18 Apr 2013 01:29 PM PDT

 
เลื่อน พ.ร.บ.นิรโทษกรรมขึ้นมาประชุมในวาระแรก การประชุมสภาฯ สมัยหน้า
 
18 เม.ย.56- เดลินิวส์รายงานว่า เมื่อเวลา 16.20 น. มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีนายเจริญ จรรย์โกมล รองประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นประธานการประชุม ภายหลังการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ นายวรชัย เหมะ ส.ส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย แกนนำ นปช. ได้ขอใช้ข้อบังคับการประชุมที่ 26(2) เพื่อเลื่อนวาระลำดับที่ 5.23 คือร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมแก่ผู้ซึ่งกระทำความผิดเนื่องจากการชุมนุมทางการเมืองการแสดงออกทางการเมืองของประชาชน (พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฯ) ขึ้นมาพิจารณาก่อนร่าง พ.ร.บ.ตรวจเงินแผ่นดิน โดยมีผู้รับรองครบ
 
ทำให้ นพ.สุกิจ อัตโถปกรณ์ ส.ส.ตรัง พรรคประชาธิปัตย์ ลุกขึ้นคัดค้านว่า ไม่เห็นถึงความจำเป็นเร่งด่วน อย่าเอาตามมาตรฐานพวกท่านหรือนายใหญ่ของพวกท่าน ที่ออกกฎหมายเพื่อพรรคพวก เพื่อธุรกิจตัวเอง จะรีบร้อนทำไมทั้งที่กฎหมายสำคัญยังค้างอยู่อีกกว่า 17 เรื่อง อีกอึดใจเดียวก็จะออกมาเพื่อประโยชน์ประชาชนแล้ว แสดงว่ารัฐบาลนี้ไม่ได้ทำเพื่อประชาชนจริง อย่ามาอ้างเพื่อความปรองดอง วันนี้คนในประเทศปรองดองหมด มีแต่พวกรัฐบาลที่ไม่ยอมให้ปรองดอง ตนว่ารัฐบาลไม่ต้องออกกฎหมาย แค่นายกฯไปบอกให้คนกลุ่มนี้หยุด ประเทศก็ปรองดองแล้ว ไม่ต้องมานิรโทษกรรม แปลกใจที่รัฐบาลไม่กล้าพูด เพราะกลัวเขาจะทวงบุญคุณใช่หรือไม่
 
นายเจริญ กล่าวว่าเมื่อมีผู้คัดค้านก็จะขอมติที่ประชุม ทำให้ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์พากันประท้วง โดยนายประเสริฐ พงษ์สุวรรณศิริ ส.ส.ยะลา กล่าวว่า จะรีบร้อนไปไหน ควรให้ส.ส.แสดงความเห็นก่อน นายวรชัยผู้เสนอร่างฯ อภิปรายแสดงเหตุผลว่า เสนอด้วยเจตนาบริสุทธิ์ เรารบราฆ่าฟันกันมาหลายปี แม้แต่พม่าก็ยังพยายามลดความขัดแย้ง แล้วเราจะปล่อยให้ประเทศคงความขัดแย้งไว้อย่างนี้หรือ ประเทศจะดำรงความเป็นไปประเทศต่อไปอย่างไร การกระทำของ 2 กลุ่มนี้ เกิดจากความคิดทางการเมืองที่ขัดแย้งกัน มีคดีความติดตัวกันเต็มไปหมด คนที่ติดคุกทางการเมืองอยู่ญาติพี่น้องเขาก็ต้องการให้ออกมาต่อสู้คดีตามกฎหมาย ที่เสนอมานิรโทษกรรมทุกสีเสื้อทั้งคดีก่อการร้ายบุกยึดสนามบิน ยึดทำเนียบ รัฐสภา ยึดสถานีโทรทัศน์เอ็นบีที คนที่ต้องติดคุกเพื่อรอต่อสู้คดี ใครไม่โดนบ้างไม่รู้สึกหรอก
 
นายสมคิด เชื้อคง ส.ส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ยืนยันว่าไม่ได้เสนอเพื่อกลุ่มเสื้อแดงโดยเฉพาะ แต่มีประชาชนได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์เม.ย.-พ.ค. 2553 จำนวนมาก ถ้าเราค่อยๆลามือถอยออกมา บรรยากาศก็จะดีขึ้น เราทำเพื่อทุกกลุ่มรวมถึงพวกที่ปิดสนามบิน จึงคิดว่าถึงเวลาแล้วเพราะไม่ทราบว่าวันหน้าจะสำเร็จเมื่อไหร่ จึงขอเลื่อนขึ้นมาก่อน ส่วนจะได้พิจารณาเมื่อไหร่ค่อยมาว่ากัน
 
ด้านนายเจ๊ะอามิง โตะตาหยง ส.ส.นราธิวาส พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ดูจากเนื้อหาในร่างฯเป็นไปไม่ได้ที่ประชาชนส่วนใหญ่จะได้ประโยชน์ ถึงบอกว่าเรื่องนิรโทษกรรมเอาไว้ทีหลังได้ไหม โดยเฉพาะในมาตรา 3 มีการซ่อนเงื่อนไขเพื่อเอื้อประโยชน์คนที่อยู่ต่างประเทศคือ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จึงชัดเจนว่าเป็นไฟเขียวจากดูไบ ที่เคยพูดให้ส.ส.รัฐบาลช่วยกันผลักดัน จึงมองว่าเป็นการสับขาหลอกแยกกันเดินรวมกันตี ที่สุดบ้านเมืองจะวุ่นวาย ตนจึงเชื่อว่าได้รับใบสั่งจากคนต่างประเทศ ตนจึงไม่เห็นด้วย
 
นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ส.ส.ตรัง พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า การอ้างในกฎหมายฉบับนี้ว่าเพื่อนิรโทษกรรม หรือก่อนหน้านี้จะใช้ว่าปรองดอง แต่เนื้อแท้คือล้างความผิด ดังนั้นเมื่อไหร่ที่หยิบยกขึ้นมาในสภาจะเกิดความแตกแยก เป็นการสถาปนาความยุติธรรมของเสียงข้างมาก คราวที่แล้วก็เคยยก พ.ร.บ.ปรองดองขึ้นมา โดยไม่สนใจความเดือดร้อนประชาชน แต่สุดท้ายกลายเป็นตัวจุดชนวนความร้าวฉานแตกแยก แต่ความพยายามยังไม่จบ ยังมีเสียงสั่งการจากนอกประเทศอยู่ตลอดเวลา นิ้วที่ชี้ใส่ฝ่ายค้านแต่ไม่เคยดูตัวเองเลยว่าเป็นตัวการทำให้แตกแยก ที่ไม่ยอมถอนร่าง พ.ร.บ.ปรองดอง ก็เอาไว้เป็นระเบิดเวลา มาวันนี้ก็มีสัญญาณแล้ว อยู่ดีๆ เอาตำรวจมาประจำการบริเวณรอบรัฐสภา มันจึงโกหกกันตั้งแต่ต้น เติมเชื้อไฟไว้เอาระเบิดเวลาฝังอีกลูกหนึ่ง นายกฯ ก็ตีสองหน้าบอกเป็นเรื่องของสภาฯ แต่นามสกุลท่านก็บอกอยู่ บอกจะสานเสวนาอนุมัติงบประมาณรอไว้ วันนี้ทำหรือไม่ หรือในพรรคท่านเองก็ต้องสมดุลกำลังทุกฝ่าย แม้ที่ผ่านมาจะเคยนิรโทษกรรมให้กับคดีความผิดทางการเมือง แต่ไม่เคยนิรโทษในคดีอาญา แต่ตัวกฎหมายฉบับนี้นิรโทษทั้งหมด เป็นการทำลายหลักนิติรัฐ นิติธรรม
 
นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ ส.ส.พัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า วันนี้คนเสื้อแดงบางส่วนเริ่มกลับใจ หรือแตกแถว จึงมีสิ่งหนึ่งที่จะรวมคนเสื้อแดงอีกครั้ง จึงเสนอกฎหมายนิรโทษกรรม ที่บอกว่ามีประชาชนเดือดร้อนถูกจำคุกอยู่ ตนไปดูมาหมดแล้วคนที่โดนคดีฝ่าฝืนพ.ร.ก.ฉุกเฉิน เมื่อปี 2553 ศาลสั่งจำคุกสูงสุด 1 ปี วันนี้พ้นโทษกันหมดแล้วไม่มีใครถูกจำคุกอยู่แล้ว ดังนั้นอย่ามาอ้างเรื่องนี้อีก คนที่เสนอกฎหมายฉบับนี้ไม่ใช่ลูกผู้ชายเพราะโดนคดีก่อการร้ายอยู่ ขอเรียกร้องว่าคนเสนออย่าเกี่ยวข้องกับการกระทำผิด จะได้ไม่อัปยศต่อลูกเมียท่าน ไม่มีศักดิ์ศรี คนที่ได้ประโยชน์กลุ่มแรกคือ พ.ต.ท.ทักษิณ กลุ่มสองคือพวกที่ถูกฟ้องคดีก่อการร้าย กลุ่มสามพวกเผาศาลากลาง 3 จังหวัด 21 คน และกลุ่มสี่คนที่ยิงใส่วัดพระแก้ว ท่านกำลังนิรโทษกรรมพวกก่อการร้าย และพ.ต.ท.ทักษิณ ที่ผ่านมาการนิรโทษกรรมให้เฉพาะผู้ที่กระทำต่อองค์กรการเมืองและองค์กรรัฐ ต้องไม่เกี่ยวข้องกับเนื้อตัวร่างกายมนุษย์
 
ขณะที่นายวิภูแถลง พัฒนภูมิไทย ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ใช้สิทธิประท้วงว่า ตนก็เป็นหนึ่งในแกนนำเสื้อแดง และไม่เกี่ยวกับการได้รับประโยชน์จากพ.ร.บ.ฉบับนี้ ไม่ขอได้รับอานิสงส์จากพ.ร.บ.ฉบับนี้ ทำให้นายนิพิฏฐ์กล่าวยกย่องว่าเป็นลูกผู้ชายตัวจริง และขอให้แกนนำคนอื่นเอาเป็นแบบอย่าง ซึ่งนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รมช.พาณิชย์ กล่าวว่าในฐานะเป็นแกนนำและเป็นเลขา นปช.ขอพูดแทนพี่น้องที่เป็น ส.ส.เสื้อแดงทุกคนที่สนับสนุนพ.ร.บ.ฉบับนี้ ที่เกี่ยวข้องกับการชุมนุมเมื่อปี 2553 ว่าจะไม่ได้รับอานิสงส์ พวกตนเป็นลูกผู้ชายพอ และพร้อมจะพิสูจน์ตัวเอง ต้องการพิสูจน์ว่าคนที่ถูกกล่าวหาว่าก่อการร้าย กับคนที่โกงความตายจากการสั่งฆ่าประชาชน กฎแห่งกรรมจะลงโทษใครก่อน
 
หลังจาก ส.ส. 2 ฝ่ายลุกขึ้นอภิปรายสลับกัน นายขจิตร ชัยนิคม ส.ส.อุดรธานี พรรคเพื่อไทย ได้เสนอขอปิดการอภิปราย จากนั้นเวลา 18.45 น. นายวิสุทธิ์ ได้ให้ที่ประชุมลงมติในญัตติขอปิดอภิปราย โดยที่ประชุมเสียงส่วนใหญ่เห็นด้วย จากนั้นได้มีการลงมติในญัตติว่าจะให้เลื่อนระเบียบวาระตามที่นายวรชัยเสนอหรือไม่ ที่ประชุมเสียส่วนใหญ่ ลงมติด้วยเสียง 283 ต่อ 56 เสียง งดออกเสียง 4 ไม่ลงคะแนน 4  เห็นชอบให้เลื่อนระเบียบวาระดังกล่าวขึ้นมาพิจารณาก่อน
 
ผู้สื่อข่าวรายว่าสำหรับการขอเลื่อนร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมดังกล่าว จะถูกนำมาพิจารณาอีกครั้งในการประชุมสภาฯ สมัยสามัญทั่วไปที่จะเปิด ในวันที่ 1 ส.ค.56
 
จากนั้น ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ได้รับทราบพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ปิดประชุมสภาสมัยสามัญนิติบัญญัติ ในวันที่ 21 เม.ย.นี้  และนายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ รองประธานสภาผู้แทนราษฎร  ซึ่งทำหน้าที่ประธานในที่ประชุมได้ขอบคุณ ส.ส.ที่ร่วมกันทำหน้าที่ และสั่งปิดการประชุมในเวลา 19.15 น.
 
 
'เจริญ จรรย์โกมล' เตรียมเชิญ 6 ฝ่ายหารือ 'กฎหมายนิรโทษฯ-ปรองดอง'
 
ไทยรัฐออนไลน์ รายงานว่า 18 เม.ย.56 ที่รัฐสภา นายเจริญ จรรย์โกมล รองประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า การผลักดันร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมของ ส.ส.พรรคเพื่อไทย จะไม่เป็นอุปสรรคต่อการเดินหน้าเจรจาทุกฝ่าย เพื่อออกกฎหมายนิรโทษกรรมของตนที่ได้ดำเดินการไปแล้วก่อนหน้านี้
 
เบื้องต้นในหลักการของร่างกฎหมายนิรโทษกรรมของ นายวรชัย เหมะ ส.ส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย เป็นแนวทางเดียวกับที่ตนได้เคยหารือไว้แล้ว แต่พรรคประชาธิปัตย์ก็คัดค้าน เพียงเพราะผู้เสนอกฎหมายเป็นคนของพรรคเพื่อไทย และช่วงปิดสมัยประชุมสภาฯ ตนจะออกจดหมายเชิญบุคคล 6 กลุ่ม มาหารืออีกครั้ง ได้แก่ กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กลุ่มคนเสื้อแดง พรรคประชาธิปัตย์ พรรคเพื่อไทย พรรคภูมิใจไทย และทหาร
 
ขณะที่ ก่อนหน้านี้ นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานสภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุมร่วมรัฐสภาและประชุมสภาผู้แทนราษฎร ว่า วันนี้จะเป็นการประชุมเพื่อพิจารณาวันแปรญัตติร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ และพิจารณาเลื่อนวาระร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ขึ้นมาอยู่ในวาระการประชุม แต่ยังไม่พิจารณารับหลักการ ซึ่งเป็นไปตามข้อบังคับที่สมาชิกจะขอเลื่อนร่าง พ.ร.บ.ขึ้นมาได้
 
โดยร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้ มีเนื้อหานิรโทษกรรมให้เฉพาะประชาชนที่ถูกดำเนินคดีทางการเมือง จึงไม่น่าจะเกิดปัญหาความขัดแย้งอย่างที่หลายฝ่ายกังวล รวมถึงฝ่ายค้านที่เกรงว่า จะมีการแก้ไขในขั้นตอนการแปรญัตติ ก็ไม่ควรคิดมาก เพราะ ส.ส. ผู้เสนอร่างก็ระบุชัดเจน หากมีการแก้ไขเนื้อหาของร่างฯ ประชาชนก็คงไม่เห็นด้วยเช่นกัน และยืนยันจะไม่มีการลักไก่ หรือปูทาง เพื่อนำร่างพ.ร.บ.ว่าด้วยความปรองดองแห่งชาติ ที่ค้างอยู่ในสภาทั้ง 4 ฉบับขึ้นมาพิจารณา และจะไม่นำร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้ มาพิจารณาในการประชุมสมัยวิสามัญที่จะเปิดพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2557
 
ส่วนกระแสข่าวอาจจะมีกลุ่มผู้ชุมนุมเดินทางมาคัดค้านที่หน้ารัฐสภานั้น ยังไม่มีรายงาน แต่ก็ได้ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจมาดูแลรักษาความปลอดภัยบริเวณรอบรัฐสภาแล้ว และเป็นเรื่องของฝ่ายความมั่นคงที่จะต้องประเมินสถานการณ์
 
 
40 ส.ว.ค้านร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม
 
ครอบครัวข่าว3 รายงานว่า นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ว.สรรหา และ สมาชิกกลุ่ม 40 ส.ว.ร่วมกันประกาศจุดยืนเกี่ยวกับการเสนอให้เลื่อนร่างกฎหมายนิรโทษกรรมของ นายวรชัย เหมะ ส.ส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย ขึ้นมาพิจารณาก่อนว่า ร่างกฎหมายดังกล่าวกลุ่ม 40 ส.ว.คัดค้านอย่างเต็มที่ เนื่องจากมีบางมาตราที่ระบุอย่างชัดเจนว่า จะนิรโทษกรรมแก่ผู้ที่ทำความผิดต่อองค์พระมหากษัตริย์ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ไม่สมควร และยังเป็นการไม่รักษาไว้ซึ่งสถาบัน และจากการพูดคุยกับ ส.ว.หลายคน ทุกคนก็ไม่เห็นด้วย ดังนั้น เชื่อว่าหากกฎหมายดังกล่าวผ่านการพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร เข้าสู่ที่ประชุมวุฒิสภาจะมีปัญหา และถูกตีกลับ
 
ขณะเดียวกันยังเห็นว่าหากมีการพิจารณากฎหมายนิรโทษกรรม ที่ยังคงมีมาตราที่เกี่ยวข้องกับสถาบัน จะทำให้บ้านเมืองเกิดความวุ่นวาย เพราะจะมีมวลชนออกมาต่อต้าน และจะกล่าวหาว่ารัฐบาล และพรรคเพื่อไทย ไม่มีความจริงใจในการปกป้องสถาบัน อย่างไรก็ตาม หากจะมีการนิรโทษกรรม ไม่ได้หมายความว่าจะทำไม่ได้ แต่อยากให้หารือตกผลึกก่อน และไม่ควรเหมารวมไปทุกคดี แต่ควรนิรโทษกรรมเฉพาะคดีที่เกี่ยวข้องกับการเมือง
 
 
รัฐสภามีมติ 356 ต่อ 19 เสียง ให้แปรญัตติร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ 15 วัน ตามเดิม ส.ส.ปชป.วอล์คเอาท์
 
มติชนออนไลน์  รายงานวันเดียวกันนี้ว่า ในการประชุมร่วมกันของรัฐสภา สมัยสามัญนิติบัญญัติ เพื่อพิจารณาเรื่องด่วนลงมติกำหนดเวลาการแปรญัตติร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ ...) พุทธศักราช... แบบรายมาตรา ทั้ง 3 ฉบับ โดยในที่ประชุม มีมติ 356 ต่อ 19 เสียง ให้แปรญัตติภายใน 15 วัน ตามเดิม หรือหมดเขตวันที่ 19 เมษายน โดยมีผู้แสดงตน 393 คน
 
อย่างไรก็ตาม ในการประชุม ได้มีส.ส.ฝ่ายค้านประท้วงการทำหน้าที่ประธานของนายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ เป็นจำนวนมาก โดยการลงมติในครั้งนี้ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ต่างเดินออกจากห้องประชุมทันที และไม่ร่วมลงมติ
 
 
 
ติดตามความเคลื่อนไหวของ ประชาไท ทางอีเมล คลิกอ่าน http://goo.gl/8xIcV หรือเฟซบุ๊ค http://fb.me/Prachatai

ฝ่ายค้านมาเลเซีย 'DAP' เตรียมส่ง ส.ส. ลงพรรคนอมินี หวังแก้เกมนายทะเบียนสมาคม

Posted: 18 Apr 2013 01:26 PM PDT

ก่อนวันรับสมัคร ส.ส. ไม่ถึง 2 วัน นายทะเบียนสมาคมของมาเลเซียส่งจดหมายถึงพรรคกิจประชาธิปไตยหรือ DAP ว่ายังไม่รับรองนายทะเบียนสมาชิกพรรค ทำให้หัวหน้าพรรค DAP วิจารณ์ผ่านบล็อกว่าจะทำให้การเลือกตั้งฉ้อฉล และถ้านายทะเบียนฯ ยังไม่ถอนจดหมาย ในวันรับสมัคร ส.ส. จะให้ผู้สมัครลงสมัครผ่านพรรคฝ่ายค้านอื่นๆ

นายลิมกวนเอ็ง เลขาธิการพรรคกิจประชาธิปไตย (DAP) หนึ่งในแนวร่วมพรรคฝ่ายค้าน "ภาคีประชาชน" (Pakatan Rakyat) (ที่มา: แฟ้มภาพ/CM Lim Guan Eng/facebook)

พรรคกิจประชาธิปไตย DAP แถลงข่าวหลังพรรคจัดประชุมฉุกเฉินเมื่อบ่ายวันที่ 18 เม.ย. นี้ โดยนายลิมกวนเอ็ง เลขาธิการพรรค DAP กล่าวว่าการตัดสินใจของนายทะเบียนสมาคมที่ไม่ยอมรับรองนายทะเบียนสมาชิกพรรค ของพรรค DAP ถือเป็นการก่อวินาศกรรมและลอบสังหารทางการเมือง โดยล่าสุดเขาระบุว่าจะให้ผู้สมัคร ส.ส. ไปสมัครในนามพรรคฝ่ายค้านพันธมิตรอย่างพรรค PKR และ PAS แทน (ที่มา: KiniTV)

เพลงล้อการเมืองของพรรคกิจประชาชน DAP "UBAH Rocket Style" เผยแพร่เมื่อเดือนมกราคมปี 2556 ใช้ทำนองเพลงกังนัมสไตล์ของ PSY ใน MV จะเห็นธง "จรวด" สัญลักษณ์ของพรรคปรากฏเป็นระยะ ในคลิปเป็นภาคภาษามลายู นอกจากนี้พรรคยังทำเวอร์ชั่นต่างๆ สำหรับประชากรกลุ่มต่างๆ ในมาเลเซียด้วย ทั้งภาษาอังกฤษภาษาจีน, และภาษาทมิฬ แต่ล่าสุดเพื่อแก้ไขสถานการณ์ที่นายทะเบียนสมาคมของมาเลเซีย ยังไม่รับรองนายทะเบียนของพรรค DAP จึงอาจไม่เห็นธงรูปจรวดในการเลือกตั้งทั่วไป เพราะในวันรับสมัคร ส.ส. 20 เม.ย. นี้ ผู้สมัคร ส.ส. จาก DAP จะไปสมัครในนามพรรคฝ่ายค้านพันธมิตรอย่างพรรค PKR และ PAS แทน

 

 

เมื่อเวลาเที่ยงคืนเข้าสู่วันนี้ (19 เม.ย.) ตามเวลามาเลเซีย นายลิมกวนเอ็ง หัวหน้าพรรคกิจประชาธิปไตย (DAP) บุตรชายของนายลิมกิตเสียง นักการเมืองอาวุโสของมาเลเซีย ได้เผยแพร่บทความในบล็อกของเขาว่า พรรค DAP จะใช้โลโก้พรรคฝ่ายค้านอื่น แทนโลโก้รูปจรวดของพรรค คือหันไปใช้โลโก้พรรคอิสลามแห่งมาเลเซีย หรือ PAS ในพื้นที่เลือกตั้งที่อยู่บริเวณคาบสมุทรมลายู และใช้โลโก้พรรคยุติธรรมประชาชน หรือ PKR ในรัฐซาบาห์ และรัฐซาราวักบนเกาะบอร์เนียว ถ้าหากนายทะเบียนสมาคม (ROS) ของมาเลเซีย ไม่ยอมถอนจดหมายที่ออกเมื่อ 17 เม.ย. ส่งมาถึงพรรค DAP ระบุว่าไม่รับรองนายทะเบียนสมาชิกพรรค ภายใต้คณะกรรมการกลางบริหารพรรค ซึ่งถูกเลือกโดยสมาชิกพรรคเมื่อวันที่ 15 ธ.ค. ปีที่ผ่านมา

ทั้งนี้จดหมายจากนายทะเบียนสมาคม (ROS) ของมาเลเซีย ได้ส่งจดหมายลงวันที่ 17 เม.ย. โดยไปถึงพรรค DAP ในวันที่ 18 เม.ย. เป็นเวลาไม่ถึง 48 ชั่วโมง ก่อนวันที่ 20 เม.ย. ซึ่งจะเป็นวันรับสมัคร ส.ส. สำหรับการลงสมัครในการเลือกตั้งทั่วไปของมาเลเซียครั้งที่ 13 ซึ่งจะมีขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 5 พ.ค. นี้

ขณะที่พรรค DAP ซึ่งเป็นพรรคแนวสังคมประชาธิปไตยและมีฐานเสียงสนับสนุนหนาแน่นในหมู่ชาวจีนและในบริเวณชายฝั่งด้านตะวันตกของคาบสมุทรมลายูนั้น ในการเลือกตั้งครั้งหลังสุดเมื่อปี 2551 พรรค DAP เคยชนะเลือกตั้งได้ ส.ส. 28 ที่นั่ง นอกจากนี้พรรค DAP ยังชนะการเลือกตั้งสภาสหพันธรัฐปีนัง ทำให้นายลิมกวนเอ็ง เลขาธิการพรรค DAP ได้เป็นผู้ว่าการรัฐปีนังด้วย

โดยคาดหมายว่าในการเลือกตั้งครั้งนี้ พรรค DAP จะส่งผู้สมัคร ส.ส. 53 เขต และผู้สมัครสภาระดับสหพันธรัฐอีก 103 เขต ซึ่งหากคำสั่งในจดหมายนายทะเบียนสมาคมมาเลเซียยังเป็นไปตามนี้ ในวันที่ 20 เม.ย. ผู้สมัครของพรรค DAP จะลงสมัครในนามพรรคฝ่ายค้านพรรคอื่น คือพรรค PAS และ PKR แทน

นายลิมกวนเอ็ง ซึ่งขณะนี้ดำรงตำแหน่งรักษาการผู้ว่าการรัฐปีนังด้วย กล่าวในบทความว่าสิ่งที่เกิดขึ้นถือเป็นความพยายามอย่างเอาเป็นเอาตายเพื่อให้พรรครัฐบาล 'แนวร่วมแห่งชาติ' หรือ BN ให้ชนะการเลือกตั้งโดยไม่มีศักดิ์ศรีและทำลายกระบวนการเลือกตั้งทั้งหมด นายลิมกวนเอ็งยังกล่าวด้วยว่า ถ้านายทะเบียนสมาคมของมาเลเซียไม่ถอนจดหมายดังกล่าว จะทำให้กระบวนการเลือกตั้งทั่วไปของมาเลเซียด่างพร้อยและฉ้อฉล เพราะพรรค DAP ไม่สามารถใช้สัญลักษณ์รูปจรวดของพรรคได้

ท้ายบทความ เขาระบุว่าคณะกรรมการกลางบริหารพรรคกิจประชาธิปไตยเรียกร้องให้ผู้นำพรรค สมาชิก และผู้สนับสนุนพรรคทุกคนอยู่ในความสงบและเปลี่ยนความโกรธให้มีผลอย่างหนักแน่นในการเลือกตั้งวันที่ 5 พ.ค. นี้

ขณะที่เมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 18 เม.ย. ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้งมาเลเซีย อับดุล อัซซิส โมฮัมหมัด ยูโซฟ ได้ตอบคำถามผู้สื่อข่าวมาเลเซียกินี โดยส่งข้อความสั้น หรือ SMS มาว่าจดหมายของนายทะเบียนสมาคมมาเลเซียจะไม่มีผลอะไร และพวกเขา (พรรค DAP) สามารถลงสมัครได้

ทั้งนี้พรรครัฐบาล "แนวร่วมแห่งชาติ" หรือ BN ชนะการเลือกตั้งและครองอำนาจในมาเลเซียมานับตั้งแต่ได้รับเอกราชในปี พ.ศ. 2510 ขณะที่ผลการเลือกตั้งทั่วไปครั้งล่าสุดในปี 2551 แม้พรรครัฐบาลจะชนะ แต่ก็ไม่สามารถครองเสียงข้างมากเกิน 2 ใน 3 ของสภาได้ โดยฝ่ายค้านได้ ส.ส. 82 ที่นั่ง ส่วนฝ่ายรัฐบาลได้ 140 ที่นั่ง ซึ่งลดลง 58 ที่นั่ง จากเดิมที่เคยได้ 198 ที่นั่งในการเลือกตั้งปี 2547 โดยฝ่ายค้านสามารถชนะการเลือกตั้งที่รัฐเคดะห์ กลันตัน ปีนัง สลังงอร์ และเขตกัวลาลัมเปอร์

สำหรับการเลือกตั้งทั่วไปในวันที่ 5 พ.ค. นี้ นาจิป ราซัก รักษาการนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย จะนำพรรครัฐบาล "แนวร่วมแห่งชาติ" (Barisan Nasional หรือ BN) ประกอบด้วยพรรคอัมโน (UMNO) พรรคสมาคมชาวจีนมาเลเซีย (MCA) พรรคคองเกรสอินเดียมาเลเซีย (MIC) ฯลฯ เป็นต้นลงเลือกตั้งแข่งกับพรรคฝ่ายค้าน "ภาคีประชาชน" (Pakatan Rakyat) ซึ่งนำโดยอันวาร์ อิบราฮิม ซึ่งประกอบด้วยพรรคยุติธรรมประชาชน (PKR) พรรคกิจประชาธิปไตย (DAP) และพรรคอิสลามแห่งมาเลเซีย (PAS)

ติดตามความเคลื่อนไหวของ ประชาไท ทางอีเมล คลิกอ่าน http://goo.gl/8xIcV หรือเฟซบุ๊ค http://fb.me/Prachatai

ชาวบ้านสุดทน! แจ้งจับพระ ชี้ฮุบไม้โครงการขุดลอกลำห้วย

Posted: 18 Apr 2013 12:38 PM PDT

 
17 เม.ย.56 – นายธีรชาติ แก้วขาว อายุ 46 ปี ชาวบ้าน ต.บะ อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์ กล่าวหลังได้เข้าแจ้งความที่ สภ.ท่าตูมว่า พบกับกองไม้ขนาดใหญ่กว่า 50 ต้น อยู่ภายในวัดศรีสว่างทุ่งโก ต.หนองเมธี อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์ โดยไม้ดังกล่าวเป็นไม้ที่ได้นำมาจากการขุดลอกลำห้วยระวี เขต ต.บะ และ ต.หนองเมธี อ.ท่าตูม จึงมาแจ้งความที่โรงพักเพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจไปตรวจสอบอีกครั้งหนึ่ง
 
นายธีรชาติ ระบุว่า จากสอบถามชาวบ้านได้ความว่าไม้ทั้งหมดเป็นของ พระครูสุขุมธรรมโชติ หรือหลวงตาชื่น เจ้าอาวาสวัดศรีสว่างทุ่งโก ซึ่งชาวบ้านได้เคยร้องเรียนขอความเป็นธรรมกรณีโครงการขุดลอกลำห้วยระวีรุกที่นาชาวบ้านในพื้นที่บ้านเฉนียง ต.บะ อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์ กว่า 30 ราย เนื้อที่กว่า 300 ไร่ แต่หลวงตาชื่นได้เข้าไปในพื้นที่ขุดลอกลำห้วยคอยเกลี้ยกล่อมและข่มขู่ชาวบ้าน โดยอ้างว่าโครงการดังกล่าวเป็นโครงการเพื่อมาพัฒนาหมู่บ้าน
 
ทั้งนี้ ชาวบ้านมีการตั้งข้อสังเกตว่า เบื้องหลังของกรณีดังกล่าวพัวพันกับนักการเมืองในพื้นที่ ส่วนผลประโยชน์ที่หลวงตาชื่นได้รับคือต้นไม้ที่โค่นล้มจำนวนมาก ซึ่งหากมีใครโวยวายก็จะจ่ายเงินบ้างเล็กน้อย แต่หากใครอ่อนแอก็จะยึดเข้าวัดโดยอ้างว่าเอาไม้มาทำกุฏิ ทำศาลา โดยหลวงตาชื่นจะทำตัวเหมือนโฟร์แมน ทั้งเซ็นบิลน้ำมัน ฉีกตั๋วน้ำมัน เซ็นเงินเดือนคนงาน ทำหน้าที่ทุกอย่าง และการดูแลเรื่องไซด์งานตลอดลำห้วย ชาวบ้านมักเห็นว่าหลวงตาชื่นจะเดินคุมงานตลอดไซด์งานและพื้นที่ที่ทำการก่อสร้างทั้งหมด ดูแลเรื่องต้นไม้ เรื่องถนนหนทาง
 
ด้านนายรมย์ ซ่อนกลิ่น อายุ 72 ปี ชาวบ้าน ต.บะ อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์ กล่าวว่า การขุดลอกลำห้วยระวี ผู้รับเหมาได้ขุดดินขึ้นมาทิ้งบนที่นาและโค่นต้นไม้ออกไปหมดเลย ทั้งที่ชาวบ้านมีกรรมสิทธิ์ถือครองเป็นโฉนดที่ดิน และ นส.3 กันทุกคน ทำไมทางการและผู้รับเหมามาทำร้ายและรักแกชาวบ้านกันอย่างนี้ แถมยังมีหลวงตาชื่นมาคอยดูแลการขุดลอกลำห้วยระวี ถ้ามีการรุกที่ชาวบ้านหลวงตาชื่นจะเป็นคนมาเคลียร์เอง ส่วนต้นไม้ที่ถูกตัดบนที่นาของชาวบ้านก็ขนเอาไปไว้ที่วัดเกือบหมด
 
"อยากถามว่าพระมายุ่งเกี่ยวอะไรด้วยกับเรื่องนี้ มันไม่ใช่กิจของสงฆ์" นายรมย์ตั้งคำถาม
 
อนึ่ง โครงการขุดลอกห้วยระวี มีกรมทรัพยากรน้ำเป็นผู้รับผิดชอบ และมี หจก.สินเจริญสนมเป็นผู้รับจ้างทำการขุดลอกตลอดแนวลำห้วยจากบ้านเฉนียง ม.8 ต.บะ อ.ท่าตูม ไปจนถึงเขตท้องที่ของอำเภอเมืองสุรินทร์
 
จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่ามีชาวบ้านได้รับความเดือนร้อน เพราะมีการขยายลำห้วยทับที่ดินของชาวบ้านและมีผู้ได้รับความเดือนร้อนเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับ หจก.สินเจริญสนม แล้วกว่า 20 รายที่ สภ.กระโพ โดยมีการนำเสนอข่าวทางสื่อมวลชนหนังสือพิมพ์และโทรทัศน์
 

 

ติดตามความเคลื่อนไหวของ ประชาไท ทางอีเมล คลิกอ่าน http://goo.gl/8xIcV หรือเฟซบุ๊ค http://fb.me/Prachatai

ชายแดนไทย-กัมพูชาปกติ คนยังแห่เล่นกาสิโนเพียบ ขณะที่แรงงานกลับเข้าไทยน้อย‏

Posted: 18 Apr 2013 11:28 AM PDT

สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชายังปกติ ทหารไทยยังคงตรึงกำลังตลอดแนวชายแดน พร้อมอพยพหากเกิดเหตุรุนแรง ด้านคนข้ามฝั่งเล่นคาสิโนยังแน่น ชาวบ้านชายแดนกด ATM สำรองไว้ฉุกเฉิน ขณะที่แรงงานกัมพูชายังดูท่าทีรอกลับเข้าไทย‏

 
 
 
วันนี้ (18 เม.ย.56) ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา บริเวณจุดผ่านแดนถาวรช่องจอม ต.ด่าน อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ว่า บรรยากาศตั้งแต่ช่วงเช้ามีนักเสี่ยงโชคชาวไทยยังคงหลั่งไหลข้ามแดนไปเสี่ยงโชคในบ่อนคาสิโนทั้ง 2 แห่งในฝั่งกัมพูชาอย่างคึกคัก ประมาณ 600-700 คน 
 
นายอนุรักษ์ รัตนเพิ่ม อายุ 37 ปี ชาวบ้านในพื้นที่ ต.ด่าน กล่าวว่า รู้สึกหวั่นไหวในสถานการณ์ที่ศาลโลกพิจารณาคดีเกี่ยวกับปราสาทเขาพระวิหาร จึงมากดเงินสดจากตู้ ATM สำรองไว้ใช้จ่ายในยามฉุกเฉิน เพราะหวั่นวิตกต่อภาวะสงครามที่อาจเกิดขึ้นได้
 
ขณะที่ทหารไทยยังคงตรึงกำลังในฐานที่มั่นตลอดแนวชายแดน ส่วนการดำเนินชีวิตของชาวบ้านในพื้นที่ก็ยังคงออกไปทำไร่ทำนาอย่างปรกติเช่นเดิม ทั้งนี้ หากมีเหตุการณ์รุนแรงขึ้น ผู้นำชุมชนและหมู่บ้านก็มีความพร้อมที่จะอพยพประชาชนออกจากพื้นที่ได้ทันที
 
นายโปร อายุ 25 ปี แรงงานชาวกัมพูชา กล่าวว่า มั่นใจว่าจะไม่เกิดสงคราม จึงเดินทางกลับนครปฐม เพื่อทำงานในโรงงานอะไหล่รถยนต์ ขณะที่ชาวเขมรส่วนใหญ่ไม่สนใจเรื่องเขาพระวิหาร สนใจแต่เรื่องชีวิตความเป็นอยู่มากกว่า การต่อสู้ที่ศาลโลกเป็นเรื่องของรัฐบาลกัมพูชา
 
ด้านนายธานินท์ วันศิริ นายท่าด่านช่องจอม ต.ด่าน อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ กล่าวว่า ช่วงเทศกาลสงกรานต์ ได้มีแรงงานชาวกัมพูชาจำนวนมากที่ทำงานในไทยเดินทางกลับประเทศกัมพูชา ผ่านจุดผ่านแดนถาวรช่องจอม แต่หลังสงกรานต์กับพบว่ามีแรงงานชาวกัมพูชาเดินทางกลับไปทำงานน้อยลงมากจนผิดปกติ น่าจะรอดูท่าทีและเกาะติดสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชาไปอีกสักระยะหนึ่งก่อน คาดว่าหลังวันที่ 19 เมษายนนี้ แรงงานกัมพูชาหน้าจะทยอยเดินกลับเข้าประเทศไทยเพื่อขายแรงงานมากขึ้น 

 

ติดตามความเคลื่อนไหวของ ประชาไท ทางอีเมล คลิกอ่าน http://goo.gl/8xIcV หรือเฟซบุ๊ค http://fb.me/Prachatai

เครือข่ายผู้ป่วยฯ เตรียมบุก สธ.จี้'หมอประดิษฐ'หยุดให้ข่าวทำลายองค์การเภสัชกรรมรายวัน

Posted: 18 Apr 2013 10:53 AM PDT

เครือข่ายผู้ป่วยซีแอลจับมือสหภาพองค์การเภสัชกรรม เตรียมบุก สธ.24 เม.ย.นี้ จี้ รมว.สธ.ทบทวนบทบาท ชี้การเมืองมีเป้าหมายแอบแฝงไม่ให้ทำซีแอลยา หวังเปิดช่องธุรกิจยาข้ามชาติยึดตลาดยาแพง

 
18 เม.ย.56 – นายอภิวัฒน์ กวางแก้ว ประธานเครือข่ายผู้ติดเชื้อเอชไอวีแห่งประเทศไทย และนางสายชล ศรทัตต์ ผู้แทนเครือข่ายผู้ป่วยมะเร็ง ร่วมกันเปิดเผยข้อมูล ผลกระทบของสิทธิบัตรยาต่อผู้ป่วยโรคร้ายแรงซึ่งต้องทนทุกข์กับการขาดโอกาสเข้าถึงยารักษาที่มีราคาแพง เพราะบริษัทยาข้ามชาติผูกขาดตั้งราคาไว้สูงโดยอ้างสิทธิบัตรยา อีกทั้งการให้ข่าวของ นพ.ประดิษฐ์ สินธวณรงค์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (รมว.สธ.) ยังเป็นการทำลายองค์การเภสัชกรรม
 
นายอภิวัฒน์ กล่าวว่า ที่ผ่านมา กระทรวงสาธารณสุขในสมัย นพ.มงคล ณ สงขลา เป็น รมว.สธ.ได้ประกาศนโยบายใช้สิทธิโดยรัฐ (ซีแอล) และมอบให้องค์การเภสัชกรรม (อภ.) ซึ่งเป็นวิสาหกิจของรัฐเป็นหัวหอกจัดหายาที่มีคุณภาพเหมือนกันแต่ราคาถูกจากต่างประเทศเข้ามาใช้แทน ทำให้บริษัทยาข้ามชาติต่างๆ ต้องยอมเจรจาลดราคายาลงหลายเท่าตัว อีกทั้งประเทศยากจนหลายประเทศายเท่าถูกเข้ามาใช้และบีบให้บริษัทยาข้ามชาต่าโยบายใช้สิทธิโดยรัฐหรือที่เรียกว่สซีแอลให้องค์การเภสัชกรรมเถือเอาประเทศไทยเป็นตัวอย่างประกาศนโยบายซีแอลตาม สร้างความไม่พอใจให้กับประเทศมหาอำนาจเจ้าของบริษัทยาข้ามชาติเป็นอย่างมาก และใช้ทุกวิธีการกดดันรัฐบาลไทยให้ยกเลิกมาตรการใช้ซีแอลมาโดยตลอด
 
นายอภิวัฒน์ กล่าวต่อว่า ในรัฐบาลปัจจุบัน นพ.ประดิษฐ์ สินธวณรงค์ รมว.สธ.ได้มีนโยบายรวมอำนาจหน่วยงานสาธารณสุขต่างๆ ด้วยการส่งนักการเมือง นักธุรกิจเอกชน เข้ายึดครองและสร้างความแตกแยกในบอร์ดต่างๆ ของสาธารณสุข รวมถึงบอร์ด อภ. และเข้าควบคุมรัฐวิสาหกิจยาของรัฐที่มียอดขายปีละกว่า 12,000 ล้านบาท อีกทั้งยังทำลายภาพพจน์เชิงธุรกิจของ อภ.ด้วยการเอากรณีการก่อสร้างโรงงานวัคซีนล่าช้าและข่าวการปนเปื้อนของสารตั้งต้นผลิตยาพาราเซทตามอลเป็นประเด็นทำลายความน่าเชื่อถือของ อภ.
 
จนสหภาพองค์การเภสัชกรรม (อภ.) ทนไม่ได้ ต้องออกแถลงการณ์เรียกร้องให้เอาผิดกับ รมว.สาธารณสุขในข้อหาทำร้าย อภ.เพื่อเปิดโอกาสให้บริษัทยาข้ามชาติเข้ายึดตลาดยาของไทย และส่งสัญญาณให้กับประเทศมหาอำนาจว่าต่อไปนี้จะไม่มีหน่วยงานไหนของรัฐทำเรื่องซีแอล อีกแล้ว
 
ประธานเครือข่ายผู้ติดเชื้อแอชไอวี กล่าวว่า พฤติกรรมให้ข่าวทำลายองค์การเภสัชรายวันของ รมว.สธ. ทำให้ผู้ป่วยที่เคยได้รับประโยชน์จากระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าและนโยบายซีแอลของรัฐบาลที่ผ่านมา เห็นว่าฝ่ายการเมืองมีเป้าหมายทับซ้อนต้องการทำให้องค์การเภสัชกรรมของไทยอ่อนแอลงจนไม่สามารถเป็นเครื่องมือของรัฐในการทำซีแอล และต่อรองราคายากับบริษัทยาข้ามชาติ ทั้งที่รัฐมนตรีมีหน้าที่ต้องเพิ่มความน่าเชื่อถือให้แข่งขันกับบริษัทยาข้ามชาติได้ แต่กลับทำตรงข้ามถือเป็นเรื่องที่ผู้บริหารทั่วไปไม่ทำกัน
 
"ที่ร้ายกว่าคือ รมว.สาธารณสุขได้ทำหนังสือด้วยตัวเองถึงองค์การอนามัยโลก (WHO) ถามถึงเรื่องการบริหารภายในของ อภ.ในลักษณะตั้งข้อสงสัยถึงความโปร่งใสที่ผ่านมา ทั้งๆ ที่สามารถเรียกหาข้อมูลจากบอร์ดหรือให้บอร์ดเป็นผู้หาข้อมูลตามหน้าที่ได้อยู่แล้ว ทำให้น่าเชื่อว่าเพื่อต้องการบอกองค์การอนามัยโลก และทำให้เป็นข่าวไปทั่วโลกว่า รัฐบาลนี้ไม่สนับสนุน อภ.ให้ทำซีแอลอีกต่อไป และการเจรจาการค้ากับประเทศมหาอำนาจจะไม่มีหน่วยงานของรัฐที่เป็นอุปสรรคอีกแล้ว ถือเป็นใช้อำนาจหน้าที่ทำร้ายประชาชน ทำร้ายประเทศชาติ อย่างเลือดเย็น" นายอภิวัฒน์ กล่าว
 
ประธานเครือข่ายผู้ป่วยเอชไอวี กล่าวต่อว่า เพื่อให้ รมว.สธ.ทำหน้าที่ของตนให้ถูกต้อง ยึดประโยชน์ของประเทศเป็นหลัก เครือข่ายผู้ป่วยเอดส์ มะเร็ง หัวใจ ไตวายและอื่นๆ จะจับมือกับสหภาพ อภ.เดินทางไปกระทรวงสาธารณสุขในวันที่ 24 เม.ย.นี้ เพื่อบอกให้ นพ.ประดิษฐ์ สินธวณรงค์ ทบทวนตัวเองให้เป็น รมว.สธ.ที่ดีของประเทศไทย ไม่ใช่เป็น รมว.สธ.ของบริษัทยาข้ามชาติหรือของธุรกิจการเมืองที่สังคมกำลังตั้งประเด็นสงสัยอยู่ในขณะนี้
 
รายงานข่าวแจ้งว่าในวันที่ 24 เม.ย.ที่ทางชมรมแพทย์ชนบท ชมรมทันตภูธร เภสัชกร และพยาบาลจะร่วมกันเดินทางไปยัง สธ.และสำนักงานคณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดินให้ตรวจสอบการทุจริตเชิงนโยบายทำร้ายระบบสาธารณสุขของรัฐ เอื้อประโยชน์ธุรกิจเอกชน ขณะที่ชมรมทันตสาธารณสุขภูธรและเครือข่ายทันตแพทย์ รพ.ชุมชน ออกจดหมายเปิดผนึกเมื่อวันที่ 17 เม.ย.ที่ผ่านมา ชี้นายกทันตแพทยสภา เอาสภาวิชาชีพไปสนับสนุนนโยบายนักการเมือง ขยายความขัดแย้งในระบบบริการสาธารณสุขของพื้นที่ โดยไม่ได้รับความเห็นชอบจากสมาชิก
 

 

ติดตามความเคลื่อนไหวของ ประชาไท ทางอีเมล คลิกอ่าน http://goo.gl/8xIcV หรือเฟซบุ๊ค http://fb.me/Prachatai

เหยื่อ 112 บนเส้นทางรถไฟความไวสูง

Posted: 18 Apr 2013 08:02 AM PDT

ผู้ที่ต้องตกเป็นเหยื่อของคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ไม่ว่าจะเป็นผู้กระทำผิดโดยตรง โดยอ้อม หรือไม่ใช่ผู้กระทำเอง กลายเป็นแพะรับบาปจากการใช้มาตรา 112 ที่มีความหมายกว้างขวาง ขยายขอบเขตครอบจักรวาลเพื่อ มาเอาผิด เสมือนหนึ่งว่าเมื่อนำมาตรา 112 มาใช้แล้ว สุรเสียงแห่งความยุติธรรมที่ผู้มีอำนาจตัดสินผู้คน ต้องบังคับ และถือปฏิบัติไปตามกฎหมายจักต้องเงียบเสียงลง ผู้ที่ตกเป็นเหยื่อมาตรา 112 จึงตกตกอยู่ในสภาพเสมือนเป็นพลเมืองชั้นสอง ถูกเลือกปฏิบัติ แบ่งแยกกีดกัน ออกจากสิ่งที่ตนควรได้รับจากกระบวนการยุติธรรม

ผู้ถูกกล่าวหาตามมาตรา 112 มักจะได้ไม่รับการประกันตัวโดยสิ้นเชิง เว้นเสียแต่ว่า เขาเป็นผู้มีอภิสิทธิ์บางประการ หากแม้นว่าเขาประหนึ่งเป็นเพียงคนธรรมดาคนหนึ่ง ดังเช่น คุณ สมยศ หรือนายยุทธภูมิ แม้รัฐธรรมนูญ ที่ได้บัญญัติคุ้มครองให้ ผู้ต้องหา หรือจำเลย จะต้องได้สิทธิประกันตัว และจะปฏิบัติกับ ผู้ต้องหา หรือจำเลย เสมือนว่าเป็นผู้กระทำผิดก่อนมีคำพิพากษาถึงที่สุดมิได้ก็มิอาจคุ้มครองพวกเขาได้ สิ่งที่อาจจะช่วยพวกเขา อาจมีเพียงประกอบกรรมดีไปเกิดในชาติใหม่เผื่อว่าจะมีบุญวาสนาเพียงพอให้ในชาติใหม่ได้เกิดเป็นอภิสิทธิ์ชน จะได้มีความยุติธรรมในชีวิตกับเขาบ้าง

พวกเหยื่อมาตรา 112 มักถูกคุมขังยาวนาน ซึ่งถือเป็นการทรมานอีกรูปแบบหนึ่ง เมื่อจำเลยถูกทรมาน จึงเลือกที่จะยอมรับสารภาพไปเสีย เพื่อให้ตนได้รับการลดโทษกึ่งหนึ่ง อันเป็นกระบวนการที่มีลักษณะบีบบังคับ เพราะต้องถูกจองจำเพราะมิได้รับสิทธิประกันตัว ระหว่างกระบวนการพิจารณาคดีอันยืดเยื้อยาวนาน               

หากใครต้องการต่อสู้ในกระบวนการยุติธรรมก็จะต้องพบกับชะตากรรมที่เลวร้าย ดั่งนายสมยศ พฤกษาเกษมสุข เป็นต้นว่า ต้องไปนำสืบพยานต่างจังหวัดหลายจังหวัด โดยตลอดทางได้รับความลำบากต่างๆ เช่น ต้องยืนอยู่ในรถตลอดทางเป็นเวลาหลายชั่วโมง ไม่ได้รับอนุญาตให้พักเข้าห้องน้ำ และนำตัวไปคุมขังในคุกต่างจังหวัดที่มีสภาพไม่ต่างจากคอกสัตว์ การเป็นอยู่แออัดเป็นอย่างมาก รวมทั้งการพิจารณาคดีนำสืบพยานที่นายสมยศต้องไปให้การ นายสมยศจะถูกตีตรวนที่ข้อมือและข้อเท้าตลอดเวลา ประหนึ่งว่า เป็นคนขี้คุก เป็นอาชญากรร้ายแรง เจ้าหน้าที่อาจลืมไปว่า ห้ามปฏิบัติกับบุคคลเสมือนเป็นคนผิดหากยังไม่มีคำพิพากษาถึงที่สุดว่าผู้นั้นผิดจริง หรือนายยุทธภูมิ ที่ถูกคุมขังตั้งแต่ 19 กันยายน 2555 จนปัจจุบันไม่เคยได้รับสิทธิประกันตัวเลย ทั้งๆที่ได้ยื่นขอประกันตัวไปกว่า 6 ครั้งด้วยกัน

 แต่อย่างๆไรก็ตาม ยังคงมีคนได้รับสิทธิประกันตัวอยู่บ้าง เช่น นายยศวริศ ชูกล่อม ที่ศาลชั้นต้นพิพากษาจำคุก 2ปีครึ่ง ในข้อหาหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ แต่ได้รับสิทธิประกันตัว ในวงเงินเพียง 500,000 บาท ทำให้กระบวนการยุติธรรมดูเสมือนว่าไร้มาตรฐาน

แต่เมื่อเปรียบเทียบกับคดีฆ่าคนตายที่มีอัตราโทษสูงสุดถึงประหารชีวิต กลับมีหลายกรณีที่ศาลให้ประกันตัวอย่างง่ายดาย ในขณะที่โทษของคดีหมิ่นพระบรมราชานุภาพอยู่ระหว่าง 3-15 ปี การประกันตัวกลับทำได้ยากยิ่ง หรือขาดหลักเกณฑ์ที่แน่นอน

กระทรวงการยุติธรรมสร้างคุกนักโทษการเมืองขึ้นมาใหม่ แม้แง่หนึ่งจะรับรองสิทธิเสรีภาพของผู้คนมากขึ้น แต่ขณะเดียวกันกลับเป็นการตอกย้ำว่า ในประเทศที่อ้างประชาธิปไตยที่พลเมืองควรมีสิทธิเสรีภาพในการแสดงออกทางการเมือง การยึดถืออุดมการณ์ทางการเมืองที่แตกต่างกันได้ กลับมิใช่ประชาธิปไตยในความหมายอย่างสากล ยังคงจมปรักอยู่กับคำอ้างเดิมๆว่า นี่แหละประชาธิปไตย แต่เป็นประชาธิปไตยอย่างไทยๆ ที่ยังบังคับให้พลเมืองต้องมีความคิดทางการเมืองอยู่ในกรอบอยู่เกณฑ์

ถึงกระนั้นก็ดีนักโทษคดีมาตรา 112 ก็ยังไม่ถือว่าเป็นนักโทษการเมืองอยู่ดีในสายตาของกระทรวงยุติธรรม โดยไม่ถูกนับรวมเป็นนักโทษที่จะอยู่ในข่ายย้ายไปยังคุกนักโทษการเมือง และไม่นับรวมในการอนุมัติวงเงินประกันสำหรับนักโทษการเมืองของกระทรวงยุติธรรม เช่นกัน ทำให้เกิดการตั้งคำถามในเหตุผลของฝ่ายบริหาร หรือพรรคเพื่อไทยที่เป็นรัฐบาลอยู่ขณะนี้ ว่า ที่ไม่สามารถช่วยเหลืออะไรนักโทษมาตรา 112 ได้เพราะเหตุว่าอำนาจมิได้อยู่ในมือรัฐบาล เป็นเพียงคำโกหกแบบขอไปทีหรือไม่

แม้ว่าคนในขบวนการเคลื่อนไหวได้ร่วมต่อสู้เสียเลือดเนื้อกว่า 100 ศพ และติดคุกติดตะรางสูญเสียทรัพย์สิน เงินทองไปมากเพื่อให้พวกเราชาวไทยสามารถมีรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งถูกต้องตามครรลองคลองธรรมสมเจตนารมณ์ประชาธิปไตย กาลเวลาผ่านไปกว่า 3 ปีแล้ว รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง ที่มาจากการร่วมสร้างคำมั่นสัญญาระหว่างพี่น้องประชาชนว่าจะนำประชาธิปไตยมาสู่ประเทศไว้เมื่อ 3 ปีก่อน แต่สิ่งที่รัฐบาลทำได้คือรักษาเสถียรภาพของตนเองไปวันต่อวัน ส่วนเรื่องใดที่หวาดกลัวจะเป็นเป้าของฝ่ายตรงข้าม กลับซุกไว้ใต้พรมเสีย เช่น เรื่องการสร้างประชาธิปไตย เรื่องการปฏิรูปกฎหมาย และเรื่องที่สำคัญยิ่งคือ ช่วยเหลือพี่น้องประชาชน ผู้คนที่ร่วมสู้กันมาเพื่อประชาธิปไตย ให้ได้รับอิสรภาพ ให้ได้รับความเป็นธรรม ให้ได้รับสิทธิตามกฎหมายที่ควรจะได้ตั้งแต่แรกแต่กลับไม่ได้ เช่น การพิจารณาออกกฎหมายนิรโทษกรรม กลับถูกบอกปัดราวกับเป็นเรื่องยาก แน่ล่ะ มันคงยากเสียกว่าการกู้เงิน 2 ล้านล้านบาทมาสร้างรถไฟ ความเร็วสูง  เป็นแน่

ทางด้าน แนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.)  เมื่อประสบความสำเร็จในการจัดตั้งรัฐบาลเรียบร้อยแล้ว ข้าพเจ้ายังจำการเคลื่อนไหวของ นปช.ในช่วงที่แกนนำติดคุกได้ ยกพลมาเป็นหมื่นเป็นแสน หวังจะช่วยให้แกนนำทั้งหลายพ้นจากคุก แต่ปัจจุบันมีแต่การเคลื่อนไหวกะปริดกะปรอยแกนนำทั้งหลายต่างก็มุ่งเข้ามาตำแหน่งทางการเมืองเป็นหลัก การเคลื่อนไหวเพื่อเรียกร้องประชาธิปไตย เพื่อช่วยเหลือเพื่อนที่ร่วมสู้กันมาตกอยู่ในสภาวะ "หางเครื่อง"นับวันเข้ายิ่งถูกลืมเป็นดาวดับ ปล่อยให้กลุ่มอิสระที่เห็นความสำคัญของการเรียกร้องต่อสู้ไปส่วนตัวตามยถากรรม

เราจะมีประชาธิปไตยได้อย่างไร ในเมื่อ ประชาชนยังถูกคุกคามสิทธิ เสรีภาพด้วยมาตรา 112 อยู่อย่างต่อเนื่อง คดีมาตรา 112 มิได้ลดลงเป็นนัยสำคัญเลยนับแต่เรามีรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง ล่าสุดไม่นานกระบวนการยุติธรรมบ้านเราเพิ่งจะพิพากษาคนขาย CD สารคดี BBC ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องการเมืองไทย ที่อาจหมิ่นเหม่ต่อสถาบัน แม้จะเป็นสารคดีที่ได้รับการยอมรับคุณภาพจากประชาคมโลกจาก ช่องข่าว BBC ก็ตาม ยิ่งทำให้ข้อโต้แย้งของพวกนักวิชาการว่า มาตรา112 ไม่ผิดเพราะมุ่งจะลงโทษผู้ที่แสดงความเห็นอาฆาตมาดร้ายเท่านั้น ไม่ประสงค์ลงโทษคนที่วิพากษ์วิจารณ์เสียน้ำหนักลงสิ้น

ประเทศไทยกำลังก้าวเข้าสู่ยุครถไฟความเร็วสูง ด้วยก้าวย่างอย่างรวดเร็วทะนงองอาจ แต่ความทันสมัยและก้าวเดินครั้งนี้ก็มิอาจจะตั้งได้บนฐานสังคมที่อ่อนแอ ที่ยังมีกฎหมายหลายฉบับที่เป็นเครื่องมือลิดรอนสิทธิเสรีภาพของประชาชน และกระบวนการยุติธรรมที่ป่าเถื่อนล้าหลัง ทำให้หลงลืมไปว่าว่าตนใช้อำนาจอธิปไตยของประชาชน ควรจะน้อมลงมารับใช้ประชาชนมิใช้กดขี่ประชาชน สิ่งเหล่านี้อาจเป็นจุดอ่อนที่ทำให้ก้าวเดินดังกล่าวถูกสะดุดลงได้ เป็นอันควรอย่างยิ่งที่จะต้องเตือนให้ผู้อ่านทุกท่านต้องหวนกลับไปคำนึงว่ารากฐานสังคมของเราแข็งแกร่งเพียงพอที่จะรับความเติบโต การก้าวกระโดดนี้ได้หรือยัง และเตือนพวกเราทั้งหลาย ให้กลับมาทบทวนอีกครั้งมันควรจะเป็นเวลาเสียทีที่จะต้องมีการปฏิรูป หรือยกเลิกกฎหมายมาตรา 112 เพื่อหยุดยั้งการคุกคามเสรีภาพของประชาชนเสียที

ติดตามความเคลื่อนไหวของ ประชาไท ทางอีเมล คลิกอ่าน http://goo.gl/8xIcV หรือเฟซบุ๊ค http://fb.me/Prachatai

ฮุนเซนหวังไทย-กัมพูชารักษาสันติภาพ

Posted: 18 Apr 2013 04:37 AM PDT

เว็บไซต์ AKP (Agence Kampuchea Press) ของกัมพูชา รายงานว่า นายกรัฐมนตรี สมเด็จอัครมหาเสนาบดี เดโช ฮุนเซนเรียกร้องไทยรักษาสันติภาพกับกัมพูชาขณะที่ทั้งสองประเทศเผชิญหน้าในศาลโลกที่กรุงเฮก

โดยเว็บไซต์ AKP รายงานคำพูดของนายกรัฐมนตรีกัมพูชาในวันที่ 18 เม.ย.ว่า "สันติภาพเป็นสิ่งสำคัญมาก ดังนั้นเราต้องรักษาไว้ซึ่งสันติภาพภายในประเทศและสันติภาพกับเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับประเทศไทย แม้ว่าทั้งสองประเทศจะเผชิญหน้ากันในศาลโลก ซึ่งกัมพูชาเป็นฝ่ายยื่นคำร้องต่อศาลโลกให้ตีความคำตัดสินของศาลโลกในกรณีประสาทเขาพระวิหารเมื่อวันที่ 15 มิถุนายน 2505 ก็ตาม"

นายกรัฐมนตรีกัมพูชากล่าวยังแสดงความประทับใจต่อเทศกาลสงกรานต์ที่ผ่านมาด้วยว่าประชาชนทั้งสองฝ่ายต่างข้ามแดนไปมาเพื่อร่วมเฉลิมฉลองเทศกาลปีใหม่ร่วมกัน

AKP ระบุว่า เมื่อวันที่ 28 เม.ย. 2554 กัมพูชาได้ยื่นคำร้องต่อศาลโลกให้ตีความคำตัดสินของศาลโลกกรณีปราสาทเขาพระวิหารเมื่อวันที่ 15 มิ.ย. 2505

วันที่ 18 กรกฎาคม 2554 ศาลโลกมีคำสั่งให้ทั้งไทยและกัมพูชาถอนกำลังทหารออกจากพื้นที่พิพาทรอบๆ ตัวปราสาทเขาพระวิหารรวมถึงห้ามกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับอาวุธใดๆ ในพื้นที่ดังกล่าว

เว็บไซต์ AKP ระบุด้วยว่า ตัดสินของศาลโลกเมื่อปี 2505 นั้นชี้ว่า ปราสาทเขาพระวิหารอยู่ในเขตอธิปไตยของกัมพูชา และไทยนั้นมีหน้าที่ต้องถอนกองกำลังทหาร, ตำรวจ หรือกองกำลังใดๆ ออกจากพื้นที่ดังกล่าว

 

ติดตามความเคลื่อนไหวของ ประชาไท ทางอีเมล คลิกอ่าน http://goo.gl/8xIcV หรือเฟซบุ๊ค http://fb.me/Prachatai

จวก กสท.เคาะ ‘ทีวีดิจิตอลสาธารณะ’ ช่องความมั่นคงฯ ล็อคสเปคให้ ‘ทหาร-ตร.’

Posted: 18 Apr 2013 03:37 AM PDT

กสท.ลงมติให้เฉพาะหน่วยงานความมั่นคงของรัฐ สามารถขอทีวีดิจิตอลช่องความมั่นคง ด้าน 'สุภิญญา'จวกล็อคสเปค ให้สิทธิเฉพาะกับหน่วยงานรัฐด้านความมั่นคง ชี้ความมีหลักเกณฑ์การอนุญาตในภาพรวม เตรียมเดินหน้าจับมือจุฬาฯ เปิดเวทีวิชาการชี้ประเด็นสำคัญ

 
17 เม.ย.56 - ที่ประชุม คณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (กสท.) พิจารณาและลงมติ เรื่อง คุณสมบัติของผู้ขอรับใบอนุญาตประกอบกิจการกระจายเสียงหรือกิจการโทรทัศน์ บริการสาธารณะประเภทที่สอง เพื่อความมั่นคงของรัฐ ระบุผู้รับใบอนุญาตต้องเป็นหน่วยงานรัฐเท่านั้น อีกทั้งต้องมีกฎหมายรองรับอำนาจหน้าที่เพื่อรักษาความมั่นคงของรัฐ ในการพิทักษ์รักษา ปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ รักษาเอกราช อธิปไตย และบูรณภาพแห่งดินแดน รวมทั้งการรักษาความสงบเรียบร้อยในประเทศ ทั้งนี้ ผลโหวตเสียงข้างมาก 3 : 1 : 1  โดยกรรมการเสียงข้างน้อยงดออกเสียงและไม่เห็นชอบมติตามลำดับ
 
สุภิญญา กลางณรงค์ กสทช.กรรมการเสียงข้างน้อยผู้ลงคะแนนไม่เห็นชอบมติให้เหตุผลว่า เนื่องจากเห็นว่าเป็นการกำหนดคุณสมบัติอย่างเฉพาะเจาะจงหรือเป็นการล็อคสเปค ให้สิทธิเฉพาะกับหน่วยงานรัฐด้านความมั่นคง โดยให้ความหมายเกี่ยวกับความมั่นคงอย่างจำกัด ซึ่งจะส่งผลให้เฉพาะกระทรวงกลาโหม กองทัพ และตำรวจเท่านั้น ที่เป็นผู้มีสิทธิขอรับใบอนุญาตประกอบกิจการฯ บริการสาธารณะประเภทที่สองเพื่อความมั่นคงของรัฐในทันที
 
อีกทั้งเห็นว่าเป็นการเห็นชอบกติกาในส่วนย่อย โดยไม่คำนึงผลของการอนุญาตให้ประกอบกิจการประเภทบริการสาธารณะในภาพรวมทั้งหมด ซ้ำยังไม่ครอบคลุมเงื่อนไขเกี่ยวกับสัดส่วนเนื้อหาและผังรายการ ตลอดจนการหารายได้ ซึ่งเป็นประเด็นที่ถูกจับตาเป็นพิเศษ เนื่องจากบริการสาธารณะประเภทที่สอง "เพื่อความมั่นคงของรัฐหรือความปลอดภัยสาธารณะ" กฎหมายเปิดให้หารายได้จากการโฆษณาได้ จึงปฏิเสธไม่ได้ว่าจะเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้สาธารณะยิ่งมีข้อกังขามากขึ้น
 
สุภิญญา กล่าวด้วยว่า การทำหน้าที่ของ กสท.ซึ่งต้องตอบสาธารณะให้ได้ว่า นโยบายที่เกิดขึ้นเป็นการกระจายสิทธิการใช้ประโยชน์จากคลื่นความถี่ไปสู่หน่วยงานนอกภาครัฐมากน้อยเพียงใด เพื่อให้หน่วยงานนอกเหนือจากรัฐมีโอกาสทำหน้าที่ให้บริการข้อมูลข่าวสารที่แตกต่างแก่สาธารณะตามที่กฎหมายรับรองสิทธิ หรือเป็นเพียงการเพิ่มสิทธิให้กับหน่วยงานรัฐอื่นๆ เท่านั้น
 
อย่างไรก็ตามตนเห็นว่า กรณีดังกล่าวยิ่งสะท้อนถึงความจำเป็นที่จะต้องมีหลักเกณฑ์การอนุญาต ให้ประกอบกิจการกระจายเสียงหรือกิจการโทรทัศน์บริการสาธารณะในภาพรวม โดยเฉพาะการอนุญาตให้ประกอบกิจการในประเภทบริการสาธารณะที่ต้องใช้กระบวนการพิจารณาความเหมาะสมในเชิงคุณภาพ หรือการประกวด (beauty contest)  และเป็นกติกาใหญ่ที่นำมาใช้ในการอนุญาตให้ประกอบกิจการเพื่อให้บริการสาธารณะ ตามเจตนารมณ์ของกฎหมาย 
 
สุภิญญา กล่าวต่อมาว่า จากการศึกษาดูงานในต่างประเทศของสำนักงาน กสทช.พบว่า กรณีเกณฑ์การพิจารณา  ความเหมาะสมของผู้ยื่นขออนุญาตประกอบกิจการฯ ต้องคำนึงถึงด้านคุณสมบัติของผู้ขออนุญาต แนวทางการพิจารณา และกรอบการหารายได้ ขอบเขตการโฆษณาในเชิงภาพลักษณ์ ความพร้อมด้านเทคโนโลยี สตูดิโอถ่ายทำ โดยมีเกณฑ์การให้คะแนนในแต่ละด้านอย่างชัดเจน และเปิดเผยต่อสาธารณะ ทั้งนี้ ในประเทศสเปนพิจารณาเกณฑ์ข้างต้น  เป็นหลัก ส่วนในสหรัฐอเมริกามุ่งเน้นให้ภาคสังคมเข้ามาประกอบกิจการในสัดส่วนที่สูง ส่วนภาครัฐเป็นผู้ประกอบกิจการในสัดส่วนต่ำ
 
ในขณะนี้ กสท.ได้มอบหมายให้สำนักงาน กสทช.ดำเนินการจัดทำหลักเกณฑ์ดังกล่าวขึ้น และจะเป็นโอกาสสำคัญที่สาธารณชนจะเข้ามามีส่วนร่วมในการกำหนดทิศทางเพื่อให้เกิดการประกอบกิจการฯ ที่ตอบสนองประโยชน์   ต่อสาธารณะเอง
 
สุภิญญา ให้ข้อมูลด้วยว่า ในวันพุธที่ 24 เม.ย.56 สำนักงาน กสทช. ร่วมกับ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จัดสัมมนาวิชาการ เรื่อง "ทีวีดิจิตอล..... จุดเปลี่ยนประเทศไทย" ตอน ทีวีดิจิตอลสาธารณะ ระหว่างเวลา 08.30-16.30 น. ณ ห้องประชุมชั้น 2 อาคารสถาบัน 3 จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เพื่อแสวงหามุมมองเชิงวิชาการต่อการกำหนดนโยบายในการจัดสรร คลื่นความถี่และอนุญาตประกอบกิจการกระจายเสียงหรือกิจการโทรทัศน์บริการสาธารณะ โดยมีนักวิชาการทั้งจากด้านนิเทศศาสตร์และสื่อสารมวลชน นิติศาสตร์ เศรษฐศาสตร์ และวิศวกรรมศาสตร์เข้าร่วมให้ความเห็น จากนั้นจะมีการรวบรวมหลักการและเหตุผลสำคัญในทางวิชาการจากเวทีเสนอต่อ กสท.ต่อไป

 

ติดตามความเคลื่อนไหวของ ประชาไท ทางอีเมล คลิกอ่าน http://goo.gl/8xIcV หรือเฟซบุ๊ค http://fb.me/Prachatai

ศาลอุดรให้ประกันตัว 4 เสื้อแดงคดีเผาศาลากลาง

Posted: 18 Apr 2013 02:36 AM PDT

หลังสืบพยาน 7ปาก อาทิ อธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิ ผกก.ตำรวจอุดร ผอ.เรือนจำ อุดรฯ/กรุงเทพ ผู้ต้องขังที่ได้รับการประกันตัวและมารดาผู้ต้องขัง ศาลอุดรอนุมัติโดยกำหนดวงเงินประกันสองล้านห้า กรมคุ้มครองสิทธิรับลูกยื่นประกันทันที  นายกสมาคมทนายความเผย เตรียมยื่นประกัน จ.อุบลฯต่อ

18 เมษายน 2556 นายนรินทร์พงศ์ จินาภักดิ์ นายกสมาคมทนายความแห่งประเทศไทย ได้กล่าวกับประชาไทว่า  ในเช้าวันนี้คณะทนายความของผู้ต้องขังในคดีเผาสถานที่ราชการ จ.อุดรธานี ที่ถูกขังอยู่ในเรือนจำพิเศษ หลักสี่ ทั้งสิ้น4 คน ได้เข้าไต่สวนคำร้องเพื่อประกอบการปล่อยตัวชั่วคราวที่ศาล จ.อุดรธานี  ตามที่คณะทนายความได้ยื่นคำร้องไปเมื่อวันที่ 9 เมษายน 2556 ในการไต่สวนคณะทนายความได้ยื่นรายชื่อพยานทั้งสิ้น7ปาก ได้แก่ผู้กำการตำรวจ และผู้อำนวยการเรือนจำ จ.อุดร ผู้อำนวยการเรือนจำพิเศษ กรุงเทพฯ ผู้ต้องหาที่ได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวจาก จ.มุกดาหาร,อธิบดี กรมคุ้มครองสิทธิ และมารดาของผู้ต้องขัง จ.อุดรธานี  
 
ในช่วง บ่าย ศาลจังหวัดอุดรได้อ่านคำสั่งว่าได้พิจารณาจากการสืบพยานทั้ง 7 ปากแล้ว และอนุมัติให้ปล่อยตัวชั่วคราวผู้ต้องขังในคดีทั้ง4คน  ได้แก่ นายอาทิตย์ ทองสาย นายกิติพงษ์ ชัยกัง นายเดชา คมขำ และ นายบัวเรียน แพงสา โดยกำหนดวงเงินประกันคนละ 2,500,000บาท(สองล้านห้าแสนบาทถ้วน) หลังจากการอ่านคำสั่งให้ประกันตัวผู้ต้องขังเสร็จ ทางคณะทนายความและกรมคุ้มครองสิทธิกำลังดำเนินการโดยใช้เงินจากกรมคุ้มครองสิทธิเข้ายื่นประกันตัวผู้ต้องหาทั้ง4ราย
 
สำหรับกำหนดการปล่อยตัว นายกสมาคมทนายความแห่งประเทศไทย ได้กล่าวว่า หากกระบวนการในการประกันตัวเเล้วเสร็จ ในวันนี้  วันพรุ่งนี้ก็จะนำคำสั่งปล่อยตัวจากศาล จ.อุดร ไปยังเรือนจำพิเศษ หลักสี่เพื่อขอรับผู้ต้องขังทั้ง4คนโดยทันที  
 
เมื่อถามว่าจังหวะต่อไปของการต่อสู้ในคดีเหตุการณ์ชุมนุม 19 พฤษภาคม 2553 นายนรินทร์พงษ์ กล่าวว่าภายในเวลาสองถึงสามวันต่อจากนี้ ทางสมาคมทนายความแห่งประเทศไทยจะได้ยื่นประกันตัวผู้ต้องขังในคดีเผาสถานที่ราชการ จังหวัดอุบลราชธานี ที่ยังถูกคุมขังอยู่อีก4คนเป็นกรณีถัดไป

อนึ่ง แต่เดิมมีผู้ต้องขัง จ.อุดรธานี ที่ถูกพิพากษาในศาลชั้นต้นและไม่ได้รับสิทธิในการประกันตัวทั้งสิ้น5คน แต่เมื่อ 27 ธันวาคม 2555 นายวันชัย รักสงวนศิลป์ 1ใน5ผู้ต้องขังได้เสียชีวิตลงในระหว่างถูกคุมขัง

ข้อมูลจากศูนย์ขอ้มูลประชาชนผู้ได้รับผลกระทบจากการสลายการชุมนุม เมษา-พฤษภา 53 (ศปช.) ระบุว่าศาลชั้นต้นสั่งจำคุก นายอาทิตย์ ทองสาย จำคุก 22 ปี 6 เดือน,ยกฟ้องข้อหาวางเพลิงและขัดขวางเจ้าพนักงาน ,นายกิตติพงษ์ ชัยกัง จำคุก 11 ปี 3 เดือน,ลงโทษข้อหาวางเพลิง เฉพาะอาคารศาลากลางหลังเก่า ข้อหาทำให้เสียทรัพย์เฉพาะรถดับเพลิง ,นายเดชา คมขำ จำคุก 20 ปี 6 เดือน, ให้ชดใช้ ค่าเสียหาย 47.3 ล้านบาท และนายบัวเรียน แพงสา  จำคุก 20 ปี 6 เดือน, ให้ชดใช้ค่าเสียหาย 47.3 ล้านบาท
 
 
 
 
ติดตามความเคลื่อนไหวของ ประชาไท ทางอีเมล คลิกอ่าน http://goo.gl/8xIcV หรือเฟซบุ๊ค http://fb.me/Prachatai

เวเนซุเอลลาวุ่น สื่อรัฐเผยมีผู้เสียชีวิตจากเหตุรุนแรงทางการเมืองล่าสุด

Posted: 18 Apr 2013 12:52 AM PDT

ท่ามกลางการแสดงความยินดีต่อว่าที่ผู้นำคนใหม่ซึ่งเป็นเสมือนผู้สืบทอดชาเวซ กับการแสดงออกอย่างไม่เห็นด้วยของฝ่ายต่อต้านและการเรียกร้องให้มีการนับคะแนนใหม่ ล่าสุดสื่อรัฐเวเนซุเอลลาเผยตัวเลขผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตจากเหตุรุนแรงทางการเมือง ซึ่งแต่ละฝ่ายต่างโดยความผิดให้ฝ่ายตรงข้าม

 

คลิปวีดีโอจาก Global Post


17 เม.ย. 2013 - สำนักข่าว CNN รายงานจากกรุงการากัส ประเทศเวเนซุเอลลา ว่า มีประชาชนจำนวนมากออกมาเคาะหม้อและกระทะตั้งแต่ช่วงคืนวันอังคารที่ผ่านมาเพื่อเป็นการประท้วงผลการเลือกตั้งครั้งล่าสุดของเวเนซุเอลลา ขณะที่บนท้องถนนมีการแสดงออกลุกลามจนเกิดเป็นเหตุรุนแรง ซึ่งสื่อรัฐเวเนซุเอลลารายงานว่ามีผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์นี้แล้ว 7 ราย

หลังจากเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาคณะกรรมการการเลือกตั้งของเวเนซุเอลลาประกาศให้ นิโกลาส มาดูโร เป็นผู้ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีที่มาจากการเลือกตั้ง ซึ่งมาดูโรจากพรรคสหสังคมนิยม (PSUV) เป็นเสมือนผู้สืบทอดทางการเมืองของอดีตประธานาธิบดี ฮูโก ชาเวซ แม้ว่าเอนริเก คาปริเลส ผู้ลงสมัครฝ่ายคู่แข่งจะเรียกร้องให้มีการนับคะแนนใหม่

"การเรียกร้องให้มีการนับคะแนนใหม่ภายในประเทศประชาธิปไตย ...ไม่ควรถือเป็นอาชญากรรม" คาปริเลสกล่าวให้สัมภาษณ์ต่อ CNN

สำนักข่าว AVN ของรัฐบาลเวเนซุเอลลาเปิดเผยว่าเจ้าหน้าที่ได้จับกุมประชาชน 135 ราย ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุรุนแรงทางการเมือง ทางการยังเปิดเผยอีกว่ามีผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ปะทะกัน 7 ราย บาดเจ็บอีก 61 ราย ซึ่งสื่อทางการเวเนซุเอลลาอ้างว่าผู้เสียหายทั้งหมดเป็นฝ่ายผู้สนับสนุนมาดูโร

ขณะที่เอนริเก คาปริเลส กล่าวว่ารัฐบาลเป็นฝ่ายที่สร้างความรุนแรงเพื่อเบี่ยงเบนไม่ให้มีการนับคะแนนโหวตใหม่ โดยก่อนหน้านี้คาปริเลสได้วางแผนให้มีการเดินขบวนประท้วงอย่างสงบไปยังหน้าสำนักงานการเลือกตั้งเพื่อเรียกร้องเรื่องการนับคะแนน แต่ก็ต้องประกาศล้มเลิกโดยอ้างว่าคู่แข่งของเขาวางแผน 'แทรกซึม' การชุมนุมเพื่อยั่วยุให้เกิดความรุนแรง

"ผมขอเรียกร้องให้เกิดสันติภาพ และขอเรียกร้องให้ประชาชนต่อสู้ด้วยสันติ" มาดูโรกล่าวผ่านช่องโทรทัศน์ของรัฐ ในช่วงที่เรียกร้องให้มีการชุมนุมทั่วประเทศ

โดยก่อนหน้าที่จะมีการยกเลิก นิโกลา มาดูโร ได้ออกมาประกาศว่าแผนการประท้วงของฝ่ายค้านเป็นเรื่องผิดกฏหมาย และกล่าวหาว่าผู้นำฝ่ายค้านวางแผนสังหารประชาชนของตัวเองเพื่อป้ายสีรัฐบาล นอกจากนี้มาดูโรยังได้กล่าวผ่านรายการโทรทัศน์กล่าวหาว่าคณะทูตสหรัฐฯ เป็นผู้ยุยงให้ฝ่ายค้านใช้ความรุนแรง

"คณะทูตสหรัฐฯ เป็นกลุ่มที่ให้เงินสนับสนุนและควบคุมการก่อเหตุรุนแรงในประเทศนี้ พวกเขาให้การสนับสนุนกลุ่มลัทธินาซีใหม่พวกนี้" มาดูโรกล่าว

ฝ่ายการต่างประเทศของสหรัฐฯ ยังไม่ได้โต้ตอบใดๆ กับข้อกล่าวหานี้ แต่เมื่อเดือนที่แล้ว โฆษกการต่างประเทศของสหรัฐฯ ได้ปฏิเสธข้อกล่าวหาที่ว่าสหรัฐฯ มีส่วนเกี่ยวข้องกับแผนการบ่อนทำลายเสถียรภาพของเวเนซุเอลลา

มาดูโรเตือนอีกว่าหากเหตุรุนแรงยังคงดำเนินต่อเนื่องไป เขาจะเริ่มใช้มาตรการจัดการ

"ถ้าพวกเขายังใช้ความรุนแรงต่อไป" มาดูโรกล่าว "สิ่งที่พวกเราจะทำได้คือทำให้การปฏิวัติในครั้งนี้สุดขั้วมากขึ้น"


การประท้วงของกลุ่มนักศึกษา

ก่อนหน้านี้เมื่อวันจันทร์ (15 เม.ย.) ที่ผ่านมา มีกลุ่มนักศึกษาชาวเวเนซุเอลลาออกมาประท้วงต่อต้านผลการเลือกตั้งทันที่ที่มีการประกาศผลอย่างเป็นทางการ โดยกองกำลังรักษาความมั่นคงของเวเนซุเอลลาได้ยิงแก็สน้ำตาและกระสุนพลาสติกเพื่อสลายการชุมนุม ทำให้กลุ่มนักศึกษาโต้ตอบด้วยการขว้างปาก้อนหินและก้อนคอนกรีตใส่เจ้าหน้าที่ที่ถนนทางหลวงของกรุงการากัส ผู้ประท้วงพยายามเคลื่อนขบวนไปยังพื้นที่ตะวันตกของเมืองหลวง ซึ่งมีอาคารทำการของรัฐบาลส่วนใหญ่อยู่ที่นั่น


เรียบเรียงจาก

Tensions mount after tight Venezuelan vote; government says 7 killed in post-election violence, CNN, 17-04-2013
Venezuela opposition leader calls off rally, Aljazeera, 17-04-2013


ติดตามความเคลื่อนไหวของ ประชาไท ทางอีเมล คลิกอ่าน http://goo.gl/8xIcV หรือเฟซบุ๊ค http://fb.me/Prachatai

อัยการฟ้องพันธมิตรฯ คดีชุมนุมสนามบินดอนเมือง-สุวรรณภูมิ เพิ่มอีก 10 คน

Posted: 17 Apr 2013 11:51 PM PDT

ฟ้องเพิ่ม 10 คน ทั้ง พล.อ.ปฐมพงษ์ - กษิต ภิรมย์ - นพ.ตุลย์ - ปราโมทย์ นาครทรรพ ฯลฯ รวมแล้วอัยการส่งฟ้อง 114 ราย รวมทั้ง 5 แกนนำพันธมิตร ในจำนวนนี้ถูกพ่วงข้อหาก่อการร้าย 83 ราย ศาลนัดให้การจำเลย 29 เม.ย. นี้

ที่ศาลอาญาวันนี้ (18 เม.ย.) พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 9 ได้เป็นโจทก์ยื่นฟ้องผู้ต้องหาซึ่งเป็นผู้สนับสนุนกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ในข้อหาร่วมกันก่อการร้ายเพื่อให้เกิดความเปลี่ยนแปลงกฎหมายแผ่นดินหรือรัฐบาล โดยใช้กำลังข่มขืนใจหรือใช้กำลังประทุษร้ายหรือเพื่อให้ประชาชนล่วงละเมิด กฎหมายแผ่นดิน, มั่วสุมตั้งแต่ 10 คนขึ้นไปใช้กำลังประทุษร้าย หรือกระทำการอย่างหนึ่งอย่างใดเพื่อให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง ฯ กรณีการชุมนุมที่สนามบินดอนเมือง และสนามบินสุวรรณภูมิ เมื่อปี 2551

โดยผู้ที่ถูกกล่าวหาเพิ่มอีก 10 คน ประกอบด้วย พล.อ.ปฐมพงษ์ เกษรศุกร์ นายกษิต ภิรมย์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศ นพ.ตุลย์ สิทธิสมวงศ์ นายเทิดศักดิ์ เจียมกิจวัฒนา นายปราโมทย์ นาครทรรพ นางราตรี ชวนบุญ พล.อ.อ.เทอดศักดิ์ สัจจะรักษ์ อดีตรองผู้บัญชาการทหารอากาศ นายสุรพงษ์ ชัยนาม อดีตนักการทูต นายณรงค์ ดูดิง จ.ยะลา ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ และนายอนันต์ กาญจนสุวรรณ ประธานเครือข่ายต่อต้านคอร์รัปชัน จ.สงขลา

ทั้งนี้ มติชนออนไลน์ รายงานว่า ศาลจะนัดสอบคำให้การจำเลย 29 เม.ย. นี้ เวลา 9.00 น.

สำหรับจำเลยคดีนี้มีทั้งหมด 114 คน โดยก่อนหน้านี้พนักงานอัยการได้ยื่นฟ้องแกนนำพันธมิตรฯ และแนวร่วมเป็นจำเลยในคดีก่อการร้ายแล้ว 5 ชุด รวมทั้งสิ้น 83 คน โดยมี 5 แกนนำพันธมิตรฯ รวมอยู่ด้วย ได้แก่ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง นายสนธิ ลิ้มทองกุล นายพิภพ ธงไชย นายสมศักดิ์ โกศัยสุข นายสุริยใส กตะศิลา และนายสมเกียรติ พงศ์ไพบูลย์ เป็นต้น

ติดตามความเคลื่อนไหวของ ประชาไท ทางอีเมล คลิกอ่าน http://goo.gl/8xIcV หรือเฟซบุ๊ค http://fb.me/Prachatai

โรงงานปุ๋ยระเบิดในเท็กซัส คาดบาดเจ็บกว่า 100 คน

Posted: 17 Apr 2013 11:02 PM PDT

ขณะนี้ยังไม่มียอดผู้เสียชีวิตแน่ชัด ในขณะที่มีบ้านเรือนเสียหายราว 100 หลัง และอาคารราว 10 แห่งถูกทำลาย รวมถึงโรงเรียนและบ้านพักคนชรา

18 เม.ย. 56 - ราวเวลา 20.00 น. ตามเวลาท้องถิ่นในเมืองเวสต์ รัฐเท็กซัส สหรัฐอเมริกา เกิดเหตุระเบิดโรงงานผลิตปุ๋ย ส่งผลให้มีผู้บาดเจ็บกว่า 100 คน จากการถูกสะเก็ดระเบิด และอาคารราว 10 แห่งเกิดเพลิงใหม้ได้รับความเสียหาย รวมถึงโรงเรียน อพาร์ทเมนท์ และบ้านพักคนชราที่อยู่ใกล้เคียงโรงงานปุ๋ยดังกล่าว

ข้อมูลจากฝ่ายความปลอดภัยสาธารณะของเท็กซัสชี้ว่า ยอดผู้บาดเจ็บอาจสูงถึง 200 คน และมีผู้เสียชีวิต แต่ยังไม่แน่ใจว่ามีจำนวนเท่าใด และประมาณการณ์ว่ามีบ้านพักอาศัยและสถานประกอบการได้รับความเสียหายโดยสิ้นเชิงราว 75-100 แห่ง
 
มีรายงานว่า ล่าสุด มีการเร่งให้ความช่วยเหลือจากโรงพยาบาลที่ใกล้เคียง 3 แห่ง รวมถึงเฮลิคอปเตอร์จำนวน 6 ลำที่จะเข้าไปรับตัวผู้บาดเจ็บและผู้ที่ติดค้างที่อยู่ในที่เกิดเหตุออกมาภายนอก
 
ทั้งนี้ เมืองเวสต์ ตั้งอยู่ทางตะวันตกของรัฐเท็กซัส และมีประชากรราว 2,800 คน
 

คลิปแสดงเหตุระเบิดโรงงานปุ๋ยในเมืองเวสต์ รัฐเท็กซัส

 

ติดตามความเคลื่อนไหวของ ประชาไท ทางอีเมล คลิกอ่าน http://goo.gl/8xIcV หรือเฟซบุ๊ค http://fb.me/Prachatai

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น