โพสต์แนะนำ

ประชาไท Prachatai.com

ประชาไท Prachatai.com พท.-ปชป จัดประชุมแก้ไขข้อบังคับพรรคฯ ส่วนรัฐบาลคสช. เตรียมฉีดเงินตำบลละ 5 แสน คพศ. ขอ ตร.เรียกตั...

ซิตี้แบงก์ ให้คุณสมัครบัตรเครดิต citibank ออนไลน์ ด้วยวิธีสมัครบัตรเครดิตง่ายๆ รู้ผลอนุมัตทันใจภายใน 5 วัน อยากทำบัตรเครดิตซิตี้แบงก์ สมัครออนไลน์ได้ทันทีที่นี่.

วันอาทิตย์ที่ 22 ตุลาคม พ.ศ. 2560

ประชาไท | Prachatai3.info

ประชาไท | Prachatai3.info

Link to ประชาไท

อาเบะนำพรรคร่วมรัฐบาลชนะเลือกตั้งญี่ปุ่น-จ่อตั้งรัฐบาลสมัยที่ 3

Posted: 22 Oct 2017 09:38 AM PDT

ผลสำรวจหลังการเลือกตั้งสภาผู้แทนราษฎรญี่ปุ่นวันอาทิตย์นี้พบว่า พรรคเสรีประชาธิปไตยและแนวร่วมจะได้ที่นั่ง 2 ใน 3 ของสภา ซึ่งจะเพิ่มโอกาสในการตั้ง "รัฐบาลอาเบะ" สมัยที่ 3 และความทะเยอทะยานแก้ไขมาตรา 9 ในรัฐธรรมนูญฉบับหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 เพื่อเพิ่มอำนาจให้กองกำลังป้องกันตนเองของญี่ปุ่น ท่ามกลางวิกฤตคาบสมุทรเกาหลีจากการแผลงฤทธิ์ทดสอบขีปนาวุธของคิมจองอึน

ชินโซ อาเบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ภาพถ่ายปี 2013
ที่มา: แฟ้มภาพ/giyoshisan/Wikipedia

นายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะ จากพรรคเสรีประชาธิปไตย (LDP) และพรรคแนวร่วมจะสามารถรักษาชัยชนะเอาไว้ได้ในการเลือกตั้งทั่วไปวันอาทิตย์นี้ (22 ต.ค.) โดยผลสำรวจเบื้องต้นพบว่า พรรคเสรีประชาธิปไตยและแนวร่วมจะรักษาที่นั่งเสียงข้างมาก 2 ใน 3 ในสภาผู้แทนราษฎรเอาไว้ได้ ซึ่งจะเพิ่มโอกาสให้กับการตั้ง "รัฐบาลอาเบะ" สมัยที่ 3 พร้อมๆ กับเพิ่มความทะเยอทะยานของอาเบะในการแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับที่ร่างขึ้นหลังสงครามโลกครั้งที่ 2

ผลการสำรวจโดยอ้างอิงจากผลสำรวจนอกคูหาเลือกตั้ง (exit polls) ของสถานีโทรทัศน์ TBS และ TV Tokyo ชี้ว่าแนวร่วมของพรรคเสรีประชาธิปไตยและพรรคโคเมโต (Komeito) จะได้ที่นั่ง ส.ส. 311 ที่นั่ง จากทั้งหมดในสภาผู้แทนราษฎร 465 ที่นั่ง ซึ่งมากพอที่จะดำเนินการแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับที่สหรัฐอเมริการ่างหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยหากทำได้จะเป็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งแรกนับตั้งแต่บังคับใช้มาได้ 70 ปี

ทั้งนี้เลขาธิการพรรคเสรีประชาธิปไตย โทชิฮิโร นิคาอิ พยายามที่จะไม่พูดอะไรมากแม้จะได้รับข้อมูลแล้วว่าชัยชนะอยู่ในมือของพรรค "เราดีใจที่สาธารณชนได้มอบอาณัติแก่คณะรัฐบาล แต่เราก็จะระมัดระวังที่จะไม่ก้าวไปข้างหน้าอย่างผู้หยิ่งผยอง

แม้ว่าจะมีพรรคคู่แข่งคือพรรคคิโบโนโต (Kibo no To) หรือพรรคแห่งความหวัง ที่เพิ่งตั้งขึ้นโดยผู้ว่าการกรุงโตเกียว ยูริโกะ โคอิเกะ แต่ก็มีแนวโน้มว่าในการเลือกตั้งทั่วไปรอบนี้จะทำได้เต็มที่เพียงรักษาที่นั่งในสภาเดิมก็คือ 57 ที่นั่ง

ส่วนพรรคฝ่ายค้านอีกพรรคที่ได้ที่นั่งเพิ่มขึ้นก็คือ พรรคประชาธิปไตยรัฐธรรมนูญนิยมแห่งญี่ปุ่น ซึ่งมีแนวโน้มจะได้ถึง 58 ที่นั่ง จากเดิมมี 16 ที่นั่ง

ทั้งนี้มีรายงานว่า อาเบะ พยายามที่จะสร้างฉันทามติภายในพรรคเสรีประชาธิปไตย เพื่อที่จะแก้ไขรัฐธรรมนูญให้ได้ภายในสิ้นปีนี้ รวมทั้งเริ่มกระบวนการประชามติในปีหน้า เพื่อการนี้รัฐบาลอาเบะชุดใหม่จะต้องได้เสียงข้างมากเกิน 2 ใน 3 หรือต้องมากกว่า 310 ที่นั่ง ทั้งนี้หากพรรคร่วมรัฐบาลขั้วเดิมยังมีเสียงข้างมากไม่ถึงเกณฑ์ 2 ใน 3 ก็อาจจะหาชวนพรรคฝ่ายค้านที่ต้องการแก้ไขรัฐธรรมนูญมาเข้าร่วมเพื่อการนี้ อย่างเช่น พรรคคิโบโนโต และพรรคนิปปอน อิชิน โน ไก (Japan Innovation Party) ซึ่งทั้ง 2 พรรคมีจุดยืนสนับสนุนการแก้ไขรัฐธรรมนูญ อย่างไรก็ตามพวกเขาให้ความสำคัญกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 9 เรื่องกองกำลังป้องกันตนเอง (JSDF) น้อยกว่าเรื่องสิทธิในการรับรู้ของประชาชน การศึกษาแบบไม่เก็บค่าใช้จ่าย และการกระจายอำนาจ

ข้อมูลจากกระทรวงการสื่อสาร จนถึงเวลา 18.00 น. ผู้มีสิทธิเลือกตั้งออกมาใช้สิทธิร้อยละ 29.99 ลดลง ร้อยละ 5 เมื่อเทียบกับการเลือกตั้งเมื่อปี 2557 ขณะที่การเลือกตั้งล่วงหน้ามีผู้ออกมาใช้สิทธิถึง 21.37 ล้านคน หรือเพิ่มขึ้นจากเดิมร้อยละ 62.54

เรียบเรียงจาก

Abe's gamble pays off with ruling bloc headed for two-thirds majority in Lower House, BY TOMOHIRO OSAKI, The Japan Times. OCT 22, 2017

ติดตามความเคลื่อนไหวของ ประชาไท ทางอีเมล คลิกอ่าน http://goo.gl/8xIcV หรือเฟซบุ๊ค http://fb.me/Prachatai

หมายเหตุประเพทไทย #180 ขึ้นภาษีเหล้าบุหรี่-ต้นทุนสุขภาพกับความยากจน

Posted: 22 Oct 2017 03:53 AM PDT

หมายเหตุประเพทไทยสัปดาห์นี้ คำ ผกา และประภาภูมิ เอี่ยมสม พูดถึงการปรับอัตราภาษีสรรพสามิตรอบใหม่ ซึ่งทำให้ราคาเหล้าและบุหรี่เพิ่มขึ้น แน่นอนว่าการขึ้นภาษีเป็นหนึ่งในมาตรการหลายๆ ด้านตามแผนขององค์การอนามัยโลก (WHO) เพื่อลดการบริโภคเหล้าและบุหรี่ แต่คำถามก็คือการเสริมปัจจัยต่างๆ ทั้งการขึ้นราคา รวมไปถึงการเสริมปัจจัยเชิงลบเช่น การพิมพ์คำเตือน รูปภาพ ติดบนฉลากผลิตภัณฑ์ การตีตราด้วยสโลกแกน "จน เครียด กินเหล้า" จะทำให้คนลดละเลิกเหล้าและบุหรี่ได้ผลจริงหรือ

นอกจากนี้เมื่อพิจารณามิติทางเศรษฐกิจ การปรับภาษีสรรพสามิตรอบล่าสุด ย่อมกระทบคนหาเช้ากินค่ำที่พึ่งพาเหล้าและบุหรี่เป็นเครื่องหย่อนใจหลังตรากตรำทำงานหนัก แต่เมื่อภาครัฐไม่ได้มีมาตรการส่งเสริมทางบวกเพื่อลดการบริโภคเหล้าและบุหรี่ที่ดีพอ เช่น ยังไม่ได้ทำให้ต้นทุนการเข้าถึงสวนสาธารณะและการออกกำลังกายเป็นไปได้จริงๆ สำหรับทุกคน ฯลฯ เมื่อเป็นเช่นนั้นแล้วการขึ้นภาษีเหล้าและบุหรี่อาจไม่ได้ทำให้การบริโภคเหล้าและบุหรี่ลดลงอย่างที่ตั้งเป้าหมาย แต่ทำให้ครัวเรือนรายได้น้อยหันไปต้มกลั่นเหล้าหรือมวนยาสูบใช้เอง หรือหนักกว่านั้นคือซื้อสุราปลอม บุหรี่หนีภาษี ซึ่งยิ่งเสี่ยงต่อสุขภาพ

ติดตามรายการหมายเหตุประเพทไทยย้อนหลัง
ที่เฟสบุ๊ค 
https://www.facebook.com/maihetpraphetthai
หรือลงทะเบียนรับชมที่ https://youtube.com/prachatai

ติดตามความเคลื่อนไหวของ ประชาไท ทางอีเมล คลิกอ่าน http://goo.gl/8xIcV หรือเฟซบุ๊ค http://fb.me/Prachatai

พบปัญหาเครื่องรูดบัตรคนจน 'ไม่เพียงพอ-สัญญาณอ่อน'

Posted: 21 Oct 2017 11:13 PM PDT

กรมบัญชีกลางร่วมกับ ก.พาณิชย์ และธนาคาร เร่งติดตั้งเครื่อง EDC ให้ครบ 18,000 เครื่อง ภายในเดือน พ.ย. 2560 เพื่อเพิ่มความสะดวกให้กับผู้มีสิทธิใช้บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ปัจจุบันมี  6,000 กว่าเครื่องไม่เพียงพอ และพบปัญหาสัญญาณอ่อน

 
22 ต.ค. 2560 สำนักข่าวไทย รายงานว่านางสาวสุทธิรัตน์ รัตนโชติ อธิบดีกรมบัญชีกลาง เปิดเผยว่าจากการรวบรวมข้อมูลการใช้บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ พบว่าผู้มีสิทธินำบัตรไปซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคในร้านธงฟ้าประชารัฐเป็นจำนวนมาก ซึ่งขณะนี้กรมบัญชีกลางได้ส่งรายชื่อร้านธงฟ้าประชารัฐที่ได้รับการคัดเลือกตามหลักเกณฑ์ที่กระทรวงพาณิชย์กำหนด จำนวนกว่า 18,000 ร้านค้าให้กับธนาคารกรุงไทย  ตั้งแต่วันที่ 3 ต.ค. โดยธนาคารกรุงไทยได้เร่งทยอยติดตั้งเครื่อง EDC ในแต่ละพื้นที่ทั่วประเทศ แล้วมากกว่า 6,000 เครื่อง แต่พบว่าเครื่อง EDC ยังคงมีจำนวนไม่เพียงพอกับจำนวนผู้มีสิทธิที่มีความประสงค์จะนำบัตรสวัสดิการแห่งรัฐไปซื้อสินค้าที่ร้านธงฟ้าประชารัฐ สำหรับร้านธงฟ้าประชารัฐที่ธนาคารกรุงไทยติดตั้งเครื่อง EDC แล้ว และพบปัญหาสัญญาณอ่อน เพื่อแก้ไขประเด็นดังกล่าว ทางธนาคารจะดำเนินการเชื่อมต่อสัญญาณด้วยสาย LAN กับเครื่อง EDC พร้อมจัดทำคู่มือให้กับร้านธงฟ้าประชารัฐ ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้งาน และทำให้การซื้อขายสินค้าเป็นไปอย่างคล่องตัวยิ่งขึ้น
 
อธิบดีกรมบัญชีกลาง กล่าวถึงความคืบหน้าของการติดตั้งเครื่อง EDC ว่ากรมบัญชีกลาง กระทรวงพาณิชย์ ธนาคารของรัฐและธนาคารพาณิชย์ ได้ร่วมกันวางแนวทางแก้ไขประเด็นร้านธงฟ้าประชารัฐที่รับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐมีจำนวนไม่เพียงพอ โดยกำหนดกรอบเวลาร่วมกันว่า จะติดตั้งเครื่อง EDC จำนวน 9,500 เครื่อง ให้เสร็จสิ้นภายในเดือน ต.ค. และจะทยอยติดตั้งเพิ่มเติมให้ครบ 18,000 เครื่องตามเป้าหมายภายในเดือน พ.ย. 2560 ซึ่งได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากสมาคมธนาคารไทย ธนาคารของรัฐ และธนาคารพาณิชย์
 
ทั้งนี้ การติดตั้งเครื่อง EDC ส่วนที่เหลือ กระทรวงพาณิชย์จะพิจารณาตามเกณฑ์ลำดับความสำคัญ ดังนี้ เป็นร้านค้าที่อยู่ในพื้นที่ห่างไกล ต้องติดตั้งให้ครอบคลุมทุกตำบล และเป็นพื้นที่ที่มีจำนวนผู้มีสิทธิหนาแน่น เพื่อให้ผู้มีสิทธิทั่วประเทศได้รับความสะดวกในการใช้บัตรสวัสดิการแห่งรัฐอย่างเท่าเทียมกัน โดย กระทรวงพาณิชย์จะเผยแพร่ข้อมูลของร้านธงฟ้าประชารัฐที่ได้รับคัดเลือกผ่านทางเว็บไซต์ของกระทรวง ส่วนร้านค้าที่ยังไม่ปรากฏรายชื่อ ทางกระทรวงจะมีการพิจารณาในลำดับต่อไป
ติดตามความเคลื่อนไหวของ ประชาไท ทางอีเมล คลิกอ่าน http://goo.gl/8xIcV หรือเฟซบุ๊ค http://fb.me/Prachatai

ประชาชนซิมบับเวไม่เห็นด้วยรัฐบาลตั้งกระทรวงสอดส่องโลกไซเบอร์

Posted: 21 Oct 2017 10:32 PM PDT

ซิมบับเว ประเทศที่มีการบริหารผิดพลาดจนเคยเกิดภาวะเงินเฟ้อรุนแรง ล่าสุดขาดแคลนสินค้าอุปโภคบริโภคและเงินตรากำลังตั้งกระทรวงใหม่เพื่อสอดส่องโลกโซเชียล ในขณะที่การสำรวจพบว่ากลุ่มตัวอย่างประชาชนส่วนมากไม่เห็นด้วยกับล่วงล้ำสิทธิความเป็นส่วนตัวจากรัฐบาล

Skyline of Harare, Capital of Zimbabwe

กรุงฮาราเร เมืองหลวงประเทศซิมบับเว (ที่มา:วิกิพีเดีย)

หนังสือพิมพ์วอชิงตันโพสต์รายงานว่าเมื่อไม่นานนี้มีการสับเปลี่ยนโยกย้ายคณะรัฐมนตรีซิมบับเวโดยประธานาธิบดี โรเบิร์ต มูกาเบ ซึ่งเป็นที่จับตามอง โดยมีการก่อตั้งกระทรวงใหม่คือกระทรวง "ความมั่นคงไซเบอร์กับการค้นหาและบรรเทาภัย" ซึ่งผู้ได้ตำแหน่งรัฐมนตรีคืออดีตรัฐมนตรีกระทรวงการคลัง แพทริก ชีนามาซา

ถึงแม้ว่ารัฐบาลจะอ้างว่าพวกเขาก่อตั้งกระทรวงนี้ขึ้นมาเพื่อแก้ปัญหาการใช้โซเชียลมีเดียในทางที่ผิด แต่ก็มีผู้สังเกตการณ์กังวลว่าเหตุผลที่แท้จริงที่รัฐบาลจัดตั้งกระทรวงนี้คือเอาไว้ปราบปรามประชาชนที่วิจารณ์รัฐบาลผ่านทางโซเชียลมีเดียในช่วงที่เศรษฐกิจซิมบับเวกำลังสูญเสียเสถียรภาพมากขึ้นเรื่อยๆ

องค์กรจัดตามมองสื่อในซิมบับเว MISA มองว่าเรื่องนี้เป็นภัยต่อเสรีภาพในการแสดงออก และอาจจะส่งผลให้เกิดความกลัวถูกปราบปรามจนมีการเซนเซอร์ตัวเองทั้งจากสื่อและจากประชาชนผู้ใช้สื่อโซเชียลมีเดีย

จอร์จ ชารัมบา โฆษกรัฐบาลซิมบับเวกล่าวปกป้องกระทรวงใหม่ว่าประธานาธิบดีต้องการจัดการกับภัยคุกคามที่มาจาก "การใช้พื้นที่ไซเบอร์สเปซอย่างผิดกฎหมาย" และอ้างว่าการกระทำเช่นนี้เป็นการสร้างความแตกตื่นจนทำให้เศรษฐกิจขาดเสถียรภาพ

แต่สิ่งที่เกิดขึ้นอาจจะเป็นไปในทางตรงกันข้าม คือการขาดแคลนเงินตราและขาดแคลนสินค้าทำให้ผู้คนพากันวิจารณ์รัฐบาลผ่านทางโซเชียลมีเดีย ปัญหาการขาดแคลนสินค้าเกิดขึ้นในช่วงเดือน ก.ย. ที่ผ่านมาเมื่อชาวซิมบับเวพากันกักตุนสิ่งของเครื่องใช้ต่างๆ มากขึ้นเมื่อเกิดวิกฤตการเงินจนทำให้ของในร้านค้าขาดตลาด ชั้นวางของว่างเปล่า ราคาสินค้าพื้นฐานเพิ่มสูงขึ้นมากกว่าร้อยละ 300 ภาวะเช่นนี้ทำให้ชาวซิมบับเวนึกถึงวิกฤตเศรษฐกิจช่วงปี 2551-2552 ที่เกิดภาวะเงินเฟ้ออย่างหนักร้อยละ 89.7 พันล้านล้านล้าน

กระนั้นเมื่อมีชาวซิมบับเวพยายามเปิดเผยปัญหาการขาดแคลนสินค้ากลับถูกทางการจับกุม เมื่อวันที่ 23 ก.ย. มีการจับกุมบาทหลวงอีแวน มาวาริเร จัดประชุมที่ศาลากลางพร้อมไลฟ์ผ่านเฟซบุ๊กเกี่ยวกับเรื่องการขาดแคลนเงินตราและเครื่องอุปโภคบริโภค ทำให้มีคนจากที่อื่นนอกจากในซิมบับเวเริ่มติดตามเขา มาวาริเรยังเคยมีชื่อเสียงจากคำกล่าวสุนทรพจน์ #ThisFlag ที่เรียกให้ชาวซิมบับเวออกมาเคลื่อนไหวด้วย

รัฐบาลมูกาเบไม่ยอมรับคำวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับเรื่องการที่เขาบริหารงานได้แย่ แต่กลับโทษโซเชียลมีเดียว่าเป็นตัวทำให้ปัญหาเศรษฐกิจแย่ลง โทษว่าผู้ใช้โซเชียลมีเดียทำให้เกิดความแตกตื่นจนสินค้าขาดตลาด

โรเบิร์ต มูกาเบ ประธานาธิบดีของซิมบับเวมาตั้งแต่ พ.ศ. 2530 (ที่มา:วิกิพีเดีย)

อย่างไรก็ตามวอชิงตันโพสต์รายงานว่ารัฐบาลซิมบับเวพยายามควมคุมโซเชียลมีเดียมาตั้งแต่ก่อนเกิดเหตุขาดแคลนของอุปโภคบริโภคแล้ว โดยที่รัฐบาลเสนอร่างกฎหมายเกี่ยวกับการกระทำความผิดทางคอมพิวเตอร์และไซเบอร์ตั้งแต่เดือน พ.ค. ที่ผ่านมา และมีโอกาสที่จะผ่านร่างภายในปีนี้โดยที่กระทรวงไซเบอร์ที่เพิ่งก่อตั้งขึ้นมีการพยายามผลักดันร่างกฎหมายตัวนี้มาแต่ตั้งปี 2559 


ซุปา มันดิวันซิรา รัฐมนตรีกระทรวงข้อมูลข่าวสารและเทคโนโลยีเป็นผู้เสนอร่างกฎหมายนี้กล่าวว่าการตรวจตราอินเทอร์เน็ตมีความสำคัญโดยอ้างเหตุการณ์ที่นางแบบรายหนึ่งถูกกล่าวหาอย่างไม่เป็นความจริงว่าทำให้เด็กติดเชื้อเอชไอวีจนมีชาวเน็ตจำนวนมากเข้าไปรุมด่าทอโจมตีเธอรวมถึงมีการข่มขู่เอาชีวิตเธอด้วย ทำให้รัฐบาลอ้างว่ากระทรวงใหม่นี้จะดูแลและลดกรณีการข่มเหงรังแกกันทางอินเทอร์เน็ต

จากการเก็บข้อมูลของอโฟรมารอมิเตอร์ในปี 2560 พบว่ามีชาวซิมบับเวร้อยละ 84 มีโทรศัพท์มือถือใช้ ร้อยละ 36 ใช้อินเทอร์เน็ตผ่านโทรศัพท์มือถือ มีผู้ใช้อินเทอร์เน็ตโดยรวมร้อยละ 41 ของประเทศ มีชาวซิมบับเวใช้เฟซบุ๊กราว 850,000 ราย ฝ่ายต่อต้านรัฐบาลจึงกังวลว่าการพยายามควบคุมโซเชียลมีเดียอาจจะมีผลต่อการเคลื่อนไหวต่อต้านรัฐบาล เนื่องจากในช่วงขาดเสถียรภาพทางเศรษฐกิจนั้นมีประชาชนที่ไม่พอใจพากันใช้การส่งข้อความและแอพพลิเคชันอย่าง WhatsApp และ Twitter ในการจัดตั้งการประท้วงบนท้องถนน

โซเชียลมีเดียยังเป็นพื้นที่ที่ชาวซิมบับเวพูดคุยเรื่องการเมืองกันมาก เช่นในช่วงก่อนเลือกตั้ง 2556 มีคนใช้ชื่อ Baba Jukwa เปิดโปงเรื่องอื้อฉาวของพรรครัฐบาลโดยมีผู้ติดตามเขามากกว่า 300,000 ราย นอกจากนี้ยังมีผู้นิยมชมรายการบันเทิงออนไลน์รวมถึงรายการแนวตลกเสียดสีเช่น BustopTV ที่มีหญิงวัยรุ่นสองคนเสียดสีในเรื่องต่างๆ จุดที่ดังที่สุดคือตอนที่พวกเธอล้อเลียนการเดินขบวนสนับสนุน เกรซ มูกาเบ ภรรยาของประธานาธิบดี มีผู้ชมหลายหมื่นในเฟซบุ๊กและมีการเผยแพร่ส่งต่อกันทางแชท

อะโฟรบารอมิเตอร์ซึ่งเป็นการสำรวจจัดทำโดยสถาบันความคิดเห็นของประชาชนในซิมบับเวยังได้ทำการสอบถามกลุ่มตัวอย่างผู้ใหญ่ชาวซิมบับเว 1,200 ราย ในช่วงต้นปีนี้พบว่ากลุ่มตัวอย่างเกือบ 7 ใน 10 เห็นด้วยในเรื่องที่ประชาชนควรสื่อสารกันอย่างเป็นส่วนตัวได้โดยที่ไม่มีรัฐบาลมาสอดส่อง กลุ่มตัวอย่างที่ต่อต้านรัฐบาลหรือกลุ่มตัวอย่างที่ยิ่งมีระดับการศึกษาสูงหรืออายุน้อยกว่ายิ่งจะโน้มเอียงมาทางเน้นรักษาสิทธิความเป็นส่วนตัวมากกว่าจะคล้อยตามข้ออ้างด้านความมั่นคงของรัฐบาล

เรียบเรียงจาก

Zimbabwe created a new ministry to monitor social media. But most Zimbabweans don't want government monitoring, Washington Post, October 20, 2017

ติดตามความเคลื่อนไหวของ ประชาไท ทางอีเมล คลิกอ่าน http://goo.gl/8xIcV หรือเฟซบุ๊ค http://fb.me/Prachatai

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น