ประชาไท | Prachatai3.info |
- อาเบะนำพรรคร่วมรัฐบาลชนะเลือกตั้งญี่ปุ่น-จ่อตั้งรัฐบาลสมัยที่ 3
- หมายเหตุประเพทไทย #180 ขึ้นภาษีเหล้าบุหรี่-ต้นทุนสุขภาพกับความยากจน
- พบปัญหาเครื่องรูดบัตรคนจน 'ไม่เพียงพอ-สัญญาณอ่อน'
- ประชาชนซิมบับเวไม่เห็นด้วยรัฐบาลตั้งกระทรวงสอดส่องโลกไซเบอร์
อาเบะนำพรรคร่วมรัฐบาลชนะเลือกตั้งญี่ปุ่น-จ่อตั้งรัฐบาลสมัยที่ 3 Posted: 22 Oct 2017 09:38 AM PDT ผลสำรวจหลังการเลือกตั้งสภาผู้แทนราษฎรญี่ปุ่นวันอาทิตย์นี้พบว่า พรรคเสรีประชาธิปไตยและแนวร่วมจะได้ที่นั่ง 2 ใน 3 ของสภา ซึ่งจะเพิ่มโอกาสในการตั้ง "รัฐบาลอาเบะ" สมัยที่ 3 และความทะเยอทะยานแก้ไขมาตรา 9 ในรัฐธรรมนูญฉบับหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 เพื่อเพิ่มอำนาจให้กองกำลังป้องกันตนเองของญี่ปุ่น ท่ามกลางวิกฤตคาบสมุทรเกาหลีจากการแผลงฤทธิ์ทดสอบขีปนาวุธของคิมจองอึน ชินโซ อาเบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ภาพถ่ายปี 2013 นายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะ จากพรรคเสรีประชาธิปไตย (LDP) และพรรคแนวร่วมจะสามารถรักษาชัยชนะเอาไว้ได้ในการเลือกตั้งทั่วไปวันอาทิตย์นี้ (22 ต.ค.) โดยผลสำรวจเบื้องต้นพบว่า พรรคเสรีประชาธิปไตยและแนวร่วมจะรักษาที่นั่งเสียงข้างมาก 2 ใน 3 ในสภาผู้แทนราษฎรเอาไว้ได้ ซึ่งจะเพิ่มโอกาสให้กับการตั้ง "รัฐบาลอาเบะ" สมัยที่ 3 พร้อมๆ กับเพิ่มความทะเยอทะยานของอาเบะในการแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับที่ร่างขึ้นหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ผลการสำรวจโดยอ้างอิงจากผลสำรวจนอกคูหาเลือกตั้ง (exit polls) ของสถานีโทรทัศน์ TBS และ TV Tokyo ชี้ว่าแนวร่วมของพรรคเสรีประชาธิปไตยและพรรคโคเมโต (Komeito) จะได้ที่นั่ง ส.ส. 311 ที่นั่ง จากทั้งหมดในสภาผู้แทนราษฎร 465 ที่นั่ง ซึ่งมากพอที่จะดำเนินการแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับที่สหรัฐอเมริการ่างหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยหากทำได้จะเป็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งแรกนับตั้งแต่บังคับใช้มาได้ 70 ปี ทั้งนี้เลขาธิการพรรคเสรีประชาธิปไตย โทชิฮิโร นิคาอิ พยายามที่จะไม่พูดอะไรมากแม้จะได้รับข้อมูลแล้วว่าชัยชนะอยู่ในมือของพรรค "เราดีใจที่สาธารณชนได้มอบอาณัติแก่คณะรัฐบาล แต่เราก็จะระมัดระวังที่จะไม่ก้าวไปข้างหน้าอย่างผู้หยิ่งผยอง แม้ว่าจะมีพรรคคู่แข่งคือพรรคคิโบโนโต (Kibo no To) หรือพรรคแห่งความหวัง ที่เพิ่งตั้งขึ้นโดยผู้ว่าการกรุงโตเกียว ยูริโกะ โคอิเกะ แต่ก็มีแนวโน้มว่าในการเลือกตั้งทั่วไปรอบนี้จะทำได้เต็มที่เพียงรักษาที่นั่งในสภาเดิมก็คือ 57 ที่นั่ง ส่วนพรรคฝ่ายค้านอีกพรรคที่ได้ที่นั่งเพิ่มขึ้นก็คือ พรรคประชาธิปไตยรัฐธรรมนูญนิยมแห่งญี่ปุ่น ซึ่งมีแนวโน้มจะได้ถึง 58 ที่นั่ง จากเดิมมี 16 ที่นั่ง ทั้งนี้มีรายงานว่า อาเบะ พยายามที่จะสร้างฉันทามติภายในพรรคเสรีประชาธิปไตย เพื่อที่จะแก้ไขรัฐธรรมนูญให้ได้ภายในสิ้นปีนี้ รวมทั้งเริ่มกระบวนการประชามติในปีหน้า เพื่อการนี้รัฐบาลอาเบะชุดใหม่จะต้องได้เสียงข้างมากเกิน 2 ใน 3 หรือต้องมากกว่า 310 ที่นั่ง ทั้งนี้หากพรรคร่วมรัฐบาลขั้วเดิมยังมีเสียงข้างมากไม่ถึงเกณฑ์ 2 ใน 3 ก็อาจจะหาชวนพรรคฝ่ายค้านที่ต้องการแก้ไขรัฐธรรมนูญมาเข้าร่วมเพื่อการนี้ อย่างเช่น พรรคคิโบโนโต และพรรคนิปปอน อิชิน โน ไก (Japan Innovation Party) ซึ่งทั้ง 2 พรรคมีจุดยืนสนับสนุนการแก้ไขรัฐธรรมนูญ อย่างไรก็ตามพวกเขาให้ความสำคัญกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 9 เรื่องกองกำลังป้องกันตนเอง (JSDF) น้อยกว่าเรื่องสิทธิในการรับรู้ของประชาชน การศึกษาแบบไม่เก็บค่าใช้จ่าย และการกระจายอำนาจ ข้อมูลจากกระทรวงการสื่อสาร จนถึงเวลา 18.00 น. ผู้มีสิทธิเลือกตั้งออกมาใช้สิทธิร้อยละ 29.99 ลดลง ร้อยละ 5 เมื่อเทียบกับการเลือกตั้งเมื่อปี 2557 ขณะที่การเลือกตั้งล่วงหน้ามีผู้ออกมาใช้สิทธิถึง 21.37 ล้านคน หรือเพิ่มขึ้นจากเดิมร้อยละ 62.54 เรียบเรียงจาก Abe's gamble pays off with ruling bloc headed for two-thirds majority in Lower House, BY TOMOHIRO OSAKI, The Japan Times. OCT 22, 2017 ติดตามความเคลื่อนไหวของ ประชาไท ทางอีเมล คลิกอ่าน http://goo.gl/8xIcV หรือเฟซบุ๊ค http://fb.me/Prachatai |
หมายเหตุประเพทไทย #180 ขึ้นภาษีเหล้าบุหรี่-ต้นทุนสุขภาพกับความยากจน Posted: 22 Oct 2017 03:53 AM PDT หมายเหตุประเพทไทยสัปดาห์นี้ คำ ผกา และประภาภูมิ เอี่ยมสม พูดถึงการปรับอัตราภาษีสรรพสามิตรอบใหม่ ซึ่งทำให้ราคาเหล้าและบุหรี่เพิ่มขึ้น แน่นอนว่าการขึ้นภาษีเป็นหนึ่งในมาตรการหลายๆ ด้านตามแผนขององค์การอนามัยโลก (WHO) เพื่อลดการบริโภคเหล้าและบุหรี่ แต่คำถามก็คือการเสริมปัจจัยต่างๆ ทั้งการขึ้นราคา รวมไปถึงการเสริมปัจจัยเชิงลบเช่น การพิมพ์คำเตือน รูปภาพ ติดบนฉลากผลิตภัณฑ์ การตีตราด้วยสโลกแกน "จน เครียด กินเหล้า" จะทำให้คนลดละเลิกเหล้าและบุหรี่ได้ผลจริงหรือ นอกจากนี้เมื่อพิจารณามิติทางเศรษฐกิจ การปรับภาษีสรรพสามิตรอบล่าสุด ย่อมกระทบคนหาเช้ากินค่ำที่พึ่งพาเหล้าและบุหรี่เป็นเครื่องหย่อนใจหลังตรากตรำทำงานหนัก แต่เมื่อภาครัฐไม่ได้มีมาตรการส่งเสริมทางบวกเพื่อลดการบริโภคเหล้าและบุหรี่ที่ดีพอ เช่น ยังไม่ได้ทำให้ต้นทุนการเข้าถึงสวนสาธารณะและการออกกำลังกายเป็นไปได้จริงๆ สำหรับทุกคน ฯลฯ เมื่อเป็นเช่นนั้นแล้วการขึ้นภาษีเหล้าและบุหรี่อาจไม่ได้ทำให้การบริโภคเหล้าและบุหรี่ลดลงอย่างที่ตั้งเป้าหมาย แต่ทำให้ครัวเรือนรายได้น้อยหันไปต้มกลั่นเหล้าหรือมวนยาสูบใช้เอง หรือหนักกว่านั้นคือซื้อสุราปลอม บุหรี่หนีภาษี ซึ่งยิ่งเสี่ยงต่อสุขภาพ ติดตามรายการหมายเหตุประเพทไทยย้อนหลัง ติดตามความเคลื่อนไหวของ ประชาไท ทางอีเมล คลิกอ่าน http://goo.gl/8xIcV หรือเฟซบุ๊ค http://fb.me/Prachatai |
พบปัญหาเครื่องรูดบัตรคนจน 'ไม่เพียงพอ-สัญญาณอ่อน' Posted: 21 Oct 2017 11:13 PM PDT กรมบัญชีกลางร่วมกับ ก.พาณิชย์ และธนาคาร เร่งติดตั้งเครื่อง EDC ให้ครบ 18,000 เครื่อง ภายในเดือน พ.ย. 2560 เพื่อเพิ่มความสะดวกให้กับผู้มีสิทธิใช้บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ปัจจุบันมี 6,000 กว่าเครื่องไม่เพียงพอ และพบปัญหาสัญญาณอ่อน 22 ต.ค. 2560 สำนักข่าวไทย รายงานว่านางสาวสุทธิรัตน์ รัตนโชติ อธิบดีกรมบัญชีกลาง เปิดเผยว่าจากการรวบรวมข้อมูลการใช้บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ พบว่าผู้มีสิทธินำบัตรไปซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคในร้านธงฟ้าประชารัฐเป็นจำนวนมาก ซึ่งขณะนี้กรมบัญชีกลางได้ส่งรายชื่อร้านธงฟ้าประชารัฐที่ได้รับการคัดเลือกตามหลักเกณฑ์ที่กระทรวงพาณิชย์กำหนด จำนวนกว่า 18,000 ร้านค้าให้กับธนาคารกรุงไทย ตั้งแต่วันที่ 3 ต.ค. โดยธนาคารกรุงไทยได้เร่งทยอยติดตั้งเครื่อง EDC ในแต่ละพื้นที่ทั่วประเทศ แล้วมากกว่า 6,000 เครื่อง แต่พบว่าเครื่อง EDC ยังคงมีจำนวนไม่เพียงพอกับจำนวนผู้มีสิทธิที่มีความประสงค์จะนำบัตรสวัสดิการแห่งรัฐไปซื้อสินค้าที่ร้านธงฟ้าประชารัฐ สำหรับร้านธงฟ้าประชารัฐที่ธนาคารกรุงไทยติดตั้งเครื่อง EDC แล้ว และพบปัญหาสัญญาณอ่อน เพื่อแก้ไขประเด็นดังกล่าว ทางธนาคารจะดำเนินการเชื่อมต่อสัญญาณด้วยสาย LAN กับเครื่อง EDC พร้อมจัดทำคู่มือให้กับร้านธงฟ้าประชารัฐ ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้งาน และทำให้การซื้อขายสินค้าเป็นไปอย่างคล่องตัวยิ่งขึ้น อธิบดีกรมบัญชีกลาง กล่าวถึงความคืบหน้าของการติดตั้งเครื่อง EDC ว่ากรมบัญชีกลาง กระทรวงพาณิชย์ ธนาคารของรัฐและธนาคารพาณิชย์ ได้ร่วมกันวางแนวทางแก้ไขประเด็นร้านธงฟ้าประชารัฐที่รับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐมีจำนวนไม่เพียงพอ โดยกำหนดกรอบเวลาร่วมกันว่า จะติดตั้งเครื่อง EDC จำนวน 9,500 เครื่อง ให้เสร็จสิ้นภายในเดือน ต.ค. และจะทยอยติดตั้งเพิ่มเติมให้ครบ 18,000 เครื่องตามเป้าหมายภายในเดือน พ.ย. 2560 ซึ่งได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากสมาคมธนาคารไทย ธนาคารของรัฐ และธนาคารพาณิชย์ ทั้งนี้ การติดตั้งเครื่อง EDC ส่วนที่เหลือ กระทรวงพาณิชย์จะพิจารณาตามเกณฑ์ลำดับความสำคัญ ดังนี้ เป็นร้านค้าที่อยู่ในพื้นที่ห่างไกล ต้องติดตั้งให้ครอบคลุมทุกตำบล และเป็นพื้นที่ที่มีจำนวนผู้มีสิทธิหนาแน่น เพื่อให้ผู้มีสิทธิทั่วประเทศได้รับความสะดวกในการใช้บัตรสวัสดิการแห่งรัฐอย่างเท่าเทียมกัน โดย กระทรวงพาณิชย์จะเผยแพร่ข้อมูลของร้านธงฟ้าประชารัฐที่ได้รับคัดเลือกผ่านทางเว็บไซต์ของกระทรวง ส่วนร้านค้าที่ยังไม่ปรากฏรายชื่อ ทางกระทรวงจะมีการพิจารณาในลำดับต่อไป ติดตามความเคลื่อนไหวของ ประชาไท ทางอีเมล คลิกอ่าน http://goo.gl/8xIcV หรือเฟซบุ๊ค http://fb.me/Prachatai |
ประชาชนซิมบับเวไม่เห็นด้วยรัฐบาลตั้งกระทรวงสอดส่องโลกไซเบอร์ Posted: 21 Oct 2017 10:32 PM PDT ซิมบับเว ประเทศที่มีการบริหารผิดพลาดจนเคยเกิดภาวะเงินเฟ้อรุนแรง ล่าสุดขาดแคลนสินค้าอุปโภคบริโภคและเงินตรากำลังตั้งกระทรวงใหม่เพื่อสอดส่องโลกโซเชียล ในขณะที่การสำรวจพบว่ากลุ่มตัวอย่างประชาชนส่วนมากไม่เห็นด้วยกับล่วงล้ำสิทธิความเป็นส่วนตัวจากรัฐบาล กรุงฮาราเร เมืองหลวงประเทศซิมบับเว (ที่มา:วิกิพีเดีย) หนังสือพิมพ์วอชิงตันโพสต์รายงานว่าเมื่อไม่นานนี้มีการสับเปลี่ยนโยกย้ายคณะรัฐมนตรีซิมบับเวโดยประธานาธิบดี โรเบิร์ต มูกาเบ ซึ่งเป็นที่จับตามอง โดยมีการก่อตั้งกระทรวงใหม่คือกระทรวง "ความมั่นคงไซเบอร์กับการค้นหาและบรรเทาภัย" ซึ่งผู้ได้ตำแหน่งรัฐมนตรีคืออดีตรัฐมนตรีกระทรวงการคลัง แพทริก ชีนามาซา แต่สิ่งที่เกิดขึ้นอาจจะเป็นไปในทางตรงกันข้าม คือการขาดแคลนเงินตราและขาดแคลนสินค้าทำให้ผู้คนพากันวิจารณ์รัฐบาลผ่านทางโซเชียลมีเดีย ปัญหาการขาดแคลนสินค้าเกิดขึ้นในช่วงเดือน ก.ย. ที่ผ่านมาเมื่อชาวซิมบับเวพากันกักตุนสิ่งของเครื่องใช้ต่างๆ มากขึ้นเมื่อเกิดวิกฤตการเงินจนทำให้ของในร้านค้าขาดตลาด ชั้นวางของว่างเปล่า ราคาสินค้าพื้นฐานเพิ่มสูงขึ้นมากกว่าร้อยละ 300 ภาวะเช่นนี้ทำให้ชาวซิมบับเวนึกถึงวิกฤตเศรษฐกิจช่วงปี 2551-2552 ที่เกิดภาวะเงินเฟ้ออย่างหนักร้อยละ 89.7 พันล้านล้านล้าน โรเบิร์ต มูกาเบ ประธานาธิบดีของซิมบับเวมาตั้งแต่ พ.ศ. 2530 (ที่มา:วิกิพีเดีย) อย่างไรก็ตามวอชิงตันโพสต์รายงานว่ารัฐบาลซิมบับเวพยายามควมคุมโซเชียลมีเดียมาตั้งแต่ก่อนเกิดเหตุขาดแคลนของอุปโภคบริโภคแล้ว โดยที่รัฐบาลเสนอร่างกฎหมายเกี่ยวกับการกระทำความผิดทางคอมพิวเตอร์และไซเบอร์ตั้งแต่เดือน พ.ค. ที่ผ่านมา และมีโอกาสที่จะผ่านร่างภายในปีนี้โดยที่กระทรวงไซเบอร์ที่เพิ่งก่อตั้งขึ้นมีการพยายามผลักดันร่างกฎหมายตัวนี้มาแต่ตั้งปี 2559
ติดตามความเคลื่อนไหวของ ประชาไท ทางอีเมล คลิกอ่าน http://goo.gl/8xIcV หรือเฟซบุ๊ค http://fb.me/Prachatai |
You are subscribed to email updates from ประชาไท. To stop receiving these emails, you may unsubscribe now. | Email delivery powered by Google |
Google Inc., 1600 Amphitheatre Parkway, Mountain View, CA 94043, United States |
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น