ประชาไท | Prachatai3.info |
- จลาจลซ้ำซ้อน หลังศาลอียิปต์ตัดสินประหารชีวิตจำเลยเหตุก่อจลาจลในการแข่งฟุตบอลปีที่แล้ว
- เชียงใหม่รื้อคุกสร้างข่วงศักดิ์สิทธิ์ประดิษฐานพุทธชยันตี 2600 ปี
- กฎหมายผังเมืองของอังกฤษที่สนับสนุนวัฒนธรรมการใช้จักรยานในพื้นที่ชุมชนเมือง
- องค์กรวิชาชีพสื่อประณามกรณีบุกยิงรถข่าวของสำนักข่าว ASTV
- พนักงานแบงก์กรุงเทพ ประท้วงเรียกร้องเงินเดือนและสวัสดิการ
- 24 มิถุนา แถลงกรณีพิพากษาสมยศ ส่งผลต่างประเทศมองไทยแง่ลบ
- ม็อบปากมูนกลับบ้านแล้ว! หลังผลเจรจาได้ข้อสรุป ขู่งานไม่คืบพร้อมมาทวงสัญญา
- ชาญวิทย์ เกษตรศิริ : ปัญหาและทางออก มรดกโลกปราสาทเขาพระวิหาร
- ชุมนุมครบรอบสองปีปฏิวัติอียิปต์กับ 'ความฝันที่ยังไม่เป็นจริง'
จลาจลซ้ำซ้อน หลังศาลอียิปต์ตัดสินประหารชีวิตจำเลยเหตุก่อจลาจลในการแข่งฟุตบอลปีที่แล้ว Posted: 26 Jan 2013 10:24 AM PST จากเหตุการณ์จลาจลในสนามฟุตบอลเมื่อต้นปี 2012 ทำให้มีแฟนบอลเสียชีวิต 74 คน จนถึงวันนี้ศาลอียิปต์ได้ตัดสินประหารจำเลยผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง 21 คน แต่ก็เกิดจลาจลซ้ำโดยญาติจำเลยพยายามบุกเข้าไปในเรือนจำ เจ้าหน้าที่พยายามใช้แก็สน้ำตา แต่ก็มีการยิงกันจนมีผู้เสียชีวิตทั้งสองฝ่าย
ช่องโทรทัศน์รัฐบาลอียิปต์รายงานว่าไม่นานหลังจากที่มีการตัดสินจากศาล ก็มีการประท้วงขึ้นที่นอกเรือนจำในเมืองพอร์ต ซาอิด ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของอียิปต์จนเกิดการปะทะกันดังกล่าวทำให้มีผู้เสียชีวิตและมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีกหลายสิบคน เหตุการณ์จลาจลที่มีการนำมาพิจารณาคดีในครั้งนี้ คือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 1 ก.พ. 2012 ในการแข่งขันฟุตบอลสโมสรอียิปต์ระหว่างทีม อัลมาสรี และทีมอัลอาลี ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อง 74 ราย เหตุเกิดขึ้นหลังจากที่มีแฟนทีมอัลมาสรีได้พากันกรูเข้าไปในสนาม ขว้างปาก้อนหิน ขวดน้ำ และประทัดใส่แฟนทีมอัลอาลีและทั้งสองฝ่ายต่างก็ขว้างปาก้อนหินและเก้าอี้ใส่กันในสนามที่มีผู้ชุมอยู่ราว 22,000 คน สาเหตุของการเสียชีวิตส่วนใหญ่มาจากการตกจากชั้นที่นั่ง อีกส่วนหนึ่งเสียชีวิตจากการขาดอากาศหายใจ โดยมีผู้เห็นเหตุการณ์เล่าว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ไม่ได้ทำเข้าไประงับเหตุใดๆ โดยจำเลยทั้ง 21 คนในคดีนี้รวมถึงเจ้าหน้าที่ที่ไม่สามารถหยุดเหตุรุนแรงเอาไว้ได้ด้วย อย่างไรก็ตามคำตัดสินของศาลในครั้งนี้ยังไม่เป็นที่สิ้นสุด โดยต้องมีการรับรองคำตัดสินจาก 'มุฟตี' ผู้วินิจฉัยหรือผู้ชี้ขาดทางศาสนาของอียิปต์ซึ่งจะมาให้ความเห็นต่อศาลในวันที่ 9 มี.ค. ก่อน ถึงจะมีการตัดสินจำเลยที่เหลืออีก 54 ราย สำนักข่าวอัลจาซีร่ารายงานว่าหลังศาลประกาศคำตัดสินแล้วครอบครัวฝ่ายจำเลยได้พยายามบุกรุกเรือนจำ ทำให้ตำรวจต้องใช้แก็สน้ำตาเพื่อสลายฝูงชน นอกจากนี้ยังมีการใช้อาวุธปืนที่บริเวณรอบเรือนจำทำให้มีผู้เสียชีวิต 26 ราย โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจถูกยิงเสียชีวิต 2 ราย ราวยา ราเกห์ ผู้สื่อข่าวอัลจาซีร่ารายงานจากพื้นที่บอกว่ามีกลุ่มคนสวมชุดลำลองใช้อาวุธปืนอัตโนมัติอยู่ในเหตุการณ์ได้ ทางด้านสื่อรัฐบาลอียิปต์รายงานว่าทางกองทัพได้ส่งกองทหารรักษาความสงบเข้าไปในพื้นที่เพื่อคลี่คลายสถานการณ์และคุ้มครองอาคารราชการในเมือง พอร์ต ซาอิด
ขณะเดียวกันฝ่ายครอบครัวของผู้เสียชีวิตจากเหตุจลาจลปี 2012 แสดงความปลาบปลื้มยินดีหลังจากได้ยินประกาศคำตัดสินของศาล พวกเขายืนถือรูปของญาติผู้เสียชีวิตและตะโกนว่า "ตำรวจเป็นอันธพาล" ก่อนที่ผู้พิพากษาจะนั่งบัลลังก์ ฮัสซัน มุสตาฟา ผู้ที่มีรูปเพื่อนที่เสียชีวิตติดอยู่ที่หน้าอกบอกว่า เขาพอใจกับคำตัดสิน แต่ก็อยากให้มีการตัดสินลงโทษ 'ผู้วางแผนสังการ' ด้วย ขณะเดียวกันแฟนทีมฟุตบอล อัลอาลี ที่มารวมตัวกันหน้าสโมสรฟุตบอลในกรุงไคโรก็แสดงความดีใจหลังได้รับฟังคำตัดสิน แต่ก็มีการมองว่า คำตัดสินในครั้งนี้เป็นเรื่องทางการเมือง เพื่อเอาใจกลุ่ม "อัลตรา อัลอาลี" ซึ่งเป็นกลุ่มแฟนคลับเดนตายของอัลอาลีที่ขู่ว่าจะก่อจลาจลในเมืองหลวงหากคำตัดสินออกมาไม่เป็นไปตามที่พวกเขาต้องการ โดยเมื่อไม่กี่วันก่อนหน้านี้กลุ่มแฟนทีมอัลอาลีก็พากันปิดถนน ทางสะพาน และทางรถไฟในกรุงไคโร และส่งคำเตือนทางเฟซบุ๊คว่า "ถ้าไม่มีความยุติธรรม ก็จะมีการนองเลือด" (Justice or Blood) ทางด้านทนายฝ่ายจำเลยกล่าวให้สัมภาษณ์กับนักข่าวว่า จำเลยของเขาไม่ได้ทำอะไรเลย เขาไม่เข้าใจว่าคำตัดสินมาจากไหน แต่ก็คิดว่าคำตัดสินเป็นแค่การตัดสินทางการเมืองเพื่อทำให้ประชาชนสงบลง เจมส์ มอนทาจ ผู้สื่อข่าว CNN ที่เคยเขียนหนังสือเกี่ยวกับเรื่องฟุตบอลกล่าวว่าหลังจากการปฏิวัติอียิปต์ทำให้อดีตปธน. ฮอสนี มูบารัค ถูกโค่นล้ม กลุ่มแฟนฟุตบอลก้กลายเป็นขุมกำลังสำคัญต่อการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง นอกจากนี้แล้วเหตุจลาจลยังเกิดขึ้นในช่วงสูญญากาศด้านความมั่นคงหลังจากมูลารัคออกจากตำแหน่งอีกด้วย เรียบเรียงจาก Clashes erupt after Egypt court sentences 21 to death in football riot, CNN, 26-01-2013
Death sentences over Egypt football massacre, Aljazeera, 26-01-2013 ติดตามความเคลื่อนไหวของ ประชาไท ทางอีเมล คลิกอ่าน http://goo.gl/8xIcV หรือเฟซบุ๊ค http://fb.me/Prachatai | |
เชียงใหม่รื้อคุกสร้างข่วงศักดิ์สิทธิ์ประดิษฐานพุทธชยันตี 2600 ปี Posted: 26 Jan 2013 07:32 AM PST
26 ม.ค. 56 – เมื่อเวลา 13.30น. ที่ทัณฑสถานหญิงเชียงใหม่เดิม ถนนราชวิถี ตำบลศรีภูมิ อำเภอเมือง เชียงใหม่ นายธานินทร์ สุภาแสน ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานใน "พิธีเจริญพระพุทธมนต์และทุบทำลายกำแพงทัณฑสถานหญิง เพื่อจัดสร้างข่วงหลวงเวียงแก้ว" โดยมีการทุบป้าย และกำแพงบางส่วนของอาคารทัณฑสถานหญิง ซึ่งสร้างบริเวณที่เป็นคุ้มเดิมของเจ้าชีวิตของเชียงใหม่ ซึ่งหลังจากที่รื้อถอนอาคารทั้งหมดแล้วจะพัฒนาให้เป็นพื้นที่สาธารณะใจกลางเมือง โดยในพิธี มีการทำพิธีทางพุทธศาสนาและพิธีกรรมตามความเชื่อพื้นเมืองทุบทำลายป้ายทัณฑสถานลงแล้วก็มีการอัญเชิญพระพุทธรูปปางตรัสรู้ฉลองพุทธชยันตี 2,600 ปี ที่รัฐบาลจัดสร้างไว้มาประดิษฐาน เพื่อให้เป็นองค์ประธานในสถานที่ศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้ต่อไป บุคคลที่มีส่วนสำคัญในโครงการนี้มาร่วมพิธีอย่างคับคั่ง อาทิเช่น เพชรวรรต วัฒนพงศ์ศิริกุล ที่ปรึกษา รมว.กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) นายณรงค์ ทรงอารมณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดเชียงใหม่ เจ้าสุรีย์ ณ เชียงใหม่ ธเนศวร์ เจริญเมือง ที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด นายบุญเลิศ บูรณุปกรณ์ พ.ต.อ.สุชาติ วงศ์อนันต์ชัย อธิบดีกรมราชทัณฑ์ ฯลฯ แต่ไม่ปรากฏว่ามีตัวแทนจากกรมศิลปากรที่มีอำนาจหน้าที่ในการดำเนินการขุดค้นทางโบราณคดีมาร่วมพิธีแต่อย่างใด อนึ่ง กำหนดการเดิม ฯพณฯ นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีจะมาเป็นประธานในพิธี แต่เมื่อถึงเวลากลับเป็นผู้ว่าราชการเป็นประธานแทน โดยผู้จัดไม่ได้แจ้งสาเหตุที่เปลี่ยนแปลงแต่อย่างใด ทำให้ชาวเชียงใหม่ที่สวมเสื้อลายภาพใบหน้านางสาวยิ่งลักษณ์และประชาชนทั่วไปที่มาร่วมงานอย่างล้นหลามต่างผิดหวังไปตามๆ กัน สำหรับโครงการรื้อคุกดังกล่าวกำลังถูกจับตามองและเป็นประเด็นถกเถียงในโซเชียลเนตเวิร์คในหมู่ชาวเชียงใหม่และประชาชนทั่วไป โดยหลังจากการทุบเรือนจำแล้ว มีกระแสข่าวว่าจะมีการจัดสร้าง "พุทธมณฑลแห่งเชียงใหม่" ขึ้นแทน โดยก่อนหน้านี้ไม่นานนัก ที่เพจของ Chiangmai Link ซึ่งเป็นเพจที่ติดตามประเด็นสาธารณะในพื้นที่เชียงใหม่ มีการนัดแนะกันเข้าชื่อยื่นหนังสือเรียกร้องคัดค้านการทุบคุกเพื่อสร้างพุทธมณฑลเชียงใหม่ แต่ในเวลาที่จัดพิธีไม่ปรากฏว่ามีเหตุประท้วงแต่อย่างใดเช่นกัน
ติดตามความเคลื่อนไหวของ ประชาไท ทางอีเมล คลิกอ่าน http://goo.gl/8xIcV หรือเฟซบุ๊ค http://fb.me/Prachatai | |
กฎหมายผังเมืองของอังกฤษที่สนับสนุนวัฒนธรรมการใช้จักรยานในพื้นที่ชุมชนเมือง Posted: 26 Jan 2013 07:06 AM PST [1] ความนำ การขี่จักรยานนับเป็นวิธีการเดินทางของผู้คนในประเทศอังกฤษประเภทหนึ่ง ซึ่งนอกจากจะเอื้อประโยชน์ต่อการสัญจรสำหรับผู้คนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ชุมชนเมืองและปริมลฑลแล้ว การขี่จักรยานนอกจากจะสามารถสร้างประโยชน์หลายประการต่อการประหยัดพลังงานและอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมไปในคราวเดียวกัน การขี่จักรยานยังช่วยให้ผู้ขับขี่จักรยานมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงอีกด้วย ด้วยเหตุนี้ กระแสการขี่จักรยานและการใช้งานจักรยานสำหรับผู้คนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ชุมชนเมืองและพื้นที่ปริมลฑล จึงกลายมาเป็นวัฒนธรรมกระแสหลัก (mainstream culture) ประการหนึ่งสำหรับผู้คนในชุมชนเมืองในประเทศอังกฤษ กล่าวคือ ภาครัฐ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ภาคอุตสาหกรรมจักรยาน ภาคธุรกิจค้าจักรยาน กลุ่มผู้ใช้จักรยานและประชาชนทั่วไป ได้ร่วมกันสร้างกระแสวัฒนธรรมและแนวคิดในการสนับสนุนการใช้งานและการขับขี่จักรยานอย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอในพื้นที่ชุมชนเมืองและปริมลฑล ตัวอย่างเช่น การที่รัฐได้จัดให้มีการพัฒนาระบบการสัญจรทางจักรยานในพื้นที่ชุมชนเมืองและปริมลฑล เพื่อเป็นทางเลือกในการสัญจรของประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ชุมชนเมือง โดยรัฐมีหน้าที่ในการจัดสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานเพื่อสนับสนุนการขับขี่จักรยานในพื้นที่ชุมชนเมือง ได้แก่ ประการแรก การสร้างช่องทางสัญจรจักรยานหรือเลนจักรยานท้องถนนเพื่ออำนวยความสะดวกในการสัญจรจักรยานกับเอื้อต่อความปลอดภัยของผู้สัญจรจักรยานในพื้นที่ชุมชนเมืองและปริมลฑล ประการที่สอง รัฐยังมีหน้าที่จัดสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานที่สนับสนุนต่อการขับขี่จักรยานและการใช้งานจักรยานในพื้นที่ชุมชนเมือง เช่น การจัดที่จอดจักรยานไว้ใกล้กับพื้นที่ชุมชนเมือง อันทำให้ประชาชนสะดวกในการเดินทางในพื้นที่ชุมชนเมืองหรือการจัดที่จอดจักรยานไว้ใกล้กับสถานีขนส่งสาธารณะประเภทอื่นๆ ดังเช่น สถานีรถไฟ สถานีรถไฟใต้ดิน สถานีรถโดยสารระหว่างเมือง เป็นต้น ดังนั้น รัฐบาลและรัฐสภาอังกฤษจึงได้พยายามแสวงหานโยบายสาธารณะและมาตรการทางกฎหมายที่เอื้อต่อการการสัญจรโดยการขี่จักรยานและวัฒนธรรมการใช้จักรยานของประชาชนในประเทศ[1] โดยคำนึงถึงสาระสำคัญหลายประการที่เกี่ยวข้องกับแนวทางและวิธีการในการสนับสนุนระบบการสัญจรทางจักรยานในพื้นที่ชุมชนเมืองและปริมลฑล ตัวอย่างเช่น มาตรการด้านจราจรที่สนับสนุนการจัดระเบียบการจราจร[2]และการเสริมสร้างความปลอดภัยสำหรับผู้ขี่จักรยานในช่องทางสัญจรจักรยานหรือเลนจักรยานท้องถนนที่อาจต้องใช้ถนนร่วมกับผู้ขับขี่ยานพาหนะประเภทอื่นๆ และผู้ที่สัญจรบนทางเท้าหรือบาทวิถีสาธารณะ มาตรการส่งเสริมความปลอดภัยของพาหนะประเภทจักรยานถีบ โดยรัฐบาลอังกฤษได้กำหนดมาตรฐานวัสดุและอุปกรณ์ของจักรยานเพื่อเสริมสร้างความปลอดภัยสำหรับสุขภาพและชีวิตของผู้ขับขี่จักรยาน[3] มาตรการส่งเสริมความปลอดภัยในผลิตภัณฑ์จักรยานสำหรับผู้บริโภค (consumer product safety) ที่กำหนดให้ผู้ผลิตจักรยานและผู้ค้าปลีกจักรยานมีหน้าที่ในการจัดหาและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ที่ปลอดภัย (safe products) สำหรับผู้บริโภคที่ซื้อจักรยานจากผู้ผลิตหรือผู้ค้าปลีกจักรยานมาใช้งานบนท้องถนน[4] เป็นต้น นอกจากมาตรการด้านจราจร มาตรการส่งเสริมความปลอดภัยของพาหนะประเภทจักรยานถีบ และมาตรการส่งเสริมความปลอดภัยในผลิตภัณฑ์จักรยานสำหรับผู้บริโภคแล้ว รัฐบาลอังกฤษยังได้กำหนดมาตรการที่สำคัญประการหนึ่งในการกำหนดการวางผังและแผนที่ชุมชนเมืองและปริมลฑลที่เอื้อประโยชน์หรือเอื้อต่อการใช้งานจักรยาน นั้นคือ มาตรการทางกฎหมายผังเมืองของอังกฤษที่สนับสนุนการใช้งานจักรยานและวัฒนธรรมการใช้จักรยาน รูปที่ 1 ปริมาณการจำหน่ายจักรยานในประเทศอังกฤษที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นในช่วง 5 ปี (ระหว่าง ค.ศ. 2007-2011) ที่มา Association of the European Two-Wheeler Parts' & Accessories' Industry, 'European Bicycle Market 2012 edition', available from http://www.ctc.org.uk/resources/ctc-cycling-statistics [2] กฎหมายผังเมืองของอังกฤษที่เกี่ยวข้องกับทางจักรยาน การวางผังสำหรับการพัฒนาชุมชนเมือง (Urban Development Planning) ต้องอาศัยหลักเกณฑ์หลายประการเข้าด้วยกัน เพื่่อกำหนดบริบทของผังเมืองในด้านต่างๆ เข้าด้วยกัน อนึ่ง การวางผังเมืองจำต้องอาศัยกฎหมายผังเมืองฉบับต่างๆ ที่เอื้อหรือสอดรับกับการพัฒนาหรือสนับสนุนวัฒนธรรมการใช้งานจักรยานในพื้นที่ต่างๆ ของชุมชนเมืองและปริมลฑลทั้งในปัจจุบันและอนาคต[5] เพราะรัฐและท้องถิ่นของอังกฤษมีหน้าที่ในการจัดทำบริการสาธารณะด้านคมนาคมขนส่งให้ประชาชนทุกคน ทุกเพศ ทุกวัย สามารถเข้าถึงหรือเลือกที่จะใช้การคมนาคมขนส่งได้ทุกประเภท ด้วยเหตุนี้รัฐและท้องถิ่นของอังกฤษจึงต้องพัฒนาสิ่งก่อสร้างและโครงสร้างพื้นฐานของประเทศและท้องถิ่น ให้สอดรับกับการคมนาคมขนส่งประเภทต่างๆ รวมไปถึงการคมนาคมโดยอาศัยจักรยานเป็นพาหนะด้วย ดังนั้น รัฐบาลอังกฤษจึงได้ตรากฎหมายผังเมืองเพื่อให้เอื้อต่อการจัดทำบริการสาธารณะด้านการวางผังเส้นทางการใช้งานจักรยานให้มีความเชื่อมโยงซึ่งกันและกัน (network of cycle routes) ได้แก่ พระราชบัญญัติ Cycle Tracks Act 1984 และพระราชบัญญัติ Town and Country Planning Act 1990 โดยกฎหมายทั้งสองฉบับนี้ได้ถูกตราขึ้นให้สอดรับกับการวางแผนยุทธศาสตร์ของชาติกับยุทธศาสตร์ในแต่ละท้องถิ่นในการพัฒนาชุมชนเมืองและปริมลฑลให้มีโครงสร้างพื้นฐานสอดรับการใช้งานจักรยานในประเทศและในท้องถิ่นระดับต่างๆ ตัวอย่างเช่น การสร้างทางจักรยานในชุมชนเมือง (urban cycle tracks) ให้สอดรับกับการใช้งานจักรยานของประชาชนบางส่วนในชุมชนเมืองและสอดรับกับการขยายตัวของพื้นที่ชุมชนเมืองและแนวโน้มที่ประชาชนอาจหันมาใช้งานจักรยานแทนการใช้ยานพาหนะประเภทอื่นๆ ในอนาคต การสร้างสาธารณูปโภคอื่นๆ ให้สอดรับกับการใช้งานจักรยานในชีวิตประจำวันของประชาชน เช่น การจัดให้มีทางลาดสำหรับเข็นจักรยานบริเวณขั้นบันได (cycle ramp alongside step) เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้ใช้งานจักรยานที่จะเข็นขึ้นพื้นที่ลาดชัน ไฟจราจรสำหรับทางจักรยาน (traffic operations)[6] เป็นต้น [2.1] พระราชบัญญัติ Cycle Tracks Act 1984 กฎหมายฉบับนี้ได้กำหนดให้รัฐ ส่วนราชการและหน่วยงานของท้องถิ่นที่เกี่ยวข้องกับการคมนาคมขนส่งสาธารณะมีหน้าที่ให้การจัดทำบริการสาธารณะในการคมนาคมขนส่งให้สอดคล้องกับการใช้งานจักรยานของประชาชนในท้องถิ่น โดยกฎหมายฉบับนี้ได้กำหนดให้ประชาชนสามารถใช้จักรยานเป็นยานพาหนะบนทางจักรยานหรือเลนจักรยาน (cycling track) อันเป็นการสถาปนาสิทธิในการสัญจรโดยจักรยานถีบในช่องทางจักรยานหรือเลนจักรยานที่รัฐหรือท้องถิ่นได้จัดไว้ให้ (a right of way on pedal cycles) อนึ่ง ทางจักรยานหรือเลนจักรยานที่รัฐหรือท้องถิ่นได้จัดไว้ให้ประชาชนโดยทั่วไป อาจเป็นทางจักรยานหรือเลนจักรยานที่ใช้พื้นที่สัญจรร่วมกับทางเท้า[7]หรือบาทวิถีปกติของประชาชนหรืออาจเป็นทางจักรยานหรือเลนจักรยานที่แยกออกมาต่างหากจากทางเท้าหรือบาทวิถีปกติของประชาชน[8] พระราชบัญญัติ Cycle Tracks Act 1984 ยังได้กำหนดมาตรการเพื่อความปลอดภัยอื่นๆ สำหรับผู้ขับขี่จักรยาน ตัวอย่างเช่น รัฐ ท้องถิ่นและหน่วยงานท้องถิ่นที่เกี่ยวข้องต้องมีหน้าที่ในการบำรุงรักษาช่องทางจักรยานหรือเลนจักรยานที่รัฐหรือท้องถิ่นได้จัดไว้ เพื่อให้ประชาชนสามารถสัญจรได้อย่างปลอดภัย และระหว่างมีการซ่อมบำรุงทางจักรยานหรือเลนจักรยานที่รัฐหรือท้องถิ่นได้จัดไว้ให้ประชาชนนั้น รัฐ ท้องถิ่นและหน่วยงานท้องถิ่นที่เกี่ยวข้องจำต้องหาอุปกรณ์เพื่อความปลอดภัยของผู้สัญจรช่องทางจักรยานหรือเลนจักรยาน เพื่อป้องกันไม่ให้สัญจรช่องทางจักรยานหรือเลนจักรยานได้รับอันตรายระหว่างมีการซ่อมแซมหรือบำรุงรักษาช่องทางจักรยานหรือเลนจักรยาน[9] นอกจากนี้ กฎหมายฉบับนี้ยังได้กำหนดในเรื่องของค่าสินไหมทดแทน (Compensation)[10] สำหรับบุคคลที่ได้รับความเสียหายจากการจงใจหรือประมาทเล่นเล่อของหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องและหน่วยงานของท้องถิ่น ที่เป็นเหตุให้ผู้สัญจรช่องทางจักรยานหรือเลนจักรยานได้รับความเสียหายจากการสัญจร โดยการเปิดโอกาสให้ประชาชนสามารถเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนจากหน่วยงานของรัฐที่จงใจหรือประมาทเล่นเล่อดังกล่าว ก็เพื่อมุ่งในการเยียวยา (recovery) ความเสียหายของผู้สัญจรช่องทางจักรยานหรือเลนจักรยานที่ได้รับความเสียหายต่อชีวิต ร่างกาย ทรัพยสิน ได้รับการเยียวยาให้กลับเป็นปกติ รูปที่ 2 ทางจักรยานแบบปันส่วน (Share Bikeway) ในเมืองเลสเตอร์ สหราชอาณาจักรที่ก่อสร้างโดยได้รับงบประมาณสนับสนุนจาก European Regional Development Fund (ERDF) และ Leicester City Council ประเทศอังกฤษ (ผู้เขียนบทความถ่าย) [2.2] พระราชบัญญัติ Town and Country Planning Act 1990 พระราชบัญญัติ Town and Country Planning Act 1990 เป็นกฎหมายแม่บทที่สำคัญสำหรับรัฐ หน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้อง และท้องถิ่นของอังกฤษในการกำหนดทิศทางการวางแผนพัฒนาเมือง (Development plans) และควบคุมการพัฒนาเมือง (Development control)[11] ซึ่งรัฐ หน่วยงานของรัฐและท้องถิ่นต้องกำหนดแนวทางการพัฒนาเมืองในภาพรวมและท้องถิ่นให้เข้ากัน โดยภายใต้กฎหมายฉบับนี้ รัฐ หน่วยงานของรัฐและท้องถิ่นจำต้องจัดให้มีสาธารณูปโภคที่จำเป็นเพื่อความสะดวกในการสัญจรและการเดินทางโดยอาศัยยานพาหนะทุกประเภท รวมไปถึงการจัดให้มีทางจักรยาน (cycling route)[12] เพื่อให้ประชาชนสามารถอาศัยจักรยานเป็นทางเลือกหนึ่งในการสัญจรได้ นอกจากนี้ ภายใต้กฎหมายฉบับนี้รัฐ หน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องและท้องถิ่นยังต้องจัดให้มีความสะดวกในการเดินทางของประชาชนโดยเชื่อมโยงทางจักรยานให้เชื่อมโยงและเอื้อต่อการสัญจรยานพาหนะประเภทอื่นๆ โดยสะดวกอีกด้วย เช่น ท้องถิ่นควรจัดให้มีที่จอดรถจักรยานในบริเวณพื้นที่สถานีรถไฟ เพื่ออำนวยความสะดวกสำหรับผู้ขับขี่จักรยานทุกคนที่สัญจรโดยจักรยานมายังสถานีรถไฟ เพื่อใช้บริการรถไฟสาธารณะอีกทอดหนึ่ง เป็นต้น รูปที่ 3 จุดจอดจักรยานที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจัดไว้บริเวณพื้นที่ชุมชนเมืองเลสเตอร์ ประเทศอังกฤษ(ผู้เขียนบทความถ่าย) รูปที่ 4 จุดจอดจักรยานที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจัดไว้บริเวณพื้นที่ตรงข้ามสถานีรถไฟเมืองแคมบริดจ์ ประเทศอังกฤษ ซึ่งสะดวกต่อประชาชนในการนำจักรยานมาจอดไว้ใกล้กับสถานีรถไฟและสามารถเดินทางต่อโดยรถไฟสาธารณะได้ทันที (ผู้เขียนบทความถ่าย) [3] มาตรการทางกฎหมายผังเมืองของอังกฤษสนับสนุนวัฒนธรรมการใช้จักรยานในพื้นที่ชุมชนเมืองได้อย่างไร? ข้อดีมาตรการทางกฎหมายผังเมืองของอังกฤษที่กำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการในการสัญจรโดยจักรยาน นอกจากจะเป็นการวางมาตรการที่ทำให้การใช้งานจักรยานกลายมาเป็นทางเลือกสำหรับการคมนาคมของประชาชนชาวอังกฤษประเภทหนึ่งแล้ว มาตรการทางกฎหมายผังเมืองของอังกฤษที่เกี่ยวข้องกับจักรยานยังสามารถช่วยส่งเสริมแนวทางการพัฒนาเมืองในอนาคตให้สอดคล้องกับความต้องการการใช้และขับขี่จักรยาน เพื่อทดแทนการใช้งานยวดยานพาหนะประเภทอื่นๆ หรือเพื่อให้สามารถใช้งานจักรยาน โดยเชื่อมโยงกับบริการสาธารณะด้านคมนาคมขนส่งประเภทอื่น ที่จัดทำขึ้นโดยรัฐและท้องถิ่นของอังกฤษ รูปที่ 5 ทางจักรยานที่แยกออกจากพื้นที่บาทวิถีอย่างชัดเจน (ผู้เขียนบทความถ่าย) ดังนั้น การจัดให้มีมาตรการต่างๆ ทั้งมาตรการด้านจราจร มาตรการส่งเสริมความปลอดภัยของพาหนะประเภทจักรยานถีบ มาตรการส่งเสริมความปลอดภัยในผลิตภัณฑ์จักรยานสำหรับผู้บริโภคและมาตรการทางกฎหมายผังเมืองดังที่ได้บรรยายในบทความฉบับนี้แล้ว ย่อมแสดงให้เห็นถึงความเอาใจใส่ในเรื่องการขับขี่จักรยานของรัฐบาลและประชาชนชาวอังกฤษ ให้กลายมาเป็นทางเลือกหนึ่งในการเดินทางในพื้นที่ชุมชนเมือง ทำให้เอื้อต่อการเดินทางและการใช้งานจักรยานเป็นพาหนะในชีวิตประจำวัน รวมไปถึงการเสริมสร้างค่านิยมและพฤติกรรมของประชาชนอังกฤษให้มีความมั่นใจในการขับขี่จักรยานให้กับคนทุกเพศ ทุกวัยและทุกชนชั้นทางสังคม
[1] คณะกรรมการและคณะกรรมาธิการของรัฐสภาอังกฤษชุดต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการคมนาคมสาธารณะและการผังเมือง ได้พยายามศึกษาและจัดทำรายงาน เอกสารสรุปผลการศึกษา และการศึกษาข้อกฎหมาย ที่เกี่ยวข้องกับวัฒนธรรมใช้จักรยาน โปรดดู UK Parliament, 'Cycling', available from http://www.parliament.uk/topics/Cycling.htm accessed 23 January 2013. [2] ตัวอย่างเช่น มาตรา 72 ของพระราชบัญญัติ Highway Act 1835 ได้ห้ามผู้ขับขี่จักรยานขับขี่จักรยานบนทางเท้าหรือบาทวิถี หากผู้ใดฝ่าฝืนจะถูกปรับเป็นจำนวนเงิน £30 (ประมาณ 1,500 บาท) โปรดดู Louise B, 'Cycling: Offences', House of Commons, 2 May 2012, p2. [3] โปรดดูเพิ่มเติมใน ข้อบังคับ Pedal Bicycles (Safety) Regulations 2010 ที่ออกโดยรัฐสภาอังกฤษ โดยกำหนดให้จักรยานทุกคันต้องได้รับการติดตั้งอุปกรณ์เพื่อความปลอดภัยในการใช้งานจักรยาน เช่น การติดตั้งไฟจักรยาน การติดตั้งกระดิ่งจักรยาน เป็นต้น UK Legislation, 'The Pedal Bicycles (Safety) Regulations 2010', available from http://www.legislation.gov.uk/uksi/2010/198/contents/made accessed 23 January 2013. [4] โปรดดูข้อบังคับ General Product Safety Regulations 2005 ที่ออกโดยรัฐสภาอังกฤษ อันกำหนดหลักเกณฑ์ในเรื่องของการคุ้มครอง ผู้บริโภคผลิตภัณฑ์ต่างๆ (consumer protection) โดยผลิตภัณฑ์ประเภทต่างๆ ได้รวมไปถึงจักรยานที่ถือเป็นผลิตภัณฑ์หนึ่งในท้องตลาดประเทศอังกฤษด้วย UK Legislation, 'The General Product Safety Regulations 2005', available from http://www.legislation.gov.uk/uksi/2005/1803/contents/made accessed 23 January 2013. accessed 23 January 2013. [5] ในบางท้องถิ่นของประเทศอังกฤษ ตัวอย่างเช่น ในช่วงปลายทศวรรษที่ 1980 สภาท้องถิ่นเมืองยอร์ก (York City Council) ได้วางยุทธศาสตร์การพัฒนาเมืองให้สอดรับการใช้งานจักรยานของผู้คนในชุมชนเมืองบางส่วน (Cycling Strategy) โปรดดูรายละเอียดเพิ่มเติมใน City of York Council, 'Strategic Cycle Route Network Consultation', available from http://www.york.gov.uk/info/200210/cycling/303/cycling/2 accessed 23 January 2013. [6] โปรดศึกษาเพิ่มเติมใน Transport of London, 'The London Cycling Design Standards report - Chapter 2 Procedures', Transport of London, London, 2012, p 30-36. [7] พระราชบัญญัติ Cycle Tracks Act 1984 ได้ให้อำนาจท้องถิ่นและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการแปลงหรือปรับทางเท้าหรือบาทวิถี (Conversion of footpaths into cycle tracks) มาเป็นทางจักรยานหรือเลนจักรยานได้ แต่การแปลงหรือปรับการแปลงหรือปรับทางเท้าหรือบาทวิถีมาเป็นทางจักรยานหรือเลนจักรยานดังกล่าว ต้องไม่ขัดต่อมาตรฐานการผังเมืองที่เกี่ยวข้องกับมาตรฐานทั่วไปของทางจักรยานและบาทวิถี โปรดดู Section 3 of the Cycle Tracks Act 1984 [8] Section 1 of the Cycle Tracks Act 1984 [9] Section 4 of the Cycle Tracks Act 1984 [10] Section 5 of the Cycle Tracks Act 1984 [11] Dewey R, 'Town and Country Planning for Beginners', available from https://www.waterways.org.uk/pdf/restoration/trh_planning accessed 23 January 2013. [12] Cardiff Council, 'Cardiff Cycle Design Guide', Cardiff Cycle Network - RHYDWAITH SEICLO CAERDYDD, July 2011, p 107.
ติดตามความเคลื่อนไหวของ ประชาไท ทางอีเมล คลิกอ่าน http://goo.gl/8xIcV หรือเฟซบุ๊ค http://fb.me/Prachatai | |
องค์กรวิชาชีพสื่อประณามกรณีบุกยิงรถข่าวของสำนักข่าว ASTV Posted: 26 Jan 2013 06:42 AM PST 26 ม.ค. 56 - สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย สมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย ออกแถลงการณ์ร่วมองค์กรวิชาชีพสื่อกรณีบุกยิงรถข่าวของสำนักข่าว ASTV บนถนนพระอาทิตย์ ระบุเป็นการข่มขู่และการคุกคามสิทธิเสรีภาพในการปฏิบัติหน้าที่ของสื่อมวลชน โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้ แถลงการณ์ร่วมองค์กรวิชาชีพสื่อกรณีบุกยิงรถข่าวของสำนักข่าว ASTV บนถนนพระอาทิตย์ จากกรณีที่มีบุคคลไม่ทราบฝ่ายบุกยิงรถข่าวของ ASTV 4 คัน ขณะจอดอยู่บริเวณหน้าบ้านเจ้าพระยา ถนนพระอาทิตย์ แขวงวัดชนะสงคราม เขตพระนคร กทม. และยิงกระจกสำนักงานในเครือของ ASTV เมื่อเวลาประมาณ 03.20 น.ของวันเสาร์ที่ 26 มกราคมที่ผ่านมา องค์กรวิชาชีพสื่อ โดยสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย และ สมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย มีความเห็นร่วมกันว่า 1.เหตุการณ์ดังกล่าวเป็นการกระทำที่มีความอุกอาจ ใช้ความรุนแรงเพื่อมุ่งข่มขู่และการคุกคามสิทธิเสรีภาพในการปฏิบัติหน้าที่ของสื่อมวลชนโดยไม่เกรงกลัวต่อกฎหมาย จึงขอเรียกร้องให้ผู้ที่ก่อเหตุดังกล่าวและผู้ที่เกี่ยวข้องเคารพสิทธิเสรีภาพ และเข้าใจในการปฏิบัติหน้าที่ของสื่อมวลชน ที่ปฏิบัติหน้าที่เพื่อนำความจริงมาเสนอต่อสาธารณชนอย่างครบถ้วนรอบด้าน 2.การปฏิบัติหน้าที่ของสื่อมวลชน สามารถตรวจสอบได้ตามกลไกที่ชอบด้วยกฎหมาย หากผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการทำหน้าที่ของสื่อมวลชน เห็นว่าสื่อมวลชนใช้สิทธิเกินขอบเขต สามารถใช้อำนาจฟ้องร้องได้ตามกฎหมาย หรือใช้กลไกในการควบคุมทางจริยธรรมขององค์กรสื่อผ่านสภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ และ สภาวิชาชีพข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย แต่จะต้องไม่ใช้ความรุนแรงคุกคามสื่อ ซึ่งไม่สามารถแก้ไขปัญหาใด ๆ ได้ และมีแต่จะสร้างความเสียหายแก่ทุกฝ่าย 3.ขอเรียกร้องต่อผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้เร่งติดตามจับกุมคนร้ายมาลงโทษตามกฎหมายให้ได้โดยเร็ว ไม่ปล่อยให้เรื่องเงียบหายไป เพื่อมิให้เป็นเยี่ยงอย่างในการข่มขู่คุกคามสิทธิเสรีภาพสื่อมวลชน รวมทั้งขอให้แถลงผลความคืบหน้าคดีต่อสาธารณชนทราบโดยเร็ว เพื่อสร้างความมั่นใจในความปลอดภัยแก่ประชาชนและสังคมไทย ทั้งนี้ องค์กรวิชาชีพสื่อ ขอให้สื่อมวลชนทุกแขนงทำหน้าที่นำเสนอข่าวสารและแสดงความคิดเห็น โดยยึดมั่นในกรอบจริยธรรมแห่งวิชาชีพ ไม่ละเว้นการเสนอข่าวเพราะความลำเอียง หรือมีอคติจนเป็นเหตุให้ข่าวนั้นคลาด เคลื่อนหรือเกินจากความเป็นจริง การไม่ละเมิดศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของผู้ตกเป็นข่าว และพึงหลีกเลี่ยงคำไม่สุภาพและมีความหมายเหยียดหยาม ฯลฯ องค์กรวิชาชีพสื่อ ขอเป็นกำลังใจให้สื่อมวลชนทุกแขนงทำหน้าที่อย่างเข้มแข็ง ซื่อสัตย์ในวิชาชีพ เพื่อประโยชน์และสิทธิในการรับรู้ข้อมูลข่าวสารของประชาชนต่อไป สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย สมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย 26 มกราคม 2556 | |
พนักงานแบงก์กรุงเทพ ประท้วงเรียกร้องเงินเดือนและสวัสดิการ Posted: 26 Jan 2013 02:13 AM PST
เว็บไซต์มติชนออนไลน์รายงานว่าเมื่อวันที่ 25 ม.ค. 56 ที่สำนักงานใหญ่ธนาคารกรุงเทพฯ สหภาพแรงงานนำโดยนายชัยวัฒน์ มาคำจันทร์ ประธานสหภาพ พร้อมด้วยสมาชิกกว่า 500 คน รวมตัวกันเรียกร้องค่าสวัสดิการ (โบนัส) จำนวน 4 เดือน พร้อมกับขอปรับเงินเดือนอีก 6 เปอร์เซ็นต์ พร้อมเรียกร้องค่าครองชีพหลังเกษียณตามระเบียบเดิมที่จะได้คือ 4.5 แสนบาท แต่ถูกปรับลดเหลือ 3 แสนล้านบาท โดยผู้บริหารไม่สามารถอธิบายได้ว่า เงินที่หายไป 1.5 แสนบาทหายไปไหน ทั้งที่ ธนาคารมีผลกำไรมากถึง 3.3 หมื่นล้านบาท ขณะที่ในปีก่อนหน้านี้ มีกำไรเพียง 2 หมื่นกว่าล้าน กลับจ่ายโบนัสมากถึง 5-6 เดือน หรือจ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้นหุ้นละ 3 บาทในปี 2554 ซึ่งทั้งหมดไม่ได้เป็นการดูแลสวัสดิการพนักงานในปัจจุบันเท่าที่ควร โดยพนักงานที่มารวมตัวกัน ได้ชูป้ายเรียกร้องพร้อมกับแถลงการณ์เรียกร้อง อีกทั้ง เดินขบวนรอบอาคารสำนักงาน ทั้งนี้ นายชัยวัฒน์ กล่าวว่า จากการเจรจากันหลายครั้ง ยังไม่มีคำตอบจากผู้บริหารในแนวทางที่เรียกร้องไป ขณะเดียวกัน ยังไม่มีคำชี้แจงจากผู้บริหารอย่างชัดเจน จึงเป็นที่มาของการรวมตัวในวันนี้ อนึ่งในปี 2554 ธนาคารได้ประกาศเปลี่ยนเงื่อนไขการจ่ายเงินสมทบกองทุนสำรองเลี้ยงชีพพนักงาน จากอัตราเดียวเป็นหลายอัตราแบ่งตามช่วงอายุงาน และยกเลิกเงินบำเหน็จโดยพลการ และมีการเปลี่ยนแปลงสภาพการจ้างเดิมโดยไม่ยุติธรรม ติดตามความเคลื่อนไหวของ ประชาไท ทางอีเมล คลิกอ่าน http://goo.gl/8xIcV หรือเฟซบุ๊ค http://fb.me/Prachatai | |
24 มิถุนา แถลงกรณีพิพากษาสมยศ ส่งผลต่างประเทศมองไทยแง่ลบ Posted: 26 Jan 2013 01:50 AM PST
กลุ่ม 24 มิถุนา ประชาธิปไตยออกแถลงการณ์ "กรณีศาลอาญาพิพากษาจำคุก สมยศ พฤกษาเกษมสุข 11 ปี" ระบุประเทศไทยจะถูกมองจากองค์กรระหว่างประเทศในทางลบว่าไม่เป็นประชาธิปไตย ไร้เสรีภาพ กดขี่ ไร้ความยุติธรรม ละเมิดสิทธิมนุษยชน 26 ม.ค. 56 - กลุ่ม 24 มิถุนา ประชาธิปไตยออกแถลงการณ์ "กรณีศาลอาญาพิพากษาจำคุก สมยศ พฤกษาเกษมสุข 11 ปี" ระบุประเทศไทยจะถูกมองจากองค์กรระหว่างประเทศในทางลบว่าไม่เป็นประชาธิปไตย ไร้เสรีภาพ กดขี่ ไร้ความยุติธรรม ละเมิดสิทธิมนุษยชน
ติดตามความเคลื่อนไหวของ ประชาไท ทางอีเมล คลิกอ่าน http://goo.gl/8xIcV หรือเฟซบุ๊ค http://fb.me/Prachatai | |
ม็อบปากมูนกลับบ้านแล้ว! หลังผลเจรจาได้ข้อสรุป ขู่งานไม่คืบพร้อมมาทวงสัญญา Posted: 26 Jan 2013 12:40 AM PST สมัชชาคนจนกรณีปัญหาเขื่อนปากมูล – Pmove ยุติชุมนุมต่อเนื่อง ชาวบ้านพอใจให้ยกเลิกมติ ครม.ที่ให้ สกว.ทำการศึกษาเพิ่มเติม ทั้งเลิกคณะกรรมการฯ-อนุกรรมการ-คณะทำงานแก้ปัญหาทุกชุด แล้วตั้งคณะกรรมฯ ใหม่แก้ไขปัญ วันนี้ (26 ม.ค.56) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลุ่มชาวบ้านสมัชชาคนจน กรณีปัญหาเขื่อนปากมูล จ.อุบลราชธานี และขบวนการประชาชนเพื่อสังคมเป็นธรรม (ขปส.) หรือกลุ่ม Pmove ซึ่งเดินทางมาชุมนุมบริเวณประตู 5 ทำเนียบรัฐบาลตั้งแต่เมื่อวันที่ 23 ม.ค.ที่ผ่านมา เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลแก้ปัญหาเขื่อนปากมูลให้เป็นรูปธรรมได้สลายการชุมนุมแล้วตั้งแต่ช่วงเย็นของวันที่ 25 ม.ค.56 หลังผลการเจรจากับตัวแทนรัฐบาลเป็นที่น่าพอใจ โดยผู้ชุมนุมส่วนหนึ่งร่วมกันฟ้อนรำอย่างรื่นเริง ฉลองชัยชนะในครั้งนี้ ระหว่างรอรถเพื่อเดินทางกลับ ทั้งนี้ การประชุมคณะอนุกรรมการแก้ปัญหากรณีเขื่อนปากมูลที่ประกอบด้วยตัวแทนชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบ นักวิชาการ ตัวแทนจังหวัด และตัวแทนของรัฐบาล เมื่อวันที่ 24 ม.ค.56 ไม่สามารถหาข้อสรุปได้ ชาวบ้านจึงขอเปิดการประชุมในช่วงเช้าวันที่ 25 ม.ค.56 โดยมีตัวแทนชาวบ้านร่วมเจรจากับ นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และประธานคณะอนุกรรมการแก้ไขปัญหาเขื่อนปากมูล การประชุมใช้เวลาจากเช้าถึงบาย จึงสามารถบรรลุข้อตกลงได้ ดังนี้ 1.ยกเลิกมติ ครม.เมื่อวันที่ 3 พ.ค.2554 ที่ให้ สำนักงานกองทุน ด้าน Pmove ออกแถลงการณ์ ฉบับที่ 17 'การเจรจาบรรลุเป้าหมาย แต่ความจริงใจต้องพิสูจน์ด้วยการกระทำ' ระบุ การเจรจาบรรลุข้อตลลงในหลักการ แต่หากการแก้ไขปัญหายังไม่มีความคืบหน้าหรือเกิดความล่าช้าเกินความเหมาะสม ขปส.กรณีกลุ่มผู้เดือนร้อนจากเขื่อนปากมูลจะกลับมาทวงสัญญาอีกครั้ง
ติดตามความเคลื่อนไหวของ ประชาไท ทางอีเมล คลิกอ่าน http://goo.gl/8xIcV หรือเฟซบุ๊ค http://fb.me/Prachatai | |
ชาญวิทย์ เกษตรศิริ : ปัญหาและทางออก มรดกโลกปราสาทเขาพระวิหาร Posted: 25 Jan 2013 07:27 PM PST ปาฐกถาพิเศษ "ปัญหาและทางออก มรดกโลกปราสาทเขาพระวิหาร" / ASEAN Eco-Cultural World Heritages โดย ศ.(พิเศษ) ดร.ชาญวิทย์ เกษตรศิริ ปาฐกถานี้เป็นส่วนหนึ่งจาก งานสัมมนาวิชาการประจำปี "อาเซียนศึกษา" วันที่ 24- 25 มกราคม 2556 ณ หอประชุมใหญ่ ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร ตลิ่งชัน กรุงเทพฯ
ติดตามความเคลื่อนไหวของ ประชาไท ทางอีเมล คลิกอ่าน http://goo.gl/8xIcV หรือเฟซบุ๊ค http://fb.me/Prachatai | |
ชุมนุมครบรอบสองปีปฏิวัติอียิปต์กับ 'ความฝันที่ยังไม่เป็นจริง' Posted: 25 Jan 2013 07:17 PM PST แม้อียิปต์จะเป็นหนึ่งในประเทศที่ประสบความสำเร็จจากการลุกฮือในภูมิภาคอาหรับเมื่อสองปีที่แล้ว แต่ในการชุมนุมครบรอบการปฏิวัติก็ยังมีกลุ่มคนผู้ไม่พอใจรัฐบาลใหม่ออกมาประท้วงกันในหลายเมือง รวมถึงจัตุรัสทาห์รีร์ซึ่งเป็นประวัติศาสตร์การต่อสู้ พร้อมกับคำขวัญเดิมจากเมื่อสองปีที่แล้ว คือ 'ขนมปัง, เสรีภาพ และความเป็นธรรมในสังคม' เมื่อวันที่ 25 ม.ค. 2013 ประชาชนชาวอียิปต์ได้มาชุมนุมที่จัตุรัสทาห์รีร์อีกครั้งเพื่อรำลึกถึงวันครบรอบการลุกฮือของประชาชนที่สามารถโค่นล้มอดีตประธานาธิบดีฮอสนี มูบารัค ลงได้ มีประชาชนหลายร้อยคนมาชุมนุมกันตั้งแต่ช่วงเช้า แต่ก็เกิดเหตุกลุ่มผู้ชุมนุมวัยรุ่นที่ประท้วงต่อต้านรัฐบาลปะทะกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยที่เจ้าหน้าที่หน่วยฉุกเฉินกลางเปิดเผยว่ามีประชาชน 110 คนได้รับบาดเจ็บจากเหตุการปะทะ สื่อรัฐบาลอียิปต์รายงานว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ยิงแก็สน้ำตาเพื่อสลายผู้ชุมนุมที่พยายามข้ามแผงกั้นลวดหนามรอบทำเนียบประธานาธิบดี ขณะที่มีผู้เห็นเหตุการณ์ให้ข้อมูลกับสื้อต่างประเทศว่ามีอยู่ช่วงหนึ่งที่เจ้าหน้าที่ตำรวจปราบจลาจลได้ใช้อาวุธติดไฟที่มีคนขว้างใส่พวกเขาเอาไปจุดเผาเต็นท์ผู้ชุมนุมเยาวชนสองหลัง จากที่ก่อนหน้านี้จัตุรัสทาห์รัร์เป็นแหล่งประวัติศาสตร์โค่นล้มอดีตผู้นำเผด็จการในปี 2011 เปิดทางให้มีการเลือกตั้งจนกระทั่งได้ผู้นำคนใหม่คือโมฮัมเมด มอร์ซี แต่ก็มีชาวอียิปต์บางส่วนที่ต่อต้านโดยเฉพาะกลุ่มเสรีนิยมและฆราวาสนิยม เพราะคิดว่ามูบารัคได้รับอิทธิพลจากกลุ่มภราดรภาพมุสลิม ทำให้มีผู้หวังว่าการชุมนุมครบรอบปีในครั้งนี้จะเป็นการชุมนุมของกลุ่มคนที่ต่อต้านรัฐบาลของโมฮัมเมด มอร์ซี
'ขนมปัง, เสรีภาพ และความเป็นธรรมในสังคม' ความฝันที่ยังไม่เป็นจริง ทั้งอัลจาซีร่าและ BBC กล่าวตรงกันว่าการชุมนุมในครั้งนี้ไม่ได้มาจากกลุ่มภราดรภาพมุสลิม แต่มาจากกลุ่มฆราวาสนิยมที่ต่อต้านรัฐบาล และกลุ่มภราดรภาพฯ ก็ส่งข้อความไม่ให้สมาชิกออกไปร่วมชุมนุมประท้วง โดยเสนอให้ออกไปบำเพ็ญประโยชน์เพื่อสังคม เช่น การปลูกต้นไม้ หรือการทำการกุศลแทน โดยใช้ประโยคเชิญชวนว่า "ร่วมกัน เราช่วยสร้างอียิปต์" (Together we will build Egypt) ทางด้านผู้ประท้วงในครั้งนี้ก็ใช้สโลแกนเดียวกันกับที่ใช้ในประท้วงมูบารัคในปี 2011 คือ "ขนมปัง, เสรีภาพ, ความเป็นธรรมในสังคม" ผู้ประท้วงรายหนึ่งชื่อ ฮันนา อะบู เอล-การ์ กล่าวต่อ BBC ว่า ที่พวกเขาประท้วงเพราะพวกเขาเคยเรียกร้อง 'ขนมปัง, เสรีภาพ และความเป็นธรรมในสังคม' ซึ่งการปฏิวัติก็ผ่านมาสองปีแล้ว แต่ความฝันของพวกเขาไม่เป็นจริงสักอย่าง โมฮาเมด เอล บาราดาย ผู้นำฝายต่อต้านรัฐบาลปัจจุบันได้กล่าวผ่านทวิตเตอร์เรียกร้องให้ออกไปชุมนุมที่จัตุรัสเพื่อทำให้จุดประสงค์ของการปฏิวัติเป็นจริง ขณะที่ประธานาธิบดีมอร์ซีได้กล่าวปราศรัยก่อนหน้านี้ในวันที่ 24 ม.ค. เรียกร้องให้ประชาชนชุมนุมในวันครบรอบด้วยความสงบสันติและมีอารยะ
BBC รายงานว่า ในช่วงเช้าผู้ชุมนุมบางคนได้ตั้งจุดตรวจที่หน้าทางเข้าจัตุรัสเพื่อระบุตัวตนของประชาชนที่เข้าร่วม มีผู้ชุมนุมอีกส่วนหนึ่งที่จัดนิทรรศการภาพถ่ายผู้เสียชีวิตจากการชุมนุมหลายครั้งที่เกิดขึ้นในช่วงสองปีที่ผ่านมา "การปฏิวัติของพวกเรายังคงดำเนินต่อไป พวกเราปฏิเสธการยึดครองอำนาจเหนื่อรัฐนี้ไม่ว่าจะมาจากพรรคใดฝ่ายใด พวกเราขอปฏิเสธรัฐของกลุ่มภราดรภาพฯ" ฮัมดีน ซาบาฮี ผู้นำฝ่ายซ้ายกล่าว ผู้ชุมนุมชื่อฮานี รากี กล่าวต่อ BBC ว่า เขาได้ลงคะแนนให้มอร์ซีเพราะไม่อยากเห็นคนจากรัฐบาลก่อนหน้านี้กลับมามีอำนาจอีกครั้ง แต่มอร์ซีก็ไม่สามารถทำตามสัญญาได้ เศรษฐกิจของอียิปต์ย้ำแย่ เขามาชุมนุมเพราะต้องการเรียกร้องให้รัฐบาลปฏิรูปอย่างจริงจัง รอบๆ จัตุรัสทาห์รีร์รายล้อมไปด้วยอาคารที่ทำการของรัฐบาลและสถานทูตต่างประเทศ ซึ่งทั้งหมดถูกกั้นด้วยกำแพงคอนกรีตตั้งแต่เดือน พ.ย. 2012 แต่เมื่อคืนวันที่ 24 ม.ค. ที่ผ่านมาก็มีผู้ชุมนุมบางส่วนพยายามรื้อทำลายกำแพงส่วนหนึ่ง แต่ก็มีการสร้างกำแพงใหม่ปิดที่ทำการรัฐสภา มีเหตุความวุ่นวายเกิดขึ้นข้ามคืน ด้านสถานีโทรทัศน์ไนล์ทีวีรายงานว่ามีการปะทะรุนแรงขึ้นด้านนอกที่ทำการกระทรวงมหาดไทย ผู้สื่อข่าวอัลจาซีร่า ไมค์ ฮันนา รายงานจากกรุงไคโร บอกว่ามีผู้ชุมนุมบางส่วนพยายามฝ่าเข้าไปในที่ทำการกระทรวงมหาดไทยที่ถูกกั้นไว้ ขณะที่ อะลีม มัคบูล ผู้สื่อข่าว BBC รายงานจากจัตุรัสทาห์รีร์ว่ามีผู้มาชุมนุมประท้วงจำนวนมากแต่เหตุความรุนแรงเกิดขึ้นแค่ในมุมเล็กๆ โดยมีกลุ่มเยาวชนขว้างปาก้อนหินใส่อาคารรัฐสภา และประชาชนก็ได้กล่าวคำขวัญต่อต้านปธน.มอร์ซีแบบเดียวกับที่เคยใช้ต่อต้านอดีตปธน.มูบารัค นอกจากในกรุงไคโรแล้ว ยังมีการประท้วงกลุ่มเล็กกว่าในเมืองอื่นๆ ของอียิปต์ เช่น อเล็กซานเดรีย, อิสไมลิยา, สุเอช และพอรืต ซาอิด โดยที่ผู้สื่อข่าวอัลจาซีร่ากล่าวว่ากลุ่มผู้ประท้วงแสดงความไม่พอใจ เพราะพวกเขาไม่เชื่อว่ารัฐบาลทำสิ่งต่างๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อพวกเขา โดยในอเล็กซานเดรีย เมืองที่ใหญ่เป็นอันดับสองของอียิปต์ ผู้ชุมนุมได้จับมือกันเป็นโซ่มนุษย์ในมัสยิด อัล-คาอิด อิบราฮิม ขณะที่ผู้ประท้วงอีกส่วนหนึ่งพากันไปยืนปิดกั้นทางรถไฟ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ยิงแก็สน้ำตาเพื่อสลายการชุมนุมในย่านสองย่านของอเล็กซานเดรีย โดยผู้ชุมนุมบางส่วนก็ได้จุดไฟเผายางรถยนต์ ในเมืองอิสไมลิยา ผู้ชุมนุมได้บุกเข้าไปในสำนักงานผู้ว่าราชการ มีผู้เห็นเหตุการณ์บอกว่าพบเห็นกลุ่มวัยรุ่นบุกเข้าไปในสำนักงานของพรรคฟรีดอมแอนด์จัสติส ซึ่งเป็นพรรครัฐบาลของมอร์ซี ก่อนจุดไฟเผา ขณะที่โทรทัศน์ช่องรัฐบาลอียิปต์ได้เผยแพร่ภาพกลุ่มผู้ชุมนุมขว้างปาก้อนหินใส่อาคารในเมืองสุเอช อย่างไรก็ตามผู้สื่อข่าวอัลจาซีร่ารายงานว่า แม้จะมีการประท้วงจำนวนมาก แต่ก็มีกลุ่มคนบางส่วนออกมาชุมนุมเพื่อเฉลิมฉลองครบรอบปีที่สองของการปฏิวัติอียิปต์ เรียบเรียงจาก Egypt opposition in clashes on revolution anniversary, BBC, 25-01-2013 Clashes mark Egypt revolution anniversary, Aljazeera, 25-01-2013 ติดตามความเคลื่อนไหวของ ประชาไท ทางอีเมล คลิกอ่าน http://goo.gl/8xIcV หรือเฟซบุ๊ค http://fb.me/Prachatai |
You are subscribed to email updates from ประชาไท To stop receiving these emails, you may unsubscribe now. | Email delivery powered by Google |
Google Inc., 20 West Kinzie, Chicago IL USA 60610 |
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น