โพสต์แนะนำ

ประชาไท Prachatai.com

ประชาไท Prachatai.com พท.-ปชป จัดประชุมแก้ไขข้อบังคับพรรคฯ ส่วนรัฐบาลคสช. เตรียมฉีดเงินตำบลละ 5 แสน คพศ. ขอ ตร.เรียกตั...

ซิตี้แบงก์ ให้คุณสมัครบัตรเครดิต citibank ออนไลน์ ด้วยวิธีสมัครบัตรเครดิตง่ายๆ รู้ผลอนุมัตทันใจภายใน 5 วัน อยากทำบัตรเครดิตซิตี้แบงก์ สมัครออนไลน์ได้ทันทีที่นี่.

วันอาทิตย์ที่ 3 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

ประชาไท | Prachatai3.info

ประชาไท | Prachatai3.info

Link to ประชาไท หนังสือพิมพ์ออนไลน์

อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ

Posted: 03 Jul 2011 12:48 PM PDT

แม้ว่าพรรคเพื่อไทยจะมี ส.ส.มากที่สุดในสภา จะถึงกึ่งหนึ่งหรือไม่ ก็ต้องดูผลอย่างเป็นทางการ แต่คะแนนเสียงที่ได้รับในระบบบัญชีรายชื่อ ไม่ถึงกึ่งหนึ่ง ผมถือว่าพี่น้องประชาชนไม่ได้ให้ฉันทานุมัติในการที่จะไปล้างความผิด นิรโทษกรรมให้กับใคร และพรรคประชาธิปัตย์ก็ยังจะยืนยันในการคัดค้านเรื่องนี้ในฐานะฝ่ายค้านต่อไป

แถลงยอมรับผลการเลือกตั้ง 3 ก.ค. 2554 http://bit.ly/m1VyAX

สมัชชาคนจน แถลงข้อเสนอต่อรัฐบาลใหม่ และสาธารณชน

Posted: 03 Jul 2011 11:58 AM PDT

 

เมื่อวันที่ 1 ก.ค.54 สมัชชาคนจนได้แถลงข้อเสนอเชิงหลักการสมัชชาคนจนต่อสาธารณชน แนะนำรัฐบาลใหม่ในการแก้ปัญหาคนจน ด้วยการสร้าง “ประชาธิปไตยที่กินได้ การเมืองที่เห็นหัวคนจน” โดยมีรายละเอียดดังนี้

 

ข้อเสนอเชิงหลักการสมัชชาคนจนต่อสาธารณชน

ปัญหาของสมัชชาคนจนที่ยังไม่ได้รับการแก้ไขมีที่มาจากปัญหาการถูกแย่งชิงฐานทรัพยากร ดิน น้ำ ป่า ปัญหาการละเมิดสิทธิมนุษยชน จากโครงการการพัฒนาและการดำเนินนโยบายของรัฐ ปัญหาความยากจนที่พวกเราประสบเป็นความยากจนที่มีรากฐานมาจากการจนอำนาจ จนโอกาส ไม่มีช่องทาง/กลไกในการเข้าไปมีส่วนร่วมในการตัดสินใจของรัฐ พวกเรายากจนเพราะ “ไม่มีสิทธิในการกำหนดอนาคตของตนเอง”

ดังนั้น นโยบายการเมืองเพื่อแก้ปัญหาของคนจน จำเป็นต้องจัดความสัมพันธ์ทางอำนาจกับรัฐและคนกลุ่มอื่นในสังคมใหม่ ด้วยการสร้าง “ประชาธิปไตยที่กินได้ การเมืองที่เห็นหัวคนจน” โดยจะต้องสร้างอำนาจให้คนจนสามารถมีสิทธิและมีส่วนร่วมในการใช้อำนาจรัฐร่วมกับคนส่วนอื่นๆ ของสังคมได้อย่างเสมอหน้า

สำหรับการเลือกตั้งที่กำลังจะเกิดขึ้นเร็วๆ นี้ พรรคการเมืองไม่ว่าจะเป็นพรรคใดก็ตามที่ได้จัดตั้งรัฐบาล เมื่อได้เข้ามาทำหน้าที่รัฐบาลแล้วต้องมีนโยบายและปฏิบัติการที่ชัดเจนเพื่อนำไปสู่การปฏิรูปโครงสร้างทางเศรษฐกิจ การจัดการทรัพยากรธรรมชาติ ให้คนจนที่เป็นคนส่วนใหญ่ของประเทศได้เป็นเจ้าของปัจจัยการผลิต กระจายการถือครองที่ดิน ที่ดินที่กระจุกในมือเอกชนต้องกระจายมาสู่คนยากจน ต้องออกกฎหมายเพื่อจัดสวัสดิการสังคมให้คนจนได้รับการคุ้มครองและดูแลสวัสดิการ

สิทธิคนจน 5 ประการ คือ

1. สิทธิในฐานทรัพยากร
ชุมชนท้องถิ่นจะต้องมีสิทธิเหนือฐานทรัพยากรธรรมชาติ ต้องสามารถเข้าถึง ควบคุม และจัดการทรัพยากรธรรมชาติ ดิน น้ำ ป่า อากาศ ซึ่งอยู่บนฐานของภูมิปัญญาและวัฒนธรรมของชุมชน อันเป็นรากฐานสำคัญของการดำรงชีวิตและเป็นหลักประกันต่อคุณภาพชีวิตทั้งในปัจจุบันและในอนาคต บทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ การดำเนินนโยบายและการตรากฎหมายใดๆ ของรัฐ ที่เกี่ยวกับทรัพยากรต้องเป็นการรับรองสิทธิของชุมชนในการจัดการทรัพยากรไม่ใช่เป็นการจำกัดสิทธิอย่างที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน นโยบายการพัฒนาใดๆ ต้องเคารพสิทธิดังกล่าว และรัฐต้องดำเนินการจัดสรรทรัพยากรที่เป็นธรรมเพื่อรับประกันการเข้าถึงทรัพยากรของคนจน เช่น การปฏิรูปที่ดิน

2. สิทธิการใช้ชีวิตบนฐานของวิถีวัฒนธรรมของชุมชน โดยยึดชุมชนเป็นศูนย์กลาง

วิถีวัฒนธรรมเป็นกติกาของการใช้วิถีชีวิตในท้องถิ่นที่สอดคล้องกับบริบทและเงื่อนไขของชุมชน ที่นำมาสู่การอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุขของชุมชน และสอดคล้องกับสภาพของทรัพยากรธรรมชาติ วิถีวัฒนธรรมมีความหลายหลากตามสภาพพื้นที่และมีลักษณะเฉพาะของแต่ละชุมชน รัฐต้องสนับสนุนให้ชุมชน เกิดการฟื้นฟูวิถีวัฒนธรรมชุมชนในการจัดการชุมชนของตนเอง เพื่อคงไว้ซึ่งความหลากหลายของวิถีวัฒนธรรมชุมชน

3. สิทธิทางการเมืองที่เป็นจริง
สมัชชาคนจนเห็นว่า การเลือกตั้งมีความจำเป็น แต่การเมืองต้องไม่จำกัดอยู่เพียงการเลือกตั้งและการแสวงอำนาจของชนชั้นนำในสังคม คนจนจะต้องมีสิทธิในการกำหนดอนาคตตนเอง รวมถึงเป็นผู้กำหนดแนวนโยบายรัฐ โดยต้องไม่ถูกจำกัดบทบาทอยู่เพียงการเป็นเพียงผู้ร่วมรับรู้นโยบายของรัฐ อย่างไรก็ตาม เราไม่เห็นด้วยกับกระบวนการได้มาซึ่งอำนาจทางการเมืองที่ได้มาอย่างไม่ชอบธรรมนอกวิถีทางประชาธิปไตย

เพื่อให้คนจนสามารถกำหนดอนาคตตนเองได้จริง รัฐจะต้องรับรอง สิทธิทางการเมืองใด ๆ เช่น สิทธิในการเข้าถึงข้อมูลข่าวสาร สิทธิในการชุมนุม สิทธิในการแสดงความคิดเห็นของคนจน และต้องเสริมความเข้มแข็งของอำนาจประชาชนในการต่อรองเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของตนเอง รวมถึงรัฐต้องเปิดโอกาสให้คนจนสามารถรวมตัวทางการเมืองในรูปแบบต่าง ๆ รวมถึงการจัดตั้งองค์กรในรูปแบบต่าง ๆ ทั้งที่มีกฎหมายรองรับ หรือไม่มีกฎหมายรองรับก็ตาม

การเปิดโอกาสให้คนจนมีสิทธิทางการเมืองที่เป็นจริง จะเป็นจุดเริ่มต้นของการแก้ปัญหาความยากจนดังคำกล่าวที่ว่า ไม่มีความยากจนในสังคมที่เป็นธรรม

ในประเด็นนี้ รัฐต้องแก้กฎหมายที่ล้าหลังและขัดต่อบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ เช่น พรบ.ป่าไม้ พรบ.ป่าสงวน พรบ.อุทยานแห่งชาติ พรบ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พรบ.การชุมนุมสาธารณะ เป็นต้น

4. สิทธิในสวัสดิการสังคม

มนุษย์ทุกคนมีสิทธิที่จะได้รับการสวัสดิการสังคมที่ประกันสิทธิขั้นพื้นฐานที่ทำให้มนุษย์สามารถดำรงชีวิตได้อย่างมีศักดิ์ศรี ตั้งแต่เกิดจนตาย ภายใต้พื้นฐานของการเฉลี่ยทุกข์เฉลี่ยสุขในสังคม รัฐต้องมีการเก็บภาษีในอัตราก้าวหน้า และภาษีมรดก เพื่อเป็นฐานในการจัดสวัสดิการให้คนในสังคมสามารถได้รับบริการพื้นฐานจากรัฐอย่างเสมอหน้า ทั้งในด้านการศึกษา การบริการทางสาธารณสุข สาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานและการรับประกันคุณภาพชีวิตต่างๆ เช่น การปลอดจากมลพิษ รัฐจะต้องจัดหาสวัสดิการสังคมเหล่านี้ให้แก่ประชาชนทุกคนโดยไม่มีการเลือกปฏิบัติใด ๆ และต้องไม่ดำเนินนโยบายใด ๆ ที่จะเป็นการกีดกันไม่ให้ประชาชนสามารถเข้าถึงการบริการขั้นพื้นฐานได้จริง เช่น การทำให้บริการขั้นพื้นฐานกลายเป็นสินค้า รวมทั้งต้องคุ้มครองการละเมิดสิทธิในการบริการขั้นพื้นฐานเหล่านี้ด้วย

นอกจากสวัสดิการในภาพรวมแล้ว การคุ้มครองสิทธิของคนจนกลุ่มต่างๆ เช่น การคุ้มครองสิทธิเกษตรกร การคุ้มครองสิทธิของผู้ใช้แรงงานโดยให้รัฐออกกฎหมายจัดตั้งสถาบันส่งเสริมความปลอดภัย อาชีวอนามัยและสภาพแวดล้อมในการทำงาน การคุ้มครองสิทธิของคนไร้บ้าน เป็นสิ่งที่ต้องดำเนินการควบคู่กัน กับการชดเชยที่รัฐละเลยต่อการขูดรีดในสังคมและผลักให้คนส่วนใหญ่ของประเทศกลายเป็นคนจน ดังที่ปรากฏอยู่ในปัจจุบัน

5. สิทธิของผู้ตกเป็นเหยื่อ
ความยากจน ที่เกิดจากการดำเนินนโยบายของรัฐที่มุ่งเน้นการเติบโตทางเศรษฐกิจ และโครงการพัฒนาที่ตอบสนองการลงทุน เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดปัญหาความยากจน และมีแนวโน้มว่าจะทวีความ

รุนแรงเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ตราบใดที่รัฐยังคงผลักดันให้เกิดเขตการค้าเสรี ตามแนวทางเศรษฐกิจทุนนิยม เหยื่อของการพัฒนาก็จะเพิ่มปริมาณขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้สิทธิของผู้ตกเป็นเหยื่อมีความสำคัญเพิ่มขึ้นในการสร้างประชาธิปไตยที่กินได้

หลักการสำคัญก็คือ รัฐต้องเปิดโอกาสให้ผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการดำเนินนโยบายและโครงการพัฒนาใด ๆ เป็นผู้มีสิทธิตัดสินใจในการกำหนดและดำเนินนโยบายเหล่านั้น โดยการตัดสินใจดังกล่าวจะต้องได้รับข้อมูลที่เป็นจริงอย่างครบถ้วนรอบด้าน ในกรณีที่มีผู้ได้รับผลกระทบจากนโยบายของรัฐ ผู้ที่ได้รับผลกระทบจะต้องมีส่วนร่วมในการกำหนดการฟื้นฟูวิถีชีวิต เช่น ร่วมตัดสินใจเกี่ยวกับพื้นที่รองรับในกรณีที่มีการโยกย้ายถิ่นฐาน ร่วมกำหนดวิธีการชดเชยความเสียหายและการฟื้นฟูชีวิต การดำเนินนโยบายใดๆ ที่ก่อผลกระทบจะต้องมีมาตรการการฟื้นฟูผู้ได้รับผลกระทบที่เป็นธรรม และสามารถทำให้ผู้ได้รับผลกระทบสามารถดำเนินชีวิตอย่างมีศักดิ์ศรีต่อไปได้

สิ่งที่กล่าวแล้วข้างต้น สมัชชาคนจนขอเรียกร้องให้ผู้ได้รับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนต่อไปจะต้องบรรจุไว้ในการแถลงนโยบายของรัฐบาลและนำสู่การปฏิบัติอย่างแท้จริง

นอกจากนี้ จากการที่ในรัฐบาลที่ผ่านมาได้มีการประชุมเจรจาเพื่อแก้ไขปัญหาของสมัชชาคนจน รวมทั้งองค์กรภาคประชาชนอื่น ๆ สมัชชาคนจนขอเสนอว่ารัฐบาลชุดต่อจากนี้จะต้องสานต่อการแก้ไขปัญหาของคนจนทั้งในสมัชชาคนจน และองค์กรภาคประชาชนต่าง ๆ ต่อไป เพื่อให้เกิดการแก้ไขปัญหา

สุดท้ายเรายืนยันว่า ประชาธิปไตยจะสมบูรณ์ ประชาชนต้องกำหนดอนาคตของตนเอง

 

คนจนทั้งผองต้องสามัคคีกัน

สมัครรับข่าวความเคลื่อนไหวจากประชาไท ผ่านทางอีเมล ดูรายละเอียดที่ http://groups.google.com/group/prachatai-newspaper

‘นิว แมนดาลา’ ประเมินสถานการณ์หลังเลือกตั้ง “นายกฯ ยิ่งลักษณ์”

Posted: 03 Jul 2011 11:30 AM PDT

 Andrew Walker และ Nicholas Farrelly จาก ‘นิว แมนดาลา’ เขียนแสดงความคิดเห็นต่อการเมืองไทยหลังจากที่พรรคเพื่อไทยได้รับคะแนนเสียงข้างมากในการเลือกตั้งครั้งล่าสุด ซึ่งแม้จะแสดงให้เห็นว่าพลังสนับสนุน 'ทักษิณ' ยังคงล้นหลาม แต่หากมีการต่อต้านก็จะมีแต่ความรุนแรงหนักข้อขึ้น การเลือกตั้งนี้เป็นเสมือนโอกาสการฟื้นศรัทธาต่อระบอบการเลือกตั้งไทย และหากโอกาสนี้ถูกทำลายไปก็จะกลายเป็นโศกนาฏกรรมของประเทศ

ทักษิณ ชินวัตร และความเคลื่อนไหวทางการเมือง,สังคม, เศรษฐกิจ ที่ตามมาในหลายๆ ด้าน จนทำให้เขาได้รับความไว้เนื้อเชื่อใจมาอย่างยาวนาน ได้พิสูจน์ให้เห็นว่า เรื่องชนะการเลือกตั้งนั้นเขาทำได้ดีที่สุด ตอนนี้น้องสาวของเขา ยิ่งลักษณ์ กำลังจะได้เป็นนายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของประเทศไทย

ผลการเลือกตั้งในคืนนี้แสดงให้เห็นถึงการกลับมาของพลังทางการเมืองหลังจากที่ถูกไสส่งออกไปด้วยปากกระบอกปืนในคืนวันที่ 19 ก.ย. 2549 ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาก็เต็มไปด้วยการแทรกแซงโดยกลุ่มรอยัลลิสท์, กองทัพ และกระบวนการยุติธรรม หลังจากที่หัวหอกพรรคร้อยกว่าคนถูกแบนทางการเมืองไปแล้ว แต่พรรคเพื่อไทยก็กลับมาเอาชนะศัตรูที่น่าเกรงขามอย่างพรรคประชาธิปัตย์ได้อย่างหนักแน่น

การสนับสนุนที่ไม่เคยลดน้อยถอยลงของ 'เครื่องจักรทางการเมืองของทักษิณ' (Thaksin’s political machine) ส่งสัญญาณที่เปี่ยมด้วยกำลังไปสู่ทั้งในและนอกประเทศว่า ความพยายามที่จะบ่อนทำลายเขานั้นไม่ประสบผลสำเร็จ ชวนให้สะกิดใจอยู่เล็กน้อยว่า พลังทางการเมืองของทักษิณจะอยู่ในจุดที่เข้มแข็งยิ่งกว่าหรือไม่ หากไม่เกิดรัฐประหารในปี 2549 และการตัดสินผลการเลือกตั้งเป็นไปตามข้อตกลง

ทักษิณชนะการเลือกตั้งเมื่อปี 2544 และมีคะแนนเสียงส่วนใหญ่สนับสนุนเขามากขึ้นอีกในปี 2548 หลังจากนั้นเขาก็ยังสามารถดึงคะแนนเสียงเอาไว้ได้แม้จะตกอยู่ในสถานการณ์ยากลำบากในปี 2550 และในปี 2554 ทักษิณก็กลับคืนสู่สังเวียนอีกครั้ง สร้างความเจ็บใจให้กับคู่แข่งของเขาอย่างมาก ด้วยการรณรงค์ที่ชาญฉลาดและการจัดการแบรนด์ที่ดีเป็นส่วนหนึ่งในความสำเร็จของเขา อีกส่วนหนึ่งที่เห็นได้ชัดกว่าคือความพยายามทำตัวเนื้อหอมและทุ่มงบลงโครงการท้องถิ่น (Barrel-the-pork) เพื่อสร้างความสัมพันธ์กับผู้มีสิทธิเลือกตั้งจำนวนมาก

พรรคเพื่อไทยจะต้องจัดการกับความสำเร็จนี้อย่างระแวดระวัง ทักษิณน่าจะกลับมาประเทศไทยอย่างเสียมิได้ และมีความเป็นไปได้ว่าเขาจะพยายามล้างมลทินให้กับตัวเอง คงถูกต่อต้านอย่างหนักหน่วงเป็นแน่ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในปี 2551 เป็นเครื่องเตือนใจอย่างดีว่ากำลังทางการเมืองของกลุ่มประท้วงต่อต้านทักษิณนั้นอ่อนลงมากเพียงใด พรรคเพื่อไทยคงสามารถหามติให้ทักษิณมีบทบาทอย่างใดอย่างหนึ่งในรัฐบาลได้ ("ทักษิณคิด เพื่อไทยทำ") แต่พวกเขาคงฉลาดพอที่จะเดินเกมช้า ในการทำให้ทักษิณค่อยๆ กลับเข้ามาในห้วงของการเมืองไทย

ไม่น่าสงสัยเลยว่าคงจะมีคนที่เลือดร้อนบางคนอยากกดชนวนระเบิดเวลาที่วางไว้ในรัฐธรรมนูญ 2550 แต่การจะต่อต้านรัฐบาลชุดนี้ ไม่ว่าจะในทางการใช้กฏหมายหรือการใช้กำลังอย่างตรงไปตรงมานั้น ต้องเป็นเรื่องบ้าคลั่งแน่ๆ คนหลายล้านที่เลือกยิ่งลักษณ์คงไม่ทนรับการที่ผลการเลือกตั้งของพวกเขาถูกล้มอีกเป็นแน่ ถ้าการตัดสินใจของพวกเขาถูกถีบส่ง ผู้ที่ต้องการใช้ความรุนแรงในการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองต้องออกไพ่ในมือมาแน่

ประเทศไทยในตอนนี้มีโอกาสในการฟื้นฟูศรัทธาต่อระบอบการเลือกตั้งให้คืนกลับมา มันจะต้องเป็นโศกนาฏกรรมของประเทศชาติแน่ๆ หากโอกาสนี้ถูกทำลายย่อยยับไป

 

ที่มา: แปลและเรียบเรียงจาก

Prime Minasiapacific.anu.edu.au/newmandala/2011/07/03/prime-minister-yingluck-shinawatra/ister Yingluck Shinawatra, Andrew Walker และ Nicholas Farrelly, New Mandala, 03-07-2011


สมัครรับข่าวความเคลื่อนไหวจากประชาไท ผ่านทางอีเมล ดูรายละเอียดที่ http://groups.google.com/group/prachatai-newspaper

145 องค์กรเครือข่ายพลเมืองเปลี่ยนประเทศไทย แถลงข้อเสนอรัฐบาลใหม่

Posted: 03 Jul 2011 11:01 AM PDT

3 ก.ค.54  เครือข่ายพลเมืองเปลี่ยนประเทศไทย 145 องค์กรร่วมแถลงการณ์วาระประชาชนผ่านสถานีทีพีบีเอสเมื่อค่ำวันนี้

รายละเอียดของแถลงการณ์มีดังนี้

เรียนผู้ที่กำลังจะเข้าทำหน้าที่บริหารประเทศ สมาชิกรัฐสภา และพี่น้องประชาชนไทยทุกท่าน การเลือกตั้งวันนี้ ถือเป็นประวัติศาสตร์ที่แตกต่างจากการเลือกตั้งทุกครั้งที่ผ่านมา ด้วยปรากฏการณ์ความตื่นตัวของประชาชนทุกภาคส่วน ได้ร่วมกันนำเสนอนโยบายต่อพรรคการเมือง อย่างกว้างขวางทั่วประเทศ

องค์กรภาคประชาชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น สื่อมวลชน นักวิชาการ กว่า 145 เครือข่าย รวมตัวกันจัดตั้งเป็นภาคีเครือข่ายพลเมืองเปลี่ยนประเทศไทย ในเวลาเพียงเดือนเศษ มีการจัดตั้ง จัดเวทีกว่า 80 เวที โดยมีประชาชนร่วมแสดงความเห็นในเวที กว่า 10,000 คน และยังมีประชาชนอีกหลายแสนคนเฝ้าติดตามแสดงออกทางสื่อต่างๆ เพื่อร่วมพลังผลักดันวาระประชาชนต่อผู้บริหารประเทศ และสมาชิกรัฐสภา อย่างหนักแน่น พร้อมเพรียงกัน

พร้อมกันนี้ ภาคส่วนต่างๆ เตรียมติดตาม ผลักดันข้อเสนอของประชาชน ภายหลังการเลือกตั้ง เพื่อไม่ให้เกิดการเพิกเฉย ละเลย หรือผิดคำมั่นสัญญา ซึ่งพรรคการเมืองให้ไว้ต่อประชาชน อีกต่อไป

ภาคีเครือข่ายพลเมืองเปลี่ยนประเทศไทย จึงขอแถลงต่อนักการเมืองในประเด็นสำคัญ ที่เป็นความต้องการร่วมกันของประชาชน ดังนี้ คือ

1. ให้มีการปฏิรูปโครงสร้างอำนาจ และกระจายอำนาจรัฐสู่ท้องถิ่น ปรับบทบาทราชการส่วนภูมิภาค เปิดโอกาสให้กลุ่มบุคคล ชุมชน องค์กรชุมชน มีอิสระในการจัดการตนเอง ในกิจการที่เกี่ยวข้องกับชุมชนท้องถิ่น

2. ให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการกำหนดนโยบายสาธารณะ และทิศทางการพัฒนาประเทศ รวมทั้งติตามตรวจสอบการบริหารราชการแผ่นดินในทุกระดับ

3. กำหนดทิศทางการพัฒนาเศรษฐกิจที่ส่งเสริมการเกษตรแบบปลอดสารเคมี บังคับใช้กฎหมายกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร เพื่อแก้ไขปัญหาหนี้สิน และรักษาที่ดินทำกินให้กับเกษตรกอย่างมีประสิทธิภาพ

4. ส่งเสริมพลังงานทางเลือกที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

5. ปฏิรูปคุณภาพชีวิตและสังคมด้วยการจัดระบบบสวัสดิการมาตรฐานเดียวกัน เสมอภาค และเท่าเทียม ให้ชุมชนท้องถิ่นสามารถจัดการศึกษา และพัฒนาหลักสูตรที่สอดคล้องกับภูมิปัญญา และอัตลักษณ์ชุมชน และให้ภาคประชาชนเข้ามีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหายาเสพติด

6.ยกเลิกกฎหมายที่เป็นอุปสรรคต่อการทำงานภาคประชาชน ผลักดันให้มีการบังคับใช้กฎหมายที่คุ้มครองเสรีภาพสื่อ รวมทั้งเสรีภาพประชาชนในการแสดงออกเพื่อเคลื่อนไหวทางการเมือง อนึ่ง การนำข้อเสนอของประชาชนเป็นนโยบายของรัฐบาล เพื่อนำสู่การปฏิบัติอย่างมีธรรมาภิบาล นอกจากจะตอบสนองความต้องการที่แท้จริงของประชาชนแล้ว ยังช่วยแก้วิกฤตการณ์ของชาติอย่างเป็นรูปธรรม ด้วยการทำหน้าที่อย่างซื่อสัตย์ โปร่งใสของรัฐบาล สมาชิกรัฐสภา และมีส่วนร่วมของประชาชนทุกภาคส่วน จะนำพาสังคม ประเทศไทย ฟันฝ่าอุปสรรค และก้าวพ้นวิกฤตการณ์ของชาติจนนำพาประเทศสู่ความสงบและสันติสุขอย่างแท้จริง

 

สมัครรับข่าวความเคลื่อนไหวจากประชาไท ผ่านทางอีเมล ดูรายละเอียดที่ http://groups.google.com/group/prachatai-newspaper

ชาวบ้านมุกดาหารกังวลผ่านมาแล้ว 6 ชม. ผลเลือกตั้งเดินทางไม่ถึงเขต-ทั้งที่ห่างกัน 40 กม.

Posted: 03 Jul 2011 10:23 AM PDT

บอร์ดประกาศผลการเลือกตั้งที่ยังว่างเปล่า เขต 2 จ.มุกดาหาร
 

4 ก.ค. 54 - เวลาประมาณเที่ยงคืน ผู้สื่อข่าวรายงานจาก อ.คำชะอี จ.มุกดาหาร ซึ่งเป็นที่ตั้งของสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง เขตเลือกตั้งที่ 2  จ.มุกดาหาร ว่า มีตัวแทนชาวบ้านจากหลายอำเภอใน จ.มุกดาหาร ที่ไปเฝ้ารอการประกาศผลอย่างเป็นทางการจากคณะกรรมการเลือกตั้งเขตที่ 2 แต่จนเวลาเที่ยงคืนก็ยังไม่มีการนำตัวเลขผลการนับคะแนนในแต่ละอำเภอมาขึ้นในบอร์ดประกาศผลอย่างเป็นทางการ

สำหรับเขตเลือกตั้งที่ 2 จ.มุกดาหาร ประกอบด้วย อ.หนองสูง อ.คำชะอี อ.ดงหลวง อ.นิคมคำสร้อย และอ.เมืองบางส่วน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อชาวบ้านได้สอบถามเหตุผลความล่าช้ากับนายถนัดจิต แสนแก้วชูศิลป์ กรรมการการเลือกตั้งเขต 2 จ.มุกดาหาร นายถนัดจิตชี้แจงว่า ขณะนี้ยังไม่มีการส่งหีบบัตรและผลการนับคะแนนจาก อ.ดงหลวง และ อ.นิคมคำสร้อย มาที่สำนักงานการเลือกตั้งเขต ทำให้ไม่สามารถที่จะขึ้นคะแนนทั้งหมดได้ และไม่สามารถยืนยันคะแนนได้อย่างเป็นทางการ

เมื่อถามว่ามีการรายงานคะแนนกันตามสื่อต่างๆ แล้ว ทาง กกต.เขตสองยืนยันว่า ตราบใดที่ยังไม่มีการายงานผลการนับคะแนนจากอำเภอต่างๆ มาที่เขต คะแนนทุกอย่างที่สื่อรายงานถือว่ายังไม่เป็นทางการ  อย่างไรก็ตาม ผลการนับคะแนนของทั้งสองอำเภอน่าจะมาถึงไม่เกิน 02.00 น.วันที่ 4 ก.ค.

ทั้งนี้ อ.ดงหลวงนับคะแนนเสร็จตั้งแต่ก่อน 18.00 น.และระยะทางมาถึง อ.คำชะอี ห่างเพียง 35 กม. ขณะที่ อ.นิคมคำสร้อยห่างจาก อ.คำชะอี เพียง 40 กม. ทำให้ชาวบ้านรู้สึกกังวลและยังเฝ้ารออยู่ที่สำนักงานเขต เกือบ 20 คน ขณะที่บางส่วนแยกย้ายกลับบ้านแล้ว

สมัครรับข่าวความเคลื่อนไหวจากประชาไท ผ่านทางอีเมล ดูรายละเอียดที่ http://groups.google.com/group/prachatai-newspaper

กวีประชาไท: คำเตือนจากเสียงประชาถึงอำนาจนอกระบบ

Posted: 03 Jul 2011 10:22 AM PDT

 

 

 

ลองสิลองเงี่ยหูฟังฉันสักนิด
ก่อนจะคิดทำย่ำยีและหักหลัง
ลองเถิดลองไตร่ตรองดูสักครั้ง
เชิญลองฟังเสียงสวรรค์ชาวประชา

อำนาจมาจากปลายปากกาลูกลื่น
จักอุดปากกระบอกปืนที่ขึงขัง
เมื่อปวงชนก้าวออกมารวมพลัง
จงอย่าหวังโค่นมหาประชาชน

 

พิเชฐ ยิ่งเกียรติคุณ
3 กรกฏาคม 2554
เครือข่ายพลังลบ
www.facebook.com/negativenetwork

We want Ballot, not Bullet

สมัครรับข่าวความเคลื่อนไหวจากประชาไท ผ่านทางอีเมล ดูรายละเอียดที่ http://groups.google.com/group/prachatai-newspaper

แรงงานอพยพชาวมอญเรียกร้องค่าชดเชยหลังถูกเจ้าหน้าที่ไทยยิง

Posted: 03 Jul 2011 09:06 AM PDT

เว็บไซต์อิระวดี เผยแรงงานข้ามชาติชาวมอญ ถูกเจ้าหน้าที่ป่าไม้ของไทยยิงที่สังขละบุรี โดยตอนนี้ยังไม่มีการจับกุมคนยิง ผู้บาดเจ็บรายหนึ่งยังคงพักรักษาตัวจากการผ่าตัดอยู่ในโรงพยาบาล อีกรายหนึ่งออกจากโรงพยาบาลแล้วแต่ยังคงมีลูกกระสุนฝังอยู่ที่หน้าอก 

เว็บไซต์อิระวดี รายงานเมื่อ 30 มิ.ย. ว่า แรงงานข้ามชาติชาวมอญ ถูกเจ้าหน้าที่ป่าไม้ของไทยยิงที่ อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี แต่ตอนนี้ยังไม่มีการจับกุมผู้กระทำผิดแต่อย่างใด มีเหยื่อรายหนึ่งยังคงพักรักษาตัวจากการผ่าตัดอยู่ในโรงพยาบาล อีกรายหนึ่งออกจากโรงพยาบาลแล้วแต่ยังคงมีลูกกระสุนฝังอยู่ที่หน้าอก

เหยื่อทั้ง 2 รายนี้มีชื่อว่า นาย ไบล อายุ 40 ปี ชาวเมืองเย รัฐมอญ และขิ่น หม่อง ลวิน จากเมืองตะโถ่ง พวกเขาเป็นแรงงานอพยพที่บ้านใหม่ ใน อ.สังขละบุรี มีการสันนิษฐานว่าพวกเขาถูกเจ้าหน้าที่ป่าไม้ยิงขณะที่กำลังตัดไม้อยู่ในป่าใกล้ๆ ในวันที่ 3 มิ.ย. ที่ผ่านมา

ทั้ง 2 คนได้รับบาดเจ็บสาหัส โดย นาย ไบล ถูกยิงที่ลำตัวด้านขวาโดยยังมีกระสุนติดอยู่ในตัว ขณะที่ขิ่น หม่อง ลวิน ถูกยิง 2 ครั้งที่ขาซ้าย

จากคำให้การของขิ่น หม่อง ลวิน พบว่าหลังจากที่เขาถูกยิงแล้ว เจ้าหน้าที่ป่าไม้ก็เข้ามาทุบตีและเตะเขา ขณะที่นาย ไบล ล้มลงไม่ได้สติ "พวกเขาเตะผมเข้าที่หัว แล้วใช้ปืนทุบผม" เขาบอก "ผมยังมีรอยอยู่บนใบหน้า"

"มันเจ็บปวดมาก ผมไม่สามารถทำอะไรได้ เพราะผมไม่สามารถเดินหรือวิ่งหนีได้เลย" เขาบอก

ผู้ได้รับบาดเจ็บยังทิ้งไว้ในป่าในคืนเกิดเหตุการณ์และในเช้าวันถัดมาพวกเขาก็ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลคริสเตียนในห้วยมาลัย

ขิ่น หม่อง ลวิน กล่าวว่าหลังจากที่เขาอยู่ในโรงพยาบาลมา 2 วัน มีเจ้าหน้าที่ป่าไม้ของไทยมาเยี่ยมและเสนอให้เงินค่ารักษาและจัดให้ลูกๆ ของพวกเขาได้เรียนในโรงเรียนท้องถิ่น

"แต่พวกเขาก็แค่จ่ายค่ารักษาพยาบาลเบื้องต้น 31,000 บาท" เขากล่าว "พวกเขาไม่ได้ให้ลูกของผมเข้าเรียนในโรงเรียน แล้วก็ไม่กลับมาให้ผมเห็นอีกเลย"

ขิ่น หม่อง ลวิน ผู้ที่มีกระสุนฝังอยู่ที่ขา 2 นัดจนต้องได้รับการผ่าตัด ทำให้เขายังต้องอยู่ในโรงพยาบาลเพื่อพักรักษาตัวต่อไป ขณะที่ นาย ไบล ออกจากโรงพยาบาลหลังอยู่ในได้ 3 วัน โดยที่ยังมีกระสุนฝังอยู่ที่หน้าอก

มี ซี ภรรยาของขิ่น หม่อง ลวิน "ไม่มีปัญหาหรอกหากพวกเราต้องอยู่ในโรงพยาบาล แต่ปัญหาก็คือพวกเราไม่มีข้าวกิน"

เธอบอกว่าตัวแทนของทหารไทยมาเยี่ยมเขาและบริจาคบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป "มาม่า" หนึ่งลัง ปลากระป๋อง และข้าวสารอีก 1 กระบุง

"สิ่งที่พวกเขาบริจาคไม่คุ้มค่ากับราคาที่ผมต้องจ่ายให้กับขาผมเลย" ขิ่น หม่อง ลวิน กล่าว "เจ้าหน้าที่ป่าไม้ไม่มีสิทธิอะไรจะยิงผม พวกเขาจะจับผมก็ได้ (ในข้อหาลักลอบตัดไม้) และส่งตัวผมไปเข้าคุก"

นาย ไบล บอกว่าเขาต้องการฟ้องร้องเจ้าหน้าที่ป่าไม้ของไทยที่ยิงเขา แต่ก็กลัวว่าเจ้าหน้าที่อาจจะกลับมาสังหารเขาก็ได้ โดยเหยื่อทั้ง 2 รายบอกว่า มีเจ้าหน้าที่รายหนึ่งที่เป็นคนยิงพวกเขามาที่โรงพยาบาลเพื่อข่มขู่พวกเขา

"คืนที่แล้ว คนที่ยิงผมมาที่โรงพยาบาลและถามหาผม เขากำลังเมาจนหมอต้องบอกให้เขาออกไป" ขิ่ง หม่อง ลวิน กล่าว

นาย สุนทร ผู้นำชุมชนชาวมอญในสังขละบุรีบอกว่าเหยื่อทั้ง 2 รายควรได้รับค่าชดเชย เขาบอกอีกว่าเจ้าหน้าที่ป่าไม้ไม่มีสิทธิจะยิงใคร แม้ว่าพวกเขาจะตัดไม้อย่างผิดกฎหมายในป่าก็ตาม

"พม่ามีเศรษฐกิจที่แย่มาก ทำให้มีคนพม่าหลั่งไหลเข้ามาในประเทศไทยมากขึ้นทุกปีๆ" นาย สุนทร กล่าว

เขาบอกว่าชุมชนชาวมอญในสังขละบุรีมีแผนจะเขียนจดหมายส่งถึง ส.ส.ชาวมอญในพม่าเพื่อผลักดันนโยบายเข้าสู่สภา

ขิ่น หม่อง ลวิน มีลูกเล็กๆ 5 คน คนที่เด็กที่สุดมีอายุ 6 เดือน ส่วนคนที่แก่ที่สุดมีอายุ 14 ปี เขาบอกว่า หากเขาไม่นำรายได้กลับบ้านแล้ว ลูกๆ ของพวกเขาคงต้องขออาหารจากเพื่อนบ้าน

 

 

ที่มา: แปลและเรียบเรียงจาก Wounded Migrants Call for Compensation, The irrawaddy, 30-06-2554 http://www.irrawaddy.org/article.php?art_id=21603

สมัครรับข่าวความเคลื่อนไหวจากประชาไท ผ่านทางอีเมล ดูรายละเอียดที่ http://groups.google.com/group/prachatai-newspaper

ผลไม่เป็นทางการ เพื่อไทยได้ 264 ปชป.160 ภูมิใจไทย 34 ที่นั่ง (22.30 น.)

Posted: 03 Jul 2011 08:21 AM PDT

เว็บไซต์สำนักข่าวไทย รายงานว่าคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต.ประมวลผลเวลา 22.00 น. ระบุถึงรายงานผลการนับคะแนนเลือกตั้งทั่วไปที่มีการนับคะแนนทั่วประเทศจากทั้ง หมด 94,216 หน่วย โดยผลปรากฎว่า ในแบบแบ่งเขตนับไปแล้วร้อยละ 98.87 แบบบัญชีรายชื่อนับไปแล้วร้อยละ 98.17 รายละเอียดมีดังนี้

พรรคเพื่อไทย (พท.) ได้ ส.ส. 264 คน จากระบบแบ่งเขต 204 คน ระบบบัญชีรายชื่อ 60 คน  

พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ได้ ส.ส. 160 คน จากระบบแบ่งเขต 115 คน ระบบบัญชีรายชื่อ 45 คน

พรรคภูมิใจไทย (ภท.)ได้ ส.ส. 34 คน จากระบบแบ่งเขต 29 คน ระบบบัญชีรายชื่อ 5 คน 

พรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) ได้ ส.ส. 19 คน จากระบบแบ่งเขต 15 คน ระบบบัญชีรายชื่อ  4 คน

พรรคชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน (ชพน.) ได้ส.ส. 7 คน จากระบบแบ่งเขต 5 คน ระบบบัญชีรายชื่อ 2 คน

พรรคพลังชล (พช.) ได้ ส.ส. 7 คน จากระบบแบ่งเขต 6 คน ระบบบัญชีรายชื่อ 1 คน  

พรรครักประเทศไทย (ร.ป.ท.) ได้ ส.ส. 4 คน จากระบบบัญชีรายชื่อเท่านั้น

พรรคมาตุภูมิ (มภ) ได้ ส.ส. 2 คน จากระบบแบ่งเขต 1 คน ระบบบัญชีรายชื่อ 1 คน 

พรรคมหาชน (พมช.)ได้ ส.ส. 1 คน จากระบบบัญชีรายชื่อเท่านั้น  

พรรคประชาธิปไตยใหม่ (ปธม.) ได้ ส.ส. 1 คน จากระบบบัญชีรายชื่อเท่านั้น

พรรครักษ์สันติ (รส.)ได้ ส.ส. 1 คน จากระบบบัญชีรายชื่อเท่านั้น

 

ส่วนภาพรวมผู้มีสิทธิเลือกตั้งทั่วประเทศอย่างไม่เป็นทางการมีจำนวน 47,020,579 คนมีผู้มาใช้สิทธิ  34,799,258 คน คิดเป็นร้อยละ 74.01 มีบัตรเสียแบ่งเป็นแบ่งเขต 2,000,677 ใบ คิดเป็นร้อยละ 5.75 โดยแบ่งเป็นบัญชีรายชื่อ 1,682,736 ใบ คิดเป็นร้อยละ 4.8  และจำนวนบัตรไม่ประสงค์ลงคะแนนนั้นแบบบบแบ่งเขต มี 1,405,037 ใบ หรือร้อยละ  4.04 แบบบัญชีรายชื่อ  954,895 ใบ หรือคิดเป็นร้อยละ 2.74

 

ส่วนผลเมื่อเวลา 20.40 น.ที่ผ่านมานั้น เป็นดังนี้ พรรคเพื่อไทยได้ 261 ที่นั่ง พรรคประชาธิปัตย์ 162 ที่นั่ง พรรคภูมิใจไทย 34 ที่นั่ง พรรคชาติไทยพัฒนา 20 ที่นั่ง พรรคชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน 7 ที่นั่ง พรรคพลังชล 7 ที่นั่ง พรรครักษ์ประเทศไทย 4 ที่นั่ง พรรคมาตุภูมิ 2 ที่นั่ง พรรคมหาชน พรรครักษ์สันติ และพรรคประชาธิปไตย พรรคละ 1 ที่นั่ง

ส่วนมีผู้ใช้สิทธิ์ร้อยละ 71.36 // บัตรเสียแบบบัญชีรายชื่อ ร้อยละ 4.72 // แบบเขต ร้อยละ 5.76 // โหวตโน แบบบัญชีรายชื่อ ร้อยละ 2.71 // แบบเขต ร้อยละ 4.03

นอกจากนี้ เมื่อเวลา 20.52 น.ที่ผ่านมา กกต.ประมวลผลผู้มาใช้สิทธิ์มากสุด ที่กรุงเทพมหานคร ร้อยละ 71.27 // ผู้มาใช้สิทธิ์น้อยสุด ที่ จ.อุดรธานี ร้อยละ 51.25 // บัตรเสียมากที่สุด ที่กรุงเทพฯ และบัตรเสียน้อยสุด ที่ร้อยเอ็ด ขณะที่โหวตโนมากที่สุด ที่ จ.ภูเก็ต

21.30 น.พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ผบ.ตร. เผย ตำรวจสามารถจับกุมผู้ต้องหาที่มีหมายจับ หลังออกมาใช้สิทธิ์เลือกตั้ง รวม 240 คน แบ่งเป็นตำรวจภูธรภาค 1 จำนวน 27 คน ภาค 2 จำนวน 152 คน ภาค 3 จำนวน 3 คน ภาค 4 จำนวน 1 คน ภาค 6 จำนวน 5 คน ภาค 7 จำนวน 9 คน ภาค 8 จำนวน 43 คน ส่วนภาค 5 ภาค 9 และใน 3 จังหวัดชายแดนใต้ ไม่มีการจับกุม

สมัครรับข่าวความเคลื่อนไหวจากประชาไท ผ่านทางอีเมล ดูรายละเอียดที่ http://groups.google.com/group/prachatai-newspaper

20.25น.-นับคะแนนไปแล้วร้อยละ81.5-บัตรเสียพุ่ง1.3ล้านใบ - โหวตโน8แสนใบ

Posted: 03 Jul 2011 06:31 AM PDT

ผลนับคะแนนล่าสุดบัตรเสียพุ่งเฉียด 1.3 ล้านใบ โหวตโน 8 แสน ส่วนคะแนนปาร์ตี้ลิสต์เพื่อไทยได้ 11.6 ล้านคะแนน ประชาธิปัตย์ได้ 9.6 ล้านคะแนน

ลักษณะบัตรเสียในหน่วยเลือกตั้งซึ่งทำเครื่องหมายกากบาทที่โลโก้พรรคเพื่อไทย ที่หน่วยเลือกตั้งที่ 9 เขตเลือกตั้งที่ 2 ต.กกตูม อ.ดงหลวง จ.มุกดาหาร (ที่มา: ประชาไท)

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในเว็บไซต์ กกต. ในส่วนที่รายงานผลการนับคะแนน ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อนั้น ล่าสุดในเวลา 20.25 น. นับคะแนนไปแล้ว 30,960,948 คะแนน มีบัตรไม่ประสงค์จะลงคะแนน 800,751 คะแนน บัตรเสีย 1,381,938 ใบ โดยผลการนับคะแนนขณะนี้ พรรคเพื่อไทยได้คะแนนบัญชีรายชื่อ 11,645,469 คะแนน พรรคประชาธิปัตย์ได้ 9,650,796 คะแนน พรรคภูมิใจไทยได้ 985,527 คะแนน พรรครักประเทศไทยได้ 792,468 คะแนน พรรคชาติไทยพัฒนาได้ 747,554 คะแนน

รองลงมาได้แก่ พรรคชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน 353,362 คะแนน พรรครักษ์สันติ 218,374 คะแนน พรรคมาตุภูมิ    
207,944 คะแนน

สมัครรับข่าวความเคลื่อนไหวจากประชาไท ผ่านทางอีเมล ดูรายละเอียดที่ http://groups.google.com/group/prachatai-newspaper

‘ยิ่งลักษณ์’ แถลงขอบคุณ-จับมือชาติไทยพัฒนา ‘อภิสิทธิ’ ยอมรับความพ่ายแพ้

Posted: 03 Jul 2011 06:13 AM PDT

3 ก.ค.54 เวลาประมาณ 19.40 น. ที่ทำการพรรคประชาธิปัตย์ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์แถลงข่าวยอมรับความพ่ายแพ้ และขอบคุณประชาชนที่ไปใช้สิทธิเลือกตั้ง รวมถึงทุกส่วนที่ทำให้กระบวนการเลือกตั้งเป็นไปด้วยความราบรื่น จากผลการเลือกตั้งที่ปรากฏมาในขณะนี้ เป็นที่ชัดเจนว่าพรรคเพื่อไทยได้รับชัยชนะในการเลือกตั้ง พรรคประชาธิปัตย์ยอมรับความพ่ายแพ้ และขอแสดงความยินดีกับพรรคเพื่อไทยที่จะได้จัดตั้งรัฐบาล และยินดีกับคุณยิ่งลักษณ์ที่จะได้เป็นนายกฯ และประเทศไทยจะได้นายกฯ หญิงคนแรก แสดงให้เห็นว่าไทยเปิดโอกาสให้สตรีเปิดโอกาสให้ผู้หญิงอยู่ในตำแหน่งสูงสุดได้

อภิสิทธิ์กล่าวต่อว่า สองปีที่ผ่านมาต้องกราบขอบคุณประชาชนทุกคนทีมีส่วนทำให้การแก้ปัญหาประเทศเป็นไปได้ จากวันนี้ไปต้องการเห็นความสามัคคี ปรองดองเกิดขึ้นในสังคม และให้รัฐบาลชุดใหม่เดินหน้าทำตามนโยบายที่เป็นคำมั่นสัญญากับประชาชน พรรคประชาธิปัตย์จะทำหน้าที่เป็นฝ่ายค้านในสภาอย่างสร้างสรรค์ และพร้อมร่วมมือทุกเรื่องที่ไม่สร้างความกระทบกระเทือนระบบนิติรัฐ นิติธรรม

หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ย้ำว่า อย่างไรก็ตาม พรรคเพื่อไทยจะได้คะแนนในระบบแบ่งเขตถึงกึ่งหนึ่งหรือไม่ต้องดู แต่ระบบบัญชีรายชื่อได้ไม่ถึงกึ่งหนึ่ง ถือว่าประชาชนไม่ได้ให้ฉันทานุมัติให้ล้างความผิดหรือนิรโทษกรรมให้กับใคร พรรคประชาธิปัตย์ยังยืนยันคัดค้านเรื่องนี้และอยากวิงวอนให้พรรคเพื่อไทยเดินหน้าแก้ไขปัญหาปากท้องของประชาชน ไม่เอาเรื่องเหล่านี้มาทำลายบรรยากาศและอนาคตของประเทศไทย

“สำหรับอนาคตตัวผมเอง เรียนว่าจะรอดูตัวเลขทางการให้เรียบร้อยก่อน แต่ว่าผมมีคำตอบอยู่ในใจแล้ว” อภิสิทธิ์กล่าวทิ้งท้ายโดยไม่ให้สัมภาษณ์ใดๆ กับผู้สื่อข่าว

ต่อมาเวลา 19.50 น.ที่ทำการพรรคเพื่อไทย น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย แถลงข่าวกล่าวขอบคุณประชาชนสำหรับทุกคะแนนเสียงที่มอบให้พรรคเพื่อไทย ขอบคุณสื่อมวลชนทั้งไทยและต่างประเทศที่ได้ติดตามมาตลอด 40 กว่าวันและการเสนอข่าวสารให้ประชาชนอย่างทั่วถึง ขอบคุณนายอภิสิทธิ์ และทุกพรรคการเมืองที่ทำให้บรรยากาศของการเลือกตั้งเป็นไปอย่างสร้างสรรค์ อย่างไรก็ตาม พรรคเพื่อไทยคงต้องรอผลอย่างเป็นทางการ และยืนยันจะทำทุกนโยบายที่เสนอประชาชนอย่างเต็มที่และเป็นไปตามที่สัญญาไว้ จะทำหน้าที่อย่างดีที่สุด ไม่ให้ประชาชนต้องผิดหวัง

หัวหน้าพรรคเพื่อไทยกล่าวว่า วันนี้ไม่อยากบอกว่าพรรคเพื่อไทยชนะ แต่ประชาชนต่างหากที่ให้โอกาสพรรคเพื่อไทยมารับใช้ทำงานให้ประชาชน และงานข้างหน้ายังมีอีกเยอะ ทั้งปัญหาปากท้อง และความปรองดอง สิ่งเหล่านี้ยังเป็นภาระหนัก ในวันนี้เป็นเพียงจุดเริ่มต้น  

สำหรับความคืบหน้าในการจัดตั้งรัฐบาลนั้น ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า คณะกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทยมีการพูดคุยกับพรรคชาติไทยพัฒนาเรียบร้อยแล้ว ในลำดับต่อไปคงมีพรรคอื่นๆ มาร่วมงานกับพรรคเพื่อไทยอีก ซึ่งจะแจ้งให้ทราบอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่าจะทำหน้าที่อย่างดีที่สุด

ผู้สื่อข่าวถามว่า จะมีการนิรโทษกรรมให้พ.ต.ท.ทักษิณหรือไม่ ยิ่งลักษณ์ตอบว่า เป็นเรื่องของคณะกรรมการชุด คณิต ณ นคร ที่จะหาความจริงและนำเสนอทางออกในการแก้ปัญหา พรรคเพื่อไทยไม่มีนโยบายเรื่องนี้ และเราจะแต่งตั้งทีมกม.ที่มีความรู้ ด้านกฎหมายเข้ามาร่วมด้วย

ผู้สื่อข่าวถามว่าประชาชนเลือกเพราะนามสกุลชินวัตรหรือไม่ ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า ที่ประชาชนเทคะแนนให้น่าจะเป็นเพราะเชื่อมั่นในนโยบายของพรรคเพื่อไทยและทีมบริหารเป็นสำคัญ

 

สมัครรับข่าวความเคลื่อนไหวจากประชาไท ผ่านทางอีเมล ดูรายละเอียดที่ http://groups.google.com/group/prachatai-newspaper

นับคะแนนไปแล้วร้อยละ 48.86 บัตรเสียพุ่ง 799,087 ใบ

Posted: 03 Jul 2011 03:54 AM PDT

ผลนับคะแนนล่าสุดบัตรเสียพุ่งเฉียด 8 แสนใบ โหวตโน 4.6 แสน ส่วนคะแนนปาร์ตี้ลิสต์เพื่อไทยได้ 6.2 ล้านคะแนน ประชาธิปัตย์ได้ 5.7 ล้านคะแนน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในเว็บไซต์ กกต. ในส่วนที่รายงานผลการนับคะแนน ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อนั้น ล่าสุดในเวลา 17.45 น. มีบัตรไม่ประสงค์จะลงคะแนน 467,349 คะแนน บัตรเสีย 816,417 ใบ โดยผลการนับคะแนนขณะนี้ พรรคเพื่อไทยได้คะแนนบัญชีรายชื่อ 6,287,054 คะแนน พรรคประชาธิปัตย์ได้5,710,821 คะแนน พรรคภูมิใจไทยได้ 565,717 คะแนน พรรคชาติไทยพัฒนาได้ 439,788 คะแนน พรรครักประเทศไทย 437,248 คะแนน

สมัครรับข่าวความเคลื่อนไหวจากประชาไท ผ่านทางอีเมล ดูรายละเอียดที่ http://groups.google.com/group/prachatai-newspaper

เอ็กซิทโพลล์ ‘เพื่อไทย’ชนะขาด ‘ทักษิณ’แนะงานแรก หาความจริง เร่งปรองดอง

Posted: 03 Jul 2011 02:47 AM PDT

3 ก.ค.54 “สวนดุสิตโพล” มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต ได้สำรวจความคิดเห็นของประชาชนที่มีสิทธิ์เลือกตั้งทั่วประเทศ แบบ  EXIT POLL โดยกระจายพื้นที่ทั้ง 375 เขตเลือกตั้ง จำนวน 157,759 ตัวอย่าง  ในวันที่ 3 กรกฎาคม 2554 ระหว่างเวลา 8.00-14.00 น. บริเวณหน้าคูหาเลือกตั้ง โดยสอบถามผู้ไปใช้สิทธิ์เลือกตั้ง

ผลการสำรวจ EXIT POLL  จำนวน ส.ส. เขต และ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ทั่วประเทศ  พบว่า 

อันดับ 1  พรรคเพื่อไทย จำนวน ส.ส. บัญชีรายชื่อ   66    ส.ส. เขต  247     รวม 313  คน

อันดับ 2 พรรคประชาธิปัตย์  จำนวน ส.ส. บัญชีรายชื่อ 45 ส.ส. เขต 107     รวม  152  คน

อันดับ 3    พรรคภูมิใจไทย จำนวนส.ส. บัญชีรายชื่อ 4  ส.ส.เขต  9  รวม 13  คน

อันดับ 4 พรรคชาติไทยพัฒนา   จำนวนส.ส. บัญชีรายชื่อ 2 ส.ส.เขต  8  รวม 10  คน

อันดับ 5  พรรคพลังชล จำนวนส.ส. บัญชีรายชื่อ 1 ส.ส.เขต 4  รวม 5คน 

อันดับ 6 พรรครักประเทศไทย  จำนวนส.ส.บัญชีรายชื่อ 3 คน

พรรคชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน  จำนวนส.ส.บัญชีรายชื่อ  2  คน 

อันดับ 7 พรรครักษ์สันติ จำนวนส.ส.บัญชีรายชื่อ 1  

อันดับ 9 พรรค มาตุภูมิ   จำนวนส.ส. บัญชีรายชื่อ  1 คน 

สรุปจำนวน ส.ส. เขต จำแนกตามภูมิภาค (375 เขต)

พรรคเพื่อไทย  ได้ส.ส.รวม  247 กทม. 28  กลาง 54   เหนือ 49   อีสาน 116  ภาคใต้ ไม่ได้เลย
พรรคประชาธิปัตย์  ได้ส.ส.รวม  107 กทม. 5  กลาง 30  เหนือ 18  อีสาน  1  ภาคใต้ 53
พรรคภูมิใจไทย   อีสาน 9 รวม 9 คน
พรรคชาติไทยพัฒนา  ภาคกลาง 8 รวม  8 คน
พรรคพลังชลภาคกลาง4 รวม 4 คน

“เอแบคโพลล์” รายงานผลเอ็กซิทโพลว่าพรรคเพื่อไทยได้ส.ส.ทั้งหมด  299 คน พรรคประชาธิปัตย์ 132 คน พรรคภูมิใจไทย 28 คน พรรคชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน 14 คน พรรคชาติไทยพัฒนา 12 คน พรรคพลังชล 6 คน พรรครักประเทศไทย 4 คน และพรรคมาตุภูมิ 3 คน

สำหรับพรรคเพื่อไทยนั้นได้ส.ส.เขต 234 คน  บัญชีรายชื่อ 65 คน รวม 299 คน  ส่วนพรรคประชาธิปัตย์ ส.ส.เขต 92 คน บัญชีรายชื่อ 40 คน

“ศรีปทุมโพลล์” พบว่า พรรคเพื่อไทยจะได้ส.ส.ทั้งหมด 279 ที่นั่ง พรรคประชาธิปัตย์ 146 เสียง พรรคภูมิใจไทย 33 เสียง พรรคชาติไทยพัฒนา 15 เสียง พรรคชาติพัฒนาแผ่นดิน 11 เสียง พรรครักประเทศไทย 4 เสียง   พรรคมาตุภูมิ 4 เสียง พรรคพลังชล 3 เสียง และพรรครักษ์สันติ 1 เสียง

“นิด้าโพลล์” พบว่า พรรคเพื่อไทยจะได้ส.ส.ทั้งหมด 239-275 ที่นั่ง พรรคประชาธิปัตย์ 90-104 เสียง พรรคภูมิใจไทย 1-5 เสียง พรรคชาติไทยพัฒนา 4-5 เสียง พรรครักประเทศไทย 5 เสียง
 

ทักษิณให้สัมภาษณ์ทีวีหลายช่อง

เวลาประมาณ 16.15 น. สถานีโทรทัศน์ทีพีบีเอส โดยภิญญา ไตรสุริยะธรรมา ผู้ดำเนินรายการได้สัมภาษณ์ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ทางโทรศัพท์สดในรายการ ว่า รู้สึกอย่างไรกับผลของเอ็กซิทโพลล์ ทักษิณตอบว่า สิ่งที่ตื่นเต้นและดีใจคือ ประชาชนออกไปใช้สิทธิกันเยอะมาก และใช้ความพยายามอย่างยิ่งในการเดินทางกลับภูมิลำเนา แสดงให้เห็นว่าคนส่วนใหญ่สนับสนุนประชาธิปไตย อยากให้ประชาธิปไตยเบ่งบาน

เมื่อให้วิเคราะห์ตัวเลขที่ได้มา ทักษิณตอบว่าเป็นเพราะประชาชนต้องการเห็นความปรองดองซึ่งเป็นสิ่งที่พรรคเพื่อไทยชูมาตลอดว่าไม่แก้แค้นแต่จะแก้ไข และคงอยากเห็นนโยบายที่เดินไปข้างหน้า ไม่ย่ำอยู่กับที่

เขายังระบุว่าด้วยว่า การมีพรรคร่วมรัฐบาลยังเป็นความจำเป็นแต่เป็นเรื่องของกรรมการบริหารพรรค ส่วนตัวไม่อาฆาตแค้นใคร

เมื่อถามว่าจะกลับประเทศไทยหรือไม่ เขากล่าวว่า เขาไม่อยากเป็นส่วนหนึ่งของปัญหา หากจะกลับมาก็ต้องเป็นส่วนหนึ่งของการแก้ปัญหาหรือคำตอบ ส่วนกรณีที่ลูกจะแต่งงานนั้นก็คงเป็นไปตามแผนแต่ถ้ากลับไม่ได้ลูกก็คงเข้าใจ พร้อมย้ำว่าหากกลับมาแล้วเป็นปัญหาจะไม่กลับแน่นอน

เมื่อถามว่าหากพรรคเพื่อไทยได้จัดตั้งรัฐบาล หัวใจของรัฐบาลใหม่คืออะไร ทักษิณกล่าวว่า 1.สร้างความปรองดอง 2.สร้างความเป็นธรรรมในสังคม 3. คืนความสุขให้ประชาชนด้วยการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ

เมื่อถามถึงเรื่องนิรโทษกรรมตั้งแต่ครั้งรัฐประหารจนถึงสถานการณ์ปัจจุบัน เขากล่าวว่า ต้องถามจากคณะกรรมการอิสระของ นายคณิต ณ นคร ซึ่งทำหน้าที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง ถ้าไม่รู้ความจริงก็จะแก้ปัญหาไม่ถูกจุด  และคณะกรรมการคงมีการเสนอทางออกว่าจะแก้ปัญหาอย่างไร หากกฎหมายนิรโทษกรรมเป็นส่วนหนึ่งก็คงต้องทำกันไป เป็นเรื่องของคณะกรรมการ

ผู้ดำเนินรายการถามว่าคิดว่าการปฏิรูปจะเป็นอย่างไร ในทิศทางใด ทักษิณตอบว่า เขาไม่ทราบ แต่หากใครมีความคิดดีๆ เพื่อบ้านเมืองก็เป็นสิ่งที่ทุกรัฐบาลต้องอ้าแขนรับ

ผู้ดำเนินรายการถามว่า ความผิดพลาดในอดีตของการบริหารงาน เช่นเรื่องความไม่สงบในภาคใต้จะมีการสรุปบทเรียนหรือไม่ ทักษิณตอบว่า แน่นอน ไม่มีใครถูกและผิดร้อยเปอร์เซ็น ต้องเรียนรู้จากอดีตเพื่อกแก้ไขให้ดีขึ้น อันไหนผิดพลาดตนก็จะบอกกับพรรคเพื่อให้พิจารณาประกอบ แต่สภาพแวดล้อมในแต่ละช่วงเวลาก็ไม่เหมือนกัน และเป็นสิ่งที่ต้องพิจารณาร่วมด้วย

นอกจากนี้พ.ต.ท.ทักษิณยังให้สัมภาษณ์กับนายสรยุทธ์ สุทัศนะจินดา จากช่อง 3 ด้วย โดยนายสรยุทธ์ถามถึงข่าวเรื่องปฏิญญาดูไบว่าทักษิณได้พูดคุยกับทั้ง 2 ฝ่ายแล้ว พ.ต.ท. ทักษิณ กล่าวว่า ไม่มี โดยเฉพาะกับรัฐมนตรีกลาโหม ยังไม่ได้คุยกับตนเลยนับตั้งแต่มีการปฏิวัติ สำหรับเรื่องความคิดเห็นของกระทรวงกลาโหมเรื่องการตั้งรัฐบาลของพรรคเพื่อไทยนั้น อดีตนายกฯกล่าวว่า เป็นเรื่องที่เร็วเกินไป เพราะต้องเป็นเรื่องที่คุณยิ่งลักษณ์กับพรรคเพื่อไทยต้องคุยกัน ต้องคิดถึงเรื่องความสบายใจของทุกฝ่าย เพราะต้องการเห็นความปรองดอง

นายสรยุทธ ถามต่อว่า มีความเป็นไปได้หรือไม่ที่จะทาบทามพล.อ. ประวิทย์ วงศ์สุวรรณ มาเป็นรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมของพรรคเพื่อไทย ทักษิณกล่าวว่า คงเร็วเกินไปที่จะคิด คิดว่าพรรคเพื่อไทยคงต้องนั่งคิดก่อนว่า การตั้งรัฐบาลต้องมีใครมาร่วมบ้าง

ส่วนกรณีเรื่องที่ทางพรรคประชาธิปัตย์ย้ำเรื่องนิรโทษกรรมที่ต้องการเอาเงินคืนนั้น พ.ต.ท.ทักษิณ ตอบว่า ไม่มีใครคิด และตนก็ไม่ยอมให้ใครคิดทำอะไรเพื่อตนคนเดียว บ้านเมืองเป็นเรื่องของทุกฝ่าย การออกกฎหมายเพื่อคนๆ เดียวทำไม่ได้ และไม่มีใครคิดทำด้วย  ประชาธิปัตย์เขาหลงทาง ใช้เป็นประเด็นโจมตีทางการเมืองมากกว่า

สำหรับโมเดลเรื่องการปรองดองของบ้านเมืองนั้น พ.ต.ท. ทักษิณ คิดว่า อย่าไปชี้นำให้คณะกรรมการอิสระตรวจสอบ และค้นหาความจริงเพื่อความปรองดองแห่งชาติดีกว่า ถ้าต้องการความช่วยเหลืออะไรให้เป็นหน้าที่ของรัฐบาลที่จะสนับสนุน อะไรก็แล้วแต่ที่เกิดสันติสุขในบ้านเมืองนั้นเป็นเรื่องที่ดี อยากเห็นทุกอย่างเพื่อเป็นการถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวดีกว่า มันก็มีเรื่องกันมานานแล้ว พระเจ้าอยู่หัวจะครบ 84 พรรษาในวันที่ 5 ธันวาคมปีนี้ ถ้าเราจะช่วยกันลดราวาศอก จะเป็นสิ่งดีงามสำหรับคนไทย

ปชป.ยัน เอ็กซิทโพลล์พลิก เขต กทม.สูสี

นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผอ.อำนวยการเลือกตั้ง กทม.พรรคประชาธิปัตย์ แถลงภายหลังการปิดหีบลงคะแนนเลือกตั้ง ว่า พรรคไม่หวั่นไหวต่อผลเอ็กซิตโพล ที่ระบุว่า พรรคประชาธิปัตย์พ่ายแพ้ต่อพรรคเพื่อไทยแบบถล่มทลาย เพราะจากการประสานงานไปยังตัวแทนพรรคที่สังเกตกาณ์การรับคะแนนตามหน่วยต่างๆ พบว่า ผู้สมัครหลายหน่วยมีคะแนนนำผู้สมัครคนอื่นอย่างมาก เช่น เขตปทุมวัน ของ นางอรอนงค์ กาญจนชูศักดิ์ เขตพญาไท ของ นายธนา ชีรวนิช โดยเฉพาะเขตดอนเมือง ที่น่าดีใจที่คะแนนของ นายแทนคุณ จิตอิสระ สามารถนำหน้านายการุณ โหสกุล อยู่ และยังมีอีกหลายเขตที่คะแนนสูสีกัน ยังเชื่อมั่นว่า 33 เขตในกทม.เรายังนำอยู่ โดยก่อนหน้านี้ที่โพลออกมาว่า ปชป.จะได้เพียง 5 ที่นั่ง แต่ที่เราได้สำรวจใน 10 เขตเลือกตั้ง เราชนะทุกเขต ทั้งนี้ ต้องติดตามผลการนับคะแนนอย่างเป็นทางการต่อไป เชื่อว่าประชาชน กทม.จะออกมาใช้สิทธิเพื่อกำหนดอนาคตของประเทศ

ผู้สื่อข่าวถามว่า นายอภิสิทธิ์ มีท่าทีหนักใจต่อผลของเอ็กซิตโพล หรือไม่ นายอภิรักษ์ กล่าวว่า ไม่ได้มีท่าที่หนักใจอะไร แต่ได้ติดตามดูการนับคะแนนทางโทรทัศน์อย่างใกล้ชิด และขอเวลาให้ผลการนับคะแนนนิ่งกว่านี้แล้วจะออกมาแถลงขอบคุณประชาชนภายในค่ำนี้
ด้านรายงานข่าวจากสำนักงาน กกต.ระบุว่า กกต. ให้ใบแดงก่อนประกาศผลได้ประมาณ 4-5 ใบ ในพื้นที่สุโขทัย ชัยภูมิ มหาสารคาม ศีรสะเกษ และบางเขตของกทม. และหลังประกาศผลอาจแจกใบแดงมากกว่านี้ สำหรับคำร้องคัดค้านมีเกือบ 200 เรื่อง

ส่วนเรื่องของบัตรเสีย มีรายงายข่าวเบื้องต้นจาก Voice TV ว่า เวลาประมาณ 17.20 น. ซึ่งการนับคะแนนทั่วประเทศผ่านไปแล้วประมาณ 23% พบว่า มีบัตรเสียในส่วน ส.ส. แบบแบ่งเขตกว่า 81,000 ใบ แบบบัญชีรายชื่อ กว่า 530,000 ใบ

 สามารถติดตามผลคะแนนอย่างไม่เป็นทางการได้ที่ http://ect.thaigov.net/election2554/index.html

 

ที่มาบางส่วน: เว็บไซต์มติชน , ASTV-ผู้จัดการออนไลน์, Voice TV

สมัครรับข่าวความเคลื่อนไหวจากประชาไท ผ่านทางอีเมล ดูรายละเอียดที่ http://groups.google.com/group/prachatai-newspaper

"จำลอง ศรีเมือง" ชวดใช้สิทธิเลือกตั้ง

Posted: 02 Jul 2011 11:26 PM PDT

พล.ต.จำลอง ศรีเมืองไม่สามารถใช้สิทธิเลือกตั้งที่หน่วยเลือกตั้งที่ ร.ร.เศรษฐเสถียร เขตดุสิตได้ เนื่องจากในใบรายชื่อระบุว่าได้ขอใช้สิทธิเลือกตั้งที่ จ.กาญจนบุรี ด้าน พล.ต.จำลองยันไม่ได้แจ้งใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้า ชี้ กกต. ควรแจ้งให้ทราบเพราะบางครั้งก็จำไม่ได้ว่าคราวที่แล้วไปใช้สิทธิที่ไหน เพราะเวลาผ่านมาแล้ว 3-4 ปี

เอเอสทีวีผู้จัดการออนไลน์ รายงานว่า วันนี้ ( 3 ก.ค.) เมื่อเวลาประมาณ 08.10 น.พล.ต.จำลอง ศรีเมือง พร้อมด้วย พ.ต.หญิงศิริลักษณ์ ศรีเมือง ภรรยา เดินทางไปใช้สิทธิ์ลงคะแนนเลือกตั้งที่หน่วยเลือกตั้งที่ 14 และ 16 แขวงนครชัยศรี เขตดุสิต ซึ่งตั้งอยู่ที่โรงเรียนเศรษฐเสถียร โดย พล.ต.จำลอง มีรายชื่อในลำดับที่ 39 ขณะที่ภรรยามีรายชื่อในลำดับที่ 41 แต่ปรากฏว่าในใบรายชื่อมีระบุไว้แนบท้ายว่าได้ขอไปใช้สิทธิ์ที่ จ.กาญจนบุรี ทำให้ในวันนี้ พล.ต.จำลอง ไม่สามารถลงคะแนนเลือกตั้งได้ เนื่องจากตรวจสอบพบว่าในปี 2550 พล.ต.จำลอง และภรรยา เคยระบุไว้ว่าขอไปใช้สิทธิ์ที่ จ.กาญจนบุรี ซึ่งเจ้าหน้าที่ประจำหน่วยเลือกตั้งแนะนำให้ พล.ต.จำลอง เขียนคำร้องไว้ เพื่อไม่ให้เสียสิทธิ์ทางการเมือง

พล.ต.จำลอง ให้สัมภาษณ์เอเอสทีวีว่า ในการเลือกตั้งครั้งนี้ทั้งตนและภรรยาไม่ได้แจงความจำนงไปใช้สิทธิเลือกตั้ง ล่วงหน้าที่จังหวัดกาญจนบุรีเลย เนื่องจากวันที่ 26 มิ.ย.ที่ผ่านมา ยังติดการชุมนุมที่สะพานมัฆวานฯ จึงไม่คิดที่จะไปใช้สิทธิ์ที่กาญจนบุรีให้เสียเวลาเดินทางกลับไปกลับมา ซึ่งถ้าหาก กกต.จะถือว่าการเลือกตั้งครั้งนี้ให้ไปใช้สิทธิล่วงหน้าตามที่เคยแจ้งไว้ เมื่อคราวก่อน ก็ควรจะแจ้งให้เราทราบ หรือประกาศออกมาแลย เพราะบางครั้งก็จำไม่ได้ว่าคราวที่แล้วใช้สิทธิ์ที่ไหน เนื่องจากเวลาผ่านมา 3-4 ปี

พล.ต.จำลองกล่าวต่อว่า ตนได้แจ้งกับเจ้าหน้าที่ประจำหน่วยเลือกตั้งว่า ยังมีเวลาพอที่จะเดินทางไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งที่จังหวัดกาญจนบุรีได้ แต่เจ้าหน้าที่แจ้งว่าไม่ได้ จึงให้เขียนคำร้องเวลา เนื่องจากตนได้เดินทางมาใช้สิทธิตามเวลา และให้คณะกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้งวินิจฉัย ซึ่งคณะกรรมการแจ้งว่า ไม่ให้ใช้สิทธิ์โดยอ้างว่าตนและภรรยาแจ้งไปใช้สิทธิล่วงหน้าที่จังหวัด กาญจนบุรีตั้งแต่วันที่ 26 มิ.ย.แล้ว ทั้งที่ตอนไม่ได้ไปใช้สิทธิและไม่ได้แจ้งความจำนงที่จะไปใช้สิทธิล่วง หน้าที่กาญจนบุรี เนื่องจากในช่วงนั้นยังต้องอยู่ในที่ชุมนุม

สมัครรับข่าวความเคลื่อนไหวจากประชาไท ผ่านทางอีเมล ดูรายละเอียดที่ http://groups.google.com/group/prachatai-newspaper

เริ่มแล้วเลือกตั้ง 54 กรมอุตุฯ เผยทั่วไทยมีฝนโดยเฉพาะบ่าย-ค่ำ

Posted: 02 Jul 2011 06:32 PM PDT

ประชาชนเริ่มทยอยออกไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งตั้งแต่ช่วงเช้า กรมอุตุนิยมวิทยารายงานว่าทั่วไทยมีฝนโดยเฉพาะบ่าย-ค่ำแนะใช้สิทธิเลือกตั้งช่วงเช้า ด้านสื่อต่างชาติเริ่มรายงานบรรยากาศเลือกตั้งไทยตั้งแต่ช่วงเช้าเช่นกัน

ภาพบรรยากาศในหน่วยที่ 6 อ.แม่ริม (เขตเลือกตั้งที่ 7) จ.เชียงใหม่ ขณะที่เจ้าหน้าที่กำลังเตรียมความพร้อมก่อนการเลือกตั้ง (เวลาประมาณ 7.30 น.) และประชาชนที่มาเข้าแถวรอใช้สิทธิ (เวลาประมาณ 8.00 น.)

3 ก.ค. 54 - การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของประเทศไทย พ.ศ. 2554 ได้เริ่มต้นขึ้นตั้งแต่เวลา 8.00 น. หลายพื้นที่ทั่วประเทศเริ่มมีประชาชนทยอยออกมาใช้สิทธิเลือกตั้ง

ด้านกรมอุตุนิยมวิทยารายงานว่า หย่อมความกดอากาศที่ต่ำปกคลุมประเทศลาวและเวียดนามตอนบนมีกำลังอ่อนลง ในขณะที่มรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยยังคงมีฝนตกหนาแน่นและมีฝนตกหนักบางพื้นที่ บริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก ขอให้ประชาชนระวังอันตรายจากฝนที่ตกหนักในระยะนี้ไว้ด้วย อนึ่ง ในวันนี้ (3 ก.ค.) บริเวณประเทศไทยจะมีฝนตกได้ในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะในระหว่างบ่ายถึงค่ำ จึงขอแนะนำให้ประชาชนออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งแต่ช่วงเช้า

สื่อต่างชาติรายงานบรรยากาศเลือกตั้งไทยตั้งแต่ช่วงเช้า

สำนักข่าวไทยรายงานว่าสื่อต่างชาติได้รายงานบรรยากาศการเลือกตั้งในไทยตั้งแต่ช่วงเช้า โดย เอเอฟพี มองว่าเป็นบททดสอบครั้งสำคัญที่จะคลี่คลายวิกฤติทางการเมืองที่มีมานาน ส่วน เอพี ระบุหลายคนคาดหวังว่าการเลือกตั้งจะช่วยยุติวิกฤติทางการเมืองในไทยลงได้

สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า ไทยเริ่มเปิดคูหาเลือกตั้งให้ผู้ไปใช้สิทธิลงคะแนนกันในเช้าวันอาทิตย์นี้ ซึ่งเป็นการขับเคี่ยวกันของพรรคการเมืองใหญ่ในสนามเลือกตั้งทั่วประเทศ และเป็นบททดสอบครั้งสำคัญที่จะคลี่คลายวิกฤติทางการเมืองที่มีมานาน

หน่วยเลือกตั้งทั่วประเทศเปิดให้ลงคะแนนตั้งแต่เวลา 08.00 น.เช้าวันนี้ท่ามกลางกำลังตำรวจที่มาให้การรักษาความปลอดภัยตามจุดเลือกตั้ง หลังจากที่มีเหตุขัดแย้งและการประท้วงในกรุงเทพฯเมื่อปีที่แล้ว ซึ่งนับเป็นเหตุรุนแรงทางการเมืองมากที่สุดในรอบหลายสิบปี

ด้านผู้สื่อข่าวสำนักข่าวเอพีรายงานว่า ผู้มีสิทธิเลือกตั้งในไทยต่างเริ่มไปใช้สิทธิหย่อนบัตรลงคะแนนกันแล้วในเช้าวันนี้ โดยหลายคนคาดหวังว่าการเลือกตั้งจะช่วยยุติวิกฤติทางการเมืองในไทยลงได้

อย่างไรก็ตาม ยังมีความกังวลกันว่า การเลือกตั้งอาจส่งผลให้เกิดความวุ่นวายมากขึ้น หากผลที่ออกมาไม่เป็นที่ยอมรับของกลุ่มต่างๆในไทย โดยสถานีโทรทัศน์ต่างๆ แพร่ภาพประชาชนที่มารอต่อแถวตามหน่วยเลือกตั้งทั่วประเทศหลังเปิดให้ลงคะแนนในเช้าวันนี้

 

สมัครรับข่าวความเคลื่อนไหวจากประชาไท ผ่านทางอีเมล ดูรายละเอียดที่ http://groups.google.com/group/prachatai-newspaper

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น