โพสต์แนะนำ

ประชาไท Prachatai.com

ประชาไท Prachatai.com พท.-ปชป จัดประชุมแก้ไขข้อบังคับพรรคฯ ส่วนรัฐบาลคสช. เตรียมฉีดเงินตำบลละ 5 แสน คพศ. ขอ ตร.เรียกตั...

ซิตี้แบงก์ ให้คุณสมัครบัตรเครดิต citibank ออนไลน์ ด้วยวิธีสมัครบัตรเครดิตง่ายๆ รู้ผลอนุมัตทันใจภายใน 5 วัน อยากทำบัตรเครดิตซิตี้แบงก์ สมัครออนไลน์ได้ทันทีที่นี่.

วันศุกร์ที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2561

ประชาไท Prachatai.com

ประชาไท Prachatai.com

Link to ประชาไท

ภูมิใจไทยเสนอพักหนี้กยศ. 5 ปีชี้ปัญหาไม่ใช่วินัยการใช้เงิน แต่รัฐไม่หนุนศึกษาไปจนสุดทาง

Posted: 27 Jul 2018 09:20 AM PDT

พรรคภูมิใจไทย เสนอพักชำระหนี้ กยศ. 5 ปี เพื่อต่อลมหายใจให้กับประชาชนที่มีปัญหาเรื่องค่าใช้จ่าย ย้ำการพักชำระหนี้ไม่ได้ยกหนี้ให้ เพียงแต่พักการใช้หนี้ไว้ก่อน รองเลขาฯ พรรคชี้ปัญหาไม่ใช่วินัยการใช้เงิน แต่รัฐไม่หนุนศึกษาไปจนสุดทาง

ด้านขวา ศุภชัย ใจสมุทร รองเลขาธิการพรรคภูมิใจไทย (แฟ้มภาพประชาไท)

27 ก.ค.2561 จากกระแสวิพากษ์วิจารณ์หลัง วิภา บานเย็น ผู้อำนวยการโรงเรียนแห่งหนึ่งใน จ.กำแพงเพชร ถูกยึดบ้านและที่ดินขายทอดตลาด ซึ่งเป็นผลจากการค้ำประกันหนี้กองทุนกู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) ให้กับนักเรียน แต่ ลูกศิษย์จำนวน 23 ราย ไม่ชำระหนี้เงินกู้ให้กับ กยศ. โดยเมื่อวันที่ 25 ก.ค.ที่ผ่านมา ข่าวสดออนไลน์ รายงานว่า เพ็ญรวี มาแสง ผู้อำนวยการกองฟื้นฟูกิจการของลูกหนี้ กรมบังคับคดี กล่าวถึงผลการไกล่เกลี่ยในเบื้องต้นได้ข้อตกลงร่วมกันว่า กยศ. จะระงับการบังคับคดี และขายทอดตลาดในเดือน ส.ค. นี้ไว้ชั่วคราว เพื่อให้ฝ่ายกฎหมายเพิ่มความเข้มข้นในการติดตามตัว และทรัพย์ของลูกหนี้ รวมถึงผู้ค้ำประกันรายอื่น ที่มีความสัมพันธ์เป็นญาติหรือผู้ปกครองของลูกหนี ทั้งนี้เพื่อรวบรวมทรัพย์สินให้ได้มากที่สุด ก่อนนำมาหักกับส่วนที่ครูเป็นผู้ค้ำประกัน และกรณีที่มีการผ่อนชำระหนี้ต้องหักลบหนี้ในส่วนของผู้ค้ำประกันออกก่อน

วันนี้ (27 ก.ค.61) สื่อหลายสำนักรายงานตรงกัน โดยไทยโพสต์รายงานโดยละเอียดว่า ศุภชัย ใจสมุทร รองเลขาธิการพรรคภูมิใจไทย เปิดเผย ถึงกรณีการบริหาร กยศ. ที่เกิดปัญหาขณะนี้ ว่า เป็นปัญหามานานแล้ว เรื่องดังกล่าวทางพรรคภูมิใจไทยเคยหารือกันบ้าง และได้เสนอแนวทางแก้หนี้ กยศ.มาตั้งแต่ปี 2557 จากข้อมูล กยศ. มีจำนวนลูกหนี้สะสมทั้งสิ้น 5.4 ล้านคน มูลหนี้รวมทั้งหมดกว่า 5.7 แสนล้านบาทเอาเฉพาะปีนี้ กยศ. มีลูกหนี้ที่ต้องชำระคืน ประมาณ 3.5 ล้านคน มูลค่าหนี้รวมประมาณ 4 แสนล้านบาท และ 2.5 ล้านคนกำลังจะโดนฟ้อง 

ทาง กยศ. มีศักยภาพในการฟ้องร้องต่อปีที่ 100,000 คน ซึ่งกำลังกลายมาเป็นปัญหาใหญ่ในอนาคต เพราะ กยศ.ต้องเสียค่าจ้างทนายความในการดำเนินคดี ที่ 10,000 บาทต่อคดี คืองบระมาณที่เสียไปกับการจ้างทนาย ชัดเจนว่าบริษัทกฎหมายได้กำไร แต่ยังไม่รู้ว่าจะตามหนี้กลับมาได้แค่ไหน

"ที่คนเหล่านี้ต้องมากู้ เพราะระบบการศึกษาไทย มันดูแลไม่ครอบคลุมทั่วถึง สังคมคาดหวังให้เด็กเรียนต่อถึงระดับปริญญาตรี แต่รัฐสนับสนุนให้เรียนฟรีเพียง 15 ปี หรือแค่จบมัธยม หลังจากนั้นเด็กต้องหาเงินเรียนเอง เมื่อไม่มีเงินก็จำเป็นที่จะต้องกู้เงินมาเรียน ส่งผลให้เกิดปัญหาเช่นในปัจจุบัน ดังนั้นรัฐควรที่จะทำนโยบายให้โอกาสทางการศึกษา ขยายการเรียนฟรี ไปต่อจนจบปริญญาตรีได้หรือไม่ ซึ่งทางพรรคกำลังทำนโยบายในการสนับสนุนการศึกษาอย่างเต็มที่ เพราะสุดท้ายเด็กที่เรียนจบปริญญาตรีก็จะทำงานและจ่ายภาษีคืนแก่ประเทศชาติอยู่แล้ว"  รองเลขาธิการพรรคภูมิใจไทย กล่าว

ศุภชัย กล่าวต่อว่า ส่วนปัญหาหนี้ กยศ. ในปัจจุบัน ทางพรรคภูมิใจไทย มีแนวคิดในการพักชำระหนี้เป็นระยะเวลาประมาณ 5 ปี เพื่อต่อลมหายใจให้กับประชาชนที่มีปัญหาเรื่องค่าใช้จ่าย การพักชำระหนี้ไม่ได้ยกหนี้ให้ เพียงแต่พักการใช้หนี้ไว้ก่อน ระหว่างนั้นค่อยมาตกลงในรูปแบบของเงื่อนไขการจ่ายหนี้ ที่สำคัญการดำเนินนโยบายดังกล่าว สามารถช่วยประหยัดงบประมาณในการฟ้องร้องลูกหนี้จำนวน 2.5 ล้านราย คิดเป็นงบกว่า 20,000 ล้านบาท และจะเป็นการต่อลมหายใจให้กับประชาชนด้วย     

"คนมีหนี้พยายามใช้หนี้ทุกคน เพียงแต่สภาพเศรษฐกิจยังไม่ดีเท่าที่ควร ต้องแก้ตามระบบ เพิ่มรายได้ให้กับประชาชน รวมทั้งรัฐต้องเข้ามาช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายของประชาชน ซึ่งทางภาครัฐจำเป็นที่จะต้องหามาตรการในการต่อยอดการศึกษาโดยที่เด็กนักศึกษาไม่ต้องเป็นหนี้ทันทีที่จบมา ปัญหาของกองทุน กยศ. ไม่ใช่เป็นเรื่องของวินัยการใช้เงิน แต่เป็นปัญหาที่รัฐไม่สนับสนุนการศึกษาไปจนสุดทาง รัฐจำเป็นที่จะต้องบริหารจัดงานงบประมาณที่เหมาะสม หางบประมาณมาสนับสนุนการศึกษาให้กับเยาวชนมากขึ้น เพราะหากเราสนับสนุนการศึกษาอย่างเต็มที่ก็จะสร้างเยาวชนที่มีคุณภาพ ไว้พัฒนาประเทศ ทางพรรคภูมิใจไทยเชื่อเช่นนั้น" ศุภชัย กล่าว

โดยเมื่อการเลือกตั้ง 2 ก.พ. 2557 พรรคภูมิใจไทย ชูนโยบายหลัก 4 ข้อ โดย 1 ในนั้นคือ  การยก กยศ.  ซึ่งพรรคพร้อมที่จะประกาศยกหนี้ให้เยาวชนได้ออกมาทำงานด้วยความพร้อม ไร้ภาระในวันแรกที่จบการศึกษา แต่จะต้องทำงานโดยแสดงใบประจำตัวผู้เสียภาษีเพื่อที่ในระบบจะได้ตัดหนี้ให้ทันที ส่วนเยาวชนรุ่นต่อไป กองทุนการศึกษาจะเตรียมงบประมาณ 3.6 หมื่นล้านบาทต่อปี เพื่อให้ได้เรียนฟรี ซึ่งยืนยันว่านโยบายดังกล่าวพรรคมีความจริงใจที่จะแก้ปัญหา พร้อมที่จะยกหนี้ให้เยาวชนตั้งแต่วันแรกของการจบการศึกษา ขณะที่รุ่นต่อไปต้องได้เรียนฟรีเยาวชนต้องได้รับโอกาส แล้วเขาจะสำนึกตอบแทนประเทศชาติ

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่เฟซบุ๊ก https://fb.me/prachatai : ทวิตเตอร์ https://twitter.com/prachatai : LINE ไอดี = @prachatai

นักศึกษาสวีเดนประท้วงบนเครื่องบิน-ต้านส่งผู้ขอลี้ภัยอัฟกานิสถานกลับประเทศ

Posted: 27 Jul 2018 09:09 AM PDT

นักศึกษาสวีเดนผู้โดยสารเที่ยวบินประท้วงในเครื่องที่กำลังจะส่งผู้ขอลี้ภัยชาวอัฟกานิสถานกลับประเทศ โดยเธอไม่นั่งจนกว่าจะยกเลิกการส่งตัวกลับไปเผชิญชะตากรรมเลวร้ายในประเทศต้นทาง โฆษกตำรวจเผย ไม่ส่งวันนี้ก็หาทางส่งกลับวันหน้า ประท้วงได้ไม่ผิดกฎหมายอาญา แต่สายการบินอาจฟ้องแพ่ง

เอลิน แอร์สัน นักศึกษาที่ประท้วงบนเครื่องบิน (ที่มา: BBC)

เมื่อ 26 ก.ค. 2561 เดอะการ์เดียนรายงานว่านักศึกษาอายุ 21 ปีชาวสวีเดนที่ชื่อ เอลิน แอร์สัน ประท้วงบนเครื่องบินที่สนามบินโกเธนเบิร์ก หลังจากทราบว่าบนเครื่องบินที่เธอโดยสารมีการส่งตัวผู้ขอลี้ภัยชาวอัฟกานิสถานคนหนึ่งกลับประเทศโดยทางการสวีเดน ทำให้แอร์สันประท้วงเรื่องนี้ด้วยการไม่ยอมนั่งลงในที่นั่งของตัวเองจนกว่าจะมีการยกเลิกส่งตัวชายคนนี้กลับประเทศ

วิดีโอของแอร์สันขณะที่เธอไลฟ์สด (ที่มา: Youtube/ Atila Altuntas)

ขณะที่การประท้วงของเธอประสบผลสำเร็จโดยการที่ทางเครื่องบินไม่ส่งตัวชายคนดังกล่าวกลับประเทศ อีกทั้งวีรกรรมของเธอยังมีการนำเสนอแพร่หลายอย่างรวดเร็วไปทั่วอินเทอร์เน็ตจากการที่เธอไลฟ์สดการประท้วงของเธอบนเครื่องบินมีผู้รับชมมากกว่า 4 ล้านวิว ในขณะเดียวกันก็สะท้อนปัญหาระบบการขอลี้ภัยที่เข้มงวดเกินไปของสวีเดน

แอร์สันให้สัมภาษณ์ต่อเดอะการ์เดียนว่าเธอหวังว่าผู้คนจะเริ่มตั้งคำถามว่าประเทศพวกเขาปฏิบัติต่อผู้ลี้ภัยอย่างไร และพวกเขาควรจะมองเห็นว่านโยบายผู้อพยพของประเทศพวกเขาทำลายชีวิตใครไปบ้าง

การประท้วงของเธอเมื่อวันที่ 23 ก.ค. ที่ผ่านมาก็มีทั้งผู้โดยสารที่เห็นด้วยและต่อต้าน แต่แอร์สันก็พยายามรักษาท่าทีของตัวเองและปกป้องจุดยืนในการประท้วงของตัวเองไปด้วย ตอนที่เจ้าหน้าที่บนเครื่องบินบอกให้เธอหยุดถ่ายไลฟ์ แอร์สันก็บอกว่าเธอแค่กำลังพยายามช่วยชีวิตคน มีผู้โดยสารที่ไม่พอใจพยายามแย่งโทรศัพท์เธอทำให้แอร์สันบอกว่าสิ่งที่เธอทำคือเธออยากเปลี่ยนกฎเกณฑ์ของประเทศตัวเอง "ฉันไม่ชอบมัน คนเราไม่มีสิทธิจะส่งคนไปนรก"

หลังจากการเผชิญหน้าอย่างตึงเครียดเจ้าหน้าที่สนามบินก็ไม่ยอมใข้กำลังเพื่อนำตัวแอร์สันออกไป และผู้ขอลี้ภัยก็ถูกนำตัวออกจากเครื่องบินไม่ถูกส่งตัวกลับทำให้ผู้โดยสารพากันปรบมือ

แอร์สันบอกว่าเธอเคยทำงานเป็นอาสาสมัครให้กับกลุ่มผู้ลี้ภัยมาก่อน การที่เธอได้พูดคุยกับกลุ่มผู้ลี้ภัยนั้นทำให้เธอรับรู้ว่าประชาชนในอัฟกานิสถานใช้ชีวิตอยู่อย่างไม่ปลอดภัยในระดับที่ไม่รู้ว่าวันพรุ่งนี้พวกเขาจะมีชีวิตอยู่หรือไม่ เธอบอกอีกว่าประเทศที่ร่ำรวยกว่าโดยเฉพาะสวีเดนควรจะทำได้ดีกว่านี้ในการปฏิบัติต่อผู้ลี้ภัย

มีการตั้งข้อสังเกตว่ารัฐบาลพรรคแนวร่วมฝ่ายซ้ายกลางของสวีเดนเริ่มมีท่าทีปฏิเสธผู้ลี้ภัยมากขึ้นหลังเกิดเหตุมีคนขับรถบรรทุกพุ่งชนกลุ่มคนในสต็อกโฮล์มที่ทำให้มีคนเสียชีวิต 5 ราย โดยมีการกล่าวหาว่าชาวอุซเบกิสถานที่ต้องการขอลี้ภัยเป็นผู้ก่อเหตุ ทั้งนี้ผู้ถูกกล่าวหาได้ให้การปฏิเสธ หลังจากที่การโจมตีของกลุ่มตาลีบันในอัฟกานิสถานหนักข้อขึ้นรัฐบาลก็พยายามมีท่าทีผ่อนปรนลง แต่กรรมการฝ่ายคนเข้าเมืองของสวีเดนก็ยังคงยืนยันว่าอัฟกานิสถานเป็น "ประเทศที่ปลอดภัย" ถึงแม้ว่าจะมีเหตุก่อการร้ายวางระเบิดรถพยาบาลในกรุงคาบูล ประเทศอัฟกานิสถาน จนมีผู้เสียชีวิตไป 95 รายก็ตาม

ในสวีเดนมีการโอนงานด้านการส่งตัวผู้ขอลี้ภัยไม่สำเร็จกลับประเทศให้กับตำรวจ โดยหลังจากที่มีผู้ขอลี้ภัยในสวีเดน 163,000 ราย ในปี 2558 เมื่อปี 2560 ก็มีการส่งตัวคนกลับประเทศ 12,500 ราย และในปีนี้จำนวนการส่งตัวกลับได้เพิ่มมากขึ้นเล็กน้อย

โฆษกของตำรวจท้องที่ตะวันตกในสวีเดนกล่าวว่าส่วนใหญ่แล้วการส่งตัวกลับประเทศจะเป็นไปอย่างสงบ เว้นแต่มีบางกรณีที่ผู้ขอลี้ภัยขัดขืนหรือมีการประท้วงแบบแอร์สัน ถ้าเกิดกรณีเช่นนี้พวกเขาก็จะหาทางส่งตัวกลับประเทศในภายหลังด้วยการเช่าเครื่องบินส่วนตัว อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ทางการสวีเดนมองว่าการประท้วงของแอร์สันไม่ใช่เรื่องผิดกฎหมายอาญา แต่เป็นกรณีคดีแพ่งที่ต้องให้สายการบินเองเป็นผู้พิจารณาว่าจะฟ้องร้องเธอหรือไม่

เรียบเรียงจาก

Swedish student's plane protest stops Afghan man's deportation 'to hell', The Guardian, Jul. 26, 2018

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่เฟซบุ๊ก https://fb.me/prachatai : ทวิตเตอร์ https://twitter.com/prachatai : LINE ไอดี = @prachatai

แรงงานกัมพูชาร้องเลขาฯ ยูเอ็น ไม่รับรัฐบาล-การเลือกตั้งที่หลอกลวง

Posted: 27 Jul 2018 08:43 AM PDT

ตัวแทนแรงงานกัมพูชาในไทยออกคำร้องถึงเลขาธิการยูเอ็น เรียกร้องให้ไม่ยอมรับการเลือกตั้ง ผลการเลือกตั้งกัมพูชาที่จะมีขึ้นในวันอาทิตย์นี้ พร้อมเรียกร้องให้ปล่อยตัวผู้นำพรรคฝ่ายค้าน CNRP ที่ถูกจองจำ รวมถึงให้สิทธิ์สมาชิกพรรค CNRP ที่ถูกยุบพรรคกลับมาเล่นการเมืองได้ใหม่

ภาพบัตรลงคะแนนเลือกตั้งที่กัมพูชา (ที่มา: Flickr/ Daniel Littlewood)

27 ก.ค. 2561 ผู้แทนแรงงานกัมพูชาในไทยได้ออกคำร้องถึงอันโตนิโอ กูเตร์เรส เลขาธิการองค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) กรณีกัมพูชาจะมีการเลือกตั้งทั่วไปในวันที่ 29 ก.ค. ที่จะถึงนี้ โดยมีใจความและข้อเรียกร้องเจ็ดข้อดังนี้

คำร้องจากแรงงานกัมพูชาในไทยถึงเลขาธิการองค์การสหประชาชาติ

ประชาธิปไตยในกัมพูชากำลังตายลง รัฐบาลกัมพูชาได้ยุบพรรคสงเคราะห์ชาติกัมพูชา (CNRP) ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้านเพียงพรรคเดียวที่เห็นได้ในกัมพูชา และได้จองจำ เนรเทศหัวหน้าของพรรคในฐานะหนึ่งความพยายามที่จะปิดปากพรรคฝ่ายค้านอย่างแท้จริง ในวันที่ 16 พ.ย. 2560 ศาลฏีกาอันเป็นเครื่องมือของนายกรัฐมนตรีฮุนเซน ได้ยุบพรรค CNRP และตัดสิทธิ์พรรคดังกล่าวซึ่งได้รับเลือกตั้งจากเสียงถึงร้อยละ 44 ออกจากการลงเลือกตั้งในการเลือกตั้งปีนี้ ซึ่งเป็นการทำลายความหวังในการมีการเลือกตั้งที่เสรีและยุติธรรม

โรนา สมิธ ผู้แทนพิเศษขององค์การสหประชาชาติในกัมพูชากล่าวว่า "ไม่มีการเลือกตั้งใดจะเป็นการเลือกตั้งที่แท้จริงหากขาดซึ่งการแข่งขันของพรรคฝ่ายค้าน" ไม่ควรมีใครถูกบังคับให้ไปเข้าร่วมการเลือกตั้งที่หลอกลวง และในทางกลับกัน ผู้คนควรที่จะต้องคว่ำบาตรมัน (การเลือกตั้ง)

กรรมการการเลือกตั้งกัมพูชาที่ได้รับอำนาจจากกฎหมายการเลือกตั้งให้จัดการเลือกตั้ง ตรวจสอบและจับตาดูการเลือกตั้งในทุกแง่มุมตั้งแต่การลงทะเบียนผู้มีสิทธิ์ออกเสียง การลงทะเบียนพรรคและผู้ลงสมัครรับเลือกตั้งเพื่อพิสูจน์ความแม่นยำในการนับคะแนนเลือกตั้งนั้น ได้สูญเสียความเป็นกลางและความเป็นอิสระเนื่องจากสมาชิกทั้งเก้าคนนั้นถูกควบคุมโดยพรรครัฐบาลหลังตัวแทนอีกสามคนที่ได้รับเลือกจากสภาแห่งชาติอย่างถูกต้องตามรัฐธรรมนูญที่มาจากพรรค CNRP ได้ลาออกไป

กว่าสองทศวรรษที่ผ่านมาหลังจากผ่านปีแห่งความขัดแย้งและนองเลือด กัมพูชาเกือบเป็นประเทศที่ได้รับความสำคัญที่สุดในโลก ในเวลาต่อมามี 18 ประเทศได้ร่วมเป็นผู้แทนในการประชุมสันติภาพที่กรุงปารีสในปี 2534 เพื่อร่างข้อตกลงในการฟื้นฟูและคงไว้ซึ่งสันติภาพ รณรงค์ให้เกิดความปรองดองและเกิดการเปลี่ยนผ่านสู่ระบบเสรีประชาธิปไตยที่มีการพิทักษ์ซึ่งสิทธิมนุษยชน ข้อตกลงที่ได้รับจากสหประชาชาติได้เป็นกุญแจสำคัญในการฟื้นฟูสันติภาพในกัมพูชา รวมถึงการเคารพซึ่งสิทธิมนุษยชนและการมีการเลือกตั้งที่เสรีและยุติธรรม แต่แทนที่พรรครัฐบาลปัจจุบันจะยึดถือหลังนิติรัฐแบบประชาธิปไตย เคารพซึ่งสิทธิมนุษยชนและเสรีภาพขั้นพื้นบาน พวกเขากลับมีทีท่าในลักษณะเผด็จการ เข้าควบคุมเสรีภาพขั้นพื้นฐานและสิทธิมนุษยชนโดยอ้างว่าเพื่อปกป้องเสถียรภาพทางการเมืองและพัฒนาการทางเศรษฐกิจ

พวกเราจึงร้องขอให้สหประชาชาติในฐานะที่เป็นผู้รักษาสันติภาพของโลก และผู้มีส่วนสำคัญในการฟื้นฟูสันติภาพของกัมพูชาดังนี้

  1. ไม่ให้ความชอบธรรมกับการเลือกตั้งในวันที่ 29 ก.ค. 2561 และผลการเลือกตั้งที่หลอกลวง
  2. ไม่ยอมรับรัฐบาลที่ขัดต่อกฎหมายและไม่ให้ที่นั่งผู้แทนกัมพูชาในสหประชาชาติ
  3. ให้ฟื้นฟูประชาธิปไตยในกัมพูชาด้วยการผลักดันให้เกิดการเลือกตั้งใหม่ที่เสรีและยุติธรรม ด้วยการมีส่วนร่วมของพรรค CNRP ในช่วงเวลาใดช่วงเวลาหนึ่ง (อย่างน้อยภายในหกเดือน)
  4. ประเทศหรือองค์การระหว่างประเทศใดๆ ที่ยอมรับการเลือกตั้งที่หลอกลวงและเพิกเฉยต่อเจตนารมณ์ของผู้ลงคะแนนเสียงสามล้านคนถือเป็นผู้ร่วมกระทำผิดในการทำลายประชาธิปไตยและเหยียบย่ำสิทธิมนุษยชน
  5. เรียกร้องให้ปล่อยตัวกึม สุขขา หัวหน้าพรรค CNRP และนักโทษการเมืองทั้งหมดอย่างทันทีโดยไม่มีเงื่อนไข
  6. ให้สิทธิ์อย่างครบถ้วนกับเหล่าผู้นำพรรค CNRP ทั้ง 118 คนเพื่อให้พวกเขาใช้สิทธิทางการเมือง
  7. เรียกร้องให้ฟื้นฟูความเป็นอิสระของสื่อมวลชนและปกป้องนักเคลื่อนไหวด้านสิทธิมนุษยชน

พวกเราหวังและเชื่อว่าเลขาธิการสหประชาชาติจะมีมาตรการที่เหมาะสมเพื่อช่วยเหลือกัมพูชาจากระบอบเผด็จการและคอมมิวนิสต์

ลี รัตนรักเสมย ผู้แทนแรงงานกัมพูชาในไทย

คำร้องของพวกเขาอ้างว่ามีผู้ร่วมลงนามกับคำร้องนี้จำนวน 117,379 คน

ในการเลือกตั้งกัมพูชา 29 กรกฎาคมนี้ ผู้สังเกตการณ์นานาชาติแสดงความกังวลว่าจะเป็นเพียงการสืบทอดอำนาจของผู้นำตลอดกาลอย่างฮุนเซ็นและพรรคประชาชนกัมพูชา ซึ่งก่อนเลือกตั้งมีการกวาดล้างฝ่ายตรงข้ามทางการเมือง ได้แก่ ยุบพรรคสงเคราะห์ชาติ ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้านคู่แข่ง จับกุมและฟ้อง กึม สุขขา แกนนำพรรคฝ่ายค้านโดยตั้งข้อหาทรยศชาติ มีการกวาดล้างเครือข่ายพรรคสงเคราะห์ชาติทั้งในระดับชาติและระดับท้องถิ่น จนทำให้อดีต ส.สพรรคสงเคราะห์ชาติจำนวนมากลี้ภัยไปต่างประเทศ รวมทั้งสม รังสี

และในเดือนกุมภาพันธ์ปีนี้มีการแก้ไขกฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ และกลายเป็นเครื่องมือกำจัดฝ่ายตรงข้ามรัฐบาลกัมพูชา

นอกจากนี้ยังมีการปิดสื่อ โดยในเดือน ส.ค. 2560 รัฐบาลกัมพูชาปิดสถานีวิทยุหลายแห่งที่ได้รับการสนับสนุนจากต่างประเทศ ได้แก่ วิทยุเอเชียเสรี (RFA) วิทยุวอยซ์ออฟอเมริกา (VOA) เรียกเก็บภาษีย้อนหลัง 6.3 ล้านเหรียญสหรัฐจากหนังสือพิมพ์เดอะ แคมโบเดีย เดลี หนังสือพิมพ์รายวันภาษาอังกฤษที่มีบทบาทวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาล ส่งผลให้หนังสือพิมพ์ต้องยุติการตีพิมพ์ในเดือนกันยายน 2560  นอกจากนี้ศิวะกุมาร คณปติ นักลงทุนมาเลเซียซึ่งใกล้ชิดกับรัฐบาลกัมพูชายังเข้าซื้อกิจการ "พนมเปญโพสต์" หนังสือพิมพ์อิสระภาษาอังกฤษฉบับสุดท้าย ตามด้วยการไล่บรรณาธิการ และทีมงานอีก 4 ราย

โดยในการเลือกตั้งทั่วไปในวันที่ 29 ก.ค. นี้ พรรคประชาชนกัมพูชานำโดยฮุนเซ็นซึ่งครองอำนาจมาแล้ว 33 ปี จะต้องแข่งกับพรรคฝ่ายค้านเล็กๆ ที่เหลืออยู่อย่าง พรรคประชาธิปไตยมูลฐาน (GDP) พรรคสัมพันธ์เพื่อประชาธิปไตย (LDP) ส่วนพรรคใหญ่อีกพรรคอย่างฟุนซินเปก แกนนำของพรรคคือสมเด็จกรมพระนโรดม รณฤทธิ์ ทรงประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์บาดเจ็บสาหัส ส่วนพระชายาเสียชีวิต ต้องเสด็จมาประทับรักษาตัวที่โรงพยาบาลในกรุงเทพมหานคร ด้านอดีตสมาชิกพรรคสงเคราะห์ชาติ รณรงค์คว่ำบาตรการเลือกตั้งที่พวกเขาเห็นว่าไม่เป็นไปอย่างเสรีและยุติธรรม ขณะที่รัฐบาลและ กกต. ขู่จะเอาผิดคนรณรงค์คว่ำบาตรเลือกตั้ง

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่เฟซบุ๊ก https://fb.me/prachatai : ทวิตเตอร์ https://twitter.com/prachatai : LINE ไอดี = @prachatai

วันเกิดทักษิณปีที่ 69 บอกจะหัวเราะจากด้านหลัง ยังเชื่อเพื่อไทยจะชนะเลือกตั้ง

Posted: 27 Jul 2018 08:20 AM PDT

ออกหมายจับใบที่ 5 หนีศาลคดีหวยบนดิน ด้าน 'ทักษิณ ชินวัตร' ฉลองวันเกิดอายุ 69 ที่อังกฤษ เจ้าตัวบอกจะอยู่หัวเราะจากด้านหลัง รัฐบาลทหารยิ่งทำก็จะมีแต่พ่ายแพ้ เพราะไม่เคยนั่งในหัวใจคน โวลั่นเพื่อไทยจะชนะเลือกตั้งยิ่งกว่าถล่มทลาย ส่วนนคร มาฉิม อดีต ส.ส. 4 สมัยพรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ขอโทษทักษิณ-ยิ่งลักษณ์ที่เคยร่วมกับเผด็จการยึดอำนาจ

ป้ายหาเสียงพรรคไทยรักไทย ที่มีทักษิณ ชินวัตรเป็นแกนนำในปี 2548 (ที่มา: แฟ้มภาพ/Adam Carr/Wikipedia)

เมื่อวันที่ 27 ก.ค. พานทองแท้ ชินวัตร บุตรชายนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้โพสต์ทวิตเตอร์ในบัญชี @oak_ptt เป็นคลิปบรรยากาศงานเลี้ยงวันเกิดปีที่ 69 ของทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี [1], [2], [3] ที่ตอนหนึ่งได้กล่าวกับผู้มาร่วมงานที่ลอนดอน ประเทศอังกฤษว่า "ความสุขเป็นทั้งหมด สุขภาพคือทุกอย่าง เงินไม่ใช่ทุกอย่าง แค่เกือบทุกอย่าง แต่สุขภาพคือทุกอย่าง แต่ถ้ามีทั้งสุขภาพและเงินก็จะมีทุกอย่างและเกือบทุกอย่าง"

"คืนนี้ผมมีความสุขอย่างมาก ท่ามกลางเพื่อน เด็กๆ ญาติ พี่น้อง มีความสุขมาก สารภาพเลยว่าคืนนี้เป็นการฉลองวันเกิดที่มีความสุขมากที่สุดในชีวิตผมที่มีอายุ 69 ปี (เสียงร้องเพลงวันเกิด จากนั้นพูดต่อว่า) ผมยังมีอะไรที่ต้องพูดอีกหน่อย เรามีนักการเมืองอยู่ตรงนี้ มีบีบีซีไทยอยู่ ดังนั้น ผมต้องแตะการเมืองหน่อย ผมไม่ได้สนใจเท่าไหร่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับการเมืองไทย เพราะเรามีการรัฐประหาร นำโดยทหารที่ไม่เป็นสุภาพบุรุษ สิ่งที่พวกเขาทำเพื่อเลื่อนการเลือกตั้งออกไป ทำให้พวกเขาได้รับความนิยม"

"แต่ผมแค่หัวเราะจากด้านหลัง ยิ่งพวกเขาทำอะไร พวกเขาก็จะยิ่งพ่ายแพ้ไป เพราะพวกเขาไม่เข้าใจหัวใจของผู้คน พวกเขาไม่เคยเข้าไปนั่งในหัวใจผู้คน เราสิ นั่งอยู่ในหัวใจของผู้คน เรารู้ว่าพวกเขาต้องการอะไร พวกเขามองหาอะไร หวังอะไร มาตอนนี้ ทั้งชนชั้นกลางและชั้นล่างเริ่มไม่แน่ใจในอนาคตของพวกเขา เพราะค่าครองชีพที่สูงขึ้น แต่รายได้ในอนาคตกลับอยู่ตรงนั้น พวกเขามองหาวิธีการทางพรรคการเมือง ผมเชื่อว่าพรรคเพื่อไทยคือทางออกของประเทศไทยทั้งประเทศ (เสียงปรบมือ เสียงร้องเพลงวันเกิด จากนั้นพูดต่อว่า)" และเมื่อมีคนถามว่าจะชนะเลือกตั้งครั้งหน้าถล่มทลายไหม ทักษิณกล่าวว่า "ไม่แน่ และเราจะชนะการเลือกตั้งยิ่งกว่าถล่มทลาย"

ตามรายงานของไทยรัฐระบุชื่อแกนนำพรรคเพื่อไทยที่เดินทางไปอังกฤษ ได้แก่ เยาวภา วงศ์สวัสดิ์ วรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล อดีต รมว.สำนักนายกรัฐมนตรี พงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล อดีต รมว.พลังงาน พวงเพ็ชร ชุนละเอียด อดีตโฆษกกระทรวงศึกษาธิการ รวมทั้งคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ อดีตบ้านเลขที่ 111 แกนนำพรรคเพื่อไทย ก็เดินทางไปอังกฤษเช่นกัน ขณะเดียวกันมีรายงานข่าวในสปริงนิวส์ด้วยว่า ประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ อดีต รมช.กระทรวงการคลัง และอดีตเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ และนายวินัย ภัทรประสิทธิ์ อดีต ส.ส.พิจิตร พรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) น้องชาย เดินทางไปอังกฤษในช่วงเวลาเดียวกันนี้ด้วย และมีการคาดหมายว่าทั้ง 2 คนจะเข้าร่วมพรรคเพื่อไทย

ออกหมายจับใบที่ 5 คดีหวยบนดิน

ขณะเดียวกันเมื่อวันที่ 26 ก.ค. ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองออกหมายจับ ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี หลังไม่ไปขึ้นศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองนัดพิจารณาคดีนัดแรกในคดีหวยบนดิน คดีหมายเลขคดีดําที่ อม.1/2551 ที่คณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) โดยคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เข้าเป็นคู่ความแทนเป็นโจทก์ยื่นฟ้องทักษิณ กับพวกรวม 47 คน เป็นจำเลยในคดี ออกสลากพิเศษแบบเลขท้าย 3 ตัว 2 ตัว ของสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล หรือ หวยบนดิน

โดยหมายจับที่ศาลออกในครั้งนี้ ถือเป็นหมายจับใหม่ใบที่ 5 เนื่องจากเป็นการเริ่มเข้าสู่กระบวนการพิจารณาคดีตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีอาญาของผู้ดํารงตําแหน่งทางการเมือง มาตรา 28 ที่ระบุว่า ถ้าไม่สามารถจับจำเลยได้ภายใน 3 เดือนนับแต่ออกหมายจับ ให้ศาลมีอำนาจพิจารณาคดีลับหลังจำเลยได้ แต่ไม่ตัดสิทธิจำเลยในการตั้งทนายความมาดำเนินการแทนตน โดยหมายจับอื่นๆ ได้แก่ 1. คดีทุจริตปล่อยกู้ธนาคารกรุงไทย 2. คดีทุจริตการปล่อยกู้เอ็กซิมแบงค์ 3. คดีออกกฎหมายแปลงค่าสัมปทานโทรคมนาคมและมือถือเป็นภาษีสรรพสามิต 4. คดีฟื้นฟูกิจการทีพีไอ และ 5. คดีหวยบนดิน

อดีต ส.ส.พิษณุโลก 4 สมัยโพสต์ขอโทษทักษิณ-ยิ่งลักษณ์

นอกจากนี้ นคร มาฉิม อดีต ส.ส.พิษณุโลก 4 สมัย จากพรรคประชาธิปัตย์ ได้โพสต์สเตตัสในเฟสบุ๊คของเขาด้วยว่า

"ถึงนายกทักษิณ ชินวัตร ก่อนหน้านี้ผมเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดพิษณุโลกสังกัดพรรคประชาธิปัตย์ อยู่ฝ่ายตรงข้ามกับท่านที่เป็นทั้งหัวหน้าพรรคไทยรักไทยและเป็นนายกรัฐมนตรีหลังการเลือกตั้ง ปี 2544 ท่านเป็นรัฐบาล ผมเป็นฝ่ายค้าน ต่างคนต่างทำหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายจากประชาชน ในระบอบประชาธิปไตย ท่านทำหน้าที่บริหารราชการแผ่นดินให้เป็นไปตามนโยบายที่หาเสียงไว้และที่ได้แถลงต่อรัฐสภา ท่านทำหน้าที่ฝ่ายบริหาร ผมทำหน้าที่ตรวจสอบในฐานะฝ่ายนิติบัญญัติ โดยต่างฝ่ายต่างยึดเอาผลประโยชน์ของชาติบ้านเมืองและประชาชนเป็นที่ตั้ง

ขณะนั้นต้องยอมรับความจริงว่า ท่านบริหารชาติบ้านเมืองได้ดี มีนโยบายใหม่ๆ เช่น 30 บาทรักษาทุกโรค กองทุนหมู่บ้านละ 1 ล้าน โครงการ พัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน สร้างอสนามบินสุวรรณภูมิ การค้า การลงทุนเฟื่องฟูเจริญรุ่งเรืองต้องยอมให้ในการบริหารงานของท่านว่าเก่งมาก ทำให้พรรคไทยรักไทยโดยการนำของท่านชนะการเลือกตั้งแบบถล่มทลาย 377 เสียง ส.ส. จาก 500 ส.ส. เป็นประวัติศาสตร์ทางการเมือง ผมอยู่ฝ่ายตรงข้ามก็มองอย่างแปลกใจว่าเป็นไปได้อย่างไร ทำไมท่านจึงชนะใจประชาชน

และเหตุใดพวกเราจคงพ่ายแพ้ต่อท่าน อย่างยับเยินทั้งที่พวกเราและแนวร่วมฝ่ายอนุรักษ์นิยมมีความพร้อมทั้งทุน เครือข่าย นายทุน กลุ่มขุนศึก กลุ่มศักดินาอำมาตย์ และเครือข่ายข้าราชการ ได้ใช้สรรพกำลังทุกองคาพยพอย่างเต็มที่แล้ว ใช้การโฆษณาประชาสัมพันธ์ ใช้วาทกรรมทำลายทั้งทางตรงและทางอ้อม ไม่ว่าจะ รวยแล้วโกง โกงทั้งโคตร ทุจริตเชิงนโยบายฯลฯ. แต่ยังไม่สามารถหยุดยั้งความนิยมในตัวท่านและพรรคของท่านได้ ขณะนั้นพวกเราตื่นตระหนกกันมาก จึงร่วมกันทุกฝ่ายระดมสรรพกำลัง ทั้งฝ่ายการเมือง ทั้งฝ่ายทหาร ฝ่ายข้าราชการประจำและที่สำคัญที่สุดและแนบเนียนที่สุดคือ ฝ่ายตุลาการระดับสูงบางคนที่เชื่อมั่นและศรัทธาฝ่ายเผด็จการอนุรักษ์นิยมในนามตุลาการภิวัฒน์ ร่วมกันขย้ำท่าน และพรรคของท่านให้ตายคามือ ยึดอำนาจด้วยปืน ยุบพรรคท่านทิ้งด้วยกฎหมาย ตัดสิทธิ์ทางการเมืองของคณะกรรมการบริหาร

เมื่อนักการเมืองแถวสอง มาในนามพรรคพลังประชาชน ทำไมพวกท่านยังชนะการเลือกตั้งอยู่ พวกเราจึงร่วมกันใช้วิธีการเดิม ยึดอำนาจด้วยกำลังอาวุธ ยุบพรรคท่านทิ้งด้วยอำนาจทางกฎหมาย นักการเมืองพวกท่านแถวที่สาม มาตั้งพรรคใหม่ชื่อเพื่อไทย เอาน้องสาวท่านซึ่งไม่ประสีประสาเรื่องการเมืองมาลงก็ชนะพวกเราอีก มันเกิดอะไรขึ้นกับคนไทยส่วนใหญ่ ท่านมีดีอะไรทำไมท่านจึงชนะตลอดและทำไมฝ่ายเรา ที่ครองอำนาจ มายาวนานมีครบเครื่องทุกองคาพยพจึงพ่ายแพ้ตลอดและไม่เห็นช่องทางที่จะชนะท่านได้เลย สุดท้ายพวกเราจึงปรึกษากันว่าคงจะต้องให้ทหารยึดอำนาจอีก และเพื่อตอกฝาโลง ก็ใช้กระบวนการยุติธรรมในมือตัดสินเอาผิดอีก ท่านกับน้องสาวจะต้องไม่อยู่ในประเทศ เพราะถ้าท่านอยู่พวกเราคงจะไม่ได้มีโอกาสชนะและกลับมาครองอำนาจเป็นแน่ พวกท่านอยู่ต่างประเทศคงจะสบายดีนะ พวกเราขอแช่แข็งประเทศสัก 5-20 ปีก่อนจนกว่าจะมั่นใจได้ว่าพวกเราจะบริหารจัดการอำนาจและปกครองแบบเบ็ดเสร็จ

การสมคบคิด การวางแผนการยึดอำนาจ กระบวนการทำลายประชาธิปไตยทำลายอำนาจของประชาชนจึงมีอยู่จริง ไม่ใช่เป็นแค่เพียงทฤษฎี แต่จะทำอย่างไรได้ เพราะนี่มันคือสงคราม สงครามระหว่างฝ่ายประชาธิปไตย กับฝ่ายเผด็จการและแนวร่วมฝ่ายเผด็จการ ในหลายๆเรื่อง หลายๆเหตุการณ์ หลายๆสถานการณ์ผมอยู่และรับรู้จากเหตุการณ์จริงนั้นด้วย แต่พอมีสติ พิจารณาศึกษาอย่างรอบด้านจึงรู้ว่าเหตุผลทีทำให้ท่านชนะ เพราะท่านทำเพื่อประชาชนในวิถีประชาธิปไตย เหตุผลที่ฝ่ายเราพ่ายแพ้ตลอดเพราะฝ่ายเราทำเพื่อนายทุน ขุนศึก และศักดินาอำมาตย์ซึ่งเป็นคนส่วนน้อยไม่ได้ทำเพื่อประชาชนและประชาธิปไตย ที่สำคัญที่สุด ประชาชนส่วนใหญ่รู้เท่าทันและรู้ความจริงทุกอย่างแล้วว่าใครเป็นใคร ใครต่อสู้เพื่อประชาชนและประชาธิปไตย ใครต่อสู้เพื่อเผด็จการและเครือข่ายเผด็จการ

ผมขอโทษท่านและน้องสาวท่านด้วยนะครับที่เคยต่อสู้กับท่าน แต่เมื่อความจริงปรากฏ ความอยุติธรรมและเผด็จการปกครองครอบงำประเทศ ปนะชาชนเดือดร้อน ทุกข์ยากลำบาก สิทธิเสรีภาพสูญสิ้น ชาติบ้านเมืองของเราบอบช้ำ เข้าขั้นวิกฤต ผมจึงขออนุญาตมาร่วมอุดมการณ์เดียวกันกับท่าน ขอร่วมสู้กับท่านและเหล่าวีรชนฝ่ายประชาธิปไตย เพื่อนำพาประเทศไทยของเราให้ข้ามพ้นจากความขัดแย้ง ข้ามพ้นจากยุคมืดของเผด็จการ ที่กดขี่ข่มเหงพวกเรา เดินทางไปสู่ระบอบประชาธิปไตย สร้างความเสมอภาพ ความเจริญรุ่งเรืองเช่นอารยประเทศ

วันนี้เป็นวันคล้ายวันเกิดครบ 69 ปีของท่าน ชีวิตที่ผ่าร้อนผ่านหนาว ผ่านทุกข์ผ่านสุข ผ่านอุปสรรคหนักหนามาอย่างท่าน มีทั้งคนรัก มีทั้งคนเกลียด มีทั้งคนกลัวท่าน ถือว่าท่านใช้ชีวิตโคตรจะคุ้มเลย ท่านอย่าพึ่งเป็นอะไรไปเสียก่อนละ เชื่อว่าอีกไม่นาน ฝ่ายประชาธิปไตยและประชาชนจะเป็นฝ่ายชนะ ฝ่ายเผด็จการแน่นอน ไม่ต้องรอชาติหน้า เพื่อเป็นของขวัญในวันเกิดของท่าน ประชาชนผู้รักประชาธิปไตยก็จะรู้สึกมีความสุข เอิบอิ่มใจ ลูกหลานพวกเราก็ไม่ต้องเป็นทาสไพร่อีกต่อไป คุณความดีของท่านที่เคยทำไว้คนไทยส่วนใหญ่จะไม่ลืม ในฐานะผู้แทนคนหนึ่งแม้จะไม่ได้ไปพบปะกับท่าน ก็ขออาราธนาคุณพระศรีรัตนตรัยและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายจงอำนวยพรให้ท่านและครอบครัวมีความสุข สุขภาพแข็งแรง ขอให้ท่านใช้สติ ปัญญาที่ชาญฉลาดของท่านอย่างสุขุมรอบคอบ อย่าหลงระเริงไปกับลาภ ยศ สรรเสริญเยินยอจนลอยห่างไปจากความจริง ไปจากประชาชนนะครับ และขอให้ท่านและน้องสาวยิ่งลักษณ์ ได้กลับมาสู่อ้อมกอดของแผ่นดินแม่นะครับ

นคร มาฉิม
อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดพิษณุโลก
อดีตประธานคณะกรรมาธิการพัฒนาการเมืองสภาผู้แทนราษฎร
26 ก. ค. 2561"

ทั้งนี้ภายหลังการโพสต์ อดีต ส.ส.พิษณุโลก รายนี้ยังให้สัมภาษณ์มติชนออนไลน์บอกว่าไม่กลัวพรรคประชาธิปัตย์ต่อว่าและไม่กลัวถูกฟ้อง ถ้ามีใครในพรรคกล้าปฏิเสธก็ให้บอกมาเลย ส่วนอนาคตการเมืองมีหลายพรรคทาบทามแต่ยังไม่ตัดสินใจ รอความชัดเจนให้มีการปลดล็อกก่อน ส่วนจะไปอยู่กับพรรคเพื่อไทยหรือไม่ยังไม่ถึง 100% ตอนนี้ขยับไม่ได้ แต่ยอมรับว่าได้มีการพูดคุยกับพรรคเพื่อไทย

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่เฟซบุ๊ก https://fb.me/prachatai : ทวิตเตอร์ https://twitter.com/prachatai : LINE ไอดี = @prachatai

'แชมป์ พีรพล' พูดอะไรถึงผู้นำตุรกี ทำไมช่อง 3 ถึงใช้ยาแรงพักงานไม่มีกำหนด

Posted: 27 Jul 2018 02:09 AM PDT

'แชมป์ พีรพล' พิธีกรรายการกีฬารายงานถึงประธานาธิบดีตุรกี ที่มีข้อวิจารณ์จากทั่วโลกว่า ละเมิดสิทธิมนุษยชน และอีกหลายๆ ประเด็น สร้างความไม่พอใจต่อชาวมุสลิม ทำให้ ผู้บริหารช่อง 3 ถึงใช้ยาแรงพักงานไม่มีกำหนด พร้อมนำตัวแชมป์ไปขอโทษกับทูตตุรกี แต่ตุรกีก็จับข้อหาหมิ่นประธานาธิบดีกว่า 2 พันคน รวมทั้งนักสิทธิมนุษยชน

จากกรณี แชมป์ พีรพล เอื้ออารียกูล พิธีกรรายการกีฬา "คน เฝ้า ข่าว" ทางช่อง 3 หรือ ช่อง 28 เสนอรายงานประเด็น เมซุต โอซิล นักฟุตบอลทีมชาติเยอรมนีซึ่งมีเชื้อสายตุรกีประกาศอำลาทีมชาติ โดยในตอนหนึ่งของรายงาน พีรพล ได้พูดวิพากษ์วิจารณ์ เรเจป ไตยิป เอร์โดอัน ประธานาธิบดีตุรกี จนเกิดกระแสความไม่พอใจของชาวมุสลิมบางส่วนในไทยนั้น

วานนี้ (26 ก.ค.61) ช่วงบ่าย เพจ 'Save Islam : สมาคมปกป้องอัลอิสลาม' โพสต์ว่า วันอังคารที่ 31 ก.ค.2561 เวลา 13.30 น. สายัณห์ สุขจันทร์ ฝ่ายกฏหมายมูลนิธิมุสลิมเพื่อสันติ (มมส.) จะไปยื่นหนังสือถึงผู้บริหารช่อง 3 เพื่อให้ดำเนินการจัดการกับ แชมป์ พีรพล ที่ได้เหยียดหยามใส่ร้ายประธานาธิบดีตุรกีในรายการของตน และยืนยันว่า ช่อง 3 ต้องปลด พีรพล เพื่อเป็นการรับผิดชอบในฐานะสื่อที่ต้องรับผิดชอบต่อสังคม พร้อมเชิญชวนให้แฟนเพจ เจอกันที่หน้าตึกอาคารมาลีนนท์ในเวลาดังกล่าวด้วย 

เพจ  Save Islam : สมาคมปกป้องอัลอิสลาม ยังโพสต์คลิปรายการที่เป็นประเด็น พร้อมวิจารณ์ แชมป์ พีรพล ด้วยว่า ชาวตุรกีแท้ๆ ที่ได้ดูคลิปนี้ยังมีอารมณ์โกรธเคือง และบอกว่านายพีรพลพูดจามั่ว ไม่มีมูลความจริง และขอให้เกียรติผู้นำประเทศพวกเขาด้วย พร้อมทั้งบอกด้วยว่า ชื่อประธานาธิบดีตุรกี อ่านว่า ตอยยิบ, ฏอยยิบ ไม่ใช่ "ตายยิบ" อย่างที่นายพีรพลอ่าน

ต่อมา ผู้บริหารฝ่ายข่าวสถานีโทรทัศน์ช่อง 28 ดิจิทัล นำโดย อัชฌา สุวรรณปากแพรก และ พีรพล เดินทางเข้าพบ เอฟเรน ดาเดเลน อักกุล เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐตุรกี ประจำประเทศไทย เพื่อแสดงความเสียใจ และขออภัยเป็นอย่างยิ่งต่อกรณีการดำเนินรายการพาดพิงถึงประธานาธิบดีสาธารณรัฐตุรกีโดยใช้คำพูดที่ไม่เหมาะสม ทางผู้บริหารขอน้อมรับในความผิดพลาดต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมด พร้อมทั้งขอแสดงความเสียใจ และขออภัยอย่างยิ่งต่อท่านประธานาธิบดี รวมถึงประชาชนชาวตุรกี โดยทางสถานีได้ลงโทษด้วยการระงับรายการทุกรายการของ พีรพล ทันที โดยห้ามปฏิบัติหน้าที่ใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับรายการของทางสถานีฯ อย่างไม่มีกำหนด

แชมป์ พูดอะไรในรายการ

แชมป์ พีรพล ในตอนแรกเขา รายงานถึงการเลิกเล่นทีมชาติเยอรมันของ โอซิล หลังถูกแฟนบอลและสหพันธ์ฟุตบอลเยอรมันวิจารณ์อย่างหนัก หลังพาทีมชาติตกรอบแรกฟุตบอลโลก 2018 โดยสิ่งที่เมซุต โอซิล ถูกโจมตีมากที่สุดคือการไปถ่ายรูปคู่กับ เอร์โดอัน ประธานาธิบดีตุรกี ซึ่งกำลังมีปัญหาเรื่องสิทธิมนุษยชนและอีกหลายๆ เรื่อง ก่อนฟุตบอลโลกเริ่มขึัน ทำให้โอซิลถูกมองให้เป็นแพะรับบาปในความล้มเหลวของทีมชาติเยอรมันกับการแข่งขันฟุตบอลโลกครั้งนี้

ต่อมา แชมป์ พีรพล ได้อธิบายปัญหาของ ประธานาธิบดีตุรกี โดยได้ระบุว่า "เป็นผู้นำที่คนตุรกี และคนรอบโลกยี้ เพราะเผด็จการสุดๆ ทำกฎหมายให้ตัวเองสามารถครองบัลลังก์ได้ 14 ปี เยอะกว่าปกติ เยอะแยะมากมาย คนตุรกีไม่สามารถเข้าอินเตอร์เน็ต คนตุรกีไม่สามารถเข้าเว็บไซต์วิกิพีเดีย ซึ่งเป็นเว็บไซต์ที่คนธรรมดาสามารถเข้าไปพิมพ์อะไรก็ได้เพราะไตยิปบอกว่า มีข้อมูลที่ไม่ดีเกี่ยวกับเขา โชคดีเราอยู่ประเทศไทยเราเข้าวิกิพีเดียได้"

"5 คำที่คุณจะเห็นเยอะสุดเมื่อพูดถึง นายเรเจ็ป ไตยิป เอร์โดอัน คือ เผด็จการ / โกงเลือกตั้ง / ไม่ฟังประชาชน / กำจัดฝ่ายตรงข้ามด้วยทุกวิถีทาง / ผู้นำที่จับนักข่าวเข้าคุกมากที่สุด ซึ่งสิ่งที่คนที่ติดตามข่าวการเมืองเสียความรู้สึกกับเขามากที่สุดคือ พังสวนสัตว์, ทำลายป่า, สร้างวังขาว หลังชนะการเลือกตั้งได้สร้างวังขาวบนพื้นที่ 130 ไร่ 700,000 ตารางเมตร หรือเทียบเท่า 90 สนามบอล และมีห้องถึง 1,000 ห้อง แต่ปัญหาคือ ดันไปสร้างในป่าคุ้มครองที่มีสวนสัตว์อยู่ คนสวนใหญ่ก็งงว่าแทนที่ผู้นำจะรักษากฎหมาย ปกป้องธรรมชาติ แต่กลับทำตรงข้ามหมด ใช้งบประเทศกว่า 11,000 ล้านบาท เอางบนั้นมาช่วยประชาชนที่มีรายได้เฉลี่ยไม่ถึง 20,000 บาทดีกว่าไหม คนตุรกีต่อต้านถึงขนาดว่า ตอนแรกจะมีการฉลองวันชาติที่วังขาว แต่กระแสสังคมต่อต้านเยอะมาก และก็เปลี่ยนชื่อเป็น วังแห่งความโกง วังผิดกฎหมาย บัตรเชิญที่ส่งไปคนส่วนใหญ่รับไม่ได้จนงานเปิดตัวออฟฟิตหมื่นล้านเวอร์วังต้องยกเลิกไป นี่แค่เรื่องเดียวนะครับเพราะถ้าจะเอาเรื่องอื่นด้วย 3 ชั่วโมงอาจจะไม่พอ ฝ่ายที่โจมตีโอซิลก็บอกว่า โอซิลอาจไม่ผิดถ้าเขาเป็นคนธรรมดา แต่การที่เป็นซุปตาร์กีฬาที่มีแฟนคลับรอบโลกแล้วดันไปถ่ายรูปกับผู้นำที่ภาพไม่ขาวสะอาด และดันเขียนว่า ประธานาธิบดีของฉัน ก่อนการเลือกตั้งไม่กี่วัน มันไม่เกี่ยวแล้วหล่ะ ไอ้เรื่องเชื้อชาติอะไร แต่คุณดีใจที่คุณได้ถ่ายรูปกับผู้นำที่หลายคนทั่วโลกเขาเหนื่อยใจต่างหาก" แชมป์ พีรพล กล่าวในรายการ

บางส่วนในรายการที่แชมป์กล่าวถึงโอซิล

ตุรกีจับข้อหาหมิ่นประธานาธิบดีกว่า 2 พันคน รวมทั้งนักสิทธิมนุษยชน

พิภพ อุดมอิทธิพงศ์ นักแปล คอลัมนิสต์อิสระ โพสต์ข้อความผ่านเฟสบุ๊กด้วยว่า กรณีนี้ว่า 

กรณี "ช่อง 3 ขอโทษ 'ปธน.ตุรกี + ถอด 'แชมป์ พีรพล' ทุกรายการ" เป็นการละเมิดเสรีภาพในการแสดงออก "freedom of expression" และเสรีภาพของสื่อ "press freedom" หรือไม่การตัดสินว่าสื่อทำหน้าที่ดีหรือไม่ ไม่ควรตัดสินจากการที่เขาพูดแล้วทำให้มีคนโกรธ โดยเฉพาะเมื่อคำนึงว่าเออโดวานนั้นเป็นพวกขี้โกรธและช่างฟ้อง เฉพาะในปี 2016 ปีเดียว กระทรวงยุติธรรมตุรกีแถลงว่า ได้ออกหมายจับบุคคลในข้อหาหมิ่นประมาทประธานาธิบดีมากถึงเกือบ 2,000 ราย (https://bit.ly/2v4oAoQ) เรียกว่าขยันฟ้องคนที่ด่าตัวเองมาก นี่ยังไม่นับกฎหมายอีกมากมายที่ปิดกั้นสื่อ การใช้อำนาจฝ่ายบริหารสั่งปิดสื่อเป็นร้อย ๆ แห่ง ฯลฯ

การเป็น "public figure" (บุคคลสาธารณะ) แต่ไม่อดทนกับคำด่า + คำวิจารณ์นี่เอง ทำให้คนมองว่าเออโดวานเป็น "เผด็จการ" แบบที่แชมป์ว่า

ในเยอรมนี มีกรณีที่คล้ายคลึงกันคือ Jan Böhmermann คอมเมเดียนที่ได้อ่านบทกวีล้อเลียนเสียดสีเออโดวานออกอากาศทางทีวีเยอรมนีเมื่อมี.ค. 2016 รัฐบาลตุรกีกดดันให้ทางการเยอรมันสอบสวนเรื่องนี้ และแจ้งข้อหาอาญาต่อนายเบอเมอร์มัน ฐานหมิ่นประมาทประมุขต่างชาติ ใช้อำนาจตามกฎหมายโบราณตั้งแต่ปี 1871 ต่อมารัฐบาลเยอรมนียอมให้อัยการสอบเรื่องนี้ (การฟ้องคดีอาญาต้องได้รับความเห็นชอบจากครม.เยอรมัน) ทำให้แมร์เกิลถูกวิจารณ์อย่างหนักว่า ไม่ปกป้อง "press freedom"

อย่างไรก็ดี สุดท้ายอัยการเยอรมันมีความเห็นไม่สั่งฟ้องอาญาต่อนายเบอเมอร์มัน โดยเห็นว่าเป็นการแสดงความเห็นเสียดสี แต่ไม่ถึงขั้นมีเจตนาในการดูหมิ่น แต่เออโดวานได้ฟ้องเขาทางแพ่งด้วย ซึ่งศาลไม่ได้ลงโทษนายเบอเมอร์ เพียงแต่สั่งไม่ให้อ่านบทวีชิ้นนี้อีก (เฉพาะ 18 จาก 24 บรรทัด อ่านไม่ได้) ท่านที่สนใจเสิร์ชหากวีบทนี้ในเน็ตได้

ประเด็นการวิจารณ์เออโดวาน ผมเห็นว่าสามารถทำได้ เพราะเขาเป็นบุคคลสาธารณะ ผิดถูกอย่างไร ตัดสินกันตรงนั้น ไม่ใช่ตัดสินจากแค่ว่ามันทำให้คนที่ถูกวิจารณ์โกรธ ก็ถ้าจะไม่ให้คนโกรธ แล้วจะวิจารณ์ทำไม

เป็นที่น่าเสียดายว่า ในบรรดาพี่น้องมุสลิมเท่าที่ผมเจอ แม้จะก้าวหน้าแค่ไหนก็เดารพเออโดวานราวกับ "เทวรูป" มันเป็น "idolatry" ซึ่งความจริงก็ขัดกับหลักศาสนาของตัวเองแท้ ๆ เห็นว่า "แชมป์" โดนพวกมุสลิมทุกระดับวิจารณ์ยับ นับว่าน่าเสียดายว่า ความคิดของอิสลามกับโลกประชาธิปไตยสมัยใหม่ มีช่องว่างมากมายจริง ๆ

นอกจากมีรายงานการจับบุคคลในข้อหาหมิ่นประมาทประธานาธิบดีตุรกีมากถึงเกือบ 2,000 ราย แล้ว เมื่อ ก.ค.ปีที่แล้ว ตุรกี ยังคุมขังอิดิล เอสซา (Idil Eser) ผู้อำนวยการองค์กรแอมเนสตีอินเตอร์เนชันแนลประจำตุรกีผู้ถูกคุมขังโดยไม่สามารถติดต่อได้พร้อมกับผู้แทนขององค์กรเฮลซิงกิซิติเซนแอสเซมบลี (Helsinki Citizens' Assembly) ซึ่งเป็นองค์กรเพื่อสันติภาพ ประชาธิปไตย และสิทธิมนุษยชนจากยุโรป ขณะที่พวกเขากำลังฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการด้านความปลอดภัยทางดิจิทัลบนเกาะบูยูกาดาในเมืองอิสตันบูล โดยก่อนหน้านั้นทางการตุรกีก็เพิ่งจับกุม ทาเนอร์ คิลิจ ประธานแอมเนสตีประจำตุรกีรวมถึงทนายความ 22 คน โดยอ้างว่ามีส่วนเกียวข้องกับกลุ่มของเฟตุลเลาะห์ กูเลน อดีตครูสอนศาสนาที่เป็นนักเคลื่อนไหวทางการเมืองและลี้ภัยอยู่นอกประเทศด้วย

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่เฟซบุ๊ก https://fb.me/prachatai : ทวิตเตอร์ https://twitter.com/prachatai : LINE ไอดี = @prachatai

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น