โพสต์แนะนำ

ประชาไท Prachatai.com

ประชาไท Prachatai.com พท.-ปชป จัดประชุมแก้ไขข้อบังคับพรรคฯ ส่วนรัฐบาลคสช. เตรียมฉีดเงินตำบลละ 5 แสน คพศ. ขอ ตร.เรียกตั...

ซิตี้แบงก์ ให้คุณสมัครบัตรเครดิต citibank ออนไลน์ ด้วยวิธีสมัครบัตรเครดิตง่ายๆ รู้ผลอนุมัตทันใจภายใน 5 วัน อยากทำบัตรเครดิตซิตี้แบงก์ สมัครออนไลน์ได้ทันทีที่นี่.

วันพฤหัสบดีที่ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2553

ประชาไท | Prachatai3.info

ประชาไท | Prachatai3.info

Link to ประชาไท หนังสือพิมพ์ออนไลน์

"โตเกียว" เตรียมออกกฏแบนการ์ตูน "ลามก-รุนแรง"

Posted: 16 Dec 2010 11:41 AM PST

 

16 ธ.ค. 2553 - มติชนออนไลน์ รายงานว่า ทางการกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เตรียมออกกฏควบคุมการจำหน่ายและให้เช่า ภาพยนตร์และหนังสือการ์ตูน (มังงะ) ที่มีเนื้อหาส่อไปในทางเพศอย่างรุนแรงอาทิ การข่มขืน การร่วมประเวณีโดยผิดประเพณี และอาชญากรรมทางเพศประเภทต่างๆ แม้ว่าญี่ปุ่นจะมีกฏหมายการเซ็นเซอร์ภาพยนตร์แล้วก็ตาม

โดยสำนักงานนครโตเกียว ได้ผ่านร่างเทศบัญญัติฉบับแก้ไข ซึ่งระบุว่า บุคคลที่มีอายุน้อยกว่า 18 ปี ไม่สามารถทำการซื้อหรือเช่าวัสดุที่แสดงการกระทำทางเพศที่ "ถูกยกย่องในทางที่ไม่เหมาะสมหรือกล่าวเกินจริง" ผู้จัดพิมพ์และผู้จำหน่ายซึ่งกระทำการละเมิดและฝ่าฝืนคำสั่ง จะต้องถูกปรับเป็นจำนวนเงิน 300,000 เยน (ประมาณ 108,000 บาท)

นายชินทาโร อิชิฮาร่า ผู้ว่าการนครโตเกียว กล่าวว่า การผ่านร่างเทศบัญญัติครั้งนี้เป็นไปอย่าง "ธรรมชาติ" และตามความรู้สึกผิดชอบชั่วดีของชาวญี่ปุ่น "ไม่มีทางที่คุณจะยอมให้บุตรหลานของตนได้เห็นสิ่งเหล่านี้" เขากล่าว

นายอิชิฮาร่า ได้ชื่อว่าเป็นคนที่มีแนวคิดอนุรักษ์นิยมมากที่สุดคนหนึ่ง และเขาได้ทำการรณรงค์ต่อต้านการ์ตูนที่ "เป็นภัย" มาเป็นระยะเวลานาน แต่ก็ประสบความล้มเหลว หลังจากที่ต้นปีที่ผ่านมา เขาได้พยายามที่จะออกกฏควบคุมการ์ตูน ที่มีภาพและเนื้อหาการมีเพศสัมพันธ์ระหว่างเยาวชนที่มีอายุต่ำกว่าเกณฑ์มา แล้ว

ด้านกลุ่มผู้จัดพิมพ์การ์ตูนกว่า 10 บริษัท ได้แสดงการประท้วงและเรียกร้องให้มีการบอยค็อตต์การเข้าร่วมงาน "โตเกียว อินเตอร์เนชันแนล แอนิเมะ แฟร์" ซึ่งเป็นงานที่รวบรวมผู้ประกอบการด้านอุตสาหกรรมการ์ตูนญี่ปุ่นไว้มากที่สุด ในเดือนมีนาคมปีหน้า

"ศิลปินนักวาดภาพการ์ตูนได้แสดงการคัดค้านกันอย่างกว้างขวาง ในขณะเดียวกันกับที่บริษัทผู้จัดพิมพ์ทั้งหมดได้เล็งเห็นถึงปัญหานี้เช่น กัน" และได้กล่าวประณามการกระทำครั้งนี้ว่าเป็นการจำกัดเสรีภาพในการแสดงออก

นายนาโอโตะ คัง นายกรัฐมนตรีแห่งญี่ปุ่น กล่าวในเว็บไซต์ของตนเองว่า เขาต้องการให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องหันหน้าเข้าหากัน "เพื่อหลีกเลี่ยงสถานการณ์ที่อาจทำให้งานอินเตอร์เนชันแนล แอนิเมะ แฟร์ ต้องถูกยกเลิก

การ์ตูนมังงะ เป็นการ์ตูนที่ได้รับความนิยมมากในญี่ปุ่นทั้งจากกลุ่มเด็กและเยาวชน ไปจนถึงผู้ใหญ่ เนื้อหาส่วนใหญ่เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับความรักในวัยเรียน หรือไม่ก็ดัดแปลงมาจากนวนิยายคลาสสิค แต่นอกเหนือจากนั้น ยังมีการดัดแปลงเนื้อหาและภาพวาดให้เป็นการ์ตูนสำหรับผู้ใหญ่ ซึ่งมีเนื้อหาที่รุนแรงและผิดศีลธรรม

อย่างไรก็ตาม การผลิตและการจัดจำหน่ายภาพเปลือยของเด็ก ถือเป็นเรื่องผิดกฏหมายในญี่ปุ่น ในขณะที่การครอบครองไม่ถือว่ามีความผิด และภาพของตัวการ์ตูนมังงะ และตัวละครในวิดีโอเกม ที่มีอายุต่ำกว่าเกณฑ์ ก็ถูกพิจารณาว่าเป็นสิ่งผิดกฏหมายเช่นกัน

 

ที่มา - มติชนออนไลน์

สมัครรับข่าวความเคลื่อนไหวจากประชาไท ผ่านทางอีเมล ดูรายละเอียดที่ http://groups.google.com/group/prachatai-newspaper

แดงโคราชเผาโลงประท้วงเปรม-พธม. ศาลตัดสินมีความผิดฐานหมิ่นเบื้องสูง

Posted: 16 Dec 2010 11:01 AM PST

ศาลชั้นต้นตัดสินจำคุก แกนนำเสื้อแดงโคราช หลังเผาโลงศพประท้วง พล.อ.เปรม ศาลระบุข้อความประท้วงที่โลงศพหมิ่นเบื้องสูงจึงตัดสินจำคุก 3 ปี เจ้าตัวประกันตัวชั้นอุทธรณ์ขอสู้คดีต่อ

ASTVผู้จัดการออนไลน์ รายงานว่า เมื่อวานนี้ (16 ธ.ค.) เมื่อเวลา 09.00 น.ที่ห้องพิจารณาคดีที่ 16 ศาลจังหวัดนครราชสีมา มีคำพิพากษาคดีอาญาหมายเลขดำที่ 1073/2553 คดีอาญาหมายเลขแดงที่ 2753/2553 ระหว่างพนักงานอัยการจังหวัดนครราชสีมา เป็นโจทก์ฟ้อง น.ส.ปภัสชนัญญ์ ฉิ่งอินทร์ เป็นจำเลย ในข้อหาร่วมกันหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาท

โดยชั้นพิจารณาจำเลยคือ น.ส.ปภัสชนัญญ์ ให้การปฏิเสธ แต่ศาลพิจารณาแล้วเห็นว่า เมื่อวันที่ 7 เมษายน 2552 การที่จำเลยนำโลงศพจำลอง มีข้อความบนสุดว่า “พระองค์ท่าน ...” บรรทัดต่อมามีข้อความว่า “พลเอกเปรม ...” และ บรรทัดต่อมาคำว่า “มรณะ 8 เมษายน 2552” จำเลยอยู่ร่วมในการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดง เป็นผู้เทน้ำมันและจุดไฟเผาโลงศพจำลอง ซึ่งมีข้อความดังกล่าวปรากฏอยู่ในนั้น คำว่า “พระองค์ท่าน” นั้น หมายความถึงพระมหากษัตริย์อันเป็นที่เคารพสูงสุดของบุคคลทั่วไป การกระทำของจำเลยจึงเป็นความผิดฐานร่วมกันกับพวกหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้าย พระมหากษัตริย์ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ประกอบมาตรา 83 ลงโทษจำคุก 3 ปี

ทางด้าน น.ส.ปภัสชนัญญ์ จำเลยได้ยื่นขอประกันตัวชั้นอุทธรณ์ และศาลพิจารณาให้ประกันโดยใช้หลักทรัพย์ เพื่อต่อสู้คดีตามกฎหมายต่อไป

ผู้สื่อข่าวประชาไท รายงานว่า คดีดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 7 เม.ย. ปี 2552 น.ส.ปภัสชนัญญ์ และพวก ได้ประท้วงด้วยการเผาโลงศพจำลองเพื่อประท้วง พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย และรัฐบาล ที่บริเวณลานข้างอนุสาวรีย์ท้าวสรนารี (ย่าโม) ถ.ราชดำเนิน อ.เมือง จ.นครราชสีมา โดยผู้ฟ้องได้แก่ พ.อ.วีระภัทรพล บุญย์เชี่ยว ทหารฝ่ายเสนาธิการประจำกองทัพภาคที่ 2 ค่ายสุรนารี จ.นครราชสีมา ฟ้องวันที่ 9 เม.ย. และ เครือข่ายพันธมิตรฯ ประชาชนเพื่อประชาธิปไตย จ.นครราชสีมา  ฟ้องวันที่ 10 เม.ย. ทั้งหมดได้แจ้งความเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยเห็นว่าข้อความข้างโลงศพที่ใช้เผาประท้วงเข้าข่ายความผิดมาตรา 112

โดยก่อนหน้าการประท้วงของ น.ส.ปภัสชนัญญ์ เมื่อ 7 เม.ย. ปี 2552 ดังกล่าว นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย พูดออกอากาศในสถานีโทรทัศน์ ASTV เมื่อคืนวันที่ 3 เม.ย. ปี 2552 ว่า "เสื้อเหลืองออกมาปกป้อง พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ในฐานะที่พระองค์ท่านเป็นประธานองคมนตรี" [ดูคลิปที่นี่]

โดยหลังคำตัดสินของศาลชั้นต้นนั้น สำหรับผู้ร่วมกระทำคนอื่นๆ เจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่สามารถติดตามตัวมาดำเนินคดีได้

สมัครรับข่าวความเคลื่อนไหวจากประชาไท ผ่านทางอีเมล ดูรายละเอียดที่ http://groups.google.com/group/prachatai-newspaper

ศาลอุทธรณ์ไม่ประกันผู้ต้องหาเผาศาลากลางมุกดาหาร

Posted: 16 Dec 2010 08:00 AM PST

ศาลอุทธรณ์ภาค 4 ยกคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราวผู้ต้องหาคดีเผาศาลากลางมุกดาหาร อ้างคดีมีอัตราโทษสูง หากอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราว จำเลยอาจหลบหนี   หลังฟังคำสั่งศาลนักโทษแดงหยุดหายใจหามส่งโรงพยาบาลอีกราย

 
 
 
 
วันที่ 16 ธ.ค.53 ศาลจังหวัดมุกดาหารเบิกตัวผู้ต้องหาคดีเผาศาลากลาง 18 ราย ขึ้นฟังคำสั่งศาลอุทธรณ์ภาค 4 ตามที่ทนายจำเลยได้ยื่นคำร้องขออุทธรณ์คำสั่งของศาลชั้นต้นฉบับลงวันที่ 3 ธันวาคม 2553 ที่ไม่อนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวผู้ต้องขังในคดีดังกล่าว
 
ประมาณ 10.00 น. ผู้พิพากษาได้ออกนั่งบัลลังก์อ่านคำสั่งศาลอุทธรณ์ภาค 4 มีใจความว่า “พิเคราะห์ความหนักเบาแห่งข้อหา และพฤติการณ์แห่งคดีแล้ว เห็นว่า คดีมีอัตราโทษสูง หากอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราว จำเลยที่....อาจหลบหนี จึงไม่อนุญาตให้ปล่อยจำเลยที่...ในระหว่างพิจารณาคดี คำสั่งศาลชั้นต้นชอบแล้ว ยกคำร้อง”
 
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังฟังคำสั่งศาล ผู้ต้องหาทั้งหมดได้ลงมาที่คุกใต้ศาลเพื่อรอกลับเรือนจำ  สังเกตได้ว่าหลายรายมีอาการผิดหวังและเครียด   ต่อมา เวลาประมาณ 14.30 น. นายนพชัย พิกุลศรี ผู้ต้องขังรายหนึ่งได้เกิดหมดสติไป เพื่อนผู้ต้องขังได้เรียกให้ญาติแจ้งตำรวจที่คุมอยู่ จนท.ตำรวจเข้าไปดูอาการแล้วออกมาโดยไม่ทำอะไร ญาติจึงได้โทรประสานทนายให้ช่วยเหลือ จากนั้นประมาณ 10 นาที จึงมีรถตำรวจมารับตัวนายนพชัย ซึงระหว่างที่เคลื่อนย้ายนายนพชัยออกมาจากห้องขัง ญาติสังเกตเห็นว่านายนพชัยหยุดหายใจ จึงได้ทำการปั๊มหัวใจไประหว่างทางที่ส่งตัวนายนพชัยไปเรือนจำ เพื่อให้เรือนจำทำเรื่องส่งตัวไปโรงพยาบาลมุกดาหาร
 
นายศักดิ์ ลุณริลา ญาติของผู้ต้องขังรายหนึ่ง ซึ่งเป็นผู้ปั๊มหัวใจ เปิดเผยว่า ได้ปั๊มหัวใจไปตลอดทาง บางครั้งต้องให้รถตำรวจหยุดเนื่องจากปั๊มหัวใจไม่สะดวก ใช้เวลาประมาณ กว่า 30 นาที นายนพชัยจึงค่อยหายใจเบาๆ
 
จากนั้น รถพยาบาลของโรงพยาบาลมุกดาหารจึงได้มารับตัวนายนพชัยไปจากเรือนจำ หลังจากแพทย์ทำการตรวจแล้ว พบว่า ความดันปกติ หัวใจปกติ จึงลงความเห็นว่านายนพชัยช็อคจากอาการเครียด และให้พักรักษาตัวที่โรงพยาบาลเพื่อรอดูอาการต่อไป
 
นางเสงี่ยม พิกุลศรี ภรรยานายนพชัย เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่านายนพชัย เคยเข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลศรีมหาโพธิ์ จ.อุบลราชธานี ซึ่งเป็นโรงพยาบาลจิตเวช มาแล้วครั้งหนึ่ง เมื่อประมาณปี 2547 ในขณะที่ยังไม่ได้อยู่กินกับเธอ

สมัครรับข่าวความเคลื่อนไหวจากประชาไท ผ่านทางอีเมล ดูรายละเอียดที่ http://groups.google.com/group/prachatai-newspaper

กรุงเทพโพลล์ : นักเศรษฐศาสตร์ คาดการณ์เศรษฐกิจปี 2554

Posted: 15 Dec 2010 10:34 PM PST

 

นักเศรษฐศาสตร์ทำนาย เศรษฐกิจปีกระต่าย   GDP โต 5.0% ส่งออกโต 14.6% เงินเฟ้อ 3.7%   อัตราดอกเบี้ยนโยบายอยู่ที่ 2.75%  และ เงินบาทอยู่ที่ 29.1 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ 

                

ศูนย์วิจัยมหาวิทยาลัยกรุงเทพ (กรุงเทพโพลล์) เปิดเผยผลสำรวจความเห็นนักเศรษฐศาสตร์จากองค์กรชั้นนำ 26 แห่ง เรื่อง “คาดการณ์เศรษฐกิจปี 2554” พบว่า นักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่เชื่อว่าเศรษฐกิจโลกจะขยายตัวร้อยละ 3.9 เศรษฐกิจไทยจะขยายตัวร้อยละ 5.0 ราคาน้ำมันดิบดูไบจะอยู่ที่ 90.3 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล อัตราเงินเฟ้อทั่วไปจะอยู่ที่ร้อยละ 3.7

ในส่วนอัตราดอกเบี้ยนโยบายนักเศรษฐศาสตร์ร้อยละ 76.1 เชื่อว่าธนาคารแห่งประเทศไทยจะปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยนโยบายจากระดับปัจจุบันไปสู่ระดับร้อยละ 2.75 ภายในสิ้นปี 2554 ส่วนค่าเงินบาทคาดว่าจะอยู่ที่ 29.1 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ และการส่งออกจะขยายตัวร้อยละ 14.6 ด้านการเคลื่อนไหวของ SET Index นักเศรษฐศาสตร์ร้อยละ 62.0  เชื่อว่าดัชนียังคงมีทิศทางขาขึ้นโดยจุดสูงสุดของปีจะอยู่ที่ 1,150 จุด 

 ส่วนปัจจัยเสี่ยงที่คาดว่าจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยปี 2554 คือ อันดับ 1 ปัญหาการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก (ร้อยละ 67.6) อันดับ 2 ปัญหาการเมือง/การชุมนุมประท้วง/เสถียรภาพของรัฐบาล (ร้อยละ 64.8) อันดับ 3 ปัญหาด้านอัตราแลกเปลี่ยนไม่ว่าจะเป็นค่าเงินบาทแข็งค่า/สงครามค่าเงิน/ค่าเงินหยวน (ร้อยละ 59.2)

สำหรับข้อเสนอต่อรัฐบาล/หน่วยงานเศรษฐกิจที่เกี่ยวข้อง ในการดำเนินนโยบายทางเศรษฐกิจปี 2554 คือ

- รักษาความสมดุลระหว่าง การเติบโตทางเศรษฐกิจ เงินเฟ้อ และอัตราแลกเปลี่ยน โดยใช้นโยบายการเงินและการคลังที่เหมาะสมในแต่ละช่วงเวลา

- ให้ความสำคัญกับตลาดในประเทศให้เพิ่มขึ้นเพื่อลดความเสี่ยงจากความผันผวนของเศรษฐกิจโลก ด้วยการเพิ่มกำลังซื้อภายในประเทศ ดูแลการกระจายรายได้ให้ทั่วถึงและเป็นธรรม

- แก้ปัญหาคอร์รัปชัน รวมถึงไม่ควรใช้นโยบายประชานิยมจนเกินไป แต่ควรเน้นนโยบายเพื่อแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นจริงๆ   และเป็นนโยบายที่มีความยั่งยืน

 

 

(โปรดพิจารณารายละเอียดของผลสำรวจดังต่อไปนี้)

 


 

 

1. คาดการณ์ การขยายตัวของเศรษฐกิจโลกปี 2554 เมื่อเปรียบเทียบกับปี 2553

 

จะขยายตัวร้อยละ 5.1-6.0               

 

ร้อยละ   7.1

จะขยายตัวร้อยละ 4.1-5.0               

ร้อยละ   36.6

จะขยายตัวร้อยละ 3.1-4.0               

ร้อยละ   36.6

จะขยายตัวร้อยละ 2.1-3.0  

ร้อยละ   12.7

จะขยายตัวร้อยละ 1.1-2.0  

ร้อยละ   1.4

จะขยายตัวร้อยละ 0.1-1.0  

ร้อยละ   1.4

ไม่ตอบ/ไม่มั่นใจ/ไม่ทราบ

ร้อยละ   4.2

ค่าเฉลี่ยของการขยายตัวของเศรษฐกิจโลกเท่ากับ ร้อยละ 3.9

 

2. คาดการณ์  การขยายตัวของเศรษฐกิจไทยปี 2554 เมื่อเปรียบเทียบกับปี 2553

จะขยายตัวร้อยละ 7.1-8.0               

ร้อยละ   9.8

จะขยายตัวร้อยละ 6.1-7.0               

ร้อยละ   12.7

จะขยายตัวร้อยละ 5.1-6.0               

ร้อยละ   8.5

จะขยายตัวร้อยละ 4.1-5.0               

ร้อยละ   45.1

จะขยายตัวร้อยละ 3.1-4.0               

ร้อยละ   21.1

จะขยายตัวร้อยละ 2.1-3.0  

ร้อยละ   1.4

ไม่ตอบ/ไม่มั่นใจ/ไม่ทราบ

ร้อยละ   1.4

ค่าเฉลี่ยของการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยเท่ากับ ร้อยละ 5.0

 

3. คาดการณ์ ราคาน้ำมันดิบดูไบเฉลี่ยในปี 2554 

อยู่ในช่วง 101-110 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรลโดยเฉลี่ย

ร้อยละ   7.0

อยู่ในช่วง 91-100 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรลโดยเฉลี่ย

ร้อยละ   35.2

อยู่ในช่วง 81-90 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรลโดยเฉลี่ย

ร้อยละ   52.2

อยู่ในช่วง 71-80 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรลโดยเฉลี่ย

ร้อยละ   2.8

ไม่ตอบ/ไม่มั่นใจ/ไม่ทราบ

ร้อยละ   2.8

ค่าเฉลี่ยของราคาน้ำมันดิบดูไบเท่ากับ 90.3 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล

 

4. คาดการณ์  อัตราเงินเฟ้อทั่วไปของไทยปี 2554 

อัตราเงินเฟ้อจะอยู่ในช่วงร้อยละ 5.1-6.0

ร้อยละ   1.4

อัตราเงินเฟ้อจะอยู่ในช่วงร้อยละ 4.1-5.0

ร้อยละ   21.1

อัตราเงินเฟ้อจะอยู่ในช่วงร้อยละ 3.1-4.0

ร้อยละ   69.1

อัตราเงินเฟ้อจะอยู่ในช่วงร้อยละ 2.1-3.0

ร้อยละ   5.6

ไม่ตอบ/ไม่มั่นใจ/ไม่ทราบ

ร้อยละ   2.8

ค่าเฉลี่ยของอัตราเงินเฟ้อทั่วไปเท่ากับร้อยละ 3.7

 

5. คาดการณ์ อัตราดอกเบี้ยนโยบายปี 2554

ธปท. จะปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยนโยบายจากระดับปัจจุบัน ไปสู่ระดับร้อยละ 2.75 ภายในปี 2554

ร้อยละ   76.1

ธปท. จะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ระดับปัจจุบันตลอดปี  2554

ร้อยละ   12.7

ธปท. จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายจากระดับปัจจุบัน 

ร้อยละ   1.4

ไม่ตอบ/ไม่มั่นใจ/ไม่ทราบ

ร้อยละ   9.8

               

6. คาดการณ์ การเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทโดยเฉลี่ย ในปี 2554

ค่าเงินบาทจะอยู่ระหว่าง 31.1- 32.0  บาทต่อดลลาร์สหรัฐ

ร้อยละ   2.8

ค่าเงินบาทจะอยู่ระหว่าง 30.1- 31.0  บาทต่อดลลาร์สหรัฐ

ร้อยละ   16.9

ค่าเงินบาทจะอยู่ระหว่าง 29.1- 30.0  บาทต่อดลลาร์สหรัฐ

ร้อยละ   25.4

ค่าเงินบาทจะอยู่ระหว่าง 28.1- 29.0 บาทต่อดลลาร์สหรัฐ

ร้อยละ   38.0

ค่าเงินบาทจะอยู่ระหว่าง 27.1- 28.0 บาทต่อดลลาร์สหรัฐ

ร้อยละ   9.9

ค่าเงินบาทจะอยู่ระหว่าง 26.1- 27.0 บาทต่อดลลาร์สหรัฐ

ร้อยละ   1.4

ไม่ตอบ/ไม่มั่นใจ/ไม่ทราบ

ร้อยละ   5.6

ค่าเฉลี่ยของค่าเงินบาท เท่ากับ 29.1 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ

 

7. คาดการณ์  การขยายตัวของ การส่งออกของไทยในปี 2554  เมื่อเทียบกับปี 2553 (ในรูปของเงินบาท)

ขยายตัวอยู่ระหว่างร้อยละ 21-25

ร้อยละ   7.0

ขยายตัวอยู่ระหว่างร้อยละ 16-20

ร้อยละ   32.4

ขยายตัวอยู่ระหว่างร้อยละ 11-15

ร้อยละ   40.9

ขยายตัวอยู่ระหว่างร้อยละ 6-10

ร้อยละ   11.3

ขยายตัวอยู่ระหว่างร้อยละ 1-5

ร้อยละ   2.8

ไม่ตอบ/ไม่มั่นใจ/ไม่ทราบ

ร้อยละ   5.6

 

ค่าเฉลี่ยของการขยายตัวการส่งออกเท่ากับ ร้อยละ 14.6

 

8. คาดการณ์ ดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET Index) ในปี 2554 

SET Index จะปรับเพิ่มขึ้นจากปี 53 โดยจุดสูงสุดของปี 54 คาดว่าจะอยู่ที่ 1,150 จุด

ร้อยละ   62.0

SET Index จะปรับลดลงจากปี 53 โดยจุดต่ำสุดของปี 54 คาดว่าจะอยู่ที่ 900 จุด

ร้อยละ   7.0

ไม่ตอบ/ไม่มั่นใจ/ไม่ทราบ

ร้อยละ   31.0

 

9. ปัจจัยเสี่ยงใดจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยปี 2554 (ตอบได้มากกว่า 1 ข้อ)

อันดับ    1

เศรษฐกิจโลกในภาพรวม (การฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก)

ร้อยละ   67.6

อันดับ    2

ปัญหาการเมือง/การชุมนุมประท้วง/เสถียรภาพของรัฐบาล

ร้อยละ   64.8

อันดับ    3

อัตราแลกเปลี่ยน (ค่าเงินบาทแข็งค่า/สงครามค่าเงิน/ค่าเงินหยวน)

ร้อยละ   59.2

อันดับ    4

ราคาน้ำมัน (ปรับเพิ่มขึ้น)

ร้อยละ   46.5

อันดับ    5

อัตราดอกเบี้ย (ปรับเพิ่มขึ้น)

ร้อยละ   11.3

อันดับ    6

ปัญหาภัยธรรมชาติ

ร้อยละ   11.3

อันดับ    7

การเปิดเสรีของกลุ่มการค้าอาเซียน

ร้อยละ   7.0

อันดับ    8

ปัญหาสิ่งแวดล้อม เช่น กรณีมาบตาพุด และแหลมฉบัง เป็นต้น

ร้อยละ   4.2

อันดับ    9

ปัญหาทุจริตคอร์รัปชัน

ร้อยละ   4.2

อันดับ    10

อื่นๆ เช่น การผลิตภาคการเกษตรที่มีความเสี่ยง เงินเฟ้อ เป็นต้น

ร้อยละ   2.8

 

ไม่ตอบ/ไม่มั่นใจ/ไม่ทราบ

ร้อยละ   1.4

 

10. ข้อเสนอต่อรัฐบาล/หน่วยงานเศรษฐกิจที่เกี่ยวข้อง ในการดำเนินนโยบายทางเศรษฐกิจปี 2554 (เป็นคำถามปลายเปิดให้นักเศรษฐศาสตร์ระบุเอง)

-  รักษาความสมดุลระหว่าง การเติบโตทางเศรษฐกิจ เงินเฟ้อ และอัตราแลกเปลี่ยน โดยใช้นโยบายการเงินและการคลังที่เหมาะสมในแต่ละช่วงเวลา

- ให้ความสำคัญกับตลาดในประเทศให้เพิ่มขึ้นเพื่อลดความเสี่ยงจากความผันผวนของเศรษฐกิจโลก โดยการเพิ่มกำลังซื้อภายในประเทศ ดูแลการกระจายรายได้ให้ทั่วถึงและเป็นธรรม

- แก้ปัญหาคอร์รัปชัน รวมถึงไม่ควรใช้นโยบายประชานิยมจนเกินไป แต่ควรจะเน้นนโยบายเพื่อแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นจริงๆ   และเป็นนโยบายที่มีความยั่งยืน

- รีบลงทุนในระบบโครงสร้างพื้นฐาน

 

 

******************************************************************************************************************************

 

หมายเหตุ: รายงานผลสำรวจความเห็นนักเศรษฐศาสตร์ฉบับนี้ เป็นการสำรวจความเห็นส่วนตัวของนักเศรษฐศาสตร์ซึ่งมิได้สื่อถึงแนวนโยบายขององค์กรที่นักเศรษฐศาสตร์สังกัดอยู่แต่อย่างใด

******************************************************************************************************************************

 

 

สมัครรับข่าวความเคลื่อนไหวจากประชาไท ผ่านทางอีเมล ดูรายละเอียดที่ http://groups.google.com/group/prachatai-newspaper

กวีตีนแดง: ยี่สิบนาฬิกา...ถึงเวลาจุดเทียนแดงรำลึก

Posted: 15 Dec 2010 09:12 PM PST

 

ยี่สิบนาฬิกา...หลังเสร็จจากงานนาไร่
แรงงานรอบสุดท้ายคืนสู่หมู่บ้าน
หลังอาหารมื้อเย็นเป็นไปอย่างยาวนาน
ถึงเวลาพร้อมกัน...จุดเทียนแดงแข่งแสงไฟ

พระจันทร์ดวงใดไม่เคยหยุดหมุน
น้ำทะเลหนุนทั้งทิศเหนือและใต้
ลมหวนสายนั้นพัดจากหุบเขาใด
หอบเสียงร่ำไห้ของใครมา...ทุกค่ำคืน

แม่น้ำรำลึก...ยามดึกได้ยินไหม
แว่วมาแต่ไกลเสียงใครสะอื้น
โอ้หนอหญิงสาวเจ้าขมเจ้าขื่น
คนรักไม่คืนกลับสู่บ้านเรือน

เหน็บหนาวน้ำค้างหลังฟ้าเย็นย่ำ
ใครขับลำนำโศกย้ำใจเหมือน
กระสุนนัดนั้นลั่นกลางเพ็ญเดือน
คราบเลือดที่เปื้อน...จะลบเลือนอย่างไร

ไม่มีงานรื่นเริงบนดินแดนสนธยา
เพลงฟ้อนผีป่าดังท้ายป่าช้าวัดไหน
ผู้คนเมืองนี้ไม่มีพิธีฉลองใด
เสียงสวดศพคนตาย...ยังบีบหัวใจไม่เลิกรา

น้ำตาสายนั้นกลั่นเป็นสายเลือด
หลอมเทียนแดงเดือดข้นเลือดเข้มกล้า
ทุกทุกค่ำคืน...ยี่สิบนาฬิกา
หลังกินข้าวกินปลา...มาจุดเทียนแดงพร้อมกัน

ทุกทุกค่ำคืน...ยี่สิบนาฬิกา
หลังกินข้าวกินปลา...มาจุดเทียนแดงแข่งแสงจันทร์

ทุกทุกค่ำคืน...ยี่สิบนาฬิกา
หลังกินข้าวกินปลา...มาจุดแทนแดงแห่งความใฝ่ฝัน

ทุกทุกค่ำคืน...ยี่สิบนาฬิกา
หลังกินข้าวกินปลา...มาจุดเทียนแดงพลิกฟ้าคว่ำวิมาน

 

 

เพียงคำ ประดับความ
 

 

สมัครรับข่าวความเคลื่อนไหวจากประชาไท ผ่านทางอีเมล ดูรายละเอียดที่ http://groups.google.com/group/prachatai-newspaper

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น