โพสต์แนะนำ

ประชาไท Prachatai.com

ประชาไท Prachatai.com พท.-ปชป จัดประชุมแก้ไขข้อบังคับพรรคฯ ส่วนรัฐบาลคสช. เตรียมฉีดเงินตำบลละ 5 แสน คพศ. ขอ ตร.เรียกตั...

ซิตี้แบงก์ ให้คุณสมัครบัตรเครดิต citibank ออนไลน์ ด้วยวิธีสมัครบัตรเครดิตง่ายๆ รู้ผลอนุมัตทันใจภายใน 5 วัน อยากทำบัตรเครดิตซิตี้แบงก์ สมัครออนไลน์ได้ทันทีที่นี่.

วันอาทิตย์ที่ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2560

ประชาไท | Prachatai3.info

ประชาไท | Prachatai3.info

Link to ประชาไท

หมายเหตุประเพทไทย #181 อิทธิพลญี่ปุ่นและการทูตวัฒนธรรม

Posted: 29 Oct 2017 06:26 AM PDT

หมายเหตุประเพทไทยสัปดาห์นี้ เจนวิทย์ เชื้อสาวะถี และชานันท์ ยอดหงษ์ พูดคุยกับ ทรายแก้ว ทิพากร นักวิจัยชำนาญการพิเศษ สถาบันเอเชียศึกษา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ผู้เขียนวิทยานิพนธ์ "การทูตวัฒนธรรมของญี่ปุ่นในประเทศไทยในทศวรรษ 1970-1980" หาคำตอบร่วมกันว่านับตั้งแต่หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ญี่ปุ่น นอกจากความสำเร็จในการฟื้นฟูเศรษฐกิจจนกลายเป็นประเทศแถวหน้าทางเศรษฐกิจแล้ว ญี่ปุ่นยังแก้ไขภาพลักษณ์พร้อมแผ่ขยายอิทธิพลผ่านการทูตวัฒนธรรม รวมทั้งการให้ความช่วยเหลือระหว่างประเทศอย่างไร พร้อมคำแนะนำหากสังคมไทยจะเลือกรับปรับใช้ซอฟท์พาวเวอร์จากญี่ปุ่น

ติดตามรายการหมายเหตุประเพทไทยย้อนหลัง
ที่เฟสบุ๊ค
https://www.facebook.com/maihetpraphetthai
หรือลงทะเบียนรับชมที่ https://youtube.com/prachatai

ติดตามความเคลื่อนไหวของ ประชาไท ทางอีเมล คลิกอ่าน http://goo.gl/8xIcV หรือเฟซบุ๊ค http://fb.me/Prachatai

คสช.ยอมรับปริมาณน้ำใกล้เคียงปี 2554 เยียวยาพื้นที่สุดวิสัยตามความเหมาะสม

Posted: 29 Oct 2017 02:50 AM PDT

โฆษก คสช. เผยสถานการณ์น้ำในปีนี้เทียบกับปี 2554 ปริมาณน้ำสะสมใกล้เคียงกัน แต่รัฐบาลเตรียมการวางแผนไม่ให้ผลกระทบวงกว้าง เยียวยาพื้นที่สุดวิสัยตามความเหมาะสม พร้อมส่งทหาร 31 กองร้อยช่วย 22 จังหวัด

 
 
29 ต.ค. 2560 ASTV ผู้จัดการออนไลน์ รายงานว่าพันเอกวินธัย สุวารี โฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึงกรณีที่สถานการณ์น้ำที่มีค่อนข้างมากในปีนี้ว่าสืบเนื่องจากประเทศไทยได้รับอิทธิพล จากพายุโซนร้อน ตาลัส เซินกา พายุไต้ฝุ่นทกซูรี และพายุดีเปรสชั่นเมื่อเปรียบกับ ณ เวลา เดียวกัน ในปี 2554 มีปริมาณน้ำฝนรวมสะสม ที่ 1,798 มิลลิเมตร ในทางสถิตินับว่ามีปริมาณใกล้เคียงกัน 
 
แต่ด้วยรัฐบาลได้พยายามบริหารจัดการน้ำให้เหมาะสมมาแต่เนิ่น ๆ ตามห้วงเวลาตั้งแต่ในช่วงก่อนน้ำมา และระหว่างน้ำมา เช่น การพัฒนาเพิ่มแหล่งเก็บกักน้ำ แก้มลิง ตามแผนยุทธศาสตร์การบริหารจัดการทรัพยากรน้ำทั้งประเทศ การวางแผนเวลาการระบายน้ำฤดูฝน การบริหารระดับน้ำในเขื่อนให้มีระดับเหมาะสม การวางวางแผนใช้พื้นที่ทุ่งรับน้ำ การเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำ เช่นการกำจัดวัชพืชและสิ่งกีดขวางทางน้ำในพื้นที่ต่าง และเตรียมความพร้อมเครื่องสูบน้ำ เครื่องผลักดันน้ำ และเครื่องจักรกลต่าง ๆ โดยกรมชลประธาน กษ. ซึ่งทั้งหมดได้มีการคำนึงถึงผลกระทบที่จะเกิดกับประชาชนนั้น โดยพยายามที่จะไม่ขยายเป็นวงกว้างมาก โดยในส่วนพื้นที่สุดวิสัยที่ได้รับผลกระทบ รัฐบาลได้มีแผนการดูแลเยียวยาไว้แล้วตามความเหมาะสมอย่างดีที่สุด อีกทั้งในพื้นที่ดังกล่าว นรม.และ หน.คสช. ได้มีสั่งการกำชับผ่านหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้ดูแลให้การช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
 
ซึ่งจากการติดตามข่าวสภาพอากาศ และ การแจ้งเตือนจากหน่วยงานหลักที่เกี่ยวข้องในช่วงที่ผ่านมา ในส่วนกองทัพบก ผบ.ทบ.จึงได้ให้ทุกหน่วยเตรียมความพร้อมไว้ตั้งแต่เมื่อช่วงต้นเดือน ปัจจุบัน ทุกหน่วยอยู่ในขั้นระหว่างการให้ความช่วยเหลือ ร่วมกับหน่วยงานรัฐในพื้นที่ ซึ่งทางผู้บังคับบัญชาในทุกระดับ จะได้มีการติดตามและกำกับดูแลการปฏิบัติอย่างใกล้ชิด 
 
โดยในภาพรวมขณะนี้ทาง ศบภ.ทบ. ได้ส่งกำลังพลจำนวน 31 กองร้อยช่วยเหลือ ปชช. เข้าปฏิบัติการอยู่ใน พื้นที่ๆ ได้รับผลกระทบทั้ง 22 จังหวัด ในพื้นที่ภาค เหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดย ทาง ศบภ.ทบ. ส่วนกลางได้มีการเตรียมการที่จะสนับสนุนเพิ่มเติม ในเรื่องจำเป็นต่าง ๆ เอาไว้ ทั้งเรื่องคน และ เครื่องมือต่าง ๆ ไว้คอยเสริม กรณีจำเป็น หรือเมื่อมีการร้องขอเข้ามา
ติดตามความเคลื่อนไหวของ ประชาไท ทางอีเมล คลิกอ่าน http://goo.gl/8xIcV หรือเฟซบุ๊ค http://fb.me/Prachatai

สำนักข่าวอิศราเผย 'ยิ่งลักษณ์' ไม่อุทธรณ์คดียับยั้งความเสียหายโครงการรับจำนำข้าว

Posted: 29 Oct 2017 02:21 AM PDT

สำนักข่าวอิศราอ้างแหล่งข่าวจากสำนักงานอัยการสูงสุด ระบุว่าคดีไม่ระงับยับยั้งความเสียหายโครงการรับจำนำข้าว 'ยิ่งลักษณ์' ถึงที่สุดแล้ว หลังพ้นกำหนดเวลาศาลฎีกาฯ ให้ยื่นอุทธรณ์ 27 ต.ค. ที่ผ่านมา แต่เจ้าตัวไม่ติดต่อยื่นเรื่องประสานงานแต่อย่างใด ขณะที่ อสส.ไม่ยื่นเรื่องอุทธรณ์เช่นกัน เตรียมทำหนังสือแจ้ง กต.ถอนพาสปอร์ต

 
29 ต.ค. 2560 สำนักข่าวอิศรา รายงานว่าแหล่งข่าวจากสำนักงานอัยการสูงสุดเปิดเผยสำนักข่าวอิศราว่าเมื่อวันที่ 27 ต.ค.2560 ที่ผ่านมา เป็นวันครบกำหนดที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จำเลยคดีไม่ระงับยับยั้งความเสียหายโครงการรับจำนำข้าว ที่ปัจจุบันอยู่ระหว่างการหลบหนี ใช้สิทธิในการยื่นอุทธรณ์ต่อสู้คดี หรือขอขยายระยะเวลาการยื่นเรื่องอุธรณ์ หลังศาลฎีกาฯ มีคำพิพากษา ให้รับโทษจำคุก 5 ปี ไม่รอลงอาญาและให้ออกหมายบังคับคดี นำตัวมารับโทษตามคำพิพากษา 
 
แหล่งข่าวจากสำนักงานอัยการสูงสุด กล่าวว่าจากการประสานงานไปยังศาลฎีกาฯ ในช่วงเย็นวันที่ 27 ต.ค.2560 ได้รับแจ้งว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ไม่ได้ส่งตัวแทนมาติดต่อขอใช้สิทธิ ในการยื่นอุทธรณ์ต่อสู้คดี หรือขอขยายระยะเวลาการยื่นอุทธรณ์ต่อศาลฎีกาฯ แต่อย่างใด  ขณะที่คณะทำงานต่อสู้คดีนี้ของฝ่ายอัยการ ในฐานะโจทก์ จึงได้ทำเรื่องเสนอไปยังอัยการสูงสุด (อสส.) ให้พิจารณาเรื่องการอุทธรณ์คดี ปรากฎว่า อสส.มีความเห็นไม่ยื่นอุทธรณ์คดีเช่นกัน จึงทำให้คดีนี้ถึงที่สุดแล้ว
 
"ขั้นตอนจากนี้ไป อสส.จะทำหนังสือถึงกระทรวงการต่างประเทศเพื่อให้รับทราบความเห็นไมยื่นอุทธรณ์เป็นทางการ และขอให้ดำเนินการถอนพาสปอร์ตน.ส.ยิ่งลักษณ์ เพื่อติดตามตัวกลับมารับโทษเป็นทางการ คาดว่าจะมีการส่งเรื่องให้กระทรวงการต่างประเทศในเร็วๆ นี้" แหล่งข่าวระบุ 
ติดตามความเคลื่อนไหวของ ประชาไท ทางอีเมล คลิกอ่าน http://goo.gl/8xIcV หรือเฟซบุ๊ค http://fb.me/Prachatai

'สรรเสริญ' ระบุรัฐบาลไม่ได้สั่งให้ประชาชนใส่เสื้อสีเหลืองออกทุกข์ 30 ต.ค.

Posted: 28 Oct 2017 11:46 PM PDT

'สรรเสริญ' แจงรัฐบาลไม่บังคับประชาชนใส่เสื้อสีสดวันออกทุกข์ ชี้ให้เป็นวิจารณญาณเอง ปัดตอบผู้ว่าฯ จ.ประจวบฯ สั่งประชาชนให้ใส่สีเหลือง ยืนยันไม่มีการสั่งใด ๆ จากรัฐบาล

 
เว็บไซต์แนวหน้า รายงานเมื่อวันที่ 28 ต.ค. 2560 ที่ผ่านมาว่า พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงข้อห่วงใยของประชาชนเกี่ยวกับการแต่งกายภายหลังการออกทุกข์ว่า ข้อปฏิบัติสำหรับประชาชนในการแต่งกายวันที่ 30 ต.ค. 2560 ซึ่งเป็นวันออกทุกข์ นั้น ในส่วนของรัฐบาลไม่ได้มีการบังคับแต่อย่างใดว่า ห้ามหรือไม่ห้ามประชาชนใส่เสื้อสีใด  
 
"ในวันออกทุกข์ วันที่ 30 ต.ค.นี้ รัฐบาลไม่ได้บังคับว่าประชาชนจะต้องใส่เสื้อผ้าสีอะไร ขอให้เป็นวิจารณญาณของแต่ละคนที่จะปฏิบัติเอง วันออกทุกข์ก็คือวันออกทุกข์ ซึ่งเป็นไปตามมติคณะรัฐมนตรี"
 
ส่วนกรณีมีข่าวว่า ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ขอให้ประชาชนทุกอำเภอสวมใส่เสื้อสีเหลืองในวันที่ 30 ต.ค.นั้น พล.ท.สรรเสริญ กล่าวว่า ตนไม่ทราบเรื่องดังกล่าว และไม่เคยได้ยินเรื่องนี้ ทั้งนี้ขอย้ำว่า จนถึงขณะนี้ยังไม่มีการสั่งการใด ๆจากรัฐบาล ไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัดแต่อย่างใด
ติดตามความเคลื่อนไหวของ ประชาไท ทางอีเมล คลิกอ่าน http://goo.gl/8xIcV หรือเฟซบุ๊ค http://fb.me/Prachatai

เร่งซ่อมพนังกั้นน้ำขาดกว่า 30 ม. น้ำทะลักใกล้ตัวเมืองขอนแก่น

Posted: 28 Oct 2017 10:20 PM PDT

พนังกั้นน้ำในพื้นที่ ต.บึงเนียม อ.เมืองขอนแก่น ถูกกระแสน้ำกัดเซาะขาดกว่า 30 เมตร น้ำปริมาณมากไหลทะลักเข้าใกล้เขตเมือง เจ้าหน้าที่ระดมกำลังเร่งซ่อม

 
 
29 ต.ค. 2560 สำนักข่าวไทย รายงานว่าที่บริเวณคลองส่งน้ำ 3L-RMC บริเวณกิโลเมตรที่ 10 บ้านคุยโพธิ์ หมู่ 6 ต.บึงเนียม อ.เมือง จ.ขอนแก่น ซึ่งเป็นแนวป้องกันน้ำท่วมจังหวัดขอนแก่น ถูกน้ำกัดเซาะเป็นโพลง ตั้งแต่เวลา 14.30 น.ของเมื่อวานนี้ (28 ต.ค.) ก่อนที่พนังกั้นน้ำจะทานแรงน้ำไม่ไหว แตกออกยาวกว่า 30 เมตร ส่งผลให้น้ำจำนวนมหาศาลได้ไหลทะลักเข้าท่วมพื้นที่นาข้าวหลายหมื่นไร่ 
 
นายสมศักดิ์ จังตระกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบ พบว่ายังมีปริมาณน้ำไหลผ่านจุดดังกล่าวปริมาณมาก โดยเบื้องต้นได้กันเป็นพื้นที่อันตราย ห้ามเข้าใกล้ เพราะตลิ่งทรุดได้ตลอดเวลา และได้นำถุงบิ๊กแบ็กมาเสริมคันดิน พร้อมกล่าวว่า จุดนี้ถือว่ามีมวลน้ำมีปริมาณมาก และสิ่งที่น่าเป็นห่วงต้องเร่งให้เจ้าหน้าที่เร่งตรวจสอบ คือ พื้นที่ด้านล้างบริเวณห้วยพระ ว่าจะมีจุดอ่อนไหวที่จะเกิดเหตุการณ์ในลักษณะเดียวกันได้อีกหรือไม่ เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้น้ำกัดเซาะจนถนนขาดอีก กรมชลประทาน ทหารจาก มทบ.23 นำกำลังพลเข้ามากรอกและวางกระสอบทราย รุกคืบทีละเมตร ไปเรื่อยๆ จนกว่าจะปิดกั้นทางน้ำได้
 
และวันนี้ (29 ต.ค.) จะระดมกำลังเจ้าหน้าที่จากทุกภาคส่วนมาช่วยกันแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า ส่วนน้ำจะเข้าท่วมพื้นที่ในเขตเทศบาลนครขอนแก่นหรือไม่นั้น ต้องรอประเมินสถานการณ์นาทีต่อนาที
 

 

 
 
 
ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 28 ต.ค. 2560 สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ รายงานว่าเวลาประมาณ 15.00 น. ที่ถนนเลียบคลองชลประทานฮ่องไข่นก บ้านคุยโพธ์ ตำบลบึงเนียม อำเภอเมืองขอนแก่น ได้ขาดความยาวประมาณ 30 เมตร ทำให้มวลน้ำมหาศาล กระจายพื้นที่การเกษตรอีกด้าน และจะไหลไปรวมกันตรงห้วยพระคือ จะไปเสริมกับน้ำชั้นใน โอกาสเสี่ยงสูงที่จะไหลเข้าสู่รอบๆ เขตเทศบาลนครขอนแก่นขณะนี้ทาง ดร.สมศักดิ์ จังตระกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่นพร้อมด้วย ปภ.จังหวัด นายกเทศมนตรีนครขอนแก่นเข้าพื้นที่ไปประเมินสถานการณ์และร้องขอกำลังพลจากมณฑลทหารบกที่ 23 หลายร้อยนายเข้าช่วยเหลือ ตอนนี้สถานการณ์เสี่ยง อีก 1-2 วัน น้ำจะไหลเข้าชั้นในจะทำให้ห้วยพระคือน้ำทะลักเข้าเมืองได้ พร้อมแจ้งเตือนประชาชนต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษในเขตตำบลพระลับ ตำบลเมืองเก่า อำเภอเมืองขอนแก่นและรอบๆเขตเทศบาลนครขอนแก่น เฝ้าระวังระดับน้ำอย่างใกล้ชิด โดยผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่นได้สั่งการให้นายอำเภอเมืองขอนแก่นเตรียมพร้อมใช้แผนเผชิญเหตุหากสถานการณ์ไม่ดีขึ้นให้เตรียมอพยพคน จัดหาเต็นท์ หาไฟฟ้าแสงสว่างให้พร้อม
 
 
ติดตามความเคลื่อนไหวของ ประชาไท ทางอีเมล คลิกอ่าน http://goo.gl/8xIcV หรือเฟซบุ๊ค http://fb.me/Prachatai

นักดาราศาสตร์พบ 'วัตถุลึกลับ' ที่อาจจะมาจากระบบดาวอื่นเป็นครั้งแรก

Posted: 28 Oct 2017 08:45 PM PDT

ทีมนักดาราศาสตร์ของอลัน ฟิตส์ซิมมอนส์ ค้นพบวัตถุนอกโลกชื่อ A/2017 U1 ที่มีลักษณะการเคลื่อนที่ต่างจากวัตถุชนิดอื่น ๆ ที่เคยค้นพบก่อนหน้านี้ มีการตั้งสมมุติฐานว่ามันอาจจะเป็นวัตถุที่มาจากระบบดาวดวงอื่น ถ้าจริงมันจะเป็นครั้งแรกที่มนุษย์ค้นพบวัตถุที่มาจากจากระบบดาวอื่นเคลื่อนเข้ามาในระบบสุริยะ

 

ที่มาภาพ:  Alan Fitzsimmons/Queen's University Belfast/Isaac Newton Group La Palma
 
29 ต.ค. 2560 ข้อมูลจากศูนย์ฮาร์วาร์ด-สมิธโซเนียนเพื่อฟิสิกส์ดาราศาสตร์ ที่ตีพิมพ์ในวารสารไมเนอร์แพลนเน็ตระบุถึงวัตถุซึ่งไม่ทราบแน่ชัดว่าเป็นดาวเคราะห์น้อยหรือดาวหางชื่อ A/2017 U1 โดยวัตถุตัวนี้มีวิถีการโคจรแบบเส้นโค้งไฮเปอร์โบลาในแบบที่เร็วพอจนสามารถหนีแรงดึงดูดของดวงอาทิตย์ได้ นักดาราศาสตร์มองว่ามันอาจจะเป็นวัตถุนอกโลกชิ้นแรกที่มาจากนอกระบบสุริยะ
 
เอ็ดเวิร์ด บลูมเมอร์ นักดาราศาสตร์จากหอดูดาวหลวงกรีนิชกล่าวว่า "สิ่งที่น่าตื่นเต้นเกี่ยวกับวัตถุนี้คือการที่ที่มาของมันอาจจะเป็นผู้มาเยือนจากระบบดาวอีกระบบหนึ่ง" โดยวัตถุชิ้นนี้มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางน้อยกว่า 400 เมตร
 
ที่ผ่านมาวัตถุนอกโลกต่าง ๆ มักจะมาจากภายในระบบสุริยะเองและมีการโคจรอยู่รอบ ๆ ระบบนานมากจนกระทั่งสามารถทำวิถีแบบเส้นโค้งไฮเปอร์โบลาได้ โดยอาศัยวิธีต่าง ๆ เช่น เพิ่มความเร่งจากอิทธิพลของแรงโน้มถ่วงดาวเคราะห์ยักษ์ แต่ในกรณีล่าสุดไม่เป็นเช่นนี้
 
แกเรธ วิลเลียมส์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการของศูนย์ไมเนอร์แพลเน็ตกล่าวว่าเมื่อพิจารณาเส้นทางโคจรของดาวหางชนิดนี้แล้วมันโคจรด้วยวิถีแบบไฮเปอร์โบลาอยู่ตลอดและไม่ได้เคลื่อนไปใกล้กับดาวเคราะห์ยักษ์เพื่อเพิ่มความเร่งเลย จึงมีสมมุติฐานว่ามันน่าจะมาจากนอกระบบสุริยะและกลับออกไปนอกระบบสุริยะ
 
จากการสังเกตการณ์ของนักดาราศาสตร์พบว่าวัตถุดังกล่าวนี้เข้าสู่ระบบสุริยะเฉียดผ่านวงโคจรของดาวพุธ จากนั้นจึงเคลื่อนไปทางดวงอาทิตย์ในคนละทิศจากตอนที่เข้ามาก่อนจะย้อนกลับออกไปจากวงโคจรของดาวเคราะห์แล้วมุ่งกลับไปยังหมู่ดาวฤกษ์
 
มีการค้นพบวัตถุลึกลับนี้ครั้งแรกในช่วงต้นเดือน ต.ค. ที่ผ่านมาจากกล้องโทรทรรศน์ที่ฮาวาย หนึ่งในผู้ที่ค้นพบคือ อลัน ฟิตซ์ซิมมอนส์ จากมหาวิทยาลัยควีนส์ยูนิเวอร์ซิตีเบลฟาสต์ ฟิตซ์ซิมมอนส์กล่าวว่าเขาค่อนข้างแน่ใจในเรื่องที่วัตถุนี้น่าจะเป็นวัตถุจากนอกระบบสุริยะชิ้นแรกแต่ต้องมีการร่วมมือกับทีมในการคำนวณวิถีการเคลื่อนที่และสารเคมีประกอบวัตถุนี้และขนาดของมัน
 
ในการตรวจสอบช่วงแรก ๆ มีการประเมินว่าสิ่งนี้คล้ายกับวัตถุที่อยู่ตามแถบไคเปอร์ซึ่งเป็นพื้นที่เลยห่างจากดาวเนปจูนออกไป มีวัตถุต่าง ๆ ลอยอยู่จำนวนมาก บลูมเมอร์บอกว่าในระบบสุริยะของเราเองก็มีพื้นที่ห่างจากแถบไคเปอร์ออกไปชื่อเมฆออร์ตที่เต็มไปด้วยน้ำแข็งบางครั้งเกิดการรบกวนจนเมฆออร์ตส่งวัตถุออกไปนอกระบบสุริยะ จึงเป็นไปได้ที่ระบบดาวอื่น ๆ จากภายนอกอาจจะส่งวัตถุเข้ามาสู่ระบบสุริยะได้เช่นกัน
 
ฟิตส์ซิมมอนส์เสนอความเป็นได้อีกอย่างหนึ่งว่าวัตถุนี้อาจจะถูกส่งออกมาจากระบบดาวที่กำลังมีการก่อตัวของดาวเคราะห์กลายเป็นระบบสุริยะระบบใหม่ มีดาวฤกษ์อยู่จำนวนมากและดาวฤกษ์ส่วนใหญ่ในแกแล็กซีที่พวกเราอยู่ก็มีดาวเคราะห์โคจรรอบ กระบวนการก่อตัวของดาวเคราะห์นั้นเป็นกระบวนการที่ยุ่งเหยิงมากจากการศึกษาระบบสุริยะของเรา หรือวัตถุนี้ก็อาจจะเดินทางผ่านดวงดาวอื่น ๆ หลายพันล้านปีแสงจนกระทั่งมาปรากฏให้พวกเราเห็นก็ได้
 
อย่างไรก็ตามสิ่งที่ทำให้นักดาราศาสตร์มองว่าวัตถุอวกาศนี้ต่างจากวัตถุที่แถบไคเปอร์คือการที่มันเป็นคล้าย ๆ จุดแสงที่ระบุไม่ได้ว่าคืออะไรมากกว่าจะเป็นน้ำแข็ง รวมถึงเมื่อมันโคจรใกล้ดวงอาทิตย์มันก็ไม่ได้ทำให้ชั้นบรรยากาศหนาแน่นขึ้นด้วยซึ่งถ้าหากว่ามันเป็นน้ำแข็งควรจะเกิดปรากฏการณ์ดังกล่าว ทำให้ฟิตส์ซิมมอนส์ระบุว่ามันน่าจะเป็นดาวเคราะห์น้อยที่เต็มไปด้วยหินมากกว่าจะเป็นดาวหางน้ำแข็ง
 
 
เรียบเรียงจาก
 
Mysterious object seen speeding past sun could be 'visitor from another star system', The Guardian, 27-10-2017
ติดตามความเคลื่อนไหวของ ประชาไท ทางอีเมล คลิกอ่าน http://goo.gl/8xIcV หรือเฟซบุ๊ค http://fb.me/Prachatai

‘ผู้หญิง’ ติดโผ 100 ‘นักกีฬา’ ทำรายได้สูงสุดปี 2560 แค่คนเดียว

Posted: 28 Oct 2017 08:15 PM PDT

ช่องว่างรายได้ชาย-หญิงในวงการกีฬายังห่างกันลิบลับ 100 อันดับนักกีฬาที่ทำรายได้สูงสุดปี 2560 มีนักเทนนิสหญิงติดอันดับคนเดียว แต่ก็มีความก้าวหน้าอยู่บ้างเมื่อสมาคมฟุตบอลนอร์เวย์จะให้เงินอัดฉีดทีมชาติทั้งชายและหญิงเท่ากัน พบภาพผู้หญิงใน 'วงการกีฬาไทย' ขายความน่ารัก-เซ็กซี่ หรือในบทบาทที่คอย 'แคร์' หนุ่มนักกีฬาของตน

'เซเรนา วิลเลียม' คือนักกีฬาหญิงคนเดียวที่สามารถยืนหยัดอยู่ในลิสต์นักกีฬาที่ทำรายได้สูงสุดของปี 2560 ตามการจัดอันดับของฟอร์บส์ ที่มาภาพประกอบ: facebook.com/SerenaWilliams

29 ต.ค. 2560 จากการ จัดอันดับนักกีฬาที่มีรายได้สูงสุดปี 2560 (The World's Highest-Paid Athletes 2017 RANKING) ของ forbes.com พบว่านักกีฬาชายมีรายได้สูงสุดในการจัดอันดับนี้ถึง 99 คน และมีผู้หญิงติดอันดับแค่คนเดียวเท่านั้น

ซึ่งหนึ่งเดียวคนนั้นก็คือนักเทนนิสอย่าง 'เซเรนา วิลเลียม' ที่ติดอยู่ในอันดับที่ 51 เธอทำรายได้รวม 27 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ค่าเหนื่อย-เงินรางวัลการแข่งขัน 8 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และจากรายได้อื่น ๆ 19 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ) ในการจัดอันดับในครั้งก่อน (2016 RANKING) วิลเลียมอยู่อันดับที่ 40 รายได้รวมต่อปีที่ 28.9 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ นอกจากนี้ในการจัดอันดับครั้งก่อนยังมีมาเรีย ชาราโปวา อยู่ในอันดับที่ 88 มีรายได้รวมต่อปีที่ 21.9 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ 

ส่วนอันดับ 1 ของนักกีฬาที่ทำเงินได้มากที่สุดในปี 2560 นี้ยังคงเป็นคริสเตียโน โรนัลโด ที่ทำเงินได้ถึง 93 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และนักเทนนิสที่ทำเงินได้มากที่สุดคือโรเจอร์ เฟเดเรอร์ อยู่ในอันดับ 4 ของการจัดอันดับ โดยทำเงินได้ 64 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

กีฬาเทนนิสที่ถือว่าให้ความสำคัญเรื่องเงินรางวัลที่เท่าเทียมทางเพศ การจัดอันดับล่าสุดของฟอร์บส์ก็พบว่านักกีฬาที่ทำเงินสูงสุด 100 อันดับแรกมีนักเทนนิสแค่ 6 คน เป็นชาย 5 คน หญิง 1 คน ใกล้เคียงกับสถานการณ์ของกีฬาแบดมินตันที่ 5 อันดับนักแบดมินตันที่ทำเงินได้สูงสุดเป็นชาย 4 คน และหญิง 1 คน (แต่ไม่มีนักกีฬาแบดมินตันติดอันดับของฟอร์บส์) แต่เมื่อมองในภาพรวมแล้วพบว่าอุตสาหกรรมกีฬาอาชีพส่วนใหญ่ค่าจ้าง เงินรางวัล และค่าตอบแทนของนักกีฬาหญิงยังไม่สามารถเทียบกับผู้ชายได้ (อ่านเพิ่มเติม: ช่องว่างค่าตอบแทนในเกมกีฬา 'หญิง vs ชาย')

ค่าแรงและรายได้ ที่ต่างกัน

เนื่องจากมูลค่าทางการตลาดรวมของการแข่งขันบาสเกตบอลหญิง (WNBA) ในสหรัฐฯ มีน้อยกว่าการแข่งขันของผู้ชาย (NBA) ส่งผลให้ช่องว่างค่าแรงของผู้หญิงและผู้ชายในกีฬานี้มีสูงด้วยเช่นกัน ที่มาภาพประกอบ: wikimedia.org

โดยเฉลี่ยแล้วจากการทำงานทุกอาชีพในสหรัฐฯ พบว่าผู้หญิงจะมีรายได้เพียงร้อยละ 77 เมื่อเทียบกับผู้ชาย แต่สำหรับนักกีฬาอาชีพนั้นสัดส่วนจะห่างกว่านี้มาก จากการรวบรวมข้อมูลของภาควิชาการจัดการกีฬา มหาวิทยาลัยอะเดลฟี (Adelphi University) พบตัวอย่างเช่น นักบาสเกตบอลหญิงจะมีรายได้เพียงร้อยละ 1.6 เมื่อเปรียบเทียบกับที่นักบาสเกตบอลชาย, นักกอล์ฟหญิงมีรายได้เพียงร้อยละ 16.6 เมื่อเปรียบเทียบกับที่นักกอล์ฟชาย, นักเทนนิสหญิงมีรายได้เพียงร้อยละ 54 เมื่อเทียบกับนักเทนนิสชาย และนักฟุตบอลหญิงมีรายได้เพียงร้อยละ 14.4 เมื่อเทียบกับนักฟุตบอลชาย เป็นต้น

เมื่อพิจารณาจากการแข่งขันกีฬาหลาย ๆ ชนิดก็จะเห็นช่องว่างทางรายได้ของชายและหญิงชัดเจน ทั้งนี้เป็นเพราะกีฬาในหลายชนิดที่การแข่งขันประเภทชายได้รับความนิยมมากว่าของผู้หญิง ทำให้เงินสนับสนุนจากหลากหลายทางมุ่งสนับสนุนไปที่การแข่งขันประเภทชายมากกว่า และต้นสังกัดทีมกีฬาต่าง ๆ สามารถจ่ายค่าแรงนักกีฬาชายได้มากกว่านักกีฬาหญิง

ตามที่ sports.vice.com เคยรายงานไว้เมื่อปี 2558 ว่านักบาสเกตบอลในลีก NBA ได้รับค่าจ้างร่วมกันเป็นร้อยละ 50 ของมูลค่าทางการตลาดรวมของลีก แต่ในลีกบาสเกตบอลของผู้หญิงอย่าง WNBA กลับได้ค่าจ้างรวมกันคิดเป็นเพียงร้อยละ 33 ของมูลค่ารวมของลีก ซึ่งลีก WNBA นั้นมีมูลค่าต่ำว่าลีก NBA อยู่หลายเท่าตัว (พิจารณาแค่จากมูลค่าการถ่ายทอดสดพบว่า NBA มีถึง 2.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ส่วน WNBA มีแค่ 12 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งไม่ถึงร้อยละ 0.5 ของมูลค่าการถ่ายทอดสด NBA ) 'ไดอานา เทาราซี' นักบาสเกตบอลหญิงที่ได้ค่าจ้างมากที่สุดใน WNBA อยู่ที่ 107,500 ดอลลาร์สหรัฐฯ ส่วนนักกีฬาบาสเกตบอลชายที่ได้รับค่าจ้างมากที่สุดใน NBA คือ 'โคบี ไบรอัน' ได้รับที่ 23.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยค่าจ้างที่เทาราซีได้รับนั้นสามารถจ้างนักบาสเกตบอลชายในลีก NBA ที่ได้รับค่าจ้างต่ำที่สุดได้เพียง 198 นาทีเท่านั้น ทั้งนี้รายได้เฉลี่ยของนักบาสเกตบอลชายใน NBA อยู่ที่ 4.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อปี ส่วนนักบาสเกตบอลหญิงใน WNBA อยู่ที่เพียง 72,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อปี

กีฬากอล์ฟเป็นอีกหนึ่งกีฬาที่ความต่างด้านเงินรางวัลในการแข่งขันของชายและหญิงเหลื่อมล้ำกันอยู่สูงมาก โดยการแข่งขัน PGA ของนักกอล์ฟชายมีเงินรางวัลรวมสูงถึง 340 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในปี 2557 ซึ่งสูงกว่าการแข่งขัน LPGA ของผู้หญิงถึง 5 เท่า โดยเงินรางวัลรวมของ LPGA ปี 2558 มีแค่ 61.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ทั้งนี้นักกอล์ฟชายใน PGA มีรายได้เฉลี่ยอยู่ที่ 973,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ ส่วนนักกอล์ฟหญิงใน LPGA มีรายได้เฉลี่ยอยู่ที่ 162,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ

กีฬาการต่อสู้ที่ได้รับความนิยมอย่าง UFC นักกีฬาฝ่ายหญิงมีรายได้เฉลี่ยประมาณ 25,487 ดอลลาร์สหรัฐฯ ส่วนนักกีฬาชายอยู่ที่ 61,691 ดอลลาร์สหรัฐฯ, กีฬาคริกเกต ในการแข่งขันชิงแชมป์โลกให้เงินรางวัลแก่ทีมแชมป์โลกชายที่ 3.975 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ส่วนแชมป์โลกทีมหญิงได้เพียง 75,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ

ส่วนกีฬาที่สหรัฐฯ เป็นแชมป์โลกอย่าง 'ฟุตบอล(หญิง)' ก็มีช่องว่างทางรายได้สูงเช่นกัน นักฟุตบอลหญิงทีมชาติสหรัฐฯ ถึงกับเคยออกมารณรงค์ 'เล่นเท่ากัน ค่าจ้างเท่ากัน' (Equal Play, Equal Pay) เพราะว่าทีมฟุตบอลหญิงของสหรัฐฯ ได้รับค่าตอบแทนเพียง 2 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ จากการที่พวกเธอคว้าแชมป์ฟุตบอลโลกเมื่อปี 2558 (พวกเธอคือทีมที่เก่งที่สุดในโลกเมื่อคว้าแชมป์โลกมาแล้ว 3 ครั้ง ในปี 2534, 2542, 2558) ส่วนทีมชายที่ตกรอบ 16 ทีมสุดท้ายเมื่อปี 2557 กลับได้ค่าตอบแทนรวมสูงถึง 9 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (หนำซ้ำฟุตบอลโลกปี 2561 ที่จะถึงนี้ทีมชายก็ยังไม่ผ่านรอบคัดเลือก) (อ่านเพิ่มเติม: ฟุตบอลหญิงทีมชาติสหรัฐฯ รณรงค์จ่ายค่าจ้างเท่าเทียมกับทีมฟุตบอลชาย)

'ภาพของผู้หญิง' ใน 'สื่อกีฬา'

'มาดามเดียร์' วทันยา วงษ์โอภาสี อดีตผู้จัดการทีมฟุตบอลทีมชาติไทยรุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี (ทีมชาย) ผู้สร้างความฮือฮาให้กับวงการฟุตบอลเมื่อไม่นานมานี้  ที่มาภาพ: facebook.com/dear.watanya.wongopasi

ดร.ทิฆัมพร เอี่ยมเรไร ภาควิชานิเทศศาสตร์, มหาวิทยาลัยนเรศวร เคยเขียนบทความเกี่ยวกับภาพของผู้หญิงบนสื่อกีฬา โดยระบุเอาไว้ว่าแม้ภาพของผู้หญิงในโลกของการกีฬาโดยเฉพาะในประเทศไทยที่มีแนวโน้มว่า น่าจะดีขึ้นจากผลงานสร้างชื่อเสียงในหลายระดับ และก็มีผู้หญิงในหลากหลายอาชีพเข้ามาเกี่ยวข้องกับกีฬาทั้งในระดับบริหาร เช่น 'มาดามแป้ง' หรือ 'มาดามเดียร์' หรือในระดับผู้เล่นที่มีความสำเร็จมากมายในระดับโลก และระดับภูมิภาค

แต่โดยรวมแล้วภาพที่ปรากฏในสื่อกีฬากลับยังดูเหมือนว่าไม่ได้เปลี่ยนไปเลย พบว่าการจัดวาง 'ภาพผู้หญิง' ที่ปรากฏบนพื้นที่สื่อกีฬายังถูกจัดวางให้มีฐานะ 'เป็นรอง' ผู้ชายในเกือบทุก ๆ เรื่อง จากตัวอย่างการศึกษาในโลกตะวันตกนิตยสารกีฬาชื่อดังของโลกอย่าง Sports Illustrated และ ESPN รวมไปถึงเวลาออกอากาศ (airtime) ของรายการกีฬาระดับโลกทั้งในอเมริกา และในยุโรป เช่น รายการ Sportscenter พบว่ากว่า ร้อยละ 90 เป็นเรื่องของนักกีฬาชาย แต่จัดเวลาให้ไม่ถึงร้อยละ 10 ในการนำเสนอเกี่ยวกับนักกีฬาหญิง หนำซ้ำการเสนอภาพนักกีฬาหญิงในแบบที่ไม่ใช่คุณลักษณะของการเป็นนักกีฬา เช่น นักกีฬาสาวที่ได้ขึ้นปกนิตยสารกีฬามักจะถูกกำหนดให้โพสท่า (poses) สวยงามแลดูเซ็กซี่ นำไปรีทัช ถูกจับแต่งเติม หรือหนักกว่านั้นคือให้สวมใส่เสื้อผ้า และเลือกสถานที่ถ่ายทำที่ไม่เกี่ยวข้องกับกีฬาเลย ที่สำคัญหลายภาพที่ปรากฏ สาวนักกีฬาถูกนำเสนอในแบบที่ดู 'โป๊นิด ๆ' (soft pornographic) เพื่อโชว์บางอย่างในเรือนร่าง

เช่นเดียวกับกรณีของไทยในปัจจุบัน ที่สื่อกีฬาของไทยมักนำเสนอภาพผู้หญิงไทยในแวดวงกีฬาวนเวียนอยู่กับประเด็นความสวยความงาม ความน่ารัก ความเซ็กซี่ หรือในบทบาทของการเป็นแฟน เป็นเมีย หรือเป็นแม่ที่คอย 'แคร์' หนุ่มนักกีฬาของตน แม้แต่ภาพนักมวยไทยหญิงบางคนที่มีชื่อเสียงก็ได้รับความสนใจเพียงเพราะเธอมีหน้าตาเรือนร่างที่สะสวยตาม 'ค่านิยมหญิงสาว' ในกระแสหลักของสังคม

 

ทีมฟุตบอลนอร์เวย์ ชาย-หญิง อีกหนึ่งความพยายามให้ค่าตอบแทนเท่ากัน

จากการรายงานของ independent.co.uk เมื่อต้นเดือน ต.ค. 2560 ที่ผ่านมาระบุว่าสมาคมฟุตบอลนอร์เวย์ได้ประกาศว่าในปี 2018 สมาคมจะให้เงินสนับสนุนแก่ทีมฟุตบอลทีมชาติทั้งหญิงและชายเท่ากัน หลังจากที่ทีมฟุตบอลชายตกลงจะตัดเงินสนับสนุนของตนเองออกส่วนหนึ่งเพื่อนำไปเพิ่มให้ทีมหญิงเพื่อให้ทั้งสองทีมได้รับเงินสนับสนุนที่เท่าเทียมกัน โดยทั้งสองทีมจะได้รับทีมละ 6 ล้านโครเนอร์ (ประมาณ 5,700,000 ยูโร) ต่างจากประกาศการเงินฉบับเก่าที่ทีมชายได้รับ 6.55 ล้านอยู่ที่ ส่วนทีมหญิงอยู่ที่เพียง 3.1 ล้านโครเนอร์ ซึ่งหากมองผลงานในการแข่งขันระดับนานาชาติเป็นทีมหญิงที่ทำผลงานได้ดีกว่าทีมชายในหลาย ๆ ครั้ง โดยทีมฟุตบอลหญิงนอร์เวย์เคยเป็นแชมป์โลกเมื่อปี 2538 และปัจจุบันทีมฟุตบอลหญิงของนอร์เวย์รั้งอันดับที่ 14 ตามการจัดอันดับของ FIFA ส่วนทีมชายอยู่ในอันดับที่  58 (ข้อมูล ณ 28 ต.ค. 2560)

สมาคมนักกีฬานอร์เวย์ (Norske Idrettsutøveres Sentralorganisasjon หรือ NISO) ระบุว่านอร์เวย์กำลังเป็นผู้บุกเบิกเรื่องค่าตอบแทนที่เท่าเทียมระหว่างชายหญิงจากเกมกีฬาในภูมิภาคนี้อีกด้วย ส่วนกัปตันทีมชาติฟุตบอลชายอย่าง สเตฟาน โยฮันเซน ระบุว่านี่คือสิ่งที่ควรจะเป็น พวกเราต้องผลักดันให้ฟุตบอลของนอร์เวย์ก้าวไปข้างหน้า และผู้หญิงก็มีความสำคัญเท่ากันกับผู้ชาย 

 

ที่มาข้อมูล

A LOOK AT MALE AND FEMALE PROFESSIONAL ATHLETE SALARIES (sportsmanagement.adelphi.edu, เข้าถึงข้อมูลเมื่อ 28/10/2017)
Basketball's Gender Wage Gap Is Even Worse Than You Think (sports. vice.com, 12/8/2015)
Norway men's national team takes wage cut so players paid same as women's side (independent.co.uk, 7/10/2017)
The World's Highest-Paid Athletes 2017 RANKING (forbes.com, เข้าถึงข้อมูลเมื่อ 28/10/2017)
Which Sports Have The Largest And Smallest Pay Gaps? (Andrew Brennan, forbes.com, 5/5/2016)
คอลัมน์: ขอคิดด้วยคน: 'ภาพ'สตรีบนพื้นที่สื่อกีฬา (ดร.ทิฆัมพร เอี่ยมเรไร, หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ฉบับวันที่ 21/9/2560)

 

ติดตามความเคลื่อนไหวของ ประชาไท ทางอีเมล คลิกอ่าน http://goo.gl/8xIcV หรือเฟซบุ๊ค http://fb.me/Prachatai

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น